กกต.ฟุ้งเดินหน้าสอบฮั้วสว.

“แสวง” แจง กกต.ไม่นิ่งเฉยคดีฮั้วเลือก  สว. ตั้งกรรมการ 3 ชุดดำเนินการมีดีเอสไอร่วม มีมติชงศาลฎีกาแล้ว 3 คดี จากที่มีร้อง 220 เรื่อง  บอกชัดอำนาจไม่เปิดช่องให้มอบหน่วยงานอื่นทำ “สว.” ไวปานกามนิตหนุ่ม ส่งหนังสือถึง ป.ป.ช.ฟันจริยธรรม-มาตรา 157 “รมว.ยธ.-อธิบดีดีเอสไอ”

เมื่อวันที่ 28 ก.พ.2568 นายแสวง บุญมี  เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์เป็นครั้งแรกถึงการดำเนินคดีกรณีฮั้วเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ว่า กกต.และสำนักงาน กกต.ได้ให้ความสำคัญ โดยได้พิจารณาคำร้องการเลือก สว.นับตั้งแต่มีการเลือก สว. ซึ่งได้แยกกลุ่มเฉพาะที่เป็นการซื้อเสียงและฮั้วการเลือก สว. คือ เสนอให้ ว่าจ้าง เรียกรับ ฮั้ว จัดตั้ง โพยเลขชุด บล็อกโหวต คะแนนสูงผิดปกติ คะแนน 0 เพราะเห็นว่าเป็นคำร้องที่มีลักษณะพิเศษ มีความสลับซับซ้อน และมีการกระทำเป็นกระบวนการ โดยมีคำร้องที่อยู่ในกลุ่มนี้ 220 คำร้อง และรับเป็นสำนวนเพื่อสืบสวนและไต่สวน

นายแสวงกล่าวอีกว่า ได้มีการดำเนินการคือ  1.แต่งตั้งคณะอนุกรรมการที่ปรึกษาและประสานการปฏิบัติงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการสืบสวนและไต่สวน และการดำเนินคดีเกี่ยวกับการเลือก สว. ซึ่งมีผู้แทนจาก 3 หน่วยงาน ซึ่งเป็นข้าราชการระดับสูงร่วมเป็นคณะอนุกรรมการ คือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.), กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) 2.แต่งตั้งเจ้าพนักงานจากเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานอื่นของรัฐที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะเรื่อง เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของคณะกรรมการสืบสวนไต่สวนจาก  3 หน่วยงาน จำนวน 10 คน จากข้าราชการระดับสูง คือ ตร., ดีเอสไอ และ ปปง. และ 3.แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนและไต่สวนเพิ่มเติมขึ้นอีก 1 คณะ  ซึ่งเป็นคณะพิเศษ ที่ประกอบด้วย รองเลขาธิการ กกต. 4 คน และตำรวจ 3 นาย ให้มีหน้าที่และอำนาจสืบสวนและไต่สวนเรื่องคัดค้านการเลือก สว.ในทุกพื้นที่ที่ได้รับมอบหมาย  

“ขณะนี้คณะกรรมการสอบสวนและไต่สวนอยู่ระหว่างสอบสวนและไต่สวนเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานตามระเบียบ กกต. ซึ่งทุกสำนวนต้องเป็นไปตามเวลาที่กำหนดไว้ในระเบียบดังกล่าว และ พ.ร.บ.กำหนดระยะเวลาการดำเนินงานในกระบวนการยุติธรรม พ.ศ.2565 โดยต้องให้ทุกฝ่ายได้มีโอกาสชี้แจงเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม โดยในการเลือก สว. มีคำร้อง และรวมถึงรวมความปรากฏ 577 เรื่อง ซึ่ง กกต.พิจารณาแล้วเสร็จจำนวน 297 เรื่อง ซึ่งในส่วนของกลุ่มทุจริต เสนอให้ ว่าจ้าง เรียกรับ ฮั้ว จัดตั้ง โพย เลขชุด บล็อกโหวต คะแนนสูงผิดปกติ คะแนน 0 กลุ่มนี้ที่มี 220 เรื่อง กกต.พิจารณาแล้วเสร็จ 109  เรื่อง และส่งศาลฎีกา 3 เรื่อง”

นายแสวงกล่าวอีกว่า การดำเนินการเมื่อมีความผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมืองนั้น พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต. เมื่อพิจารณาข้อกฎหมายแล้ว กกต.มีอำนาจในการแต่งตั้งเจ้าพนักงานจากเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานอื่นของรัฐ แต่กฎหมายไม่ได้กำหนดให้มอบหมายให้หน่วยงานอื่นของรัฐทำหน้าที่แทนไว้ กรณีที่เป็นการกระทำกรรมเดียว แต่ผิดหลายบท หน่วยงานอื่นของรัฐหรือพนักงานสอบสวนจะรับเรื่องไว้พิจารณาก็ต้องพิจารณาว่ากฎหมายได้ให้อำนาจไว้หรือไม่ หากกฎหมายให้อำนาจไว้ ก็มีอำนาจในการรับเรื่องไว้ดำเนินการเองได้เลย

 “ที่สำนักงาน กกต.มีหนังสือถึงดีเอสไอว่าได้รับเรื่องการเลือกสมาชิกวุฒิสภาที่เป็นไปโดยไม่สุจริตและเที่ยงธรรมเป็นคดีพิเศษไว้ดำเนินการแล้วหรือไม่ คดีอะไร ก็เพื่อเสนอ กกต.พิจารณาตามมาตรา 49 ต่อไป”

วันเดียวกัน นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ได้ทำหนังสือเลขที่ สว 0001/1036 ถึงประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ระบุว่า เนื่องด้วยคณะสมาชิกวุฒิสภา ได้มีหนังสือลงวันที่ 27 ก.พ. เรื่อง ขอให้ส่งคำร้องไปยัง ป.ป.ช. เพื่อพิจารณาไต่สวนและดำเนินการกับ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ เกี่ยวกับการกระทำการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ เป็นการดำเนินการตามความประสงค์ของสมาชิกวุฒิสภา เพื่อให้ ป.ป.ช.พิจารณาดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจต่อไป 

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 27 ก.พ. พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร สว. พร้อมคณะ สว. ยื่นหนังสือต่อประธานวุฒิสภา ให้พิจารณาส่งเรื่องต่อ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของ พ.ต.อ.ทวี และ พ.ต.ต.ยุทธนา ฐานผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และผิดจริยธรรม กรณีกล่าวหาการฮั้วเลือก สว.เข้าข่ายความผิดอั้งยี่และฟอกเงิน.