ไม่ใช่โลกยุคดึกดำบรรพ์ อ้วนท้าดูอุยกูร์ที่ซินเจียง

"อุ๊งอิ๊ง" บินไปเยอรมนี เตรียมแจงปมส่งกลับอุยกูร์ “ภูมิธรรม” เหน็บอย่าใช้จินตนาการ โลกนี้ไม่ใช่โลกยุคดึกดำบรรพ์ ไม่ได้อยู่ในเกาะ หรือต้องให้บ้านเมืองนี้ถูกทำลาย ถูกวางระเบิดถึงจะสะใจ เชิญฝ่ายค้านซักฟอก "ทวี-ราชทัณฑ์" แจงจดหมายอุยกูร์ไม่มีจริง

เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2568 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีเดินทางไปร่วมงานส่งเสริมการขายทางการท่องเที่ยว ITB Berlin 2025 ที่สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ระหว่างวันที่ 3-8 มี.ค. จะมีการชี้แจงประเด็นที่ไทยส่งชาวอุยกูร์กลับจีนหรือไม่ หลังหลายประเทศได้มีการออกมาเตือนพลเมืองของตนเองเรื่องการก่อการร้ายว่า เราทำถูกต้องตามสิทธิมนุษยชนทุกอย่าง ซึ่งสื่อมวลชนต้องช่วยสื่อสารตรงนี้ และเราก็ได้มีการไปดูทุกอย่างตามที่ทางการจีนให้ ซึ่งเรื่องนี้เราทำถูกต้องแล้ว วันแรกที่เกิดเหตุการณ์ขึ้นนั้นยังมีการอธิบาย แต่ที่ผ่านมารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมก็อธิบายชัดเจนแล้ว ทางต่างประเทศอื่นๆ ก็ได้รับข้อมูลครบถ้วนหมดแล้ว ผู้สื่อข่าวถามว่า การไปต่างประเทศครั้งนี้จะไปย้ำความเชื่อมั่นใช่หรือไม่ นายกฯ ตอบว่า ย้ำแน่นอน และครั้งนี้ที่ไปเป็นเรื่องของการท่องเที่ยว

ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องนี้เราต้องเริ่มต้นจากความเป็นจริง ไม่ใช่เริ่มต้นจากความเชื่อ ถ้าเชื่อว่าจะมีระเบิดมันก็จะเชื่อไปเรื่อยๆ เชื่อไปได้มากมาย ซึ่งไม่เป็นผลดีกับสุขภาพ ในแง่ความมั่นคงเรามีความระมัดระวังอยู่แล้ว ต่อให้มีเรื่องนี้หรือไม่ก็ตาม เพราะเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่เราทำเรื่องนี้ตนคิดว่าพรรคฝ่ายค้านหรือองค์กรสิทธิมนุษยชน เป็นการมองด้วยจินตนาการย้อนหลังไปเป็นสิบปี ซึ่งไม่อยากพูดอะไรมากเพราะเป็นเรื่องของประเทศจีนที่ต้องชี้แจง แต่วันนี้บ้านเมืองเขามีการเปลี่ยนแปลงไปมาก สิ่งที่คิดว่าจะโจมตีเขาได้ก็ไม่น่าจะโจมตีได้ 

รองนายกฯ กล่าวอีกว่า กรณีประเทศที่ 3 ขอยืนยันว่าไม่มี หากใครบอกว่ามีให้มาพูดคุยกันแล้วเอาเนื้อมา ขณะที่ทางการจีนจากการพูดคุยกันแล้ว เขายืนยันว่าคนเหล่านี้เป็นพลเมืองของเขาและขอรับคืน เรารอมาแล้ว 10 ปีซึ่งทำอะไรไม่ได้ ขณะที่ประเทศที่ 3 แม้กระทั่งประเทศใหญ่ๆ ที่ตนคุยมาก็ไม่มีใครเอา ฉะนั้นเมื่อไม่มีประเทศที่ 3 ก็ต้องเดินไปตามกระบวนการ

“หลายๆ เรื่องผมคิดว่าอย่าเอาความเชื่อส่วนตัวมาพูด และไปคำนึงถึงหลักปรัชญาบางอย่างแล้วมาทำร้ายประเทศตัวเอง ขอร้องถ้าจะทำอย่างนั้นจริงๆ ให้ทำเหมือน สส.พรรคประชาชนที่มายื่นทุจริตยา เอารูปธรรมมาหาทางแก้ปัญหา ไม่ใช่พูดไปเรื่อยเปื่อยให้เกิดความหวาดกลัว ผมคิดว่าอยู่ที่ความจริง ถ้าความจริงเป็นแบบนี้แล้วกระบวนการทางจีนเขายอมรับ เราก็ยังสามารถไปตรวจสอบเขาได้ ในเมื่อเขาไม่กลัวให้เราไปตรวจสอบ แล้วเราจะไปกลัวว่าเขาจะไปตายได้อย่างไร ขึ้นเครื่องลงเครื่องไม่มีเหตุการณ์วุ่นวาย ไม่มีพันธนาการ แม้เชื่อว่าจะเป็นการจัดฉาก แต่โลกนี้ไม่ใช่โลกยุคดึกดำบรรพ์ ไม่ได้อยู่ในเกาะ ไปดูกันได้ เมืองซินเจียงเขาก็ไม่มีอะไรปิดบัง ใครอยากไปทำข่าวก็ไปเลย และทางเราหลังจากนี้ 15 วันก็จะมีรัฐมนตรีคนอื่นๆไปดู ผมก็อาจจะไปด้วย นอกจากนี้เรายังให้สถานทูตไทยประจำกรุงปักกิ่งไปดูเป็นระยะ แล้วจะเอาอย่างไรอีก หรือต้องให้บ้านเมืองนี้ถูกทำลาย ถูกวางระเบิดถึงจะสะใจ ดังนั้นเอาความจริง อย่าเอาความเชื่อไปสร้างปัญหาให้ประเทศ”

นายภูมิธรรมกล่าวต่อว่า วันนี้สิ่งที่เราทำเป็นการลดภาระของประเทศ เราควรจะดีใจ ไม่ควรตั้งคำถามว่าอาจจะทำให้เกิดสิ่งนั้นสิ่งนี้ เพราะคนเราคิดอะไรได้ร้อยแปด ระเบิดนิวเคลียร์จะลงก็คิดกันได้ คิดแล้วหวาดผวาทำให้ประเทศขาดความเชื่อมั่น ทำแล้วสะดวกสบายใจอย่างนั้นหรือ

"หากฝ่ายค้านจะหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาอภิปรายไม่ไว้วางใจก็อภิปรายได้เลย เอาหลักฐานมาว่าเขาตายหรือถูกทำร้ายร่างกายอย่างไร อย่าใช้ความเชื่อมาอภิปราย เพราะถ้าใช้ความเชื่อมาอภิปรายเราจะไม่ตอบ" นายภูมิธรรมกล่าว

ขณะที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า เรื่องนี้จะมีการหารือกับนายภูมิธรรม เพื่อที่จะเดินทางไปเยี่ยมชาวอุยกูร์ที่ถูกส่งตัวกลับอีกครั้ง โดยจะมีการนำสื่อมวลชนไปด้วย ซึ่งยอมรับว่าไทยมีความห่วงใย แต่ต้องยึดหลักบ้านเมือง ถือความเป็นธรรม เพราะชาวอุยกูร์ต้องทรมานมานานนับสิบปี และรัฐบาลไทยเราไม่อยากส่งมรดกของการทรมานไปให้คนอื่น เมื่อไทยประเมินในสิ่งที่ดีที่สุดก็ต้องเคารพการตัดสินใจ ซึ่งการประชุมได้มีการพิจารณาอย่างละเอียด     

เมื่อถามถึงกรณีที่มีการเผยแพร่จดหมายชาวอุยกูร์ 3 ฉบับ แสดงเจตจำนงไม่อยากกลับประเทศจีน ซึ่งกรมราชทัณฑ์กล่าวอ้างว่าไม่มีเอกสารดังกล่าว พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องให้กรมราชทัณฑ์เป็นผู้ชี้แจง ไม่เช่นนั้นก็อาจเกิดความเสียหายต่อกรมราชทัณฑ์หรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ เพราะกรมราชทัณฑ์ได้รับการยืนยันจากชาวอุยกูร์จำนวน 5 คน ในข้อหาปล้นทรัพย์ที่อยู่ในเรือนจำคลองเปรม ยืนยันว่าไม่ได้เขียนจดหมาย ส่วนกระดาษที่มีตรากรมราชทัณฑ์นั้นเป็นกระดาษที่มีขายในเรือนจำ เพื่อให้ผู้ที่ถูกคุมขังเขียนจดหมาย แต่ถ้าจดหมายเผยแพร่จะต้องมีการเซ็นเซอร์ที่ซองจดหมายก่อนส่งออกข้างนอก ส่วนจดหมายที่ออกมาจาก ตม.ก็ขอให้ไปถาม ตม.ในเรื่องนี้ เพราะสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองก็จะมีระบบเช่นกัน

วันเดียวกันนี้ กรมราชทัณฑ์ชี้แจงว่า ตามที่เพจเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า “วันนี้พรรคสีส้มโกหกอะไร” ได้เผยแพร่ข้อความเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 กล่าวถึงจดหมายของผู้ต้องขังชาวอุยกูร์ ซึ่งมีตราประทับจากเรือนจำกลางคลองเปรม ส่งถึงนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 นั้น

"กรมราชทัณฑ์ได้รับรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากเรือนจำกลางคลองเปรมแล้ว ขอเรียนว่า ผู้ต้องขังชาวอุยกูร์ให้การยืนยันว่า ไม่เคยเขียนจดหมายฉบับดังกล่าวตามที่ปรากฏในสื่อ และลายมือที่ปรากฏมิใช่ลายมือของพวกตน โดยในช่วงระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2567 ถึงปัจจุบัน ยังไม่เคยส่งจดหมายออกภายนอกเรือนจำแต่อย่างใด ซึ่งเบื้องต้นเรือนจำฯ ได้เปรียบเทียบลายมือแล้ว พบว่าแตกต่างกันอย่างชัดเจน ทั้งนี้ เรือนจำกลางคลองเปรมได้ตรวจสอบข้อมูลการรับ-ส่งจดหมาย ไม่ปรากฏว่ามีจดหมายฉบับดังกล่าว อีกทั้งตราประทับที่ปรากฏบนจดหมายฉบับนั้น ก็มิใช่ตราประทับของเรือนจำกลางคลองเปรมแต่อย่างใด"

"โดยตามระเบียบกรมราชทัณฑ์ ก่อนส่งจดหมายถึงภายนอกเรือนจำฯ ต้องตรวจสอบเนื้อหาในจดหมายว่ามีผลกระทบต่อความมั่นคงหรือความสงบเรียบร้อยหรือไม่ ปรากฏว่าไม่มีจดหมายฉบับดังกล่าว และโดยเฉพาะจดหมายผู้ต้องขังจากเรือนจำจะไม่มีตราประทับของเรือนจำแต่อย่างใด อีกทั้งผู้ต้องขังดังกล่าวไม่มีญาติหรือทนายความมาเยี่ยมเยียน"

"กรมราชทัณฑ์ขอยืนยันว่า จดหมายฉบับดังกล่าวไม่ใช่จดหมายที่ออกจากเรือนจำกลางคลองเปรม ดังนั้น จึงน่าจะเป็นจดหมายที่ทำขึ้นมาอย่างไม่ถูกต้อง โดยเรือนจำฯ ได้ตรวจสอบและถือปฏิบัติตามระเบียบ และแนวทางที่กรมราชทัณฑ์กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด"

  อย่างไรก็ตาม ในวันเดียวกันนี้ มีรายงานว่านายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม ยืนยันว่าจดหมายของชาวอุยกูร์ที่เปิดเผยต่อสาธารณะนั้นเป็นของจริง ไม่ได้มาจากเรือนจำคลองเปรม และพร้อมให้ตรวจสอบ โดยเจ้าตัวเผยว่า จดหมายไม่ได้มาจากผู้ต้องขังในเรือนจำคลองเปรม แต่มาจากห้องกักสวนพลู ตัวจดหมายใช้กระดาษที่มีลายพิมพ์เรือนจำ ไม่ใช่การประทับตราภายหลัง จดหมายเขียนเป็นภาษาอังกฤษ เนื่องจากมีชาวอุยกูร์ที่สื่อสารภาษาอังกฤษได้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หยุดยิงเขมรกระอัก ลงนาม16ข้อยึดตรงไหน‘ทหารไทย’ปักหลักตรงนั้น!

ไทย-เขมรเห็นพ้องหยุดยิงทันทีเที่ยงวัน 27 ธ.ค. ยึดปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ เปิดแถลงการณ์ร่วมยาวเหยียด 16 ข้อ เขมรกระอักเลือด พื้นที่ไทยยึดได้ยึดเลย การวางกำลังทหารในปัจจุบันโดยไม่มีการเคลื่อนย้ายเพิ่มเติม

‘เท้ง’กลัวไม่ได้ตั้งรัฐบาล

กกต.เผยรับสมัคร สส.ทั้ง 400 เขตเรียบร้อยดี เตรียมรับสมัคร สส.บัญชีรายชื่อวันอาทิตย์นี้ เตือนประชาชนโพสต์ข้อความผิด กม.เลือกตั้ง เจอคุก 10 ปี

ตามล่าอาชญากร ‘ฮุนเซน-ฮุนมาเนต’

ไม่ปล่อยให้ลอยนวล เดินหน้าเอาผิด 2 พ่อลูกตระกูลฮุน อธิบดีอัยการฯ ลงพื้นที่ประชุม ผบช.ภ.3 สอบเสธ.ทหารเป็นพยานมัด "ฮุน เซน-ฮุน มาเนต"