สว.ลั่นเดินหน้า เคาะ‘2ตุลาการ’ ‘สิริพรรณ’มีลุ้น

“สภาสูง” ยันต้องเดินหน้าโหวต 2  ตุลาการ อัดพวกให้เลื่อนต้องมีเหตุผล ไม่ใช่แค่สัมภาษณ์สื่อ สะพัด สว.สีน้ำเงินเสียงแตกโหวต  “สิริพรรณ” ยังติดใจปมลงชื่อแก้มาตรา 112 รวมทั้งความเห็นเรื่องสุจริตเป็นที่ประจักษ์  

พ.ต.อ.กอบ อัจนากิตติ สมาชิกวุฒิสภา   (สว.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.)  เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ   วุฒิสภา ยืนยันว่า การประชุม สว.วันอังคารที่ 18   มี.ค.นี้ ควรต้องเดินหน้าประชุมลับเพื่อโหวตเห็นชอบตุลาการศาลรัฐธรรมนูญใหม่ 2 คนต่อไป (ศ.ดร.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี และนายชาตรี อรรจนานันท์ อดีตเอกอัครราชทูต ประจำกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์) เพราะทั้งสองชื่อผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการสรรหาฯ จนส่งชื่อมาให้ สว. การโหวตถือเป็นการทำหน้าที่ตามปกติของ สว.

“คงต้องรอฟังในที่ประชุมว่าจะมี สว.เสนอเลื่อนการโหวตออกไปหรือไม่ หากเสนอ ก็รอฟังเหตุผลที่เขาจะอภิปราย แต่เรื่องนี้ต้องดูความเหมาะสมด้วย ไม่ใช่มาสร้างประเด็นอะไรให้สังคมสงสัย ผมดูแล้วมันไม่เข้าท่า หากจะเสนอให้เลื่อนก็เสนอญัตติเข้ามาเลย ไม่ใช่เที่ยวสัมภาษณ์กับสื่อ ไม่ใช่เรื่องที่ สว.พึงกระทำ คิดอยากทำอะไรก็ทำ เป็นผู้ใหญ่พูดจาอะไรต้องดูด้วย ไม่ใช่มาเรียกตัวเองว่าพันธุ์โน้นพันธุ์นี้ สว.ก็คือ สว. ไม่มีพันธุ์อะไร” พ.ต.อ.กอบกล่าว

ขณะที่ น.ต.วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ สว. กล่าวเช่นกันว่า เห็นด้วยกับการที่ สว.จะประชุมพิจารณาเรื่องดังกล่าว ไม่ควรเลื่อนการโหวตออกไปตามที่มี สว.บางคนแถลงข่าวเรียกร้อง เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของ สว. เพราะคณะกรรมการสรรหาฯ  เขาคัดเลือกและส่งชื่อมาแล้ว

 “ผมเห็นว่าทั้งสองคนมีคุณสมบัติเหมาะสมเข้าไปเป็นตุลาการฯ ผมจะโหวตให้ทั้งสองคน บอกได้ตรงๆ อย่างอาจารย์สิริพรรณ เก่งมาก  ศาสตราจารย์ด้านรัฐศาสตร์พบว่าในไทยตอนนี้มีไม่มากแล้ว แล้วเหตุใด สว.จะไม่เห็นชอบ หรือนายชาตรี ก็เชี่ยวชาญด้านกฎหมายระหว่างประเทศ คุณสมบัติทั้งสองคนผ่านแน่นอน แต่เรื่องทัศนคติก็ต้องมาดูอีกทีตอนประชุมลับว่าทั้งสองคนให้สัมภาษณ์กรรมการสรรหาฯ และตอบข้อซักถาม กมธ.สอบประวัติทางลับฯ อย่างไร”

เมื่อถามว่า มีข่าว สว.บางส่วนอาจไม่โหวตให้ ศ.ดร.สิริพรรณ ด้วยเหตุผลว่าเคยไปร่วมลงชื่อแก้ไขมาตรา 112  น.ต.วุฒิพงศ์ยอมรับว่า มีคนกลุ่มหนึ่งเขาคิดแบบนั้น ก็มีคนติดใจอยู่ แต่มันไม่เกี่ยวกัน เขาเป็นอาจารย์รัฐศาสตร์ ก็ต้องมีเสรีภาพทางวิชาการที่จะมีความคิดเห็นได้เป็นเรื่องของอิสระ แต่หากสมมุติเกิดได้เข้าไปเป็นตุลาการฯ ก็ต้องเปลี่ยนไป ต้องปรับวิธีการคิด ไม่ใช่จะมาพูดอะไรได้แบบเดิม ต้องนิ่งแล้ว

มีรายงานจาก สว.ว่า ศ.ดร.สิริพรรณได้ส่งเอกสารชี้แจงประเด็นเรื่องที่เคยร่วมลงชื่อเสนอแก้ไขมาตรา 112 ร่วมกับนักวิชาการหลายคนก่อนหน้านี้ให้ กมธ.พิจารณาตรวจสอบประวัติฯ รวมถึงเคยไปชี้แจงกับ กมธ. ตอนที่ถูกเรียกไปสัมภาษณ์ โดยได้ชี้แจงว่า การร่วมลงชื่อแก้ 112 ดังกล่าว เป็นเรื่องความเห็นทางวิชาการ ในฐานะนักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ ที่มีความเห็นว่ามาตราดังกล่าวมีปัญหาในทางปฏิบัติอย่างไร ซึ่งเอกสารชี้แจงดังกล่าว รวมถึงการชี้แจงด้วยวาจาของ ศ.ดร.สิริพรรณ ทาง กมธ.สอบประวัติฯ ได้แนบไว้ในเอกสารลับที่สุด ที่จะส่งให้ สว.ทุกคนได้พิจารณาในห้องประชุมลับวันที่ 18 มี.ค.นี้แล้ว

มีรายงานว่า สว.สีน้ำเงินเริ่มเสียงแตกกันแล้วว่าจะโหวตให้ ศ.ดร.สิริพรรณเป็นตุลาการศาล รธน.หรือไม่ เพราะ สว.สีน้ำเงินบางส่วนเห็นว่าสมควรโหวตเห็นชอบ เพราะเรื่องที่เคยไปร่วมลงชื่อแก้ 112 มองว่าเป็นเรื่องความเห็นทางวิชาการ ไม่น่ามีปัญหา แต่ สว.สีน้ำเงินบางส่วนยังติดใจประเด็นดังกล่าวอยู่ แต่ทั้งหมดจะรอดูคำชี้แจงและเอกสารชี้แจงของ ศ.ดร.สิริพรรณ วันที่ 18 มี.ค.นี้ จึงทำให้ สว.สีน้ำเงินยังอยู่ระหว่างการตัดสินใจว่าจะโหวตเห็นชอบ ดร.สิริพรรณหรือไม่ หลังเสียงเริ่มแตกออกเป็นสองฝั่ง

มีรายงานด้วยว่า ในการประชุมลับวันที่ 18 มี.ค.นี้ นอกจาก สว.จะซักถาม กมธ.สอบประวัติฯ เรื่องได้ถาม ศ.ดร.สิริพรรณเรื่องการแก้ไข 112 แล้ว ยังมีอีกประเด็นความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องการตีความหรือคำจำกัดความคุณสมบัติรัฐมนตรีในเรื่องต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์หรือไม่ เนื่องจาก สว.บางรายยังติดใจประเด็นที่ ศ.ดร.สิริพรรณ ตอนไปสัมภาษณ์กับคณะกรรมการสรรหาฯ ที่มีประธานศาลฎีกาเป็นประธาน โดยพบว่าในเอกสารที่กรรมการสรรหาฯ ส่งมา ศ.ดร.สิริพรรณได้แสดงความคิดเห็นเรื่องคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ในคดีนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ศาลวินิจฉัยให้หลุดจากตำแหน่งเพราะฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรม ทั้งนี้ คงต้องรอดูการตัดสินใจของ สว.เสียงส่วนใหญ่ ว่าจะโหวตเห็นชอบอย่างไร ซึ่งมติเห็นชอบต้องได้เสียงเห็นชอบไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของ สว.ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ 199  คน.