จับตาครม.เคาะ‘กาสิโน’

จับตา! คลังชง “กาสิโน” เข้า ครม.  “จุลพันธ์” เผยส่งกลับร่างพ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ถึงมือเลขาฯ ครม. ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว

เมื่อวันที่ 26 มีนาคม นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงความคืบหน้าร่างพระราชบัญญัติประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ว่า  หลังจากที่ร่างดังกล่าวถูกส่งมาให้ทางกระทรวงการคลังยืนยันร่างฯ และกระทรวงเวียนความเห็นจากหน่วยงานต่างๆ เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้ได้ส่งกลับไปยังเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นที่เรียบร้อยตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งต้องรอดูว่าเลขาธิการ ครม. จะบรรจุวาระ เพื่อให้ ครม.เห็นชอบเมื่อใด คาดว่าโดยเร็วสุดน่าจะเข้า ครม. ในวันที่ 27 มี.ค. นี้ หากร่างดังกล่าวได้ผ่านความเห็นชอบจาก ครม. ทางรัฐบาลจะเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรต่อไป

 “ความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อร่างกฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หน่วยงานทั้งหมดได้แสดงความเห็นด้วย โดยระบุว่าเป็นโครงการที่จะช่วยสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยมีการเติบโต” รมช.คลัง ระบุ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สาระสำคัญของ ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. … ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาปรับแก้แล้วนั้น อาทิ มาตรา 18 (6) การกำหนดสัดส่วนพื้นที่ของกาสิโนในสถานบันเทิงครบวงจร ทั้งนี้ ต้องไม่เกินร้อยละ 10 ของที่ดิน ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานบันเทิงครบวงจร

 มาตรา 64 ห้ามผู้มีอายุน้อยกว่า 20 ปีบริบูรณ์ เข้าเล่นกาสิโน ส่วนมาตรา 65 ระบุว่า ผู้มี “สัญชาติไทย” ซึ่งจะเข้าไปในกาสิโนต้องลงทะเบียน และชำระค่าธรรมเนียมตามที่คณะกรรมการนโยบายประกาศกำหนด คือ 5,000 บาทต่อครั้ง รวมทั้งกำหนดต้องมีเงินฝากในบัญชีเงินฝากประจำไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท ต่อเนื่องกันไม่น้อยกว่า 6 เดือน

อย่างไรก็ตาม สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้สรุปผลการรับฟังความคิดเห็นต่อร่างดังกล่าว วันที่ 28 ก.พ. - 14 มี.ค. 2568 ว่า มีผู้เข้าร่วมแสดงความคิดเห็นกว่า 71,000 คน โดยภาพรวมมีผู้เห็นด้วยกับร่างกฎหมายประมาณ 80% และไม่เห็นด้วยประมาณ 20% ในทุกหมวดของร่างกฎหมาย

ส่วนข้อกำหนดว่าต้องมีเงินฝากในบัญชีเงินฝากประจำไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาทต่อเนื่องกันไม่น้อยกว่า 6 เดือน นั้น มีข้อเสนอเข้ามาหลายอย่าง เช่น ไม่เห็นด้วย เพราะถ้าฐานลูกค้ามีจำนวนน้อย การลงทุนในธุรกิจนี้จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ รวมทั้งเสนอให้ลดเกณฑ์เงินฝากเป็น 10 ล้านบาท และอนุญาตให้ใช้หลักทรัพย์อื่นแทนได้ นอกจากนี้ยังขอให้เพิ่มทางเลือกการตรวจสอบรายได้ เช่น การยื่นแบบภาษีเงินได้ย้อนหลัง 3 ปี ลดเกณฑ์เงินฝากเป็น 5 ล้านบาท เป็นต้น.