สภาสูงขวางกาสิโน ภาคปชช.-นักวิชาการฮือ แต่งขาวไล่รัฐบาลทุนเทา

ปธ.วิปรัฐบาลแจงด่วน ยันไม่ดันร่าง กม.กาสิโนให้สภาฯ ลงมติเห็นชอบ 3 เม.ย. แต่จะเลื่อนขึ้นมาอภิปราย 9 เม.ย. สภาสูงฮือค้านส่งสัญญาณขวาง โฆษกวิปวุฒิฯ เผย สว.ส่วนใหญ่ไม่เอากาสิโน เอ็นจีโอ-นักวิชาการ-นักศึกษารวมพลังต้าน “จตุพร-คปท.” ปลุกแคมเปญใหม่ประเทศไทยสีขาว นัดใส่เสื้อขาวสกัดทุนเทา ปชช.-นักธุรกิจภูเก็ตไม่ทน รวมพลังเสาร์นี้ไม่เอาบ่อนมาลง “เท้ง” ข้องใจเร่งรัดผิดปกติ หวั่นเอื้อประโยชน์กลุ่มทุน

จากกรณีเมื่อวันอังคารที่ 1 เมษายน นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้บรรจุร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์  ที่ให้มีการเปิดกาสิโนเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมสภาในวันพฤหัสบดีที่ 3 เม.ย.เป็นพิเศษ ทำให้สังคมจับตามองกันว่าที่ประชุมสภาวันดังกล่าวจะลงมติรับหลักการวาระแรกเลยหรือไม่ หรือว่าจะไปพิจารณาวันพุธที่ 9 เม.ย.

ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 2 เม.ย. นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า มีการบรรจุระเบียบวาระไว้ในสภาฯ จริง ซึ่งจะไม่ได้พิจารณาในวันที่ 3 เม.ย. แต่จะขอเลื่อนวาระขึ้นมาเพื่อให้มีผลการพิจารณาในวันที่ 9 เม.ย. โดยการประชุมสภาในวันที่ 3 เม.ย.จะเน้นเรื่องแผ่นดินไหว เพราะเป็นเรื่องใหญ่ที่เห็นตรงกันทุกพรรค

ด้านนายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.)  ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) แถลงผลการประชุมในสัปดาห์นี้ว่า วุฒิสภาเตรียมพิจารณาญัตติขอเสนอแต่งตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ของนายสรชาติ วิชย  สุวรรณพรหม และญัตติเสนอให้วุฒิสภาพิจารณาผลกระทบจากการดำเนินการเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติสถานบันเทิงครบวงจร โดยนายวีระพันธ์ สุวรรณนามัย ซึ่งทั้ง 2 ญัตติดังกล่าวได้รับการบรรจุเรียบร้อยแล้ว ในวันอังคารที่ 8 เมษายน ดังนั้นจะได้ทราบว่า สว.แต่ละคนมีความเห็นอย่างไร และสุดท้ายจะมีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาหาข้อเท็จจริงศึกษาควบคู่ไปกับสภาผู้แทนราษฎรด้วย 

โฆษกวิปวุฒิสภากล่าวว่า สว.ได้เห็นร่าง พ.ร.บ. สถานบันเทิงครบวงจรของรัฐบาลที่เสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรแล้ว และได้มีการตั้งกลุ่มไลน์แลกเปลี่ยนความเห็น เตรียมพิจารณา ซึ่งมี สว.ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับกฎหมายดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวเห็นว่าเป็นกฎหมายที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนและปัญหาด้านสังคมมากขึ้น จึงเห็นว่ารัฐบาลควรศึกษาให้รอบคอบก่อนเสนอ

“จากที่พูดคุยกับเพื่อน สว. ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยมากกว่าเห็นด้วย จึงอยากให้ทำประชามติถามประชาชนก่อน ว่าต้องการให้มีกาสิโนหรือไม่ ขออย่าอ้างว่าเป็นแค่เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์หรือสถานบันเทิงครบวงจร เพราะปัจจุบันมีอยู่แล้ว แต่เราไม่มีกาสิโน” นายพิสิษฐ์กล่าว

NGO-นักวิชาการ-นศ.ฮือต้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน ในฐานะตัวแทน 100 องค์กรภาคประชาสังคม ได้เดินทางมายื่นหนังสือถึงนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานรัฐสภา และนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร  เพื่อเรียกร้องกรณีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรได้บรรจุเข้าสู่ระบบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 3 เม.ย.นี้

โดยนายธนากรกล่าวว่า จากการที่รัฐบาลพยายามผลักดันร่างกฎหมายดังกล่าว ด้วยอาการรีบร้อนเร่งรัดมากจนผิดสังเกต และตัดสินใจเดินหน้ากระทำสิ่งที่ฝืนกระแสคัดค้านของสังคม และอาจเป็นชนวนความขัดแย้งครั้งใหม่  เครือข่ายภาคประชาสังคม 100 องค์กรมีความเห็นว่า การกระทำของรัฐบาลในครั้งนี้เป็นการกระทำที่อสัตย์ อ้างส่งเสริมการท่องเที่ยว ด้วยการส่งเสริมสนับสนุนแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น และบังคับให้ต้องมีกาสิโน และร่างกฎหมายก็มีการเขียนข้อกำหนดไว้อย่างหละหลวม และการผลักดันนโยบายสถานบันเทิงครบวงจรของรัฐบาลในครั้งนี้เป็นการกระทำที่ไร้ความรับผิดชอบ เนื่องจากไม่ได้มีการหาเสียงไว้กับประชาชน และยังไม่ได้มีการศึกษาอย่างรอบด้านเพียงพอ รวมถึงนโยบายการเปิดสถานบันเทิงครบวงจรที่มีกาสิโนเป็นภาคบังคับนั้น ก็เป็นความเห็นแก่ได้ของรัฐบาล ที่คำนึงแต่เรื่องรายได้ทางเศรษฐกิจอย่างอับจนปัญญาที่จะหาวิธีอื่นที่สร้างสรรค์ ไม่ได้คำนึงถึงผลเสียที่มากพอ และนำอนาคตของสังคมไทยไปเสี่ยง ไร้มาตรการในการปกป้องสังคมที่วางใจได้

“ดังนั้น เครือข่ายภาคประชาสังคม 100 องค์กร จึงขอเรียกร้องต่อรัฐสภาและพรรคการเมืองทุกพรรค ให้ปฏิเสธการรับร่าง พ.ร.บ.นี้เข้าสู่การพิจารณา และเรียกร้องให้พรรคฝ่ายค้านดำเนินการยับยั้งกฎหมายที่ไม่เป็นคุณต่อสังคม ขณะนี้ภาคประชาชนกำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมรายชื่อ เพื่อให้รัฐบาลจัดการออกเสียงประชามติในประเด็นนี้ หรือขอให้ฝ่ายค้านได้เสนอต่อสภาผู้แทนราษฎร ให้รัฐบาลจัดการออกเสียงประชามติในเรื่องนี้ โดยช่วยเหลือภาคประชาชนท่านหนึ่ง” เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนันระบุ

รศ. ดร.ชิดตะวัน ชนะกุล อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่มาร่วมยื่นหนังสือด้วย กล่าวว่า จะยื่นร้องตรวจสอบจริยธรรมของข้าราชการทางการเมือง เนื่องจากการที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 3 ม.ค. 68 ระบุถึงวัตถุประสงค์ของการมีสถานบันเทิงครบวงจร ประการหนึ่งคือแก้ปัญหาการพนันออนไลน์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งเป็นการชี้ชัดว่ากลุ่มเป้าหมาย คือคนไทย ทั้งที่ในวันเดียวกันนั้น นายพิชัย ชุณหวชิร รมว.การคลัง ระบุการสร้างเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ มีจุดประสงค์เพื่อดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่ใช่คนไทย ส่วนวันที่ 27 มี.ค. 68 ภายหลัง ครม.มีมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ตามที่คณะกรรมการกฤษฎีกาได้แก้ไข นายกรัฐมนตรีกลับให้สัมภาษณ์ว่าร่าง พ.ร.บ.นี้มีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งขัดแย้งกับการให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ของตนเอง และต่างจากการให้สัมภาษณ์ของนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง เมื่อวันที่ 21 ก.พ. และ 3 มี.ค. 68 ที่ระบุว่าหลักคิดของร่างกฎหมายนี้ คือเพื่อแก้การพนันผิดกฎหมาย คนไทยที่ต้องการเล่นกาสิโนสามารถมาเล่นในเมืองไทยได้ 

รศ. ดร.ชิดตะวันกล่าวว่า ทั้งหมดนี้เห็นได้ว่าทั้ง 3 คนมีการให้สัมภาษณ์ขัดแย้งกันเอง จึงมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าต้องมีบุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรือมากกว่าหนึ่งคนบิดเบือนข่าวสารของราชการ เพื่อให้เกิดความเข้าใจผิด หรือปกปิดข้อเท็จจริงอันควรต้องบอกกับประชาชน ซึ่งผิดต่อประมวลกฎหมายจริยธรรมของข้าราชการทางการเมือง 

ขณะที่นายณัฐพงษ์ระบุว่า จะนำข้อเสนอของภาคประชาชนไปพิจารณาอย่างรอบคอบมากที่สุด ส่วนที่ประธานสภาได้บรรจุวาระพิจารณาร่างกฎหมายนี้ไว้แล้ว คาดว่าจะนำเข้าสู่การพิจารณาในวันที่ 9 เมษายนหรือไม่นั้น นายณัฐพงษ์ระบุว่า จะได้พิจารณาหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับเสียงข้างมากของที่ประชุมสภา 

“ฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกตได้ว่า การบรรจุร่างกฎหมายครั้งนี้มีการเร่งรัดผิดปกติ ปกติกระบวนการสภาจะบรรจุวาระตั้งแต่วันศุกร์ แต่ร่างกฎหมายนี้อยู่ดีๆ ก็โผล่ขึ้นมา โดยใช้อำนาจของประธานในการบรรจุร่างกฎหมาย ฝ่ายรัฐบาลเองก็แถลงว่าจะมีการพิจารณากฎหมายฉบับนี้ให้ทันก่อนปิดสมัยประชุม เหตุใดรัฐบาลจึงต้องเร่งรัดขนาดนี้ ในเมื่อนายจุลพันธ์ระบุเองว่า รายงานผลการศึกษาความเป็นไปได้ยังจัดทำไม่เสร็จ รวมถึงประชาชนก็มีข้อกังวลว่า ควรมีการรับฟังเสียงอย่างรอบด้านโดยการจัดทำประชามติ จึงคิดว่าควรดำเนินการในเรื่องนี้เช่นกัน เพื่อความเปิดกว้างและเป็นธรรม” ผู้นำฝ่ายค้านระบุ

เมื่อถามถึงกรณีวันที่ 3 เม.ย.จะมีประชาชนมาชุมนุมประท้วงที่อาคารรัฐสภาเพื่อต่อต้านการพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าว นายณัฐพงษ์ระบุว่า สิ่งที่รัฐบาลควรต้องทำอยู่แล้วคือการรับฟังเสียงของประชาชน การเร่งรัดผลักดันร่างกฎหมายโดยเฉพาะในเวลาวิกฤต อาจจะเพิ่มความไม่พอใจในสังคมได้ ซึ่งเราก็ไม่อยากเห็น อยากให้กระบวนการในสภาเป็นทางออกมากกว่า

สำหรับความเห็นต่อเนื้อหาในร่างกฎหมาย คนไทยที่จะเข้าใช้บริการสถานบันเทิงครบวงจร ต้องมีเงินในบัญชีไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท นายณัฐพงษ์กล่าวว่า เงื่อนไขต่างๆ เป็นสิ่งที่เราต้องไปศึกษา แต่เงื่อนไขต่างๆ นั้นก็ไม่ควรที่จะชี้นำพุ่งเป้าเพื่อเอื้อผลประโยชน์กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ผู้ที่จะมารับสัมปทานและผู้ที่จะเข้าไปใช้สถานบันเทิงครบวงจรก็จำเป็นต้องศึกษาอย่างรอบด้าน

'สุดารัตน์' อัดยับเร่งรีบผิดปกติ

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ให้ความเห็นว่า รัฐบาลชุดนี้เลือกที่จะเลี่ยงการนำร่างกฎหมายดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่กลับเดินหน้าเต็มสูบหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจก็นำเข้าอนุมัติในที่ประชุม ครม.ทันที รวมทั้งรีบลงไปดูพื้นที่ก่อสร้างเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่ จ.ภูเก็ตถึง 2 ครั้ง และกำลังจะนำร่างกฎหมายเข้าสภาฯ ในสัปดาห์นี้ ดูเร่งรีบเกินเหตุ ถือเป็นพฤติกรรมที่สวนทางกับปัญหาของประเทศที่ประชาชนกำลังเผชิญอยู่ และควรให้ความสำคัญมากกว่าการทำบ่อน ที่เต็มไปด้วยข้อกังขาในเรื่องทุจริตเชิงนโยบาย ที่จะพาเยาวชนไทยและผู้มีรายได้น้อยให้กลายเป็นผีพนัน เสี่ยงเป็นศูนย์กลางฟอกเงิน อบายมุขและอาชญากรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการยกอำนาจในการตัดสินเรื่องสำคัญทั้งหมดให้กับซูเปอร์บอร์ด ปูทางเอื้อทุนพวกพ้อง

ขณะที่ความเคลื่อนไหวของกลุ่มคัดค้านการออกกฎหมายกาสิโน ที่ปักหลักชุมนุมที่บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ ข้างทำเนียบรัฐบาลมาหลายสัปดาห์

นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ปราศรัยต่อต้านร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หรือบ่อนกาสิโนว่า คณะผู้ชุมนุมจะเปิดยุทธการประเทศไทยสีขาวไล่รัฐบาลทุนเทาตั้งบ่อนกาสิโน ทำความเสียหายให้ประเทศและประชาชน การประกาศยุทธการประเทศสีขาวนั้น สิ่งสำคัญผู้ชุมนุมและประชาชนจะใส่เสื้อขาวเป็นสัญลักษณ์ไล่รัฐบาลทุนเทา โดยจะเริ่มขบวนการนำผู้ชุมนุมเสื้อขาวไปยื่นหนังสือเรียกร้อง สส.ให้คัดค้านการตั้งบ่อนกาสิโนในไทย ไม่เพียงเท่านั้นในวันที่ 3 เม.ย. สภาจะพิจารณาวาระร่างกฎหมายบ่อนกาสิโนเป็นครั้งแรก ผู้ชุมนุมจะใส่เสื้อขาวไปแสดงพลังต่อต้านกาสิโนและรัฐบาลทุนเทาที่สภาด้วย ดังนั้นประชาชนที่รักบ้านเมือง คิดถึงอนาคตชาติ ต้องมาร่วมเป็นพลังประเทศไทยสีขาว และมาร่วมแสดงสัญลักษณ์หน้าสภา

"ประธานสภาผู้แทนราษฎรได้รีบบรรจุวาระในวันที่ 3 เม.ย.นี้ เพราะขอฝ่ายค้านขยายเวลาประชุมสภาเพิ่มวันศุกร์ที่ 4 เม.ย.อีกวันไม่ได้ โดยฝ่ายค้านไม่ยอมเอาด้วย วิปรัฐบาลจึงต้องเร่งมาเสนอเป็นวาระพิเศษประชุมพิจารณาวันที่ 3 เม.ย. ขณะที่แพทยสภานัดแถลงผลตรวจสอบรักษาทักษิณ ชินวัตร 10 เม.ย. ซึ่งสอดรับกับการเร่งบรรจุวาระประชุมสภามาเป็น 3 เม.ย. เพื่อต้องการให้ผ่านวาระแรกก่อนที่จะรู้ผลตรวจสอบของแพทยสภา  ดังนั้นถ้านายกฯ เร่งและรวบรัดกันนัก ก็เสนอให้สภาพิจารณา 3 วาระรวดไปเลย" นายจตุพรกล่าวประชดประชันอาการเร่งรีบเอาแต่ได้ของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย

นายจตุพรกล่าวอีกว่า การเร่งรีบพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กาสิโนในสภานั้น แสดงถึงรัฐบาลไม่ใส่ใจแก้ปัญหาภัยแผ่นดินไหว โดยมีคนงานนับสิบคนติดใต้ซากตึก ต้องช่วยกู้ภัยให้รอดชีวิตซึ่งเป็นงานเร่งรีบกว่า แต่รัฐบาลกลับร้อนรนผิดสังเกตกับการผลักดันบ่อนกาสิโนให้ผ่านสภาก่อน การเร่งออกกฎหมายบ่อนกาสิโน รัฐบาลพรรคเพื่อไทยมีเหตุน่าสงสัยอยู่ที่ใครได้รับผลประโยชน์อื่นใดจากการตั้งบ่อนกาสิโน ซึ่งจะพาประชาชนไปติดกับดักความเสียหายในอนาคต สิ่งนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก นอกจากนี้นายทุนและรัฐบาลต้องการได้ที่ดินการท่าเรือแห่งประเทศไทยมาหาประโยชน์ จึงต้องอ้างถึงการสร้างกาสิโนและยังจะเป็นแกนกลางขยายไปสู่การพนันออนไลน์ จึงหวังว่าสหภาพการท่าเรือฯ และพี่น้องชุมชนคลองเตยจะลุกขึ้นมาต่อต้าน คนไทยยังไม่เคยเจอรัฐบาลหน้าด้านหน้าชาแบบนี้มาก่อนเลย เพราะเป็นรัฐบาลที่ไม่คำนึงถึงผลลัพธ์ สุดท้ายจะเกิดอะไรกับประเทศและประชาชน คิดแต่การตั้งบ่อนกาสิโนมาทำลายความมั่นคงของประเทศ โดยคำโบราณสอนเตือนสติว่า ถ้าผีการพนันเข้าสิงจะมีความเสียหายมากกว่าไฟไหม้บ้านถึง 10 ครั้ง

"ปัญหาวันนี้คือ คนมีหน้าที่เพื่อชาติบ้านเมืองจะยอมให้เกิดบ่อนกาสิโนและการพนันออนไลน์แล้วเหรอ และเชื่อกันจริงหรือว่า จะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว ตรงกันข้ามนักท่องเที่ยวมาไทยประมาณปีละ 40 ล้านคนจะหายวับไปกับตา ส่วนนักท่องเที่ยวใหม่ก็ไม่มาเที่ยวไทย สิ่งนี้จะเป็นชะตากรรมของชาติในอนาคตเมื่อตั้งบ่อนกาสิโน การสร้างบ่อนกาสิโนนั้น รัฐบาลมักยกข้ออ้างสารพัดว่าต้องการนำรายได้มาช่วยการศึกษา ช่วยสวัสดิการคนแก่และคนพิการ ซึ่งการโฆษณาชวนเชื่อแบบนี้ไม่แตกต่างจากการหาเสียง แต่ไม่เคยทำได้เป็นจริงเลย แต่สิ่งที่ทำคือบ่อนกาสิโน  ซึ่งไม่ได้หาเสียงให้ประชาชนเห็นชอบ การเร่งรีบเสนอบ่อนกาสิโนให้สภาพิจารณา แสดงถึงการไม่เข็ดหลาบกับร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอยสมัยยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ลักหลับในสภาจนผ่านวาระ 2 แต่ถูกประชาชนต่อต้าน จนสุดท้ายตัวเองต้องฉิบหาย” นายจตุพรกล่าว

มติราชบัณฑิต มธ.คัดค้าน

วันเดียวกัน สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า มีการประชุมราชบัณฑิตและภาคสมาชิก สำนักธรรมศาสตร์และการเมือง ราชบัณฑิตยสภา โดยมี ศ.กิตติคุณ ปิยนาถ บุนนาค เป็นประธาน หลังจากประชุมวาระปกติแล้ว มีการพิจารณาวาระการประเมินและพัฒนานโยบายสาธารณะ กรณี (ร่าง) พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. ... ซึ่งคณะรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร จะเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรเป็นวาระเร่งด่วน ในวันที่ 3 เมษายน 2568

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาและเห็นชอบรายงานการศึกษาของ ศ. ดร.วรเดช จันทรศร ราชบัณฑิต ที่เสนอว่า รัฐบาลควรยุติหรือชะลอเรื่องนี้ไว้ก่อน ไม่นำร่างกฎหมายเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร แต่ถ้ารัฐบาลจะผลักดันนโยบายนี้เป็นกฎหมายต่อไป ให้พัฒนาร่างกฎหมายนี้ในเชิงนโยบาย  โดยเน้นมาตรการที่สำคัญคือ การเพิ่มการให้ความสำคัญที่มาตรการในการแก้ปัญหาสังคมและอาชญากรรมและมาตรการอื่นๆ ที่มุ่งการเพิ่มประโยชน์ทางเศรษฐกิจให้เกิดมากที่สุด ตลอดจนมีมาตรการเพื่อลดความเสี่ยงทางสังคมและสิ่งแวดล้อมด้านอื่นๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน สังคมและประเทศอย่างยั่งยืน

มีรายงานว่า รายงานฉบับนี้ได้มีการประเมินนโยบายที่เกี่ยวกับร่างกฎหมายนี้ในภาพรวม โดยเฉพาะการประเมินนโยบายซึ่งพิจารณาจากรากฐานทางทฤษฎีว่า  กาสิโนในสถานบันเทิงแบบครบวงจรมีทฤษฎีทางวิชาการใดที่สนับสนุนและมีทฤษฎีทางวิชาการใดที่คัดค้าน ตลอดจนนำหลักฐานเชิงประจักษ์ทางด้านการบริหารจัดการ กาสิโนในสถานบันเทิงแบบครบวงจรของประเทศต่างๆ มาเพื่อประกอบการพิจารณา ซึ่งได้ข้อสรุปว่าแม้หากร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงนี้เมื่อออกกฎหมายและนำไปสู่การปฏิบัติแล้ว

“ถ้าประโยชน์ทางเศรษฐกิจจะเกิดขึ้นได้จริงทั้งหมดตามความมุ่งหมาย ก็จะต้องแลกกับปัญหาต่างๆ ทางสังคมที่ยากจะหลีกเลี่ยงได้ การเกิดขึ้นของอาชญากรรมในลักษณะต่างๆ ปัญหาความเสื่อมทางศีลธรรมและค่านิยมของสังคมจะตามมาและสะสมมากขึ้น โดยเฉพาะสำหรับสังคมไทยเองก็จะเกิดความมัวหมองเสื่อมทราม ในความเป็นประเทศและเมืองแห่งพระพุทธศาสนา มีการสร้างค่านิยมทางสังคมที่สนับสนุนให้คนส่วนหนึ่งในชาติ ต้องยังชีพหรือมีอาชีพด้วยการอาศัยการพนัน และมีบางส่วนที่ติดการพนัน อีกทั้งเป็นแหล่งดึงดูดให้มีกลุ่มที่แฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยวมาเล่นพนัน นำเงินที่ผิดกฎหมายมาฟอก แปลงเป็นเงินที่ออกมาจากกาสิโนอย่างถูกกฎหมาย” บทสรุปของรายงานระบุ

นอกจากนั้นในกรณีของประเทศไทย ความสามารถในการบังคับใช้กฎหมายของพนักงานเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถทำได้อย่างเต็มที่ มีข้อบกพร่องและปัญหาการทุจริตอยู่มาก จากอดีตถึงปัจจุบันก็ยังมีปัญหาเรื่องบ่อนเถื่อน และการพนันออนไลน์ที่ไม่สามารถดำเนินการปราบปรามให้เกิดผลได้ ยิ่งจะมีแต่ปัญหามากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งหมดนี้ถือได้ว่าเป็นปัญหาทางสังคมที่จะทวีมากขึ้น และยากที่จะแก้ไขและจะตามมาด้วยความสูญเสียทางเศรษฐกิจ รายได้ที่ประเทศจะได้จริงตามที่คาดไว้ก็จะลดน้อยลง และอาจมีผลต่อความอยู่รอดของธุรกิจ ของผู้ประกอบการ ตลอดจนความเสื่อมโทรมของเมืองพื้นที่กาสิโนและชุมชนตามมาเป็นลำดับ ในประการสำคัญอาจจะกลายเป็นปัญหาในระดับชาติและเป็นชนวนของความขัดแย้งของคนในสังคม

สำหรับราชบัณฑิตและภาคีสมาชิกสำนักธรรมศาสตร์และการเมือง มีราชบัณฑิต 33 ราย ภาคีสมาชิก 37 ราย เช่น ศ.อดิศักดิ์ ทองบุญ, ศ. ดร.เดือน คำดี, ศ.กีรติ  บุญเจือ, รศ.สิวลี ศิริไล, ศ. ดร.ภัทรพร สิริกาญจน, ศ.จำนงค์ ทองประเสริฐฐ ศ. ดร.สิทธิ์ บุตรอินทร์, ศ. ร.ท. ดร.บรรจบ บรรณรุจิ, ศ.ไชยยศ เหมะรัชตะ, ศ. ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ, ศ. ดร.วิษณุ เครืองาม, ศ. ดร.ผาสุก พงษ์ไพจิตร และ ศ. ดร.สุกัญญา สุดบรรทัด ฯลฯ

ภูเก็ตไม่ทน! ไม่เอากาสิโน

ขณะเดียวกัน มีความเคลื่อนไหวของประชาชนในจังหวัดภูเก็ต ที่มีข่าวว่าอาจจะเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่จะให้มีการก่อสร้างเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่ให้มีกาสิโน โดยผู้ประกอบการทั่วไปในจังหวัดภูเก็คต่างติดแฮชเท็กไม่เอากาสิโน โพสต์ผ่านโซเชียล และนัดรวมตัวกันในวันเสาร์ที่ 5 เม.ย.นี้ โดยระบุว่า "เชิญชวนพี่น้องชาวภูเก็ต มาแสดงพลังร่วมกันค้าน พ.ร.บ.Entertainment Complex ในวันเสาร์ที่ 5 เมษายน 2568 เวลา 17.30 น. ถึง 21.30 น ณ เวทีกลางสะพานหิน" #ชาวภูเก็ตไม่ขอทน#คนภูเก็ตไม่เอากาสิโน

นายธเนศ ตันติพิริยะกิจ นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า หลังจากที่ ครม.เห็นชอบให้เดินหน้าจัดตั้งเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์  ภาคเอกชนภูเก็ตรู้สึกยินดีที่รัฐบาลให้ความสำคัญกับโครงการนี้ ซึ่งคาดว่าจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ  โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ภาคเอกชนภูเก็ต

“ขอเน้นย้ำว่าไม่ต้องการให้มีกาสิโน แต่ต้องการให้เป็นศูนย์รวมความบันเทิงระดับโลกที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวเชิงคุณภาพและกลุ่มครอบครัว โดยเสนอให้พัฒนา สวนน้ำระดับโลก สปอร์ตคอมเพล็กซ์มาตรฐานสากล ศูนย์ศิลปะและวัฒนธรรม ธีมปาร์กระดับโลก เช่น Disney  Ocean Studio เป็นต้น ปัจจุบันภูเก็ตสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวปีละกว่า 500,000 ล้านบาท แนวทางนี้จะช่วยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้สูงขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาการพนัน เพื่อรักษาภาพลักษณ์ของภูเก็ตในฐานะจุดหมายปลายทางสำหรับนักท่องเที่ยวเชิงคุณภาพและครอบครัว” นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รำลึกพ่อหลวงร.9 ในหลวง-พระราชินีทรงบำ เพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน

ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี

อนุทินโวทำจริง/ปปง.จ่อฟันอีก

นายกฯ ลั่นรัฐบาลจริงจังปราบสแกมเมอร์ บอกแค่ 2 เดือนยึดอายัดทรัพย์หมื่นล้าน-เปิดชื่อเครือข่าย ถามมีใครกล้าทําหรือไม่ ตอกกลับ "เพื่อไทย" ถ้าทำงานห่วยจะให้ย้ายไปคุม