เครือข่ายทักษิณทั้งนั้น! ลูกชายนายกเบี้ยวซิ่งบีเอ็มฯ เบียดกระบะ คู่กรณีเจ็บสาหัส โฆษก ตร.ชี้เป็นพฤติกรรมที่ขาดวุฒิภาวะ ขาดวินัยจราจร ขาดความสำนึก เข้าข่ายผิดอาญา ยกคำพูด ผบ.ตร. ต่อให้ลูกชายแท้ๆ ทำผิดก็ต้องลงโทษ นายกฯ อิ๊งค์ยันมีอิทธิพลไม่ได้ เดี๋ยวนี้โลกเราก็เป็นอย่างนี้ไปแล้ว แฉ "พีช" เคยจัดงานบวชสุดอลังการ "ทักษิณ-อุ๊งอิ๊ง" ร่วมงานด้วย
เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2568 พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีเหตุการณ์ที่ปรากฏภาพคลิปลงในโซเชียล รถหรู BMW ปาดเบียดรถกระบะคันหนึ่งเป็นเหตุทำให้เสียหลักจนเกิดอุบัติเหตุ ทำให้ลุงกับป้าที่เป็นผู้ขับและผู้โดยสารภายในรถได้รับบาดเจ็บสาหัสนั้น ตำรวจทางหลวงได้รายงานเหตุเบื้องต้นทราบว่า เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 เมษายน 2568 เวลา 08.32 น. บริเวณบนถนนกาญจนาภิเษก ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 9 ช่วง กม.23+400 ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงพื้นที่รับผิดชอบได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
แต่ขณะนั้นพบว่าเป็นเหตุอุบัติเหตุรถชนกันจำนวน 2 คัน เป็นรถกระบะอีซูซุ สีดำ ทะเบียนลำปาง โดยมีนายประจักษ์ อายุ 65 ปี เป็นผู้ขับขี่ และนางสาวสมศรี อายุ 64 ปี เป็นผู้โดยสาร ทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บ และรถเก๋ง BMW สีขาว ทะเบียนป้ายแดง โดยมีนายสมิทธิพัฒน์ อายุ 28 ปี เป็นผู้ขับขี่ ตำรวจได้นำส่งผู้บาดเจ็บไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลบางปะกอก-รังสิต 2 แล้วได้นำรถทั้งสองคันไปเก็บรักษาไว้ยังหน่วยสอบสวนตำรวจทางหลวงลำลูกกาเพื่อตรวจสภาพรถ พร้อมตรวจปริมาณแอลกอฮอล์นายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ หรือ "พีช" บุตรชายของนายกฤษฎา หลีนวรัตน์ หรือ "นายกเบี้ยว" นายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ผู้ขับขี่รถ BMW ไม่พบปริมาณแอลกอฮอล์ในกระแสเลือด ซึ่งนายสมิทธิพัฒน์ได้แจ้งว่าขับรถปาดหน้ากัน จึงสอบสวนปากคำไว้
ต่อมาวันนี้ตำรวจทางหลวงได้รับคลิปพยานหลักฐานเพิ่มเติมจากกล้องหน้ารถของประชาชน ทำให้ทราบว่าอาจจะไม่ได้เป็นการเฉี่ยวชนแบบธรรมดา อาจจะเข้าข่ายเป็นความผิดทางอาญา ซึ่งตำรวจทางหลวงจะไม่ได้รับผิดชอบ จะรับเพียงคดีจราจรบนทางหลวงเท่านั้น ส่วนคดีอาญาทาง สภ.ลำลูกกาจะเป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้รับทราบรายงานแล้ว และได้ดูคลิปภาพในสื่อโซเชียลแล้ว ยืนยันว่าไม่ได้มีความเกี่ยวข้องเป็นญาติกัน ถือเป็นพฤติกรรมที่ขาดวุฒิภาวะ ขาดวินัยจราจร ขาดความสำนึก ขาดความรับผิดชอบต่อชีวิตและทรัพย์สินผู้อื่น เป็นเรื่องที่น่าเสียใจที่มีบุคคลทำพฤติกรรมการขับรถยนต์เช่นนี้บนถนน หากรถคันที่เสียหายมีเด็กเล็กอยู่ในรถจะเป็นอย่างไร แบบนี้อยู่ในสังคมยาก
เขากล่าวว่า การใช้รถใช้ถนนนั้น ผบ.ตร.เคยพูดก่อนสงกรานต์แล้วว่า ขอให้ทุกคนมีสติและเอื้ออาทรในการใช้รถใช้ถนนร่วมกัน จะได้ไม่มีเหตุอะไรเกิดขึ้นจนบานปลายเป็นเรื่องใหญ่โต เรื่องนี้ถือเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ทำให้สังคมรับไม่ได้ ดังนั้นต้องถูกดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดทุกข้อหาที่เกี่ยวข้อง ผู้กระทำผิดนอกจากกระทำผิดแล้วยังไม่สำนึกผิด ยังแอบอ้างโอ้อวดไปทั่ว เช่นนี้ถือว่าเป็นผู้ไม่มีวุฒิภาวะหรือจิตสำนึกที่ดี
นอกจากนี้ ผบ.ตร.กล่าวว่า “แม้หากเป็นลูกชายแท้ๆ ถ้าทำผิดอะไรก็ต้องรับผิด จะไม่มีช่วยเหลือ ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายที่ทำให้สังคมเป็นระเบียบเรียบร้อย มิใช่ทำตัวใหญ่กร่างอวดอ้างไปเรื่อยๆ เช่นนี้”
ทั้งนี้ เนื่องจากเหตุเกิดบนทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง เบื้องต้นคดีนี้เป็นคดีจราจร ที่สถานีตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ต้องรับผิดชอบทำการสอบสวนก่อน และหากเป็นอาญาตำรวจพื้นที่ คือ สภ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จะรับผิดชอบ ซึ่ง ผบ.ตร.ได้เน้นย้ำไปทางตำรวจทางหลวงและตำรวจพื้นที่ใน จ.ปทุมธานีแล้วว่าการดำเนินคดีต้องเป็นไปตามพยานหลักฐานอย่างตรงไปตรงมา จะไม่มีการช่วยเหลือใครเด็ดขาด เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างของสังคม
ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี อุทานว่า โอ้ ก่อนบอกกับสื่อมวลชนว่า มันก็เป็นไปตามกระบวนการไป ยิ่งเป็นข่าวที่สังคมให้ความสนใจ มีอิทธิพลไม่ได้หรอก เดี๋ยวนี้โลกเราก็เป็นอย่างนี้ไปแล้ว
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ในส่วนของกระทรวงมหาดไทย ไม่ว่าจะเป็นลูกใคร ทำผิดกฎหมายก็โดนหมด ต้องให้ความเป็นธรรม และทำทุกอย่างอย่างตรงไปตรงมา
ทั้งนี้ ในกรณีดังกล่าว หากมีการใช้อิทธิพลในพื้นที่ดังกล่าวมารังแกประชาชนจะทำอย่างไร นายอนุทินถามกลับว่า “ใหญ่กว่าผู้ว่าฯ ไหม ใหญ่กว่าตำรวจไหม ใหญ่กว่ากระทรวงมหาดไทยไหม ใหญ่กว่ารัฐบาลไหม ถ้าไม่ก็ไม่มีอิทธิพลอะไร ก็ในเมื่อคนที่ใหญ่กว่าบอกว่าต้องโดน ถ้าทำผิดก็ต้องโดน”
นายดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่าน X ว่า เป็นอุบัติเหตุที่ไม่ควรเกิดขึ้นเลยจริงๆ ตนขอเป็นกำลังใจให้กับผู้บาดเจ็บ ขอให้ปลอดภัยและหายในเร็ววัน ในส่วนของคู่กรณี ก็ขอให้เป็นเรื่องของตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
“นอกจากนั้น ในกรณีที่มีการโยงถึงทางพรรคเพื่อไทย ต้องเรียนแจ้งว่า คู่กรณีคนดังกล่าวเป็นนักการเมืองท้องถิ่น ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทยแต่อย่างใด ขอทุกท่านอย่านำเรื่องดังกล่าวมาโยงกับการเมือง หรือท่านอดีตนายกฯ ทักษิณ และนายกฯ แพทองธาร พวกเรามาร่วมเป็นกำลังใจให้กับผู้บาดเจ็บดีกว่าครับ”
ขณะที่นายกเบี้ยวเดินทางเข้าเยี่ยมนายประจักษ์และนางสาวสมศรีที่โรงพยาบาลบางปะกอก-รังสิต 2 เปิดเผยว่า ส่วนตัวยังไม่ทราบรายละเอียดอะไร เพราะยังไม่ได้เจอลูกชาย และยังติดต่อไม่ได้ กำลังให้เพื่อนติดต่อให้ ยืนยันพร้อมช่วยเหลือผู้บาดเจ็บเต็มที่ หากลูกชายผิดจริง ไม่เข้าข้างลูก ยอมรับที่ผ่านมาลูกดื่มสุรานิดหน่อย แต่เท่าที่สอบถามตำรวจ หลังเกิดเหตุเป่าแอลกอฮอล์แล้วไม่พบ ล่าสุดตำรวจอยู่ระหว่างเข้าสอบปากคำผู้บาดเจ็บ
สำหรับนายสมิทธิพัฒน์ หรือ "พีช" วัย 28 ปี เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล (สท.) ตำบลลำลูกกา อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เขตเลือกตั้งที่ 2 หมายเลข 1 เป็นลูกชายคนเล็กของนายกเบี้ยว และเป็นน้องชายของนายมนัสนันท์ หลีนวรัตน์ สส.ปทุมธานี เขต 5 พรรคเพื่อไทย
โดยเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2567 สมิทธิพัฒน์ได้เข้าพิธีอุปสมบทอย่างยิ่งใหญ่ ณ ลานเทศบาลตำบลธัญบุรี (คลองเจ็ด) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในงานเลี้ยงฉลองบวช พร้อมด้วย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
22มิ.ย.เลือกใหม่ ‘11เขตเทศบาล’ คุ้ยวุฒิสจ.กอล์ฟ
กกต.สรุปข้อมูลเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศ “พัทลุง” ครองแชมป์ใช้สิทธิ ประกาศเลือกตั้งนายกฯ ใหม่ 2 แห่งในนครปฐม-อุตรดิตถ์
ฟุ้งถกเวียดนาม ‘19พ.ค.’ต้อนรับ ผู้นำแดนอิเหนา
“แพทองธาร” ปฏิบัติภารกิจในฮานอยวันสุดท้าย ช่วงเช้าร่วมพิธีวางพวงมาลาอนุสาวรีย์วีรชนและผู้เสียสละบั๊กเซิน
‘เปรมชัย’สู้ข้อหาสตง.ถล่ม
เท่าเทียม ตร.อุ้ม “เปรมชัย” ขึ้นรถตราโล่ พร้อมผู้ต้องหาเอี่ยวตึก สตง.ถล่ม
ฟ้องกันนัวช็อปซื้องูเห่า ปปช.ยันเรียกพีระพันธุ์
“พท.” ปัด “กล้าธรรม” เป็นพรรคสาขาสอง “ไผ่” ยื่นสภาฟันจริยธรรม “ยอดชาย” ปูดซื้อ สส. 55 ล้านมั่ว สัปดาห์หน้า
‘คลัง’ชงรื้องบแจกหมื่น บรรเทาผลกำแพงภาษี!
จับตา! “ปลัดคลัง” ชงบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ รื้อแผนการใช้เงินโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 1.57 แสนล้านบาท
‘สมศักดิ์’พึ่ง10อรหันต์
มติแพทยสภาพักใช้ใบอนุญาต 2 หมอ 3 เดือนกับ 6 เดือน “สมศักดิ์” หาหลังพิงตั้ง 10 อรหันต์ช่วยกรองก่อนส่งความเห็นกลับ