ออกหมายจับ 17 ราย วิศวกร-ผู้ควบคุมงาน-กิจการร่วมค้า เอี่ยวคดี “ตึก สตง.ถล่ม” ดีเอสไอเตรียมสรุปสำนวนคดีนอมินีภายในสิ้นเดือน พ.ค.นี้ ก่อนครบกำหนดฝากขังศาล 4 ผู้ต้องหา ส่วน “บินลิง วู” นายทุนชาวจีนอยู่ระหว่างสอบสวนหาความเกี่ยวข้อง บ.ไชน่า เรลเวย์ฯ ขณะที่ กทม.ปิดศูนย์บัญชาการเหตุการณ์แล้ว
จากกรณีสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 13.20 น. ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหว โดยมีจุดศูนย์กลางที่ประเทศเมียนมา แรงสั่นสะเทือนถึงประเทศไทยและในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ส่งผลทำให้อาคารก่อสร้างสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ บริเวณถนนกำแพงเพชร 2 เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร มีความสูง 30 ชั้น ทรุดตัวถล่มลงมา เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมากนั้น
พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) มีคำสั่งให้แต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน โดยมี พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ รอง ผบช.น. เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. เป็นรองหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน เพื่อให้ทำการสอบสวนในคดีดังกล่าว
จากการตรวจสอบพยานหลักฐานทั้งเอกสารและพยานบุคคล พบว่าแบบแปลนการก่อสร้างไม่สอดคล้องกับกฎกระทรวงและมาตรฐาน กลุ่มกำแพงปล่องลิฟต์ของอาคารไม่ได้อยู่ตรงกลางอาคาร แต่ชิดขอบด้านหลัง ทำให้ศูนย์กลางของการบิดตัวของอาคารเยื้องไปจากศูนย์กลางอาคาร เมื่ออาคารแกว่งตัวจากแผ่นดินไหว ทำให้กำแพงปล่องลิฟต์และเสาที่ฐานถล่มเกือบพร้อมกัน ทำให้อาคารทั้งหลังตกลงมาในแนวดิ่งอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ มีการส่งผลตรวจปูนซีเมนต์ที่ใช้ในการก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินว่า มีมาตรฐานตรงตามค่า KSC ซึ่งเป็นหน่วยวัดมาตรฐาน ที่ใช้วัดความแข็งแรงของคอนกรีต ผลการตรวจปรากฏว่าความแข็งแรงของคอนกรีตไม่ได้มาตรฐานตามค่า KSC และการตรวจสอบเหล็กเส้นที่เก็บได้จากอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ปรากฏว่ามีบางส่วนไม่เป็นไปตามแบบเช่นกัน และจากการตรวจลายมือชื่อของนายสมเกียรติ ชูแสงสุข ผู้เสียหายที่ถูกปลอมลายมือชื่อลงไป ในฐานะวุฒิวิศวกร จากกองพิสูจน์หลักฐานยืนยันว่า ตัวอย่างลายมือชื่อที่ส่งเปรียบเทียบ มีคุณสมบัติการเขียน รูปลักษณะของลายมือชื่อแตกต่างกันกับตัวอย่างลายมือชื่อของนายสมเกียรติ ชูแสงสุข จึงลงความเห็นว่าไม่ใช่ลายมือชื่อของคนเดียวกัน
จากหลักฐานข้างต้น คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนจึงได้แบ่งกลุ่มผู้กระทำความผิดออกเป็น 3 กลุ่ม ซึ่งเป็นผู้มีวิชาชีพในการออกแบบ ควบคุม หรือทำการก่อสร้าง ซ่อมแซมหรือรื้อถอนอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างใดๆ ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์หรือวิธีการอันพึงกระทำมีผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องและเป็นผู้กระทำความผิดดังนี้
กลุ่มที่ 1 บริษัทผู้ออกแบบ บริษัท ฟอ-รัม อาร์คิเทค จำกัด และบริษัท ไมนฮาร์ท (ประทศไทย) ทำสัญญาระหว่างสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน โดยผู้มีอำนาจลงนามผูกพันนิติบุคคล 1 ราย และมีกลุ่มวิศวกรผู้ลงนามในแบบแปลนซึ่งเป็นวิศวกรโครงสร้าง จำนวน 5 ราย รวมผู้กระทำความผิดทั้งหมด 6 ราย
กลุ่มที่ 2 บริษัทผู้รับจ้างควบคุมการก่อสร้าง กิจการร่วมการค้า PKW จำนวน 1 ราย ในฐานะส่วนตัว เนื่องจากเป็นผู้แทนลงนามในสัญญา ซึ่งทั้ง 3 บริษัทตกลงยินยอมรับผิดร่วมกันและแทนกันต่อผู้ว่าจ้างในทุกกรณี โดย 3 บริษัทประกอบด้วย 1.บริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จำกัด 2.บริษัท เคพี คอนซัลแทนส์ แอนด์ แมเนจเม้นท์ จำกัด 3.บริษัท ว.และสหาย คอนซัลแตนตส์ จำกัด รวมผู้กระทำความผิดทั้งหมด 5 ราย
กลุ่มที่ 3 บริษัทผู้รับจ้างก่อสร้าง 1.บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) 2.บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด และผู้มีอำนาจกระทำการแทนกิจการร่วมค้า ITD-CREC รวมผู้กระทำความผิดทั้งหมด 6 ราย อย่างไรก็ตาม ในเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ค้นพบแล้วจำนวน 89 ราย ได้รับบาดเจ็บสาหัส จำนวน 1 ราย ได้รับบาดเจ็บ 8 ราย สูญหาย 11 ราย จึงได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งหมด 17 ราย ในฐานะนิติบุคคลและส่วนตัว ในฐาน “เป็นผู้มีวิชาชีพในการออกแบบ ควบคุม หรือทำการก่อสร้าง ซ่อมแซม หรือรื้อถอนอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างใดๆ ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์หรือวิธีการอันพึงกระทำการนั้นๆ โดยประการที่น่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคลอื่น เป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย” อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 227, 238
ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค ในฐานะโฆษกดีเอสไอ เป็นประธานในที่ประชุม เปิดเผยก่อนการประชุมว่า ก่อนหน้านี้ที่ดีเอสไอได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหา 4 ราย และฝากขังศาลผัดแรก รวมถึงต้องเร่งสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการคดีพิเศษให้ทันกรอบเวลาการฝากขังผัดที่ 4 สำหรับผู้ต้องหาล็อตแรกนั้น ตนเรียนว่าต้องเร่งทำให้ทัน เนื่องจากมีการควบคุมตัว ก็ต้องเร่งดำเนินการ และในการสอบสวน เรามีการรวบรวมพยานหลักฐานมาพอสมควรแล้ว จึงมีการแจ้งข้อกล่าวหา กระบวนการหลังจากนี้คือต้องให้ผู้ต้องหามาแก้ข้อกล่าวหา แต่ตอนนี้ผู้ต้องหายังไม่ได้นำพยานหลักฐานมาชี้แจงหักล้าง ซึ่งถ้าท่านสละสิทธิ์ไม่มาชี้แจง ดีเอสไอก็ต้องรับฟังจากพยานหลักฐานที่มี ดังนั้น กรอบเวลาที่จะสรุปสำนวนคดีนอมินีให้พนักงานอัยการคดีพิเศษ จะอยู่ประมาณสิ้นเดือน พ.ค.
กรณีของนายบินลิง วู ซึ่งเป็นนายทุนชาวจีน ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างตรวจสอบประเด็นที่เกี่ยวข้อง และพฤติกรรมข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับเขา หากมีความคืบหน้าเรื่องหมายเรียกผู้ต้องหาหรือหมายเรียกพยาน จะได้รายงานความคืบหน้าให้รับทราบต่อไป
พ.ต.ต.วรณันกล่าวด้วยว่า เอกสารที่ดีเอสไอดูในวันนี้ ถ้าเป็นรายการจากตรวจยึดจากไซต์งานชั่วคราว สตง. ก็ประมาณ 121 ลัง แต่ว่าตนต้องขอบคุณหน่วยงานพันธมิตรที่เกี่ยวข้องที่มาช่วยคัดแยกเอกสารว่าอะไรควรนำเข้าสำนวนบ้าง ไม่ว่าจะเป็นเอกสารภาพรวมอย่างเอกสารการก่อสร้าง การควบคุมงาน การออกแบบ ส่วนความชัดเจนตอนนี้ว่าพบหรือไม่ว่าส่วนไหน ปัจจัยไหนกันแน่ที่ทำให้ตึก สตง.พังถล่มนั้น ตนขอฟังรายละเอียดในที่ประชุมวันนี้ก่อน เพราะมันเกี่ยวกับ 3 เรื่องคือ คดีนอมินีจบหรือยัง คดีฮั้วประมูลจะไปอย่างไรต่อ และมาตรฐานอุตสาหกรรมมีเข้ามาหรือยัง แล้วจะไปอย่างไรต่อ ทั้งหมดนี้คือรายละเอียดที่ต้องหารือในที่ประชุมวันนี้
ขณะที่ กรุงเทพมหานคร (กทม.) ปิดศูนย์บัญชาการเหตุการณ์สำนักเขตจตุจักร โดยบรรยากาศภายในพื้นที่โครงการก่อสร้างอาคาร สตง. ตั้งแต่ช่วงเช้า เจ้าหน้าที่เทศกิจและกองสิ่งแวดล้อม เขตจตุจักร กทม. ทยอยเก็บสิ่งของ รื้อเต็นท์-รั้ว และอุปกรณ์ต่างๆ ที่ถูกนำมาสนับสนุน ภารกิจการค้นหาและสนับสนุนการรื้อซากตึก สตง.ถล่ม ซึ่งวันนี้ถือเป็นวันสุดท้ายที่เจ้าหน้าที่ต้องเร่งเก็บทุกสิ่งออกให้เสร็จในเวลา 10.00 น. ก่อนส่งมอบพื้นที่ให้ตำรวจอายัดต่อเพื่อดำเนินการทางคดีต่อไป
ต่อมาเวลา 11.00 น. น.ส.ภัทร์กร สินสุข ผู้อำนวยการเขตจตุจักร ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ฯ ได้ประกาศยกเลิกเขตภัยพิบัติแผ่นดินไหวในพื้นที่โครงการก่อสร้างอาคาร สตง. พร้อมคืนพื้นที่ให้ตัวแทน สตง. และ พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.บางซื่อ กับคณะพนักงานสอบสวน ปิดประกาศอายัดพื้นที่ดังกล่าวไว้สอบสวนต่อทันที โดยมี รศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนายสุริยชัย รวิวรรณ ผอ.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. ร่วมเป็นสักขีพยาน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แบ่งเค้กสมใจอยาก
นายกฯ เซ็นคำสั่งแบ่งงานรองนายกฯ-รมต.ประจำสำนักนายกฯ ใหม่ กำกับดูแลแทนนายกฯ หลัง "อนุทิน" ลาออก เพื่อไทยกำกับดูแลมหาดไทยสมใจอยาก ส่ง "ภูมิธรรม" คุม ส่วน "พีระพันธุ์" ไม่ขยับ อยู่ที่เดิม
ยังกอดศพกันแน่น พท.ลั่นทำเพื่อชาติอยู่ครบเทอม/พรรคร่วมผีดิบแย่งชามข้าวฝุ่นตลบ
เช็กโผ ครม. "แพทองธาร 2" เปิด 2 ตัวเต็งนั่ง รมว.กลาโหม "บิ๊กเล็ก-พล.อ.สุนัย" อดีตนายทหารรบพิเศษ ด้าน ปชป. "เฉลิมชัย" รมว.ทส.เหมือนเดิม "เดชอิศม์" นั่ง มท.3 "ชัยชนะ" นั่ง รมช.สธ. ขณะที่ "รทสช." ยังอยู่ โควตาเท่าเดิม แต่แย่งชามข้าวกันฝุ่นตลบ เพื่อไทยโวมีในมือ 280 เสียง
ม็อบพรึ่บโคราช ตะเพิด‘นายกฯ’
ม็อบทุกสีไล่รัฐบาลพรึ่บ! โคราชเรียกร้อง "อุ๊งอิ๊ง" ลาออก เลือกนายกฯ ใหม่ เพราะไร้วุฒิภาวะ ขาดความรู้ความสามารถในการเป็นผู้นำสูงสุดของประเทศ สมคบคิด ตอบสนองอริราชศัตรู
ชำระแค้น‘ฮุนเซน’ ‘อิ๊งค์’สั่งเจาะยาง!
ก้นร้อนเร่งเอาคืน "ฮุน เซน" "แพทองธาร" นัดประชุมแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ 23 มิ.ย.นี้ หลังพบฝั่งตะวันตกดีขึ้น
ชง‘รองนายกฯ-กห.’ดึง‘พปชร.’
“อนุทิน” เปิดใจเป็นฝ่ายค้านแล้ว ไม่จัดตั้งรัฐบาลสู้ “ภูมิธรรม” ตีปี๊บพรรคร่วมที่เหลือเสียงปึ้ก “ไผ่” โวมีเสียง 263 บวกๆ
DSIหอบคดีฮั้วตึกสตง.ให้‘ปปช.’ฟัน
"อธิบดีดีเอสไอ" เผยคดีฮั้ว สว.พบเส้นเงินโยงพรรคการเมือง-นักการเมือง 3 ภาค อีสาน เหนือ ใต้