‘พลเดช’นอนคุก ล่าตัว‘บินลิง วู’ เชื่อมโยงไชน่าฯ

ศาลอาญาไม่ให้ประกัน “พลเดช” กก.บริษัท ว.และสหายฯ หนึ่งในก๊วนผู้ต้องหาเอี่ยวตึก สตง.ถล่ม เหตุโทษสูงกลัวหลบหนี ก่อนนำตัวคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ "ทนายความ" แจงทำระบบไฟฟ้าและประปาไม่เกี่ยวกับโครงสร้าง "โฆษกดีเอสไอ" เผยชุดสืบสวนเร่งล่าตัว "บินลิง วู" นายทุนชาวจีนเชื่อมโยง "ไชน่าเรลเวย์" หลังศาลอาญาอนุมัติหมายจับความผิดนอมินี แย้มยังไม่พบข้อมูลเดินทางออกนอกไทย

ที่ สน.บางซื่อ วันที่ 19 พฤษภาคม นายพลเดช เทอดพิทักษ์วานิช กรรมการบริษัท ว.และสหาย คอนซัลแตนส์ จำกัด และนางประณีต แสงอลังการ ในฐานะนิติบุคคลของบริษัท เดินทางเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ในคดีอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่พังถล่ม หลังถูกออกหมายจับในฐานะนิติบุคคลและส่วนตัว ในข้อหาเป็นผู้มีวิชาชีพในการออกแบบ ควบคุม หรือทำการก่อสร้าง ซ่อมแซม หรือรื้อถอนอาคาร หรือสิ่งปลูกสร้างใดๆ ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ หรือวิธีการอันพึงกระทำการนั้นๆ โดยประการที่น่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคลอื่น เป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 227 ต่อเนื่องมาตรา 238

นายพลเดชกล่าวว่า ไม่ได้กังวลว่าจะไม่ได้รับการประกันตัวและต้องเข้าเรือนจำ เพราะถือเป็นกระบวนการตามกฎหมาย วันนี้มามอบตัวเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ และได้นำเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมายืนยันความบริสุทธิ์ พร้อมที่จะต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม ขณะที่นางประณีตกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า เป็นเรื่องปกติในสถานการณ์เช่นนี้

ด้านนายพฤหัส มหาวรรณ ทนายความของบริษัท ว.และสหายฯ ชี้แจงถึงการเดินทางมามอบตัวที่ล่าช้าเล็กน้อย เนื่องจากปัญหาการจราจร พร้อมยืนยันว่าได้เตรียมเอกสารประกอบคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว โดยเน้นย้ำถึงความจำเป็นและพฤติการณ์แห่งคดีที่บริษัท ว.ฯ ซึ่งมีนายพลเดชและนางประณีตเป็นตัวแทน จะรับผิดชอบในส่วนงานระบบไฟฟ้าและประปา ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างหลักที่อาจเป็นสาเหตุให้อาคารถล่มลงมาได้ นอกจากนี้นางประณีตยังดำรงตำแหน่งด้านบัญชี ซึ่งยิ่งไม่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างโดยตรง ทนายความเตรียมนำเสนอข้อเท็จจริงเหล่านี้ต่อศาลเพื่อประกอบการพิจารณาคำร้องขอประกันตัว

เมื่อถูกถามถึงข้อกล่าวหาเรื่องการก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งอาจเป็นการเหมารวมหรือกลั่นแกล้ง นายพฤหัสกล่าวว่า เป็นอำนาจของพนักงานสอบสวนในการทำสำนวน แต่ในฐานะทนายความและผู้ต้องหา เราก็ต้องต่อสู้คดี นำเสนอพยานหลักฐานเพื่อให้ศาลพิจารณาในการยื่นขอประกันตัว และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ต่อไป ยืนยันว่าบริษัท ว.และสหายฯ มีหน้าที่รับผิดชอบงานระบบไฟฟ้าและประปา โดยมีเอกสารยืนยันขอบเขตงาน การเดินทางมาในวันนี้มีจุดประสงค์หลักเพื่อมอบตัวในชั้นพนักงานสอบสวน โดยได้เตรียมหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 1 ล้านบาทเพื่อยื่นขอประกันตัว

ต่อมาภายหลังรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว พนักงานสอบสวนได้นำตัวนายพลเดช เทอดพิทักษ์วานิช ไปขออำนาจศาลฝากขังที่ศาลอาญารัชดาฯ โดยรถตู้ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนนางประณีต แสงอลังการ ได้รับการปล่อยตัวเนื่องจากมาในฐานะนิติบุคคล

ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ คุมตัวนายพลเดช เทอดพิทักษ์วานิช อายุ 56 ปี ซึ่งเป็น 1 ใน 17 ผู้ต้องหาคดีอาคารตึก สตง.ถล่ม มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 9  วัน 

คำร้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า คดีนี้มีกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นผู้กระทำความผิดแบ่งเป็น 3 กลุ่ม โดยนายพลเดช ผู้ต้องหา เป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพันของบริษัท ว.และสหายฯ หนึ่งในกลุ่มกิจการร่วมค้า PKW ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทผู้รับจ้างควบคุมการก่อสร้าง แต่จากการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวนพบว่า ในการออกแบบแปลนอาคารที่เกิดเหตุไม่เป็นไปตามมาตรฐานการดำเนินการก่อสร้าง มีการใช้วัสดุที่ต่ำกว่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ในแบบแปลน ซึ่งการดำเนินการที่ต่ำกว่ามาตรฐานของผู้ดำเนินการก่อสร้างต้องเกิดจากการทำหน้าที่ของผู้ควบคุมงาน ที่ไม่ควบคุมดูแลการก่อสร้างให้เป็นไปตามแบบแปลน และมีการแอบอ้างชื่อวิศวกรที่ไม่ได้มาทำหน้าที่ควบคุมงานจริง ประกอบกับหลายปัจจัยเป็นสาเหตุให้อาคารที่เกิดเหตุถล่มจนมีผู้ถึงแก่ความตาย ผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสและสูญหายจำนวนมาก การกระทำของผู้ต้องหาจึงเป็นการไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์หรือวิธีการอันพึงกระทำการนั้นๆ ในวิชาชีพตน

ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยพนักงานสอบสวนและผู้เสียหายคัดค้านการปล่อยชั่วคราว เนื่องจากพนักงานสอบสวนยังทำการสอบสวนไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบสวนพยานอีก 15 ปาก รอผลการตรวจพิสูจน์ของกลาง รอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือและประวัติต้องโทษของผู้ต้องหา ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงขอออกหมายขังผู้ต้องหาระหว่างสอบสวนกำหนด 9 วัน ตั้งแต่ 19 พ.ค.-27 พ.ค. 68 อีกทั้งเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง เกรงว่าหากให้ผู้ต้องหาประกันตัวไป ผู้ต้องหาอาจจะหลบหนีและยากแก่การติดตามตัวมาดำเนินคดีในภายหลัง

ศาลพิจารณาคำร้องฝากขังแล้ว อนุญาตให้ฝากขังได้

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีมีอัตราโทษสูง ประกอบกับพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกัน กรณีมีเหตุผลอันสมควรจะรอผลการสอบสวนให้เสร็จสิ้นก่อนแล้วค่อยพิจารณามีคำสั่งโดยละเอียดรอบคอบต่อไป ในชั้นนี้จึงไม่อนุญาตปล่อยชั่วคราว ยกคำร้อง

   ต่อมาเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้นำตัวนายพลเดชไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนผู้ต้องหาอีกคนคือ นางประณีต แสงอลังการ ที่เดินทางมามอบตัวในฐานะนิติบุคคล บริษัท ว.และสหายฯ หลังจากเข้าพบพนักงานสอบสวนและรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ตำรวจได้ปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นสอบสวน เนื่องจากมาในนามนิติบุคคล ไม่ได้นำตัวมาฝากขังศาลอาญา

ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีคุ้มครองผู้บริโภค ในฐานะโฆษกดีเอสไอ เปิดเผยว่า คดีพิเศษที่ 32/2568 ความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 หรือคดีนอมินี บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย)  จำกัด ขณะนี้คณะพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างกระบวนการเร่งสรุปสำนวนการสอบสวน พนักงานสอบสวนที่ได้รับมอบหมายจึงกำลังทำร่างรายงานการสอบสวน ซึ่งร่างรายงานการสอบสวนมาจาก 2 ส่วน คือ 1.ส่วนที่ใช้สำหรับการแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งพนักงานสอบสวนเล็งเห็นถึงการกระทำความผิด และ 2.ส่วนสำหรับผู้ต้องหาที่จะชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ดังนั้นหากผู้ต้องหามีการส่งเอกสารชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาเข้ามา พนักงานสอบสวนก็จะต้องนำการชี้แจงข้อกล่าวหาดังกล่าวเข้าประกอบในสำนวนคดีด้วย เพื่อชั่งน้ำหนักประกอบการสั่งคดีตามพยานหลักฐาน จากนั้นจึงจะได้มีการนัดหมายประชุมคณะพนักงานสอบสวนอย่างเป็นทางการ

"คาดว่าอย่างเร็วที่สุดจะอยู่ภายในสัปดาห์นี้ หรือต้นสัปดาห์หน้า เนื่องจากใกล้จะครบกำหนดฝากขังศาลอาญาผัดที่ 1 สำหรับ 4 ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ (3 นอมินีไทย และนายชวนหลิง จาง กรรมการชาวจีนของบริษัท ไชน่า เรลเวย์ฯ) อย่างไรก็ดี ได้รับรายงานล่าสุดว่า ผู้ต้องหายังไม่ได้มีการส่งเอกสารชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาเข้ามา"

พ.ต.ต.วรณันกล่าวว่า ส่วนกรณีผู้ต้องหารายสำคัญ คือ นายบินลิง วู ซึ่งก่อนหน้านี้ศาลอาญา รัชดาภิเษก ได้อนุมัติหมายจับลงวันที่ 15 พ.ค. 2568 ในความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 หรือนอมินี มาตรา 36 (ผู้มีสัญชาติไทยหรือนิติบุคคลที่มิใช่คนต่างด้าวตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ความช่วยเหลือหรือสนับสนุนหรือร่วมประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว อันเป็นธุรกิจที่กำหนดไว้ในบัญชีท้ายพระราชบัญญัตินี้) 

"ขณะนี้ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าวเร่งติดตามจับกุมตัว รวมถึงได้จัดทำหนังสือประสานไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ว่า นายบินลิง วู ถือเป็นบุคคลที่มีหมายจับแล้ว หากมีการเดินทางเข้าออกราชอาณาจักร ให้ทำการจับกุมตัวนำส่งตามหมายจับศาลได้ทันที ทั้งนี้ยังไม่ปรากฏข้อมูลว่า นายบินลิง  วู มีการเดินทางออกนอกประเทศแต่อย่างใด" พ.ต.ต.วรณันกล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘โจรใต้’ก้าวอีกขั้น ใช้โดรนขนระเบิด บึ้มเขตเศรษฐกิจ

โจรใต้ขยับไปอีกขั้น! แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่ตรวจสอบโดรนต้องสงสัยถูกฝังดินในพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา เผยบินได้ไกล 10 กม. บรรทุกน้ำหนัก 15 กิโลกรัม คาดเตรียมก่อเหตุเมืองเศรษฐกิจ-ขนสิ่งผิดกฎหมาย

‘เพื่อไทย’ดาหน้าไล่‘หนู’

เพื่อไทยดาหน้าประกาศแยกทางภูมิใจไทย “สุทิน” ชี้ “อนุทิน” แค่อยากรักษาสถานะตัวเอง ใช้วิธีต่อรอง ขู่ จี้ปรับ ครม.เร็วๆ อ้างทำให้นโยบายรัฐบาลเป็นรูปธรรม “วรชัย”

พท.เพ้อเจ้อหนัก ชั้น14ไม่โยงศาล

เพื่อไทยเพ้อหนัก! "อนุสรณ์" อ้างมติแพทยสภากับคดีชั้น 14 ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นคนละประเด็นกัน ไม่เชื่อมโยงกัน “เด็จพี่”

เขมรไปศาลโลกแล้ว ‘ฮุนเซน’ ชูนิติธรรมควํ่าโต๊ะJBCซัดไทยเหมือนรัสเซียรุกรานยูเครน

เขมรป่วนก่อนประชุม JBC “ฮุน มาเนต” ยันไปเจอกันที่ศาลโลก ยื่นข้อพิพาท 4 พื้นที่ตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาควาย และบริเวณช่องบก-มุมไบ จะไม่คุยใน JBC