มึน ‘อิ๊งค์’ ถามม้าตอบช้าง!

ถามม้าตอบช้าง "อุ๊งอิ๊ง" มึนถูกซักเรื่อง  "ทักษิณ" จะยึดมหาดไทย บอกสมมุติว่าถ้าจะต้องปรับหรืออะไรจริงๆ ก็เป็นส่วนของพรรคเพื่อไทยที่เป็นรัฐมนตรี ก่อนงัวเงียตื่น เป็นเรื่องของพ่อ แต่ตัวเองไม่เคยพูดเรื่องจะเอาเก้าอี้มหาดไทย งงถูกครอบงำอย่างไร เพราะพ่อพูดถึงคนอื่นด้วย ขณะที่ "อนุทิน" พูดไม่ออก ขอลานายกฯ ไปเจนีวา ส่วน "ธรรมนัส" ผวา การเมืองถ้าไม่จบด้วยการเมือง จบด้วยการอื่นเดี๋ยวจะยุ่ง

เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2568 ที่รัฐสภา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ กรณีที่กระแสสังคมจับจ้องประเด็นการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาเปิดเผยว่ากระทรวงมหาดไทยควรอยู่ที่พรรคเพื่อไทยว่า วันนี้ยังเหมือนเดิมไม่มีอะไร และสมมุติว่าถ้าจะต้องปรับหรืออะไรจริงๆ ก็เป็นส่วนของพรรคเพื่อไทยที่เป็นรัฐมนตรี เดี๋ยวอย่างไรก็ต้องคุยเองอยู่แล้ว เห็นว่ามีกระแสออกไปหลายอย่างมาก คิดว่าทำให้รัฐมนตรีทุกคนรู้สึกหวั่นไหว รู้สึกท้อใจ ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น เพราะจริงๆ ก็พยายามสื่อสารในส่วนของพรรคเพื่อไทยอยู่แล้วว่าถ้าจะอย่างไรเดี๋ยวจะคุยเอง

ผู้สื่อข่าวถามว่า ขอให้พูดชัดๆ เรื่องการปรับคณะรัฐมนตรีได้หรือไม่ว่านายกฯ ก็เริ่มขยับแล้ว  น.ส.แพทองธารตอบว่า มันไม่มีอะไรชัดเจน มันก็เลยพูดชัดๆ ไม่ได้ อะไรก็เกิดขึ้นได้ นี่คือสิ่งที่พูด

เมื่อถามว่า ผลงานกระทรวงมหาดไทยไม่ดีจริงหรือไม่ในเวลา 2 ปีที่ผ่านมา นายกฯ ชี้แจงว่า  อันนี้เป็นความเห็นของนายทักษิณ แต่ตนยังไม่ประเมินอะไรแบบนั้น ก็เดี๋ยวรอดู

ถามว่า มองการทำงานของนายอนุทินอย่างไร น.ส.แพทองธารกล่าวว่า จริงๆ แล้วเวลาที่มีอะไรก็ยกหูหากันได้ อย่างนายอนุทินเวลายกหูหาหรืออะไรก็ให้คำตอบและติดต่อกันได้ทุกครั้ง  และมีกระบวนการของกระทรวงมหาดไทยหรือทุกๆ กระทรวงมันก็มีเรื่องที่ทำได้และไม่ได้ทุกกระทรวง แต่ว่าจะอย่างไรในอนาคตก็เดี๋ยวมาตอบกันอีกที

ซักว่าปัจจัยหลักที่พรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นแกนนำรัฐบาลจะดึงกระทรวงมหาดไทยมาดูคืออะไร น.ส.แพทองธารกล่าวว่า "ประเด็นคือดิฉันยังไม่ได้พูด ถ้าตรงนี้จะลงลึกอย่างไรให้ถามนายทักษิณ เพราะดิฉันไม่ได้ให้สัมภาษณ์ ให้สัมภาษณ์วันนี้ก็วันนี้ ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน ถ้าเปลี่ยนเมื่อไหร่จะมารายงานบอก"

เมื่อถามว่า ในอนาคตการสลับกระทรวงมีความเป็นไปได้หรือไม่ นายกฯ ตอบว่า ทุกอย่างเป็นไปได้ อย่างที่พูดทุกเรื่องตอนเลือกตั้งทุกอย่างเป็นไปได้เสมอ พูดคำเดิม ทุกอย่างมันก็เป็นไปได้ และเป็นอะไรที่เราไม่ได้วาดหวังวาดคิดไว้ ก็เป็นอย่างนั้นทุกครั้ง เพราะฉะนั้นครั้งนี้ก็เช่นกัน อะไรก็เกิดขึ้นได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการจับท่าทีของพรรคภูมิใจไทยว่าขัดกับรัฐบาล เช่น เรื่องการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ที่บอกว่าให้ทำแต่อย่าไปทำใกล้เลือกตั้ง น.ส.แพทองธารกล่าวว่า “อ๋อที่ท่านพูดว่าจะให้เป็น 2 หมื่นแทนใช่หรือไม่ ก็ไม่ได้ขัดเสียทีเดียว บอกให้เพิ่มขึ้น แต่จริงๆ งบมันไม่พอ มันต้องทำในส่วนอื่นก่อน”

ถามว่า คำพูดของนายทักษิณทำให้เกิดการบั่นทอนจิตใจในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่  น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ไม่นะคะ เมื่อสักครู่ก็นั่งข้างๆ กัน หลายพรรคไม่มีอะไร ไม่มีใครถามถึงเรื่องนี้เลย ไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้เลย

ซักว่า ได้พูดคุยกับนายทักษิณหรือไม่ว่าทำไมถึงพูดเช่นนี้ นายกฯ เผยว่า คุยค่ะ คุยทุกวัน  ถ้าเมื่อสักครู่ถ่ายภาพตอนตนคุยโทรศัพท์ได้ก็คุยกับคุณพ่อ

เมื่อถามว่า ได้ถามไปหรือไม่ทำไมถึงพูดลักษณะนี้ออกมา ทำให้ตอนนี้ถูกจับตาว่าครอบงำอีกแล้ว น.ส.แพทองธารไม่ตอบคำถามดังกล่าวเพียงแต่พูดว่า  “อืม ค่ะ”

มันครอบงำยังไง

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า จะโดนเรื่องครอบงำอีกหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “มันครอบงำยังไง จริงๆ แล้วคนที่รู้สึกกระทบโดยคำพูดของท่านไม่ใช่แค่ในพรรคเพื่อไทย คนไม่อยู่ในตำแหน่งการเมืองเลยก็รู้สึกกระทบกับคำพูดของท่าน อันนั้นถือว่าท่านครอบงำคนอื่นไหมคะ มันก็แล้วแต่ว่าใครรู้สึกหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องส่วนบุคคล" 

"เราจะให้เขาครอบงำหรือไม่ เราจะรู้สึกอย่างไร ดิฉันคิดว่ามันครอบงำไม่ได้หรอกค่ะ มันไม่ได้ แล้วแต่ว่าเราจะยอมให้เขาครอบงำหรือไม่ ไม่ใช่แค่ท่านทักษิณ แต่หมายถึงใครก็ได้”

เมื่อถามว่า ยืนยันหรือไม่นายทักษิณไม่สามารถเข้ามาครอบงำได้ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า “คุณทักษิณครอบงำไม่ได้อยู่แล้วค่ะ”

ถามย้ำอีกว่า อย่างไรก็จะไม่มี “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ 2” ใช่หรือไม่ นายกฯ บอกว่า "คุณทักษิณให้คำปรึกษา ลูกสาวของคุณทักษิณรับไว้พิจารณา"

ด้านนายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ รองนายกรัฐมนตรี​และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ​ ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เดินทางไปยังรัฐสภาเพื่อโหวตร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 โดยพยายามปฏิเสธไม่ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ระบุว่า​ "ปวดท้อง"

แต่สื่อมวลชนพยายามตามสอบถามถึงกรณีที่นายทักษิณ​เสนอให้ปรับคณะรัฐมนตรี ทวงคืนกระทรวงมหาดไทย​มาให้พรรคเพื่่อไทย​ดูเอง​ เนื่องจากกระทรวงมหาดไทยขณะนี้ทำงานได้ไม่เต็มที่ นายอนุทิน​เดินไปที่ลิฟต์ก่อนจะหันมาตอบว่า​ พรุ่งนี้ไปเรื่องน้ำท่วมที่จังหวัดอ่างทอง​ ที่ผ่านมาก็ทำงานทั้งจับบุหรี่เถื่อน และเรื่องงานอื่น​ๆ ด้วย ไม่เชื่อไปดูข่าวต่างๆ ได้​

เมื่อถามว่า นายทักษิณ​พูดว่าจะยึดกระทรวงมหาดไทย แบบนี้ทำได้หรือไม่ รมว.มหาดไทยตอบว่า "นายกฯ บอกว่าไม่มีอะไร เดี๋ยวให้ลองถามท่านนายกฯ ดู​ เรื่องนี้ยังไม่มีอะไร​ ยังไม่มีการพูดคุยกันเลย ไม่มีอะไร ยังไม่คุยกับท่านนายกฯ เลย และนายกฯ ก็บอกว่าไม่มีอะไร"

ถามว่า ได้มีการพูดคุยกับนายทักษิณหรือไม่  นายอนุทิน​ย้อนกลับว่า​ “ต้องคุยกับท่านนายกฯ สิครับลูกพี่​ (สื่อฯ)​”

เมื่อซักต่อว่า น้อยใจหรือไม่​ เขาหันไปจับหัวตัวเองแล้วย้อนถามว่า "โถ​ ผมหัวล้านหรือเปล่า"

ต่อมานายอนุทินให้สัมภาษณ์อีกครั้งกรณีที่ปรากฏภาพพูดคุยกับ น.ส.แพทองธาร​ บนบัลลังก์ภายในห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า  Have a good weekend (มีวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ดี)

'เสี่ยหนู'ขอลาไปเจนีวา

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ได้พูดคุยเรื่องอะไรกับนายกรัฐมนตรี รมว.มหาดไทยเผยว่า จะลานายกรัฐมนตรีไปกรุงเจนีวา​ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

ซักว่าได้พูดคุยถึงเรื่องของนายทักษิณ​​ ที่จะยึดเก้าอี้กระทรวงมหาดไทยกับนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ไม่ได้คุย

เมื่อถามว่า ประเด็นนี้จะทำให้ถึงขั้นพรรคภูมิใจไทยถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาลหรือไม่ เพราะมากล่าวหาว่าทำงานไม่ดี นายอนุทินไม่ตอบคำถามดังกล่าว แต่ระบุว่า พรุ่งนี้ไปจังหวัดอ่างทอง ไปลงพื้นที่

ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า จะไม่ตอบประเด็นนี้ใช่หรือไม่ นายอนุทินได้เดินขึ้นรถส่วนตัวพร้อมโบกมือให้สื่อฯ​ ก่อนจะบอก Have a good weekend อีกครั้ง และเดินทางกลับออกจากอาคารรัฐสภาทันที

ขณะที่ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง ให้สัมภาษณ์กรณีนายทักษิณบอกว่ากระทรวงการคลังจะเป็น 1 ใน 4 กระทรวงที่เป็นหัวใจหลักสามารถดึงคะแนนนิยมกลับมาทำให้ชนะการเลือกตั้งครั้งหน้าได้ จากนี้ต้องปรับตัวอะไรหรือไม่ ว่ายังไม่ได้ดูการให้สัมภาษณ์ดังกล่าว เพราะนั่งเตรียมแต่งาน ส่วนจะต้องปรับอะไรหรือไม่นั้น ตนปรับตลอดเวลา ตนรู้อยู่แล้วว่าต้องทำอะไรบ้าง

เมื่อถามว่า ระยะเวลาที่เหลือ 2 ปี จะเพียงพอกับการเรียกคะแนนนิยมกลับมาได้หรือไม่ รมว.การคลังตอบว่า พยายามทำอยู่ ที่ผ่านมาก็ทำได้ปีนึงแล้ว

ถามว่า กรณีดิจิทัลเฟส 3 ต้องชะลอไปจะทำให้การหาเสียงยากขึ้นหรือไม่ นายพิชัยชี้แจงว่า  มันมีเหตุผลของมันอยู่ เราสามารถอธิบายได้

ส่วน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม (กธ.) ให้สัมภาษณ์กรณีสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ถึงเวลาปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้วหรือยัง ว่า ไม่ทราบ ไม่ใช่หน้าที่ตน เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องตัดสินใจ เราไม่ควรไปแสดงความคิดเห็นมากในเรื่องนี้

เมื่อถามว่า หลังจากที่นายทักษิณพูดดูเหมือนอยากให้มีการปรับ ครม. ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า “การเมืองมันก็เหมือนเรื่องทั่วๆ ไป เมื่อมันหลวมก็ขันให้มันแน่นหน่อย” เรื่องที่เกี่ยวกับประเทศชาติบ้านเมืองมันไม่ควรจะหลวม ควรจะขันให้แน่นอยู่ตลอดเวลา

"ผมเชื่อว่าท้ายสุดก็จบด้วยการคุยกัน การเมืองต้องคุยกัน การจบด้วยการเมือง อย่างที่ผมเคยย้ำเสมอ การเมืองถ้าไม่จบด้วยการเมือง จบด้วยการอื่นเดี๋ยวจะยุ่ง" ร.อ.ธรรมนัสกล่าว.