
นายกฯ เซ็นคำสั่งแบ่งงานรองนายกฯ-รมต.ประจำสำนักนายกฯ ใหม่ กำกับดูแลแทนนายกฯ หลัง "อนุทิน" ลาออก เพื่อไทยกำกับดูแลมหาดไทยสมใจอยาก ส่ง "ภูมิธรรม" คุม ส่วน "พีระพันธุ์" ไม่ขยับ อยู่ที่เดิม
เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2568 ภายหลังพรรคภูมิใจไทยลาออกจากพรรคร่วมรัฐบาล ทำให้รัฐบาลต้องมีการแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี ที่จะต้องกำกับการบริหารราชการแทนนายกรัฐมนตรีใหม่ โดยล่าสุด คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 184/2568 เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ตามที่ได้มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 313/2567เรื่อง มอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 19 ก.ย.2567
คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 77/2567 เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจ ให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 6 ม.ค.2568 และคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 103/2568 เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 24 มี.ค.2568 นั้น เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย จึงให้แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 313/2567 ลงวันที่ 16 ก.ย.2567 และคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 103/2568 ลงวันที่ 24 มี.ค.2568
1.ให้ยกเลิกส่วนที่ 4 แห่งคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 313/2567 ลงวันที่ 16 ก.ย.2567
2.นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ให้ยกเลิกความในข้อ 1.1.แห่งคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 313/2567ลงวันที่ 16 ก.ย.2567 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน การมอบหมายและมอบอำนาจให้กำกับการบริหารราชการแทนนายกรัฐมนตรี ดังนี้ 1.กระทรวงกลาโหม 2.กระทรวงมหาดไทย 3.กระทรวงยุติธรรม 4.สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา 5.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และ 6.สำนักงานราชบัณฑิตยสภา (รวมทั้งราชการของราชบัณฑิตยสภา)
3.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี ให้ยกเลิกความในข้อ 2.1 แห่งคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 313/2567ลงวันที่ 16 ก.ย.2567 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน การมอบหมายและมอบอำนาจให้กำกับการบริหารราชการแทนนายกรัฐมนตรี ดังนี้ 1.กระทรวงการต่างประเทศ 2.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา 3.กระทรวงคมนาคม 4.กระทรวงแรงงาน 5.กระทรวงวัฒนธรรม และ 6.สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
4.นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี ให้ยกเลิกความในข้อ 2.1 แห่งคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 313/2567ลงวันที่ 16 ก.ย.2567 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน การมอบหมายและมอบอำนาจให้กำกับการบริหารราชการแทนนายกรัฐมนตรี ดังนี้ 1.กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม 2.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม 3.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 4.กระทรวงศึกษาธิการ 5.กระทรวงสาธารณสุข 6.กรมประชาสัมพันธ์ 7.สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค และ 8.สำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง
อย่างไรก็ตาม ให้ยกเลิกความในข้อ 6.3 แห่งคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 313/2567 ลงวันที่ 16 ก.ย.2567 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 103/2568 ลงวันที่ 24 มี.ค.2568
และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน การมอบหมายให้กำกับดูแลองค์การมหาชนและหน่วยงานของรัฐ ดังนี้ 1.สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ 2.สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหารมหาชน) 3.สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ 4.สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) 5.สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม 6.สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิจิทัล (องค์การมหาชน) 7.สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม และ 8.สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 20 มิ.ย.2568
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่น่าสังเกตว่า ในเอกสารดังกล่าวไม่มีการแบ่งงานให้นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน ในฐานะรองนายกฯ ให้กำกับดูแลบริหารราชการแทนนายกฯ ในส่วนกระทรวงใดเลย
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการมอบหมายงานให้กับรองนายกรัฐมนตรีทั้ง 3 ท่านของพรรคเพื่อไทยนั้น เป็นไปตามที่รองนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล ลาออก ส่วนกรณีของนายพีระพันธุ์นั้น ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ยังคงคำสั่งเดิม ตามคำสั่งเดิมที่ได้มีการมอบหมายหน้าที่ดูแลงานไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ไม่จำเป็นต้องประกาศซ้ำ
เขากล่าวว่า ซึ่งหากดูจากคำสั่งฉบับล่าสุดนี้ จะเห็นได้ว่ารองนายกรัฐมนตรีอีกท่านของพรรคเพื่อไทยคือ นายพิชัย ก็ยังคงคำสั่งเดิมไว้ ไม่ได้รับมอบหมายให้ดูแลกระทรวงใดเพิ่มเติม ซึ่งคำสั่งใหม่นี้เป็นเพียงมอบงานจาก 8 ตำแหน่งที่มีการลาออก ซึ่งมีทั้งรัฐมนตรีว่าการและรัฐมนตรีช่วยว่าการ ที่จะต้องมีผู้ควบคุมดูแลบริหารราชการในห้วงที่ไม่มีผู้รับผิดชอบอยู่
“การมอบหมายงานให้กับรองนายกรัฐมนตรีทั้ง 3 ท่านดังกล่าวนี้ ไม่มีนัยสำคัญทางการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งนายพีระพันธุ์ยังคงดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานตามปกติ” นายจิรายุกล่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หยุดยิงเขมรกระอัก ลงนาม16ข้อยึดตรงไหน‘ทหารไทย’ปักหลักตรงนั้น!
ไทย-เขมรเห็นพ้องหยุดยิงทันทีเที่ยงวัน 27 ธ.ค. ยึดปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ เปิดแถลงการณ์ร่วมยาวเหยียด 16 ข้อ เขมรกระอักเลือด พื้นที่ไทยยึดได้ยึดเลย การวางกำลังทหารในปัจจุบันโดยไม่มีการเคลื่อนย้ายเพิ่มเติม
‘เท้ง’กลัวไม่ได้ตั้งรัฐบาล
กกต.เผยรับสมัคร สส.ทั้ง 400 เขตเรียบร้อยดี เตรียมรับสมัคร สส.บัญชีรายชื่อวันอาทิตย์นี้ เตือนประชาชนโพสต์ข้อความผิด กม.เลือกตั้ง เจอคุก 10 ปี
ตามล่าอาชญากร ‘ฮุนเซน-ฮุนมาเนต’
ไม่ปล่อยให้ลอยนวล เดินหน้าเอาผิด 2 พ่อลูกตระกูลฮุน อธิบดีอัยการฯ ลงพื้นที่ประชุม ผบช.ภ.3 สอบเสธ.ทหารเป็นพยานมัด "ฮุน เซน-ฮุน มาเนต"
'พีระพันธุ์' นำ รทสช.สมัคร สส.กทม. 33 เขต ลั่นกวาดยกกรุง
พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ นำทีมผู้สมัคร สส.กทม.ครบ 33 เข
สั่ง‘ตร.’ห้ามลา ดูแลประชาชน เทศกาล‘ปีใหม่’
“บิ๊กต่าย” กำชับ 3 มาตรการ พร้อมดูแลประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569
พท.ซัด‘กกต.’เฉื่อย ประชามติรื้อ‘รธน.’
กกต.เผยแพร่ระเบียบให้ออกเสียงประชามตินอกราชอาณาจักรแล้ว

