แบ่งชามข้าวลงตัว! อิ๊งค์ชูพรรคร่วมซี้ปึ้ก/สะพัด!ภูมิธรรมเข้าวินมท.

นายกฯ เรียกหัวหน้าพรรคร่วมฯ  ถกจัดสรรเก้าอี้ รมต. 8 ตำแหน่ง รับจำเป็นต้องขอ มท.จาก ภท. อ้างต้องเดินหน้าแก้ปัญหาความมั่นคง-เศรษฐกิจปากท้อง ขณะที่ทุกพรรคตอบรับเงื่อนไขได้ส่วนแบ่งชามข้าวเพิ่มกันถ้วนหน้า โยก "ภูมิธรรม" นั่ง รมว.มท. "ปชป." ได้เพิ่ม 1 "ชัยชนะ" นั่ง รมช.สธ. "กธ." ได้ "อนุดิษฐ์" นั่ง รมช.ศธ. ชทพ.เพิ่ม "ประภัตร" นั่ง รมช. ด้าน พท.โต้ข่าวลือนายกฯ ลาออก-ยุบสภา หลังผ่านงบฯ  69 ย้ำเดินหน้าลุยงานต่อเต็มที่ "รทสช." ปัดต่อรองเก้าอี้ รมต.เพิ่ม ยันยึดเก้าอี้เดิม "อิ๊งค์" โล่งอกไม่ต้องลุ้นหยุดปฏิบัติหน้าที่พุธนี้ ทูลเกล้าฯ ถวายโผ ครม.แพทองธาร 1/1 ไม่สะดุด หลังศาล รธน.ไม่มีประชุม

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน ที่โรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ มีความเคลื่อนไหวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร  นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.)  ได้เชิญหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลหารือส่วนตัวเป็นการภายใน ภายหลังจากพรรคภูมิใจไทย (ภท.)  ถอนตัว มีการหารือเรื่องการปรับ ครม. เพื่อแก้ไขปัญหาการทำงานในตำแหน่งที่วางลงโดยเฉพาะรัฐมนตรีถึง 8 ตำแหน่ง

ทั้งนี้ เมื่อเวลา 12.30 น. น.ส.แพทองธารเดินทางถึงโรงแรมโรสวูด จากนั้นบรรดาหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลและเลขาธิการพรรคได้เดินทางมาถึง  ประกอบด้วย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.), นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.), นายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.สาธารณสุข ในฐานะเลขาธิการพรรค ปชป., นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคกล้าธรรม (กธ.), นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.), นายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา,  พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชาติ (ปช.), นายซูการ์โน มะทา  เลขาธิการพรรค ปช. และนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา (ชพน.)

สำหรับพรรคเพื่อไทย นอกจากนายกฯ แล้ว  ยังมีนายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรค, นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี  เข้าร่วมหารือด้วย

มีรายงานว่า ในการพูดคุย น.ส.แพทองธารได้อธิบายถึงความจำเป็นที่ต้องขอตำแหน่ง รมว.มหาดไทยกลับมาจากพรรค ภท. แต่เมื่อ ภท.ไม่รับเงื่อนไข ก็จำเป็นต้องปรับ ครม. โดยได้อธิบายเหตุผลความจำเป็นที่รัฐบาลต้องเดินหน้าต่อเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่ประเทศต้องเจออยู่ในขณะนี้ เช่น ปัญหาความมั่นคง เรื่องเศรษฐกิจปากท้อง ซึ่งทุกพรรคได้ตอบรับที่จะยืนข้างนายกฯ ในการเดินหน้าแก้ปัญหาประเทศ โดยเฉพาะเรื่องความมั่นคง ที่ยืนยันจุดยืนที่จะหลีกเลี่ยงการปะทะ แต่ต้องเตรียมความพร้อมรับทุกสถานการณ์ โดยในที่ประชุมไม่ได้มีการหยิบยกตำแหน่งที่ว่างลง 8 ตำแหน่งขึ้นมาหารือกัน เนื่องจากการวางตำแหน่งของรัฐมนตรีเป็นหน้าที่นายกฯ คงมีการพูดคุยส่วนตัวกับแต่ละพรรคโดยไม่จำเป็นต้องนำมาหาหรือในที่ประชุมร่วมกันในครั้งนี้

เวลา 16.10 น. น.ส.แพทองธารโพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ประเทศชาติต้องเดินไปข้างหน้า  สามัคคีประเทศไทย รวมพลังผลักดันนโยบาย แก้ไขปัญหาเพื่อประชาชน ขอขอบคุณคณะกรรมการบริหารและสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลทุกท่าน ที่มีมติและประกาศแนวทางสนับสนุนรัฐบาลร่วมกันสร้างเสถียรภาพทางการเมือง เพื่อรับมือต่อภัยคุกคามความมั่นคงของชาติจากภายนอก และขับเคลื่อนนโยบายแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน

ในช่วงเวลาที่รัฐบาลกับกองทัพมีจุดยืนร่วมกัน ยืนยันหลักการประชาธิปไตย ปฏิบัติหน้าที่ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ และรวมพลังสามัคคี ความเป็นหนึ่งเดียวของพรรคร่วมรัฐบาล จะเป็นหมุดหมายสำคัญในการผนึกกำลังกันของคนไทย ก้าวผ่านสถานการณ์อ่อนไหวนี้ด้วยความมั่นคง และประสบผลสำเร็จในการปกป้องอธิปไตย ธำรงไว้ซึ่งเกียรติยศศักดิ์ศรีของประเทศชาติและประชาชน

"ดิฉันเชื่อมั่นว่าไม่มีภัยคุกคามใดจะเหนือกว่าพลังสามัคคีของคนไทย รัฐบาลของเราจะทำงานหนักร่วมกันด้วยความมุ่งมั่นทุ่มเทเพื่อประเทศไทยค่ะ" น.ส.แพทองธารระบุ

แบ่งชามข้าวลงตัว

สำหรับบรรยากาศบริเวณด้านหน้าโรงแรมเป็นไปอย่างคึกคัก สื่อมวลชนปักหลักรอทำข่าว  เนื่องจากไม่มีการแจ้งกำหนดการและสถานที่ให้สื่อมวลชนรับทราบ รวมถึงไม่เปิดให้สื่อมวลชนเข้าทำข่าวด้านในด้วย

ส่วนความคืบหน้าโผ ครม.ล่าสุด มีชื่อของ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ลุ้นนั่งเก้าอี้ รมว.กลาโหม โดยมีชื่อของ พล.อ.สุนัย ประภูชะเนย์ อดีต ผบ.หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ อดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก มีโอกาสมานั่งเก้าอี้ รมว.กลาโหม แทนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ รมว.กลาโหม โดยตัวของนายภูมิธรรมจะถูกโยกไปดำรงตำแหน่ง รมว.มหาดไทย

ส่วนนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ รมว.ดีอีเอส จากเดิมที่เป็นตัวเต็ง รมว.มหาดไทย  จะถูกโยกไปดำรงตำแหน่ง รมว.แรงงานแทน ขณะเดียวกันตำแหน่ง รมว.ดีอีเอส มีชื่อของนายจักรพงษ์ แสงมณี อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นตัวเต็งมานั่งเก้าอี้ รมว.ดีอีเอส นอกจากนี้ยังมีชื่อนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช เข้ามานั่งเก้าอี้ รมช.มหาดไทย

พรรคกล้าธรรม จะมีการขยับนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ไปเป็น รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม แล้วให้นายอรรถกร ศิริลัทธยากร มาเป็น รมว.เกษตรและสหกรณ์แทน นอกจากนี้ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ประธานยุทธศาสตร์พรรค ที่เพิ่งย้ายเข้ามาพรรคกล้าธรรม มีชื่อไปเป็น รมช.ศึกษาธิการ

พรรคประชาธิปัตย์ นายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.สาธารณสุข จะโยกไปนั่งเก้าอี้ รมช.มหาดไทย  ส่วนโควตาเพิ่ม 1 ที่นั่ง มีชื่อนายชัยชนะ เดชเดโช มีชื่อตำแหน่ง รมช.สาธารณสุข

 พรรคชาติไทยพัฒนา นายวราวุธยังนั่งที่เดิม คือ รมว.การพัฒนาสังคมฯ แต่ได้เพิ่ม 1 เก้าอี้ รมช. โดยจะเป็นนายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรค ชทพ. นั่งโควตา รมช.

ขณะเดียวกัน มีชื่อนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มาดำรงตำแหน่งรองนายกฯ รมว.พาณิชย์  ส่วนโควตาอื่นของพรรครวมไทยสร้างชาติยังคงเดิม        

ด้านนายเกรียงยศ สุดลาภา สส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรค รทสช. ได้ใช้เฟซบุ๊กส่วนตัว โพสต์ภาพที่ น.ส.แพทองธารถ่ายรูปร่วมกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งมีนายพีระพันธุ์ หัวหน้าพรรค รทสช.อยู่ด้วย ที่โรงแรมโรสวูด ว่า รทสช.ที่ไปประชุมกันวันนี้ เป็นตัวแทนของแค่ 18 คนนะครับ ไม่ใช่ 36!!

ที่พรรคเพื่อไทย น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองโฆษกพรรค แถลงว่า  ช่วงที่ผ่านมามีการเผยแพร่ข่าวว่านายกฯ แพทองธารได้รับ หรืออาจตอบรับข้อเสนอของพรรคการเมืองบางพรรคว่าจะลาออกจากตำแหน่งนายกฯ  หรือประกาศยุบสภา ภายหลังร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ผ่านสภาในวาระที่ 3 แล้วนั้น ยืนยันว่าข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง เป็นความพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงอย่างยิ่ง เพื่อสร้างความสับสนในสังคม บั่นทอนเสถียรภาพของรัฐบาล ที่ผ่านมานายกฯ ได้ยืนยันอย่างชัดเจนว่า จะไม่มีการลาออก จะไม่มีการยุบสภาแต่อย่างใด 

ปัดข่าว รทสช.เปลี่ยนตัวนายกฯ

น.ส.ขัตติยากล่าวว่า เราจะเดินหน้าทำงานต่ออย่างเต็มที่สุดความสามารถ และภายหลังจากการปรับ ครม.แล้ว รัฐบาลจะเดินหน้าสานต่อภารกิจต่างๆ ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างเร็วที่สุด ในเวลา 2 ปีเศษที่เหลือในสภา เรามีภารกิจในด้านนิติบัญญัติกฎหมายสำคัญต่างๆ มากมายรอการพิจารณาของสภาอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการเดินหน้าเร่งเครื่องยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่  การผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งอยู่วาระแรกๆ การผลักดันร่างกฎหมายยกระดับและดึงดูดการลงทุนในด้านการท่องเที่ยว เช่น ร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร กฎหมายชุดรถไฟฟ้า 20 บาท กฎหมายตัวร่วม หวยเกษียณหรือบ้านเพื่อคนไทย สิ่งเหล่านี้รอการผลักดันจากสภา

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวพรรค รทสช. เสนอขอให้เปลี่ยนตัวนายกฯ ไม่เช่นนั้นจะถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลว่า ยุทธศาสตร์และกลยุทธ์ของแต่ละพรรคการเมืองอาจมีแนวทาง วิธีการที่แตกต่างหลากหลาย กว่าจะได้มติพรรคที่เป็นที่ยอมรับร่วมกัน จำเป็นต้องเปิดพื้นที่ให้มีการถกแถลงกันอย่างกว้างขวางเต็มที่ เชื่อว่าในท้ายที่สุดแล้วทุกพรรคการเมืองที่จะมาร่วมรัฐบาล จะสามารถหาข้อสรุปเพื่อให้ได้สิ่งที่เห็นชอบร่วมกันในพรรคได้ เชื่อว่าที่สุดแล้วทุกพรรคจะบรรลุในการแสวงหาแนวทางเพื่อจะทำให้ประเทศชาติเดินหน้า มีการตั้งรัฐมนตรีใหม่เข้าไปทำงานแทนรัฐมนตรีที่พ้นไปได้ในระยะเวลาอันใกล้ และเชื่อว่าจะได้ ครม.ที่มีประสิทธิภาพโดยเร็วที่สุด

นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การปรับ ครม.ครั้งนี้ หลายคนมาบอกว่ารัฐบาลจะเสียงปริ่มน้ำ แต่ก็หลายสิบเสียง และอย่าลืมว่าที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เคยจัดตั้งรัฐบาลมาแล้วด้วยเสียงเกินกึ่งหนึ่งเพียง 3 คะแนน และอยู่กันจนครบเทอม ดังนั้นวันนี้นายกฯ ที่ผ่านอะไรมามาก มีภาวะผู้นำที่แข็งแกร่งขึ้น พร้อมที่จะเดินหน้านำพาประเทศของเราต่อไปด้วยการปรับครม.    

นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี ในฐานะโฆษกพรรค รทสช. ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวพรรค รทสช.ต่อรองขอเก้าอี้รัฐมนตรีเพิ่มว่า  ไม่มีแน่นอน ตนได้พูดคุยกับผู้บริหารพรรค ยืนยันว่า รทสช.ไม่มีการต่อรองเพิ่ม ถ้าสมมุติมีการร่วมรัฐบาลต่อ พรรคก็จะยืนยันตำแหน่งโควตารัฐมนตรี 4 ตําแหน่งตามเดิม ส่วนบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งนั้น กลไกของพรรคได้มอบอำนาจให้นายพีระพันธุ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคเป็นผู้ตัดสินใจ

เมื่อถามว่า มีหลายคนในพรรคออกมาให้ข่าวว่า มติของพรรค รทสช.คือขอให้เปลี่ยนตัวนายกฯ ไม่เช่นนั้นไม่ร่วมรัฐบาล นายอัครเดชกล่าวว่า เรื่องมติพรรคที่ผ่านมามีกระแสข่าวจากหลายที่ มติพรรคที่ถูกต้องจะต้องมาจากนายพีระพันธุ์เพียงผู้เดียว เพราะพรรคได้มีมติให้นายพีระพันธุ์เป็นคนพูดคนเดียว ซึ่งระบุรายละเอียดไว้ชัดเจนว่าใครเป็นผู้แถลง การที่มีแหล่งข่าวจากที่ต่างๆ ให้สัมภาษณ์ ก็อย่าเพิ่งไปเชื่อ ขอให้ฟังจากหัวหน้าพรรคเพียงคนเดียว ส่วนมีการเสนอให้เปลี่ยนตัวนายกฯ เป็นนายพีระพันธุ์นั้นก็ไม่มี

ขณะที่กลุ่ม 18 ยืนยันร่วมรัฐบาลต่อ โดยนายจิรวุฒิ สิงห์โตทอง สส.ชลบุรี พรรค รทสช. โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า “มติพรรคบอกว่าให้นายกฯ ลาออก ถ้านายกฯ ไม่ลาออกจะถอนตัวจากรัฐบาล โกหกหน้าตาย#พีระพัง"

นายบัญญัติ บรรทัดฐาน สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตหัวหน้าพรรค แสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับมติของ กก.บห.พรรค ที่มีมติเสียงข้างมาก 19 ต่อ 7 ให้ร่วมรัฐบาลต่อกับนายกฯ แพทองธาร โดยระบุว่า ในทันทีที่มีการเผยแพร่รายชื่อกรรมการ 7 คนที่ลงมติไม่เห็นด้วย  และไม่มีชื่อของนายชวน หลีกภัย ตนเอง และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ทำให้สมาชิกและแฟนคลับพรรคหลายคนเข้าใจผิดว่า ทั้ง 3 เห็นด้วยกับการอยู่ร่วมรัฐบาล จึงขอชี้แจงให้เข้าใจอย่างถูกต้องว่า ทั้ง 3 คนไม่ได้เข้าร่วมประชุมดังกล่าว  เพราะเป็นการประชุมเฉพาะของ กก.บห.พรรคเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับ สส.หรือสมาชิกคนอื่นๆ 

 “ยังไม่เพี้ยนครับ” นายบัญญัติกล่าว พร้อมย้ำว่า หากจะถามความเห็นของนายชวน ตนเอง และนายจุรินทร์ ก็สามารถตอบได้ทันทีว่า “ไม่เห็นด้วย” และยังเห็นตรงกันกับกรรมการบริหารพรรค 7 คนที่คัดค้าน โดยตนได้พยายามเสนอแนะผ่านผู้เกี่ยวข้องบางคนว่าพรรคควรใช้โอกาสนี้ถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล เพราะอยู่ต่อไปก็ไม่สามารถทำประโยชน์ได้มากนัก ควรถอยออกมาตั้งหลักเพื่อคิดอ่านฟื้นฟูพรรคจะเหมาะสมกว่า

ศาล รธน.ยังไม่ถกถอดถอน

นายปริเยศ อังกูรกิตติ โฆษกพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) กล่าวตอบโต้กรณีที่มีการเผยแพร่ข่าว สส.พรรค ทสท.บางส่วนจะเข้าร่วมรัฐบาล  และมีรายชื่อบางรายจะได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง และไม่ใช่มติของพรรคแต่อย่างใด ขอย้ำว่า ทสท.ยังคงยืนหยัดในจุดยืนทางการเมืองเดิม คือเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้านอย่างชัดเจน ไม่สนับสนุนรัฐบาลที่บริหารประเทศด้วยแนวทางที่สวนทางกับอุดมการณ์ของพรรค หากมีสมาชิกคนใดต้องการเข้าร่วมรัฐบาล หรืออยากรับตำแหน่งรัฐมนตรี  ขอให้แสดงความชัดเจนและลาออกจากพรรคก่อน เพื่อให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ข้อบังคับพรรค และจริยธรรมทางการเมือง ทั้งนี้ พรรคจะดำเนินการตามกฎหมายและข้อบังคับอย่างเคร่งครัดกับผู้ฝ่าฝืน

หลังจากเมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ได้ส่งเอกสารคำร้องถึงศาลรัฐธรรมนูญ ที่เป็นคำร้องของกลุ่มสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ที่นำโดย พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา สว.และประธานคณะกรรมาธิการการทหารและความมั่นคงของรัฐ ที่เข้าชื่อกันขอให้ศาล รธน.วินิฉฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170  วรรค 3 ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นนายกรัฐมนตรีของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ จากกรณีคลิปเสียงสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรีกับฮุน เซน

  มีรายงานจากศาลรัฐธรรมนูญเปิดเผยว่า ในสัปดาห์นี้ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้มีการนัดประชุมประจำสัปดาห์ ทั้งในส่วนของวันพุธและวันพฤหัสบดีแต่อย่างใด เนื่องจากตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและเจ้าหน้าที่ของศาล รธน.บางส่วนมีภารกิจเดินทางไปประเทศกรีซ อีกทั้งสัปดาห์นี้ ศาล รธน.มีการจัดงานใหญ่ในฐานะประธานสมาคมศาลรัฐธรรมนูญและสถาบันเทียบเท่าแห่งเอเชีย (AACC) ที่จะมีตุลาการศาล รธน.สองคนเป็นวิทยากร ในวันอังคารที่ 24 มิ.ย. ที่โรงแรมสยาม เคมปินสกี้ ส่วนสัปดาห์หน้า จะต้องเดินทางไปยัง จ.สมุทรสาคร ช่วงวันที่ 3-4 ก.ค. มีตารางงานหลักสูตรหลักนิติธรรมเพื่อประชาธิปไตย "นธป." ที่วางไว้นานแล้ว

จนถึงขณะนี้ สำนักงานเลขาธิการศาล รธน.ยังไม่ได้มีการกำหนดนัดประชุมตุลาการศาล รธน.ครั้งต่อไปว่าจะประชุมกันวันใด ส่วนคำร้องของ สว.ที่ยื่นถอดถอนนายกฯ แพทองธาร ส่งมาที่สำนักงานศาล รธน.แล้ว จนถึงตอนนี้ยังไม่มีการหารือเรื่องนี้ในศาล รธน. เพราะคงรอให้มีการตรวจสอบเอกสารคำร้องของ สว.ที่ส่งมาก่อน

สำหรับคำร้องดังกล่าว นอกจากขอให้ศาล รธน.วินิจฉัยให้ความเป็นนายกรัฐมนตรีของ น.ส.แพทองธารสิ้นสุดลงเฉพาะตัว ยังขอศาลรัฐธรรมนูญโปรดมีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย จึงต้องดูว่าศาล รธน.จะรับหรือไม่คำร้องไว้วินิจฉัย  และต้องดูว่าหากศาล รธน.รับคำร้องไว้วินิจฉัย จะมีคำสั่งให้นายกฯ หยุดปฏิบัติหน้าที่ไว้ก่อนหรือไม่

โดยก่อนหน้านี้มีรายงานว่า สาเหตุหนึ่งที่ทำให้ฝ่ายเพื่อไทยพยายามเร่งทำโผ ครม."อิ๊งค์ 1/1" ให้เสร็จภายในไม่เกินวันที่ 24 มิ.ย. เพื่อไม่อยากให้เกิดปัญหาข้อกฎหมาย หากเกิดกรณีมีการนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายล่าช้าไปถึงปลายสัปดาห์นี้แล้วถูกศาล รธน.สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่การเป็นนายกฯ ในช่วงวันพุธหรือพฤหัสบดีนี้เสียก่อน.