“อิ๊งค์” ปิดปากเงียบ ส่งยิ้มอย่างเดียว ป.ป.ช.ปัดเร่งรีบสอบคลิปเสียงนายกฯ แจงต้องแปลข้อความให้ชัดเจนทั้งสองภาษา รบ.ผวาปริ่มน้ำ ถอยกรูด "กม.กาสิโน" ดัน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแทน โผกล้าธรรมโยก "นฤมล" รมว.ศธ. "อรรถกร" ผงาดคุมเกษตรฯ "ชทพ." ยกเก้าอี้ให้นครปฐม "อนุชา" จ่อนั่ง รมช.สธ. รัฐบาลรุมโวย ภท. ยื่นซักฟอกเร็วเกิน ให้รอ ครม.ชุดใหม่ก่อน "ประเสริฐ" ขู่เช็กบิลกลับ เจอทุจริตงบ ศธ.-อว. "ปชน." กั๊กร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจ "ลุงป้อม" สั่งลูกพรรคร่วมลงชื่อ
ที่โรงแรมฮิลตัน พัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีและกล่าวเปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน และการฝึกค้นหา และช่วยเหลืออากาศยานประสบภัยในทะเล และการแพทย์ฉุกเฉินในทะเล โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามกรณีพรรคภูมิใจไทยเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 ในวันที่ 3 ก.ค.นี้ แต่นายกฯ ไม่ได้ตอบคำถาม
เมื่อถามถึงกรณีสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา แสดงความคิดเห็นในเฟซบุ๊กว่าประเทศไทยจะเปลี่ยนตัวนายกฯ ในอีก 3 เดือนข้างหน้า โดย น.ส.แพทองธารหันมายิ้มให้ผู้สื่อข่าว ก่อนหันไปพูดคุยกับผู้ที่เดินมาส่งและขึ้นรถเดินทางกลับทันที ไม่ได้ตอบคำถามนี้เช่นกัน
ทางด้านนายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงคดีคลิปเสียง น.ส.แพทองธารกับสมเด็จฮุน เซน ว่าเป็นเรื่องปกติ เมื่อมีการร้องในคดีสำคัญ สำนักงาน ป.ป.ช.ต้องสรุปรายงานให้ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.รับทราบ และเมื่อที่ประชุมรับทราบแล้วจะกำหนดสิ่งที่ต้องดำเนินการเบื้องต้น ระยะเวลา เมื่อเสร็จต้องกลับมาพิจารณาในที่ประชุม จึงไม่ใช่ 10 วัน ส่งศาลตามที่เป็นข่าว ยังอยู่ในขั้นตอนรับมาตรวจสอบ ปกติถ้าอยู่ในอำนาจหน้าที่ก็รับมา เนื่องจากเป็นคดีสำคัญ จึงมีมติต้องมารายงานให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ทราบเป็นระยะ กรณีนี้ร้องฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง หากประเด็นรายละเอียดต้องสอบน้อยจะใช้เวลาไม่นาน แต่ถ้ามีรายละเอียดมาก อาจกำหนด 6 เดือน ต้องมารายงาน
"10 วันที่สื่อลง ไม่ใช่ขั้นตอน เป็นเพียงมอบให้ไปดำเนินการ ยืนยันไม่ได้เร่งรีบเร่งรัดขนาดนั้น หลักๆ ไปดูพยานหลักฐานที่ปรากฏในเบื้องต้น คลิปเสียงต้องตรวจความถูกต้องของข้อความ เพราะมีการพูดสองภาษา ต้องชัดเจน สาระสำคัญอยู่ที่ข้อความ จึงต้องให้ชัด ถ้าข้อความต่างๆ ชัดเจนอยู่แล้วก็อาจไม่จำเป็นต้องเรียกนายกฯ มาให้ข้อมูล ถ้ามีมูลเพียงพอที่จะแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินการ เบื้องต้นคงไม่ต้องเชิญนายกฯ มาชี้แจง" เลขาธิการ ป.ป.ช.ระบุ
ส่วนการสอบจริยธรรมกว้างหรือไม่นั้น นายสาโรจน์กล่าวว่า จริยธรรมกว้างไหม มีหลักชัดเจนอยู่แล้วว่าอันไหนผิดจริยธรรม อันไหนร้ายแรง เรื่องนี้ไม่ใช่คดีแรก และมีหลายคดีที่ศาลวินิจฉัยไว้แล้ว เบื้องต้นให้ไปดู 2-3 ประเด็น ยังไม่ได้นัดวันว่าหลัง 10 วันให้มารายงานวันไหน
เลขาธิการ ป.ป.ช.กล่าวว่า ความชัดเจนของคลิปเสียงเป็นพยานหลักฐานสำคัญ การตรวจสอบทำได้หลายมิติ ถ้าจะให้เป็นพยานหลักฐานในชั้นศาลต้องเชิญผู้เชี่ยวชาญมาแปลข้อความ แต่เบื้องต้นสามารถให้คนไทยผู้มีความรู้ภาษาเขมรแปลได้ ส่วนจะต้องเชิญทหารหรือฝ่ายความมั่นคงมาชี้แจงหรือไม่ เบื้องต้นโฟกัสที่เทปเสียงว่าจะเข้าข่ายฝ่าฝืนจริยธรรมหรือไม่ ต้องพิจารณา ถ้ามีเหตุจำเป็นจึงดำเนินการต่อไป
เมื่อถามว่า การพิจารณาของ ป.ป.ช. ต้องสอดรับไปกับศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายสาโรจน์กล่าวว่า เรื่องคลิปเสียงเข้าใจว่าศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาในส่วนคุณสมบัติ แต่ ป.ป.ช.พิจารณาเรื่องฝ่าฝืนจริยธรรม ซึ่งเป็นเรื่องของพฤติกรรม เป็นคนละส่วนกัน แต่จะทำควบคู่กันไป ตามอำนาจหน้าที่ของแต่ละหน่วยงาน
นายสาโรจน์ยืนยันว่า ไม่ได้หนักใจ เพราะ ป.ป.ช.มีหน้าที่ทำคดีเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ของรัฐอยู่แล้ว รวมถึงผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองครอบคลุมไปหมด เป็นไปตามที่ปรากฏเป็นข่าว มีเรื่องเข้ามาเยอะไปหมด แต่เราต้องตั้งหลักให้ดี ยึดหลักกฎหมาย ไม่ว่าผลจะออกมาซ้ายหรือขวา จะมีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เราจึงต้องอธิบายเหตุผลให้ได้ ส่วนที่จะมีการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 28 มิ.ย.นั้น ไม่ได้รู้สึกกดดัน เพราะ ป.ป.ช.ทำคดีอย่างตรงไปตรงมา
โยก 'นฤมล' คุมศธ.
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหว "ครม.แพทองธาร 2" ว่า สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้ประสานให้ผู้ที่จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีใหม่เร่งส่งประวัติเพื่อเร่งรัดกระบวนการให้เร็วที่สุด ซึ่งแม้นายกฯ จะบอกว่านิ่งแล้ว แต่จากการให้ยื่นกรอกประวัติเกินจำนวน ทำให้หลายคนยังไม่ทราบว่าตัวเองจะได้อยู่ตำแหน่งใด
สำหรับการปรับ ครม. ในสัดส่วนของพรรคกล้าธรรม (กธ.) นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค จะสลับจาก รมว.เกษตรและสหกรณ์ มานั่ง รมว.ศึกษาธิการ, นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา นายทะเบียนพรรค กธ. จะเข้ามารับตำแหน่ง รมว.เกษตรและสหกรณ์ ส่วนนายอิทธิ ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรฯ ซึ่งเป็นบิดานายอรรถกรจะถูกปรับออก ส่วนโควตา 2 รมช. นายอัครา พรหมเผ่า ที่เพิ่งลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยมาอยู่พรรค กธ.เต็มตัว จะอยู่ในตำแหน่ง รมช.เกษตรฯ ตามเดิม ในส่วน น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ประธานยุทธศาสตร์พรรค กธ. ถือเป็นหนึ่งในตัวเต็งที่มีโอกาสนั่ง รมช.ศึกษาธิการ แต่ยังมีชื่อนายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ ลูกชายนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยสร้างไทย มีโอกาสลุ้น รมช.ศึกษาธิการ ในโควตาพรรคไทยสร้างไทย ซึ่งทั้ง น.อ.อนุดิษฐ์และนายฉันทวิชญ์ต่างกรอกประวัติตรวจสอบคุณสมบัติแล้วทั้งคู่
ส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ที่ได้เพิ่ม รมช.อีก 1 ตำแหน่ง เดิมวางตัวนายประภัตร โพธสุธน สส.สุพรรณบุรี ในฐานะเลขาธิการพรรค เข้ามารับตำแหน่งดังกล่าว แต่ล่าสุดพรรคตัดสินใจมอบโควตานี้ให้กลุ่มนครปฐม ที่มี สส. 3 คน และถือเป็นหนึ่งในขุมกำลังหลักของพรรค โดยวางตัวนายอนุชา สะสมทรัพย์ สส.นครปฐม ในฐานะรองหัวหน้าพรรค ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็น รมช.สาธารณสุข
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) และแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่สมเด็จฮุน เซน ระบุว่าอีก 3 เดือนประเทศไทยจะได้นายกฯ ใหม่ว่า ไม่ได้รู้สึกหวั่นไหวกับการโพสต์ของสมเด็จฮุน เซน และเป็นการทำนายไปเรื่อย ปราศจากข้อเท็จจริง คงจะพยายามดิสเครดิตประเทศไทย แต่ยืนยันว่ารัฐบาลไทยอยู่ได้มีความมั่นคง เพราะเสียงสนับสนุนรัฐบาลมีเพียงพอ
นายประเสริฐกล่าวถึงกรณีพรรคภูมิใจไทยเตรียมยื่นญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 3 ก.ค.นี้ว่า สภาเปิดแล้วเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ ซึ่งอยู่ในข้อบังคับและระเบียบตามรัฐธรรมนูญที่ตรวจสอบรัฐบาล แต่รัฐบาลเพิ่งปรับ ครม. ถือว่าเป็นการปรับใหญ่พอสมควร เพราะฉะนั้นต้องปล่อยให้รัฐบาลทำงานไปก่อน ถ้ายื่นญัตติอภิปรายเลยโดยที่ ครม.ชุดใหม่ยังไม่ได้ทำงาน ต้องมองประเด็นเดียวเลยคือประเด็นการเมือง ฉะนั้นการตรวจสอบขอให้ใช้เหตุใช้ผล อย่าใช้อารมณ์หรือใช้การเมืองเข้ามา พรรคภูมิใจไทยจริงๆ ไม่เคยเป็นฝ่ายค้านมาก่อน เพิ่งจะมาเป็นครั้งนี้ครั้งแรก พรรคเพื่อไทยไม่ได้กังวลการทำงานของรัฐมนตรี แต่ละคนยึดหลักกฎหมายยึดหลักความถูกต้องอยู่แล้ว โดยหลักแล้วต้องปล่อยให้รัฐบาลทำงานก่อน
จ่อเช็กบิลภูมิใจไทย
ส่วนที่พรรคภูมิใจไทยระบุในทำนองว่า พรรคเพื่อไทยดูแลกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงสาธารณสุขไม่ได้ดีเท่ากับตอนที่พรรคภูมิใจไทยบริหารนั้น นายประเสริฐกล่าวว่า ไม่จริง เรื่องนี้ขอปฏิเสธ เพราะนายกฯ ได้มอบหมายให้รองนายกฯ และรัฐมนตรีไปกำกับดูแลกระทรวง ตอนนี้เริ่มมีผู้ร้องว่าในสมัยนั้น (สมัยพรรคภูมิใจไทย) มีการกระทำที่ไม่ชอบมาพากลหลายเรื่อง จึงอยากให้รัฐบาลเข้าไปตรวจสอบ เป็นเรื่องการใช้งบประมาณ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญและเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องทำ ซึ่งมีคนยื่นหนังสือให้ตนทันทีที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลกระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยมีเรื่องไม่ชอบมาพากลในเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างเรื่องของระบบคอมพิวเตอร์ เป็นวงเงินที่สูงกว่าปกติ มูลค่าความเสียหายเป็นหมื่นล้าน
เมื่อถามถึงกระทรวงมหาดไทยมีคนมาร้องหรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่า ได้ยินข่าว แต่เป็นเรื่องของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหมเป็นผู้กำกับดูแล
เมื่อถามย้ำว่า จะเข้าไปรื้อเลยหรือไม่นั้น นายประเสริฐกล่าวว่า ขอดูเหตุผลว่าการจะไปรื้อ ถ้าเขาทำถูกต้องแล้วไม่เป็นอะไร แต่ถ้าทำไม่ถูกต้องพร้อมตรวจสอบ
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานคณะกรรมการพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวว่า แม้พรรคภูมิใจไทยจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันที่ 3 ก.ค. แต่กว่าประธานสภาฯ จะรับเรื่องและตรวจสอบรายชื่อส่งให้รัฐบาล ต้องดูความพร้อมของรัฐบาลและต้องให้นายกฯ มาตอบ ซึ่งวันอภิปรายอาจจะเป็นปลายเดือนหรือสัปดาห์ที่ 3-4
"วิป 3 ฝ่ายต้องมาคุยกันว่าผมจะเอาด้วยหรือไม่ วันที่เท่านั้นเท่านี้ ไม่ใช่ว่าภูมิใจไทย คุณจะเอาตามใจคุณ ใจร้อนเนี้ยวัยรุ่น ไปเป็นฝ่ายค้านใหม่ๆ อุ๊ยแรงดีเลยเกิน ใจเย็นๆ มานั่งปรึกษาหารือกัน เราเคยทำงานด้วยกันไม่เป็นไรหรอกก็ว่ากันไป หลักการเมื่อประธานรับแล้ว ไม่ใช่ว่าวันที่ 3 ก.ค. อภิปราย คนก็ตกใจ ที่จริงเมื่อรับวันที่ 3 ก็ส่งให้รัฐบาล รัฐบาลรับมา หากยังไม่พร้อมก็ว่ากันไป ปลายเดือน ก.ค. อันนี้เป็นงานหนักของผม" ประธานวิปรัฐบาลระบุ
นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า จากคนที่บริหารงานร่วมกันมา 2 ปี งงเช่นกันว่าการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจเหมาะกับช่วงเวลานี้หรือไม่ เพราะขณะนี้มีกำลังมีการพิจารณางบประมาณปี 2569 อยู่ ขอโอกาสให้รัฐบาลได้ทำงานก่อนได้หรือไม่ หากจะอภิปรายรัฐบาลนี้จะมีคำถามจากหลายคนว่าขณะที่ท่านบริหารกระทรวงอยู่ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงมหาดไทย กระทรวง อว. และกระทรวงศึกษาธิการ พวกท่านทำอะไรไว้ นี่คือสิ่งหนึ่งที่มองว่ายังไม่มีความเหมาะสมที่จะมายื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ขณะที่ นายธนยศ ทิมสุวรรณ สส.เลย พรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวตอบโต้รัฐบาลที่ระบุว่า ภท.เป็นฝ่ายแค้นมากกว่าฝ่ายค้านว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นหน้าที่ของ สส. ซึ่งเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ เพื่อตรวจสอบการทำงานของคณะรัฐมนตรี โดยไม่จำเป็นต้องมีความแค้นเคือง เพียงแต่หากพบความไม่ชอบมาพากลทำได้แล้ว อย่าเอาคำว่า “ฝ่ายแค้น” มาด้อยค่าบทบาทหน้าที่ในการตรวจสอบ และที่พวกตนรีบยื่น เพราะกลัวจะไม่มีโอกาสได้อภิปรายนายกฯ เกรงว่าจะไปก่อนที่พวกตนจะได้ชักกระบี่ เนื่องจาก น.ส.แพทองธารมีคดีรออยู่ไม่น้อย
พปชร.ร่วมซักฟอก
นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรค ได้สั่งการให้ สส.ทุกคนร่วมลงชื่อกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน เพื่อยื่นขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ เนื่องจากไม่สามารถที่จะไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ในการทำหน้าที่ผู้นำรัฐบาลอีกต่อไปได้ เพราะมีพฤติการณ์ที่จะนำพาให้ประเทศเข้าสู่ความเสี่ยง ส่งผลให้ประเทศไทยอาจเสียเปรียบในการรักษาอธิปไตย ในประเด็นคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุน เซน เพราะสะท้อนให้เห็นว่าเป็นผู้นำที่มีความอ่อนแอ และขาดประสบการณ์การเจรจาระหว่างประเทศ
นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคประชาชน กล่าวว่า ต้องขอบคุณพรรคร่วมฝ่ายค้านน้องใหม่อย่างพรรคภูมิใจไทย ที่ใช้วิธีการเชิญชวนพรรคร่วมฝ่ายค้านอื่นผ่านสื่อมวลชนให้ร่วมยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ ในมุมของพรรคประชาชน วางไว้ 3 หลักการ ดังนี้ 1.ในฐานะแกนนำพรรคฝ่ายค้าน ยืนยันอยู่แล้วว่าจะใช้ทุกกลไกของสภาในการตรวจสอบรัฐบาล และปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน เพื่อแก้ปัญหาให้กับประเทศ ไม่ว่าจะเป็นกลไกของมาตรา 151 การอภิปรายทั่วไป มาตรา 152 หรือการอภิปรายร่วมกันของรัฐสภาตามมาตรา 155 รวมถึงการตั้งกระทู้ถามสด และกลไก กมธ. ดังนั้นจึงขอยืนยันว่ากลไกมาตรา 151 เป็นอาวุธที่มาแน่นอน
2.มาตรา 151 เป็นอาวุธที่ทรงพลัง และเป็นอาวุธที่ต้องใช้อย่างแม่นยำ เนื่องจากเป็นกลไกที่ใช้ได้เพียงหนึ่งครั้งต่อปีสมัยประชุม ดังนั้นจึงเป็นอาวุธที่เราต้องใช้อย่างแม่นยำ หากจะใช้ต้องหวังผล ทั้งเรื่องการลงมติในสภา หรือการนำเสนอความไม่ชอบธรรมต่างๆ ของรัฐบาล ไม่อยากให้การใช้อาวุธนี้เสียของ เพราะจะกลายเป็นว่าเราไม่สามารถใช้อาวุธนี้ได้อีก ในขั้นที่อาจจะมีนายกฯ คนใหม่เข้ามา ด้วยปัจจัยและข้อจำกัดเหล่านี้ จะมีการหารือกันถึงจังหวะเวลาที่เหมาะสมในการยื่น และจะมีการหารือร่วมกับพรรคร่วมฝ่ายค้านเพื่อหาข้อสรุป
และ 3.ในระหว่างที่เราหารือกัน ขอสื่อสารไปถึงนายกฯ ให้ใช้เวลาช่วงนี้ทบทวนการทำหน้าที่ของตนเอง คุณสมบัติที่สำคัญของผู้นำ คือเมื่อไหร่ก็ตามที่เราตัดสินใจผิดพลาดไป เราต้องรู้ตนเองพร้อมจะทำหน้าที่ของตัวเองต่อหรือไม่ พร้อมเป็นหัวเรือในการแก้ปัญหาที่รุมเร้าประเทศเราหรือไม่ หากทบทวนแล้วคิดว่าตนเองไม่สามารถเรียกความไว้วางใจจากประชาชนกลับคืนมาได้ พรรคประชาชนยังยืนยันเหมือนเดิมว่า ทางออกที่ดีที่สุดหากเป็นเช่นนั้น คือการยุบสภา คืนอำนาจให้กับประชาชน แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ได้ข้อสรุปว่าจะมีการยื่นมาตรา 151 ทางเลือกของนายกฯ ในการยุบสภา คืนอำนาจให้กับประชาชน จะไม่มีอีกต่อไป
นายพริษฐ์กล่าวว่า หากในสัปดาห์หน้าพรรคประชาชนได้ความชัดเจน คงไม่รอช้าในการจะหารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้านอื่นเพื่อเดินหน้าเรื่องยื่นอภิปรายฯ และหวังว่าในวันที่ 3 ก.ค. จะมีการเปิดประชุมสภา เพราะมีข่าวแว่วมาว่าอาจจะไม่มีการเรียกประชุม เนื่องจากในตอนนี้ก็ยังไม่มีหนังสือเชิญมา ซึ่งถือว่าผิดวิสัยมาก
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการถ่ายโอนธุรกิจของกองทัพไปอยู่ในความดูแลของหน่วยงานอื่น หรือย้ายไปสถานที่อื่นที่เหมาะสม สภาผู้แทนราษฎร เดินทางมาร่วมประชุม กมธ.ประจำสัปดาห์ ซึ่งผู้สื่อข่าวได้ขอสัมภาษณ์ประเด็นการเมือง แต่นายธนาธรระบุว่า ไม่สะดวก พร้อมยกมือไหว้ขอโทษ และขอให้เป็นไปตามแนวทางที่พรรคประชาชนแถลง
ผู้สื่อข่าวจึงพยายามสอบถามว่า หากพูดในนามพรรค มองภาพใหญ่การเมืองตอนนี้อย่างไร นายธนาธรกล่าวว่า ตนเห็นเหมือนกับประชาชนส่วนใหญ่ว่าการเมืองมีความวุ่นวาย รู้สึกว่าเส้นทางของประเทศในการเดินไปข้างหน้าค่อนข้างตีบตัน ดูแล้วไม่ค่อยมีความหวังเท่าไหร่ อยากเห็นประเทศดีขึ้น ซึ่งประเทศจะดีขึ้นได้การเมืองต้องกลับไปสู่ภาวะปกติให้ได้ โดยเชื่อเหมือนพรรคประชาชนที่ได้นำเสนอมา ว่าการยุบสภาให้ประชาชนตัดสินใหม่ เป็นทางออกที่ดีที่สุดในภาวะฝุ่นตลบเช่นนี้ ต้องกลับไปถามประชาชนอีกรอบหนึ่งว่าจะให้ประเทศเดินหน้าไปในทิศทางไหน
วันเดียวกัน นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่จะมีการเปิดประชุมสมัยสามัญในวันที่ 3 ก.ค.ว่า ต้องดูวาระการประชุมเดิมในวันที่ 3 ก.ค. ซึ่งตรงกับวันพฤหัสบดี เป็นการพิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา กระทู้ถามทั่วไป และกระทู้แยกเฉพาะ และในช่วงบ่ายจะพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ต่างๆ ที่กรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว และในวันที่ 9 ก.ค. จะเป็นการพิจารณากฎหมาย ซึ่งเดิมวาระของสภาพิจารณาเรื่องแรกคือร่างพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ต่อด้วยร่าง พ.ร.บ.สังคมสันติสุข และร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม รวมประมาณ 4 ร่าง
ปริ่มน้ำถอยกาสิโน
นางมนพรกล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลรับฟังเสียงจากประชาชนในเรื่องของความไม่เข้าใจของเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ซึ่งได้มีการสื่อสารตลอดช่วงปิดสมัยประชุมเพื่อให้ประชาชนเข้าใจว่ามีเรื่องกาสิโนเพียงแค่ 10 เปอร์เซ็นต์ นอกนั้นเป็นเรื่องของการจัดศูนย์แสดงสินค้า หรือกิจกรรมต่างๆ เพื่อความแข็งแรงของเศรษฐกิจในประเทศในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ และเราทำความเข้าใจ แต่คงต้องใช้เวลาอีก ส่วนความเห็นของฝั่งรัฐบาลได้สื่อสารไปยังประธานวิปรัฐบาลว่า เห็นควรที่จะเลื่อนร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ออกไปก่อน โดยจะเลื่อนร่าง พ.ร.บ.สังคมสันติสุข และร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เข้ามาเป็นเรื่องแรก
ส่วนกระทรวงคมนาคม จะมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ขนส่งทางราง ร่าง พ.ร.บ.การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม และร่าง พ.ร.บ.การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน โดยพิจารณาเสร็จแล้ว เหลือแต่ร่างกฎหมายรถไฟฟ้า 20 บาท จะเร่งรัดให้ กมธ.วิสามัญพิจารณาให้แล้วเสร็จ ซึ่งน่าจะเป็นสัปดาห์หน้า เพื่อเข้าสู่การพิจารณาให้เป็นกฎหมายแพ็กเกจ นำไปสู่การทำนโยบาย 20 บาทตลอดสาย
เมื่อถามว่า กังวลเรื่องเสียงของ สว.หรือไม่ หลังจากที่พรรคภูมิใจไทยถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาล นางมนพรกล่าวว่า ประเด็นต้องแยกกัน ซึ่งในส่วนของพรรคภูมิใจไทยที่ถอนตัวออกจากรัฐบาล การเสนอ พ.ร.บ.สำคัญๆ ที่เป็นประโยชน์กับประชาชนคงไม่ได้ยึดเพียงแค่พรรคภูมิใจไทย เพราะพรรคฝ่ายค้านทุกพรรคก็เห็นด้วยว่า ถ้านโยบายรัฐบาลทำสำเร็จ ก็จะเกิดประโยชน์ต่อประชาชนที่จะใช้รถไฟราคาถูก และประชาชนฝากความหวังให้ทุกคนเป็นตัวแทน เชื่อมั่นว่ากฎหมายนี้จะไม่มีติดขัด หรือถูกตีกลับมาจากฝั่ง สว. ซึ่งจะไม่เป็นการตอกย้ำว่า สว.ในปัจจุบันเป็นคนของพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง ท่านก็จะใช้เวทีของ สว.นี้แสดงตัวว่า เห็นประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้งไม่ได้มาเป็นผลประโยชน์ของพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง
เมื่อถามว่า จะมีปัญหาอะไรหรือไม่ เพราะขณะนี้เสียงของฝ่ายค้านกับรัฐบาลถือว่าใกล้เคียงกัน นางมนพรกล่าวว่า ทุกคนมีความห่วงใยในเรื่องนี้ ทั้งนี้จากการที่เราได้คุยกับพรรคร่วมรัฐบาล ทุกคนมีความห่วงใยในเรื่องนี้ และเชื่อมั่นว่าหาก สส.รู้จักการทำหน้าที่ของตัวเอง เข้าร่วมประชุมทุกครั้ง เป็นองค์ประชุม ไม่ขาดประชุม ก็เชื่อว่ากฎหมายทุกฉบับที่ได้ความร่วมมือกับทุกพรรครัฐบาลจะผ่านไปด้วยดี
ส่วนกรณีนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านฯ และ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) เรียกร้องให้รัฐบาลถอดถอนร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ออกไปก่อนนั้น นางมนพรกล่าวว่า จริงๆ ไม่ต้องให้ทางฝ่ายค้านแจ้งก็ได้ รัฐบาลมีการทบทวนและฟังเสียงประชาชนอยู่แล้ว อะไรที่ประชาชนมีความคลางแคลงใจ รัฐบาลต้องรับฟังเสียงทุกเสียง จึงให้วิปรัฐบาลทบทวน
เมื่อถามย้ำว่า การทบทวนหมายถึงการทบทวนเรื่องลำดับ แต่ไม่ได้มีการถอนออกใช่หรือไม่ นางมนพรกล่าวว่า ในเมื่อกฎหมายฉบับนี้ถูกบรรจุในระเบียบวาระ เราต้องรับฟังเสียงรอบด้าน และเรื่องนี้เป็นเรื่องของสมาชิกในสภาเช่นกัน ฉะนั้นต้องฟังเสียงของสมาชิกด้วยว่าจะถอนออกหรือไม่ หรือจะเลื่อนไปเมื่อไหร่
นายวิสุทธิ์เปิดเผยว่า วิปรัฐบาลได้ประเมินสถานการณ์และมีการคุยกันว่า กระแสสังคมต้องสิ้นการสงสัยว่าทำเพื่ออะไร แต่ในช่วงที่ผ่านมารัฐบาลยุ่งกับเรื่องกระทรวงมหาดไทย เรื่องกัมพูชา วุ่นวายสารพัด ปรากฏว่าวางไทม์ไลน์ชี้แจงหรือเสวนาตลอดเดือน มิ.ย. กลับไม่มีเวลาทำ จึงเสนอผู้ใหญ่ในพรรคว่าต้องเลื่อนออกไปจนกว่าจะชี้แจงประชาชนให้เข้าใจ และรับฟังปัญหาที่ประชาชนห่วงใย ตรงไหนมีปัญหาต้องปรับไปที่ประชาชนเข้าใจ ดังนั้นต้องเอาเรื่องซอฟต์ๆ ก่อน จนกว่าสถานการณ์รัฐบาลจะดีที่สุด
ทางด้านนายพริษฐ์ โฆษกพรรคประชาชน กล่าวว่า รัฐบาลอ้างว่าชะลอร่างดังกล่าวเพราะต้องการรับฟังเสียงของประชาชนเพิ่มเติม ตนคิดว่าไม่จริง แต่ที่เลื่อนออกไปเพราะเสียงไม่พอ ดังนั้นทางออกต้องไม่ใช่การเลื่อน แต่ควรจะเป็นการถอน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รำลึกพ่อหลวงร.9 ในหลวง-พระราชินีทรงบำ เพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน
ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี
นายกฯยังห่วงหาดใหญ่ ประเดิมพ.ย.เว้น‘ค่าไฟ’
"อนุทิน" รับยังกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่ ขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน นำประชาชนกลับบ้านแล้ว 90% “เท้ง” แซะบอร์ดมีไว้แค่ให้พาดหัว
อนุทินโวทำจริง/ปปง.จ่อฟันอีก
นายกฯ ลั่นรัฐบาลจริงจังปราบสแกมเมอร์ บอกแค่ 2 เดือนยึดอายัดทรัพย์หมื่นล้าน-เปิดชื่อเครือข่าย ถามมีใครกล้าทําหรือไม่ ตอกกลับ "เพื่อไทย" ถ้าทำงานห่วยจะให้ย้ายไปคุม
พสกนิกรทั่วไทย เข้าถวายสักการะ ‘พระพันปีหลวง’
พระราชวงศ์บำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ พสกนิกรทุกสารทิศหลั่งไหลเข้ากราบพระบรมรูปในหลวง ร.9 และสักการะพระบรมศพ
'อิ๊งค์' โพสต์ภาพคู่ 'ทักษิณ' สุขสันต์วันพ่อ อดทนไว้ เราจะได้ไปเที่ยวรอบโลกด้วยกัน
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย โพสต์ภาพถ่ายร่วมกับนายทักษิณ ชินวัตร พร้อมระบุข้อความผ่านอินสตาแกรมว่า
เปิดสภา10ธค. แก้รธน.วาระ2 แนะโหวตต้นมค.
"ปธ.วันนอร์” นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้ รธน.วาระสอง

