ภท.ดันถกเลิกMOU43-44ต่อ

“วันนอร์” อ้างประสานงานผิดพลาด  หลัง “ไชยา” ปิดประชุมก่อนถกญัตติด่วน  MOU43-44 มั่นใจไม่ใช่เกมการเมือง​​ “ภูมิธรรม-ณัฐพล” โยนเป็นเรื่องสภาพิจารณา “ภราดร” ลั่นสัปดาห์หน้าชงใหม่อีกรอบ

เมื่อวันที่ 22 ส.ค.2568 นายวันมูหะมัดนอร์  มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ปิดการประชุมก่อนพิจารณาญัตติด่วน เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชากับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย ว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก (เอ็มโอยู) 2543 และ 2544 ของนายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ว่าได้สอบถามเลขาธิการสภาฯ และรองเลขาธิการสภาฯ ทราบเป็นการประสานงานที่ผิดพลาด โดยเข้าใจว่า เมื่อจบการรับทราบรายงานแล้วจะเป็นเรื่องที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาเสร็จ​แล้ว​ แต่ ​กมธ.ตำรวจยังไม่พร้อมรายงาน ​ก็สามารถเข้าญัตติด่วนได้​ แต่เมื่อวันที่ 21 ส.ค. มีการประสานงานระหว่างฝ่ายค้าน​ ฝ่ายรัฐบาลกับหน้าบัลลังก์ ผู้ทำหน้าที่ประธานอาจเข้าใจผิดกันว่าหมดวาระแล้ว จึงปิดประชุม ซึ่งไม่มีการแจ้งให้ประธานในที่ประชุมทราบล่วงหน้าว่าจะดำเนินการเรื่องอะไร​ ประธานก็อาจจะเข้าใจว่าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว​ ถือเป็นบทเรียน ว่าต้องมีการประสานงานที่ชัดเจนจากวิปฝ่ายรัฐบาลและวิปฝ่ายค้าน

เมื่อถามว่า นายไชยาเป็นผู้ไปรับหนังสือจากผู้ชุมนุมที่หน้าสภาด้วยตัวเอง จะสำคัญผิดในเรื่องนี้ได้อย่างไร นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า การรับหนังสือก็เป็นส่วนหนึ่ง​ ส่วนวาระการประชุมสภาก็เป็นไปตามระเบียบวาระการประชุม และขณะนั้นไม่มีรายงานการศึกษาของ​ กมธ.แล้ว

 “หากช่วงนั้นมีการเสนอญัตติในเรื่องชายแดน หรือ MOU ก็คงพิจารณา แต่จากที่ทราบคือการประสานงานยังไม่มีความชัดเจน ถ้าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความมั่นคงก็ต้องประชุมลับ ฉะนั้นขอให้วิปทั้งสองฝ่ายประสานงานกันอย่างชัดเจน สัปดาห์หน้าวันพฤหัสบดีก็เสนอเข้ามาได้ แต่ถ้าไม่ประสานงานกันก็เสียดาย เพราะเป็นญัตติที่มีประโยชน์" นายวันมูหะมัดนอร์กล่าว

เมื่อถามว่า รองประธานสภาฯ มาจากพรรคเพื่อไทย อาจเป็นข้อครหาหรือไม่ว่าเป็นเกมการเมืองชิงปิดสภาไปก่อนมากกว่าเรื่องความผิดพลาดด้านการประสานงาน นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า ไม่คิดว่าจะเป็นเกมการเมือง​ เพราะนายไชยาเป็นคนมีเหตุมีผล แล้วมีความเห็นอิสระ เคร่งครัดต่อการปฏิบัติหน้าที่​ อาจจะเข้าใจผิดจริงๆ ในฐานะประธานสภาฯ ก็ต้องขออภัย ซึ่งในการประชุมครั้งหน้าต้องแก้ไขในเรื่องนี้ให้ดียิ่งขึ้น

นายภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรค ภท. กล่าวในเรื่องนี้ว่า สัปดาห์หน้าเราจะเดินหน้าผลักดันเรื่องนี้อย่างจริงจัง หลังจากที่ได้ยื่นญัตติด่วนไปแล้ว ก็ถึงเวลาที่ต้องนำเข้าสู่การพิจารณาเพื่อให้เกิดผลในทางปฏิบัติ สิ่งสำคัญคือ อยากให้สภาเปิดพื้นที่ เปิดใจกว้าง รับฟังเสียงของผู้แทนราษฎรที่นำเรื่องสำคัญของชาติบ้านเมืองเข้าสู่การถกเถียง ยิ่งทำได้เร็วก็ยิ่งดี เพราะนี่คือเรื่องของประเทศ ไม่ใช่การเล่นการเมือง

“อย่าเพิ่งเร่งปิดประชุมหรือเลี่ยงประเด็นสำคัญ  แต่ควรแสดงความรับผิดชอบต่อปัญหาความมั่นคงที่กำลังเกิดขึ้น เพราะสิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่คืออนาคตของประเทศไทยทั้งประเทศ”

ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงท่าทีของรัฐบาลต่อข้อเสนอดังกล่าวว่า อย่าเพิ่งไปตัดสินใจอะไรเลย รัฐบาลไม่มีอะไรที่แอบแฝง และอยากทำอะไรที่เป็นปัญหา เป็นเรื่องที่ต้องไปคุย และเฉพาะคนที่มีปัญหามาคุยกันได้ มีเหตุผลอะไร อย่างไร เพราะหากพูดในสาธารณะคนก็รู้หมด อะไรที่เป็นประโยชน์ไม่เป็นประโยชน์แค่ไหนต้องคุยกัน อยากให้มาเจอ มาคุยกันเท่านั้นเอง จะคุยกับตนเองหรือกระทรวงการต่างประเทศ เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่ผลประโยชน์ของนายกฯ หรือของใคร เป็นเรื่องที่เราดูแลผลประโยชน์ของประเทศชาติอยู่แล้ว นี่คือจุดยืนที่มั่นคงที่จะไม่ยอมเสียอธิปไตยหรือความมั่นคงของประเทศชาติไป ดังนั้นเรื่องนี้ที่ถามกันหรือมีปัญหาเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องและยุ่งกับหลายฝ่าย  เกี่ยวข้องกับกฎหมายระหว่างประเทศ และเกี่ยวข้องกับผลที่จะเกิดขึ้น

เมื่อถามว่า แสดงว่าการพูดคุยไม่ควรมีธงให้ยกเลิกเอ็มโอยู 43-44 ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า พูดแล้วดีแล้ว และเราก็ตระหนักแล้ว ถ้าอยากรู้รายละเอียดลึกๆ ให้มาถาม แต่อย่าถามหน้าสื่อ ไปคุยกับคนหรือองค์กรที่เกี่ยวข้อง

ถามย้ำว่า จุดยืนของรัฐบาลต่อเอ็มโอยู 43-44 เป็นอย่างไร นายภูมิธรรมกล่าวว่า เราไปถามตามหลักการของเราที่คิดว่าได้ประโยชน์สูงสุด และเรื่องนี้เป็นเรื่องของสภา อย่าเอาเรื่องของสภามาถาม ตอบแทนไม่ได้

เมื่อถามว่า สภาชิงปิดประชุมก่อนถึงการพิจารณาเรื่องดังกล่าว นายภูมิธรรมกล่าวว่า นายไชยาชี้แจงไปแล้วว่าไม่มีวาระ และว่ากันตามวาระ สภา อยู่ๆ ไม่ใช่รองประธานสภาฯ จะใส่วาระที่ไม่มีวาระเข้าไปได้ ก็ว่าไปตามกฎเกณฑ์ ไม่มีอะไรแปลก อย่าไปสงสัยอะไรมาก

พล.อ.ณัฐพล​ นาค​พาณิชย์​ รมช.กลาโหม  รักษาราชการแทน รมว.กลาโหม กล่าวว่า เป็นเรื่องของรัฐบาล เนื่องจากมีรายละเอียดจำนวนมาก ​ ประโยชน์ก็เยอะ แต่ข้อเสียก็มีบ้าง​ ขึ้นอยู่กับรัฐบาลที่ต้องพูดคุยกัน ซึ่งเรื่องนี้ก็ต้องแล้วแต่รัฐสภาด้วย​  เรื่องจากเราทำงานเป็นระบบ​ ไม่ใช่จะเห็นต่างจากฝ่ายค้านไปเสียทั้งหมด หากสภาเห็นชอบเราก็พร้อมทำตามกรอบของสภา.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หนูคาดเบลต์กั๊กยุบสภา12ธ.ค.

"อนุทิน" ส่งสัญญาณ 12 ธ.ค. คาดเข็มขัดนิรภัย ปัดญาติดีเพื่อไทยหลีกทางยื่นซักฟอก บอกทำงานทุกวันไม่ได้คุย ขีดเส้นอยู่ไม่เกิน 31 ม.ค.