รฟท.จี้DSIฟันเขากระโดง กกต.ส่อยุติปมแม้วชี้นำ

"รฟท." ส่งฝ่ายกฎหมายร้องดีเอสไอ เอาผิดกลุ่มบุคคล-จนท.รัฐถือครองที่ดินเขากระโดง  กกต.ส่อยุติเรื่องปมร้องสอบยุบ 6 พรรคกินมาม่าบ้านจันทร์ส่องหล้า ยอม "ทักษิณ" ชี้นำครอบงำตั้งรัฐบาลแพทองธาร เหตุไร้พยานหลักฐานเอาผิด

จากกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ มอบหมายให้ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผอ.กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งเเวดล้อม   ดำเนินการสืบสวนเรื่องข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการครอบครองและการออกเอกสารสิทธิในที่ดินบริเวณเขากระโดง จังหวัดบุรีรัมย์ อันอาจเป็นที่ดินของรัฐและเกี่ยวข้องกับกลุ่มคณะบุคคลหลายฝ่าย เป็นเรื่องสืบสวนที่ 97/2568 พร้อมให้ดำเนินการสอบสวนปากคำพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง รวบรวมและตรวจสอบพยานหลักฐาน ประสานเอกสารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมที่ดิน สำนักงานที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ การรถไฟแห่งประเทศไทย  แขวงการทางรถไฟลำปลายมาศ สำนักงานธนารักษ์พื้นที่บุรีรัมย์ และศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดบุรีรัมย์ ตามที่มีการรายงานข่าวไปแล้วนั้น

เมื่อวันที่ 3 กันยายน ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า  ในวันพฤหัสบดีที่ 4 ก.ย.นี้ เวลา 14.00 น. การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายเป็นผู้รับมอบอำนาจดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ  เพื่อขอให้ดำเนินการสอบสวนตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งมอบเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแจ้งความประสงค์ดำเนินคดีอาญากับกลุ่มบุคคลที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทย และเจ้าหน้าที่รัฐอื่นในการเข้ายึดถือครอบครองที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย บริเวณพื้นที่เขากระโดง ต.เสม็ด และ ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์

ขณะที่แหล่งข่าวจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ระบุว่า ภายหลังได้รับการประสานจาก  รฟท.เรียบร้อยแล้วนั้น ในส่วนของกองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นคณะพนักงานสืบสวนเรื่องที่ 97/2568 ดำเนินการสืบสวนเรื่องข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการครอบครองและการออกเอกสารสิทธิในที่ดินบริเวณเขากระโดง จังหวัดบุรีรัมย์ อันอาจเป็นที่ดินของรัฐและเกี่ยวข้องกับกลุ่มคณะบุคคลหลายฝ่าย จะมี พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผอ.กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นตัวแทนรับเรื่องด้วยตัวเองในวันที่ 4 ก.ย. และเมื่อรับเรื่องแล้ว จะเข้าสู่ขั้นตอนการสอบปากคำผู้ร้องทุกข์ และนำเอกสารเข้าที่ประชุมคณะพนักงานสืบสวนเพื่อพิจารณาพยานหลักฐานต่างๆ ว่าเข้าข่ายเป็นคดีพิเศษหรือไม่ หากกรณีเข้าข่ายเป็นคดีพิเศษ จะได้เสนอตามลำดับชั้นรับเป็นคดีพิเศษ เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มผู้กระทำผิดต่อไป

ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)  มีรายงานว่า จากกรณี กกต.ดำเนินการตรวจสอบตามคำร้องที่ขอให้มีการยุบ 6 พรรคการเมือง เนื่องจากยอมให้นายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นบุคคลที่ไม่ใช่สมาชิกพรรค ชี้นำ ครอบงำ การจัดตั้งรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร โดยผู้ร้องอ้างเหตุที่แกนนำพรรคการเมืองเดินทางไปร่วมรับประทานอาหารและมาม่า กับนายทักษิณที่บ้านจันทร์ส่องหล้า หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้นายเศรษฐา ทวีสิน สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี  และล่าสุดสำนวนการสอบสวนดังกล่าวอยู่ในชั้นการพิจารณาของนายทะเบียนพรรคการเมืองที่จะต้องมีความเห็นว่า คดีมีมูลที่จะเสนอเรื่องต่อที่ประชุม กกต. เพื่อให้พิจารณาส่งศาลรัฐธรรมนูญยุบ 6 พรรค ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง 2561 มาตรา 28 มาตรา 29 ประกอบมาตรา 92 (3) หรือไม่ หรือคดีไม่มีมูลจึงสั่งยุติเรื่อง และแจ้ง กกต.ทราบนั้น

ในชั้นการสอบสวนของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและคณะที่ปรึกษานายทะเบียนพรรคการเมือง มีความเห็นตรงกันเสนอว่า นายทะเบียนพรรคการเมืองควรสั่งยุติเรื่อง เนื่องจากในการสอบสอบไม่มีพยานหลักฐานหรือพยานบุคคลให้ถ้อยคำยืนยันว่าการร่วมรับประทานอาหารดังกล่าวนายทักษิณได้มีการสั่งการ เสนอหรือควบคุมการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ขณะเดียวกันพรรคการเมืองและแกนนำพรรคการเมืองที่เดินทางไปร่วมก็ยืนยันว่าเป็นการไปพบปะพูดคุย รับประทานอาหารและพูดคุยถึงสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนั้น การร่วมจัดตั้งรัฐบาล หรือการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรี ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกพรรคมอบหมายให้หัวหน้าพรรคเป็นผู้พิจารณาดำเนินการ ดังนั้นคาดว่านายทะเบียนพรรคการเมืองจะมีความเห็นยืนตามที่มีการเสนอ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หนูคาดเบลต์กั๊กยุบสภา12ธ.ค.

"อนุทิน" ส่งสัญญาณ 12 ธ.ค. คาดเข็มขัดนิรภัย ปัดญาติดีเพื่อไทยหลีกทางยื่นซักฟอก บอกทำงานทุกวันไม่ได้คุย ขีดเส้นอยู่ไม่เกิน 31 ม.ค.