โผครม.หนู1รมว.กห.ยังไม่นิ่ง

โผอนุทิน 1 ยังไม่นิ่ง เก้าอี้ “รมว.กลาโหม” ยังไม่ชัดเอาใคร อนุทินโพสต์ภาพ “บวรศักดิ์” ตอบรับรองนายกฯ แล้ว รัฐบาล 4 เดือนโควตาคนนอกคึกคัก 6 กระทรวง 6 คน “ศุภจี” จากดุสิตธานีมานั่ง รมว.พาณิชย์ “บิ๊กป้อม” ประกาศไม่รับตำแหน่ง พร้อมอยู่เบื้องหลังช่วยเหลือ “กล้าธรรม” ผวาชื่อถูกตีกลับส่ง “อามินทร์-นเรศ” นั่งแทน “เท้ง” ยังกั๊กแนวคิด พท.แถลงนโยบายปุ๊บไม่ไว้วางใจปั๊บ เหน็บต้องการตรวจสอบหรือล้างแค้น “บิ๊กอ้วน” จ่อนั่งหัวโต๊ะประชุม ครม.นัดสุดท้ายอำลาเก้าอี้

เมื่อวันจันทร์ที่ 8 กันยายน 2568 ยังคงมีความเคลื่อนไหวต่อเนื่องในการจัดโผคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี (อนุทิน 1) อย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 11.35 น. นายภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ซึ่งเป็นหนึ่งในบุคคลที่มีชื่อติดโผรัฐมนตรีเดินทางเข้าที่ทำการพรรค ภท.พร้อมซองเอกสารสีน้ำตาล และเมื่อผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ใช่ซองใส่ประวัติที่เตรียมมายื่นให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี  (สลค.) ตรวจสอบหรือไม่ นายภราดรระบุว่าไม่ใช่

เมื่อถามย้ำว่า มีการทาบทามให้นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแล้วหรือไม่ นายภราดรระบุว่า ยังไม่ทราบต้องแล้วแต่กรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) และยังไม่ได้มีการส่งประวัติไปยัง สลค.

ต่อมานายพิพัฒน์ รัชกิจประการ อดีต รมว.แรงงาน ได้เดินทางมาที่ทำการพรรค ภท.พร้อมซองเอกสารเช่นเดียวกัน ซึ่งเมื่อถามว่าเป็นเอกสารกรอกประวัติการเป็นรัฐมนตรีใช่หรือไม่ นายพิพัฒน์ยอมรับว่าก็น่าจะเป็นอย่างนั้น ส่วนจะนั่งในตำแหน่ง รมว.คมนาคมหรือไม่นั้น ให้นายอนุทินเป็นผู้แถลงข่าวดีกว่า

ส่วน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวต่อรองและแย่งชิงตำแหน่ง รมว.กลาโหมว่า ตั้งใจสนับสนุนให้รัฐบาลและนายกฯ ได้ทำงานเพื่อแก้ปัญหาบ้านเมืองได้เต็มที่ภายในเวลา 4 เดือนก่อนยุบสภา โดยไม่ต้องกังวลกับการต่อรองหรือเรียกร้องใดๆ พร้อมทั้งขอประกาศเจตนารมณ์ว่าจะไม่ขอรับตำแหน่งใดๆ ในรัฐบาล รวมถึงตำแหน่ง รมว.กลาโหมตามที่เป็นข่าว ไม่ต้องกังวลเรื่องการต่อรองใดๆ ขอให้เอาประเทศชาติและประชาชนเป็นที่ตั้ง

“ผมยินดีสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง และพร้อมใช้ความรู้ ประสบการณ์และเครือข่ายระหว่างประเทศด้านความมั่นคงของผมที่มี ถ้าสามารถเป็นประโยชน์ได้ไม่ว่าในด้านใดก็ตาม และต้องการที่จะเห็นประเทศชาติของเราเดินหน้าสู่การแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังโดยเร็ว” พล.อ.ประวิตรกล่าว

ต่อมาที่พรรค พปชร.มีการประชุม กก.บห.พรรคเพื่อส่งรายชื่อรัฐมนตรีในโควตา 4 เก้าอี้ 2 รมว. 2 รมช. โดย พล.อ.ประวิตรไม่ได้ร่วมประชุม แต่มอบหมายให้นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรค เป็นประธานการประชุมแทน

ภายหลังประชุม 30 นาที นายสันติให้สัมภาษณ์ว่า  นายอนุทินได้จัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีให้แก่พรรค 4 ตำแหน่ง คือ 2 รมว.กับ 2 รมช. โดย 2 รมว.ที่ได้รับแจ้งมาคือ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และกระทรวงแรงงาน (รง.)  ส่วน รมช.อีก 2 ตำแหน่ง ที่ประชุมคณะ กก.บห.พรรคมีมติมอบให้ พล.อ.ประวิตรตัดสินใจว่าจะมอบให้บุคลากรของพรรคที่เป็น สส.หรือผู้ที่มีความเหมาะสมเข้าไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในนามพรรค

 ผู้สื่อข่าวถามว่า 2 รมว.เคาะแล้วใช่หรือไม่ นายสันติ ย้ำว่า ที่ประชุมมอบให้หัวหน้าพรรคเป็นผู้ดูว่าใครเหมาะสมและให้ดำเนินการตามนั้น ส่วนจะควบรองนายกฯ หรือไม่ เป็นรายละเอียดปลีกย่อย แล้วต้องส่งรายชื่อในวันนี้หรือไม่  หัวหน้าพรรคกำลังเร่งพิจารณาเพื่อให้อนุมัติรายชื่อผู้ที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี

 เมื่อถามว่า กระทรวงกลาโหม (กห.) ยังเป็นโควตาของพรรค พปชร.หรือไม่ นายสันติกล่าวว่า ไม่อยากพูดถึง เพราะเป็นกระทรวงความมั่นคง ที่ขณะนี้บ้านเมืองกำลังต้องการศักยภาพสูงสุด เพราะฉะนั้นรัฐบาลคงจะพิจารณา ถามย้ำว่าเป็นโควตาของพรรค ภท.หรือไม่ว่าจะส่งใคร นายสันติย้ำว่า ไม่รู้ๆๆ

ส่วนความเคลื่อนไหวของรายชื่อรัฐมนตรีจากกลุ่มการเมืองนั้น พบว่านายธนกร วังบุญคงชนะ ได้ยื่นหนังสือลาออกจาก สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)  ต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แล้ว เช่นเดียวกับ นายสุชาติ ชมกลิ่น ที่ยื่นหนังสือลาออกจาก สส.บัญชีรายชื่อด้วย ส่งผลให้ น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ กับนายโรจน์พิศาล อินทรักษ์ เลื่อนขึ้นมาเป็น สส.ลำดับถัดไปแทน

รายงานข่าวแจ้งถึงเหตุผลการลาออกจากตำแหน่ง สส.บัญชีรายชื่อ พรรค รทสช.ของนายสุชาติและนายธนกรนั้น เนื่องมาจากถูกคาดหมายว่าจะมีตำแหน่งรัฐมนตรีใน ครม.ชุดใหม่ จึงต้องป้องกันการถูกยื่นคำร้องให้มีการตรวจสอบพฤติกรรม ว่าเข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมหรือไม่ หากยังอยู่พรรค รทสช.

ขณะเดียวกัน นายหิมาลัย ผิวพรรณ ผู้อำนวยการพรรค รทสช. ได้โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงการลาออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการพรรค เพื่อเข้าร่วมงานการเมืองกับพรรคกล้าธรรม (กธ.) ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ตามสัญญาที่เคยให้ไว้กับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรค กธ. เพื่อนเตรียมทหารรุ่น 25 โดยได้แจ้งให้นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรคทราบตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2568 แล้ว

'บวรศักดิ์' นั่งรองนายกฯ

ขณะเดียวกัน นายอนุทินได้โพสต์เฟซบุ๊กเป็นภาพขณะร่วมวงดื่มกาแฟกับนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ที่มีกระแสข่าวก่อนหน้านี้ว่าจะมาดำรงตำแหน่งรองนายกฯ เพื่อดูแลงานด้านกฎหมาย พร้อมข้อความระบุว่า "ขอบพระคุณอาจารย์บวรศักดิ์ที่กรุณาตอบรับมาร่วมคณะรัฐมนตรีของผมครับ"

สำหรับโผ ครม.อนุทิน 1 นั้น นอกจากนายบวรศักดิ์ยังมีรัฐมนตรีคนนอกถึง 6 กระทรวง 7 คน คือ กระทรวงการคลัง (กค.), กระทรวงพาณิชย์ (พณ.), กระทรวงพลังงาน (พน.), กระทรวงการต่างประเทศ (กต.), กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) และกระทรวงกลาโหม (กห.) โดยนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ เป็น รมว.การคลัง, นายวรภัค ธันยาวงษ์ เป็น รมช.การคลัง, นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT มาเป็น รมว.พาณิชย์, นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ เป็น รมว.พลังงาน, นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว เป็น รมว.กต. และ พล.ต.ท.ชาญชัย พงษ์พิชิตกุล รองผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค 3 เป็น รมว.ยธ. โดยโควตารัฐมนตรีคนนอกที่ยังไม่สะเด็ดน้ำคือ กห. ที่มีชื่อของ พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม และ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์

สำหรับรัฐมนตรีในสัดส่วนพรรค ภท.ยังเป็นชื่อเก่าทั้งหมด โดยเพิ่มใหม่ 2 คน คือ นายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ เลขาธิการพรรค และนายภราดร แต่ยังไม่ระบุว่าจะได้นั่งกระทรวงใด ขณะที่พรรค กธ.ยืนยันรายชื่อคือ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯ ควบ รมว.เกษตรและสหกรณ์,  นายอรรถกร ศิริลัทธยากร นั่ง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา,  นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ นั่ง รมว.ศึกษาธิการ, นายอัครา พรหมเผ่า นั่ง รมว.การพัฒนาสังคมฯ และนายองอาจ วงษ์ประยูร สส.สระบุรี นั่ง รมช.ศธ. โดยปรับเปลี่ยน 2 รมช. คือ จากเดิมมีชื่อนายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส นั่ง รมช.กษ. เปลี่ยนมาเป็นน้องชายคือ นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส เนื่องจากติดเงื่อนไขคุณสมบัติ เช่นเดียวกับนายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ สส.เชียงใหม่ จะมานั่ง รมช.กษ.แทนนายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร เลขาธิการพรรค เนื่องจากติดเงื่อนไขทางรัฐธรรมนูญ

ส่วนพรรค พปชร.นั้น นายสันติจะนั่งรองนายกฯ ควบ รมว.สาธารณสุข และนางตรีนุช เทียนทอง นั่ง รมว.แรงงาน  นายวรโชติ สุคนธ์ขจร สส.เพชรบูรณ์ นั่ง รมช.สธ. และ พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ นั่ง รมช.กห. ด้านพรรค รทสช.ได้ 3 เก้าอี้ นายสุชาติ รองนายกฯ ควบ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ นายธนกรนั่ง รมว.อุตสาหกรรม และ จ.อ.ยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ นั่ง รมช.อุตสาหกรรม นอกจากนี้ยังมีนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ สส.เพื่อไทย ที่เข้ามายื่นเอกสารตรวจสอบประวัติด้วย แต่ยังไม่มีการระบุกระทรวง ส่วน น.ส.นิธิยา  บุญญามณี บุตรสาวนายนิพนธ์ บุญญามณี มีชื่อนั่งในตำแหน่ง รมช.พณ.

  ขณะเดียวกัน วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ให้กลุ่มพรรคการเมืองส่งรายชื่อตรวจสอบประวัติและคุณสมบัติ ว่ามีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ โดยสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะใช้เวลา 7-10 วันในการตรวจสอบ

'เท้ง' ปัดสั่งส่วนตัว

วันเดียวกัน ในเวลา 11.30 น. ที่ทำการพรรค ภท. เจ้าหน้าที่นำส่งช่อดอกไม้แสดงความยินดีของนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน  (ปชน.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เนื่องในโอกาสที่นายอนุทินรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายกฯ คนที่ 32 โดยแจกันจัดมาในโทนสีขาว-น้ำเงิน ประกอบด้วยดอกกุหลาบสีขาว ดอกคาร์เนชันสีขาว  แซมด้วยดอกไฮเดรนเยียสีฟ้าแกมน้ำเงิน ผูกริบบิ้นสีน้ำเงิน 3 ชิ้น ในแจกันกระจกใสลายไดมอนคัต พร้อมแนบนามบัตรส่วนตัว

นายณัฐพงษ์กล่าวเรื่องนี้ว่า เป็นระเบียบปฏิบัติปกติของเจ้าหน้าที่สภา ไม่ได้เป็นคนสั่งการ แต่ส่งไปตามระเบียบที่เขาทำส่ง เหมือนกับตอนแสดงความยินดีประธานหรือรองประธานสภาได้รับการแต่งตั้ง คิดว่าไม่ได้ติดขัดอะไร

เมื่อถามถึงโผ ครม.มีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการจนกว่าจะมีการถวายสัตย์ฯ รวมถึงการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา พรรค ปชน.ทำหน้าที่ฝ่ายค้าน โผ ครม.อยู่ที่นายอนุทินคนเดียวไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้ เพราะหากไปยุ่งเกี่ยวเส้นแบ่งการทำหน้าที่ฝ่ายค้านกับรัฐบาลก็ไม่ถูกต้อง ชื่อหรือโผ ครม.ที่ออกมาอาจยังไม่นิ่ง แต่ยืนยันตั้งแต่วันนี้ว่าการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาของนายกฯ ที่ชื่ออนุทิน พรรค ปชน.ยังทำอย่างเต็มที่ ไม่ออมมือแน่นอน

ถามต่อว่า มีอะไรอยากฝากนายอนุทินหรือไม่ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า อยากให้นายอนุทินดำเนินการทุกอย่างเป็นไปตามสัญญาที่เซ็นไว้ใน MOA เพราะทุกย่างก้าวของรัฐบาลต่อจากนี้ ประชาชนรวมถึงพรรค ปชน.ในฐานะฝ่ายค้านจับตาดูอยู่ หากทำอะไรที่ไม่ถูกไม่ควร มีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม หรือใช้อำนาจบริหารในทางไม่ชอบ เราคงไม่สามารถรอมชอมได้ จะเดินหน้าตรวจสอบและใช้กระบวนการในสภาอย่างเต็มที่

ถามถึงกรณีพรรคเพื่อไทย (พท.) ระบุว่า หากรัฐบาลยื่นแถลงนโยบายต่อรัฐสภาจะยื่นอภิปรายทันที พรรค ปชน.จะร่วมอภิปรายด้วยหรือไม่ นายณัฐพงษ์ตอบว่า กว่าจะถึงการแถลงนโยบายอาจใช้เวลาเกือบหนึ่งเดือน ไทม์ไลน์อยู่ที่ประมาณปลายเดือน ก.ย.ถึงต้นเดือน ต.ค. จึงยังเร็วไปที่จะบอกว่าเมื่อมีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจออกมา แล้วพรรคจะดำเนินการไปทางใด แต่หากมีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจเข้ามาเมื่อไหร่ เราพร้อมทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ไม่มีออมมือแน่นอนในฐานะฝ่ายค้าน  แต่ขณะเดียวกันต้องถามกลับไปยังพรรค พท.ที่มีจำนวน สส.เพียงพอในการยื่นไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 ว่าจะใช้กลไกที่สำคัญที่พรรคฝ่ายค้านเสียงข้างมากใช้เป็นกลไกในการควบคุมรัฐบาลเสียงข้างน้อยให้เดินไปตาม MOA เป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ใด เป็นการตรวจสอบจริงๆ หรือเป็นการล้างแค้นกันทางการเมือง สิ่งที่ประชาชนต้องการตอนนี้คือการเดินหน้าทำงานในสภา ที่ฝ่ายค้านมีความเข้มแข็ง เพื่อยุบสภาภายใน 4 เดือน และแก้รัฐธรรมนูญ

 “สิ่งที่ทุกพรรคควรจะมีสมาธิอย่างเต็มที่ในช่วงกรอบเวลา 4 เดือน คือการใช้เสียงของ สส.ของตัวเองในสภาอย่างไร เพื่อให้ประเทศเดินหน้ามากกว่าใช้ทำลายล้างกัน”

ถามถึงฉากทัศน์ที่มีการประเมินว่าพรรค พท.อาจไม่อยู่เป็นองค์ประชุม แต่เสียงของรัฐบาลก็มีน้อยเกิน ทำให้พรรค ปชน.ต้องแบกรัฐบาลหรือไม่ นายณัฐพงษ์ระบุว่า ไม่จำเป็นที่ต้องไปแบก ในทางปฏิบัติเมื่อมีความเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย กฎหมายที่เสนอโดยรัฐมนตรี แล้วกังวลว่าจะไม่ได้รับการสนับสนุนจากพรรคฝ่ายค้าน ก็จะไม่มีการเสนอตั้งแต่แรก สิ่งที่เกิดขึ้นอาจเป็นกฎหมายที่พรรค ภท.เห็นด้วยกับพรรค พท. หรือพรรค ภท.เห็นด้วยกับพรรค ปชน. หรือพรรค ปชน.เห็นด้วยกับพรรค พท. 3 รูปแบบนี้เท่านั้นที่จะทำให้กฎหมายผ่านสภาได้

จี้ ปชน.ถามตัวเอง

ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ในฐานะแกนนำพรรค พท. กล่าวถึงกรณีนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรค ปชน.ออกมาเรียกร้องให้พรรค พท.ร่วมเป็นฝ่ายค้านเสียงข้างมาก และหยุดการใช้นิติสงครามว่า พรรค พท.เป็นฝ่ายค้านอยู่แล้ว  แต่นายพริษฐ์เป็นอะไรยังงงๆ อยู่ ตกลงเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายอุ้มรัฐบาล เพราะต้องร่วมองค์ประชุมตลอด ดังนั้นไปถามนายพริษฐ์ดีกว่าว่าเป็นฝ่ายอะไร นายพริษฐ์ต้องหาคำตอบก่อน ก่อนเที่ยวมาถามคนอื่น และหากมีคดีเรื่องฮั้ว สว. ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะยกมือในฐานะอะไรกันแน่

“ไม่เกี่ยว เราเป็นฝ่ายค้านที่เข้มแข็งอยู่แล้ว แต่พรรคประชาชนควรทำจุดยืนของตัวเองให้ชัดเจนก่อน”

ส่วน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรค พท.เดินทางเข้าที่ทำการพรรค โดยเมื่อถามมีอะไรฝากถึงนายอนุทินหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ได้ส่งข้อความไปยินดีเรียบร้อยแล้ว ส่งตั้งแต่วันแรกเลย

ภายหลัง น.ส.แพทองธารเดินทางออกจากพรรค พท.  ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงโผ ครม.เบื้องต้นเป็นอย่างไรบ้าง น.ส.แพทองธารกล่าวว่า แล้วแต่ท่านนายกฯ เขาจัดเลย ไม่มีคอมเมนต์อะไร

เมื่อถามว่า ภายใน 4 เดือนจะแก้วิกฤตได้หรือไม่กับ ครม.ชุดนี้ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ทุกเวลามันมีค่าอยู่แล้ว  จะนานเท่าไหร่ก็ตามก็ขอให้ทำเพื่อพี่น้องประชาชน ถามอีกว่าจะฝากอะไรถึงรัฐบาลชุดนี้หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า “ไม่มีหรอกค่ะ ทำงานเต็มที่”

นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรค พท. กล่าวถึงโผ ครม.อนุทิน 1 ว่า  ทุกคนก็มีประสบการณ์ในการทำงาน ซึ่งก็ต้องดูเพราะแต่ละคนมีการทำงานที่แตกต่างกัน ส่วนตัวเชื่อมั่นว่านายกฯ คนใหม่จะนำพารัฐบาลและประเทศชาติไปในทางที่ดีได้ และเป็นกำลังใจให้

เมื่อถามว่า นายอนุทินประกาศว่าจะควบตำแหน่ง รมว.มท.เอง ทำให้มีข้อกังวลเรื่องการถูกแทรกแซง โดยเฉพาะเรื่องคดีเขากระโดงและฮั้ว สว.หรือไม่ นายสรวงศ์กล่าวว่า ประชาชนจับตาอยู่ และเคยให้ข้อคิดตั้งแต่อยู่ในสภาแล้ว  และเมื่อมาถึงจุดนี้แล้ว ถ้าหากนายอนุทินจะดำรงตำแหน่งด้วยตัวเอง น่าจะต้องระมัดระวังในการกระทำต่างๆ และประชาชนก็ให้ความสนใจอยู่ ซึ่งต้องจับตาดู

ด้านนายภูมิธรรมให้สัมภาษณ์อีกครั้งหลังประชุมร่วมกันของแกนนำพรรคเพื่อไทยว่า น.ส.แพทองธารให้ช่วยคิดว่าจะทำงานอย่างไร แค่นั้นไม่มีอะไร เตรียมการไว้ และในวันที่ 9 ก.ย.จะมีการประชุม สส.พรรค ซึ่งพรรคเพื่อไทยยังยืนหยัดและยังเดินหน้าทำงานต่ออย่างเต็มที่

มีรายงานจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า นายภูมิธรรมจะนั่งเป็นประธานการประชุม ครม.ในวันอังคารที่ 9 ก.ย. ช่วงเวลา 10.00 น. ที่ตึกบัญชาการตามปกติ โดยคาดว่าจะเป็นการประชุม ครม.ครั้งสุดท้ายของรัฐบาลรักษาการ ทั้งนี้ในการประชุมไม่มีวาระใดที่สำคัญ เนื่องจากนายภูมิธรรมจะใช้การประชุมครั้งนี้ ถือโอกาสกล่าวขอบคุณ ครม.ที่ได้ร่วมทำงานกับรัฐบาลพรรค พท.มาจนถึงวาระสุดท้าย จากนั้นจะมีการร่วมรับประทานอาหารกับสื่อมวลชนประจำทำเนียบฯ เพื่อเป็นการอำลาตำแหน่งอย่างเป็นทางการ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ ประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญตักบาตร ถวายพระราชกุศล 'ร.9'

นายกฯ เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ 'ในหลวง ร.9' วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธ.ค. 2568