ชู‘ศุภจี’มืออาชีพแก้ปากท้อง

"อนุทิน" ควง "เอกนิติ" เปิดตัว "ศุภจี" คุมพาณิชย์ ยันให้อำนาจเต็ม มุ่งฟื้นฟู ศก. ลุยงานเป็นทีมไม่มีขัดแข้งขัดขากัน "ว่าที่ รมว.พาณิชย์" มองงานการเมืองท้าทาย พร้อมใช้ประสบการณ์ทุ่มเทให้ประเทศ "นายกฯ" เผยตรวจประวัติ รมต.ต้องใช้เวลา ยันยังไม่มีบุคคลใดถูกตีตก จ่อรื้อโยกย้าย มท.คืนความยุติธรรม "สันติ" ลุ้นคุณสมบัติ รับส่งชื่อลูกประกบด้วย "ว่าที่ รมช.การคลัง" โวยถูกโยงเอี่ยวกลุ่มธุรกิจในเขมร "เท้ง" ลั่น รัฐบาลแถลงนโยบายเสร็จ ทำหน้าที่ฝ่ายค้านลุยตรวจสอบทันที "ภูมิธรรม" เก็บของออกจากทำเนียบฯ จี้ "มท.หนู" สานต่อเอาที่ดินเขากระโดงคืนหลวง รับต้องรื้อระบบ-ปฏิรูป พท.ใหม่ ปัดตอบเพจดังแฉก๊วนคนใกล้ตัวอดีตนายกฯ อิ๊งค์ใช้การเมืองเอื้อผลประโยชน์ บอกเป็นนักการเมืองต้องพร้อมถูกตรวจสอบ

ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) วันที่ 10 กันยายน  2568 เวลา 13.20 น. นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) ซึ่งถูกคาดว่าจะมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในรัฐบาลอนุทิน 1 เดินทางเข้าที่ทำการพรรค ภท. เพื่อหารือกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี

โดยนางศุภจีสวมชุดสูทสีน้ำเงิน ก้าวเข้าพรรคด้วยรอยยิ้ม ทักทายพร้อมกับไหว้กลุ่มผู้สื่อข่าวที่เข้ามารุมถ่ายภาพ ก่อนจะขึ้นชั้นบนไปที่ทำการพรรค

เวลา 14.35 น. นายอนุทิน พร้อมนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ว่าที่รองนายกรัฐมตรีและ รมว.การคลัง เดินทางเข้ามาที่พรรค ภท. เพื่อมาหารือกับนางศุภจี ที่เดินทางมาถึงก่อนหน้านี้ ใช้เวลากว่า 1 ชม.

จากนั้น นายอนุทินพร้อมด้วยนายเอกนิติและนางศุภจีออกมาให้สัมภาษณ์ร่วมกัน โดยนายอนุทินกล่าวว่า ขณะนี้คณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยเฉพาะคนนอกวงการเมืองได้ทำความเข้าใจกันถึงนโยบายที่จะต้องดำเนินการในระยะเวลาที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

"รัฐบาลนี้จะมีมืออาชีพอีกท่านหนึ่งเข้ามาช่วยงานในด้านพาณิชย์ ซึ่งนางศุภจีจะมาปฏิบัติหน้าที่ภายใต้การกำกับดูแลนายเอกนิติ ที่จะควบตำแหน่งรองนายกฯ เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ" นายอนุทินกล่าว

ถามว่า ทาบทามนางศุภจีมาร่วมงานได้อย่างไร นายอนุทินกล่าวว่า ตนใช้ความคาดหวังและผลประโยชน์ของประชาชน ของประเทศชาติจีบท่าน นางศุภจีไม่ใช่นักธุรกิจ แต่เป็นนักบริหารมืออาชีพ ขอให้เชื่อมั่นว่านางศุภจีมีความเสียสละอย่างมากที่จะทิ้งเงินเดือน และรายได้จากการเป็นกรรมการหลายบริษัทในหลายที่ แต่ก็ยอมมาทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง ก็ขอให้โอกาสและขอให้เชื่อมั่นว่าพวกเราจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 "เราต้องมั่นใจว่าต้องทำทุกอย่างให้ดีที่สุดและต้องทำงานเป็นทีม ไม่มีการขัดแข้งขัดขา และไม่ต้องกังวลว่าพรรคนั้นจะได้คะแนนมากกว่า ซึ่งผมได้พูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลเหมือนกัน และวันนี้มีแต่พรรคประเทศไทย เราจะให้การสนับสนุนการทำงานของคณะรัฐมนตรีทุกคน ทุกพรรค ตราบใดที่สิ่งที่นำเสนอนั้นมีประโยชน์ต่อส่วนรวม" นายกฯ กล่าว 
ด้านนางศุภจีกล่าวว่า ตนมีความตั้งใจเหมือนนายกฯ พูดไปแล้ว ว่าระยะเวลาสั้นๆ นี้ เป็นระยะเวลาที่มีความท้าทายและมีความสำคัญมาก ประเทศเราต้องเดินไปข้างหน้า ไม่ว่าจะระยะเวลาสั้นแค่ไหน ตนในฐานะที่มีโอกาสได้ทำงานมาหลากหลาย ตั้งใจจะนำเอาประสบการณ์ ความสามารถที่มีอยู่ทั้งหมดมาทุ่มเทให้ในระยะเวลาสั้นๆ นี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งมีธงเดียวกับนายกฯ คือทำประโยชน์สูงสุดให้กับประเทศชาติ

ประวัติ รมต.ยังไม่มีใครถูกตีตก

ถามว่า สังคมชื่นชมและคาดหวังผลงานต่อจากนี้ ว่าที่ รมว.พาณิชย์กล่าวว่า ขอบคุณที่ได้รับการชื่นชม และได้รับการคาดหวัง ถือเป็นกำลังใจที่ดีอย่างยิ่ง และจะยิ่งเป็นกำลังใจที่ทำให้ทุกคนไม่ผิดหวัง ดังนั้นก็จะประสานมือกับทีมงานทุกคนภายใต้นโยบายของนายกฯ

ซักว่า ถือเป็นการบ้านที่หนักหรือไม่ เพราะเข้ามาในช่วงที่เศรษฐกิจของประเทศเป็นแบบนี้ ว่าที่ รมว.พาณิชย์กล่าวว่า เป็นความท้าทาย แต่เราก็มีความตั้งใจที่จะสามารถทำได้ เราคงทำไม่ได้ทุกอย่าง แต่เราจะเลือกสิ่งที่ทำแล้วเกิดผลอย่างดีที่สุดให้ได้มากที่สุดในระยะเวลาที่เรามี
จากนั้นนายอนุทินได้เชิญนายเอกนิติและนางศุภจีไปร่วมวงรับประทานเค้กส้ม ที่ร้านกาแฟจาริสต้าร์ ภายในพรรคภูมิใจไทย

ต่อมานายอนุทินให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการตรวจสอบประวัติ ครม.ว่า เลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้รับรายชื่อและส่งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีการตอบกลับมาหลายคนแล้ว และจะทยอยตอบกลับมา so far so good

ถามว่า จะเสร็จสิ้นการตรวจสอบคุณสมบัติเมื่อใด นายอนุทินกล่าวว่า บางทีมีความล่าช้า เนื่องจากต้องไปถามหน่วยงานทุกจังหวัด ซึ่งมีทั้งหมด 77 จังหวัด ตนก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน แต่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีระบุว่าเป็นไปตามข้อปฏิบัติ จึงต้องให้ดำเนินการเรื่องนี้ ซึ่งเป็นเรื่องดีเอาให้มันจบทั้งหมด เพราะพอบอกไม่มีปัญหา ตั้งไป 3 วันกลับมีปัญหา ก็ให้มันจบ เมื่อทุกอย่างส่งกลับมาเรียบร้อยจะเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสรุปให้มีความเห็นตรงกันอีกครั้งว่าข้อมูลครบถ้วนสมบูรณ์และจะเร่งนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายต่อไป

ซักว่า บุคคลที่อาจมีปัญหา เช่น นายวรภัค ธันยาวงษ์ ที่มีคดีความใน ป.ป.ช. นายอนุทินกล่าวว่า อย่าเอ่ยชื่อบุคคล ทุกคนได้รับการส่งชื่อไปตรวจสอบประวัติในทุกๆ ด้านอยู่แล้ว คนที่ตรวจสอบก็เป็นองค์กรอิสระ หรือเป็นหน่วยงานที่ต้องดูแลในเรื่องของทะเบียนประวัติอะไรต่างๆ เมื่อตอบมาเป็นอย่างไรก็อย่างนั้น ยืนยันว่าทุกคนที่มีปัญหาก็เป็นไม่ได้

เมื่อถามว่า ตอนนี้มีบุคคลที่ส่งชื่อไปแล้วถูกตีกลับมีปัญหา นายอนุทินยืนยันว่า ตอนนี้ยังไม่มี ซึ่งเมื่อส่งกลับมา เลขาฯ ครม.ก็จะรวบรวม และสรุปให้ตนเองทราบ ซึ่งถ้าไม่ผ่านก็เสนอไม่ได้

ถามว่า จะสามารถสรุปรายชื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเมื่อใด นายอนุทินกล่าวว่า ยังระบุไม่ได้ เพราะไม่ได้ตรวจสอบเอง ต้องส่งไปยังองค์กรต่างๆ แต่ละองค์กรทราบอยู่แล้วว่าจะต้องเร่งอย่างเต็มที่ เพราะเป็นเรื่องของการบริหารราชการแผ่นดิน

นายกฯ กล่าวถึงการจัดโผ ครม.ว่า เร่งดำเนินการอยู่ แต่ก็อยู่ในห้วงเวลา ตนถามทีมงานตลอดเวลา ต้องทำให้เสร็จในห้วงเวลา ตรงไหนที่ช้า ต้องใช้กลไกนั้นเร่ง แต่ดีแล้วที่ตรวจสอบโดยละเอียด ถ้าเร่งๆ มาเดี๋ยวตอบมาว่าไม่มีอะไร อีกแป๊บจะเจอแล้วจะยุ่งเหมือนกัน ขอให้มีความละเอียดให้ได้มากที่สุด

ถามว่า ในฐานะจะนั่งควบ รมว.มหาดไทย  จะพิจารณากรณีที่มีการแก้ระเบียบกระทรวงมหาดไทยให้กีฬาโป๊กเกอร์ถูกกฎหมาย รวมถึงพิจารณาสัญชาติให้นายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ ล็อบบี้ยิสต์ ที่ถูกปฏิเสธไปก่อนหน้านี้หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ต้องรอให้ตนเข้ากระทรวงก่อน เรื่องการพนันเคยบอกแล้วจะมาบอกว่ากระตุ้นเศรษฐกิจโดยการใช้การพนันนั้นคงต้องรอนายกฯ คนอื่น อย่ารอตนเลย เพราะไม่เห็นด้วยทางนี้

ถามว่า จะทบทวนให้โป๊กเกอร์กลับไปเป็นสิ่งผิดกฎหมายหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ตอนที่ตนเป็น รมว.มหาดไทย ก็บอกว่าไม่ควรทำ แต่พอตนไม่อยู่ก็ทำ ก็ต้องเชิญมาถาม เมื่อถามถึงกรณีการโยกย้ายข้าราชการกระทรวงมหาดไทยที่มองว่าไม่เป็นธรรม จะคืนความเป็นธรรมให้หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ประเทศอยู่ได้ด้วยธรรมะและความยุติธรรม ที่ผ่านมาไม่มีความยุติธรรมและบางครั้งไม่ค่อยมีธรรมะ เราก็เอาธรรมะและความยุติธรรมกลับมาสู่ประเทศของเราอีกครั้ง

ถามย้ำว่า จะทบทวนคนที่ถูกโยกย้ายใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า แน่นอน

เท้งลั่นตรวจรัฐบาลหนูเข้มข้น

ขณะที่ นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกระแสข่าวชื่อหลุดออกจากโผ ครม.อนุทิน 1 ว่า ตอนนี้ยังเป็นข่าวลืออยู่ ยังไม่ได้รับแจ้งอะไร เรื่องปัญหาไม่มี แต่อาจจะมีปัญหาในเรื่อง 30-40 ปีที่แล้ว ที่มีเหตุการณ์อะไรบ้าง แต่ก็เป็นตอนเด็กๆ เดี๋ยวนี้มีเรื่องของจริยธรรมที่มันกว้างใหญ่กว่าทะเล  ฉะนั้นก็ต้องไปดูว่าเขาตรวจสอบแล้วเป็นอย่างไร   เมื่อถามว่า มีปัญหาเรื่องของการศึกษาใช่หรือไม่  นายสันติกล่าวว่า เป็นเรื่องของการศึกษาสมัยก่อน แต่ที่จริงเราก็ไม่ได้ผิดอะไร

ซักว่า หากคุณสมบัติไม่ผ่านมีแผนรองรับอย่างไร นายสันติกล่าวว่า ถ้าไม่ผ่านก็ไปช่วยเขาไม่มีอะไร ถามอีกว่าจะส่งนายพัฒนา พร้อมพัฒน์ บุตรชายมานั่งแทนหรือไม่ นายสันติกล่าวว่า ลูกชายตนก็อายุ 40 กว่าแล้ว จบทั้งต่างประเทศ จบมาเยอะแยะ ทำงานมามากมาย เขาเก่งกว่าตนอีก ประสบการณ์การเมืองเขาก็ทำได้ไม่มีอะไร ถามต่ออีกว่า แสดงว่าได้ส่งประวัติของนายพัฒนาให้ตรวจสอบด้วยใช่หรือไม่ นายสันติ กล่าวว่า เขาก็อยากจะมาฝึกอยู่แล้ว อาจจะมาเป็นที่ปรึกษาหรืออะไรก็แล้วแต่ ฉะนั้นเขาก็ต้องเช็กประวัติตัวเองก่อน

ส่วนนายวรภัค ธันยาวงษ์ ว่าที่ รมช.การคลัง  โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวชี้แจงกรณีมีคนบางกลุ่มพยายามโยงตนไปเกี่ยวข้องกับกลุ่มธุรกิจ BIC Group ในกัมพูชาว่า ไม่เป็นความจริงโดยสิ้นเชิง  ตนไม่เคยดำรงตำแหน่งกรรมการ กรรมการบริหาร หรือมีตำแหน่งอื่นใดใน BIC Group ไม่เคยได้รับค่าตอบแทนหรือผลประโยชน์ใดๆ  จากกลุ่มนี้

นายวรภัคยังชี้แจงกรณีธนาคารกรุงไทยเคยอนุมัติสินเชื่อให้กับบริษัท เอ็นเนอร์ยี เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) หรือ EARTH ว่า เคสเอิร์ธที่ผมถูก ป.ป.ช.แจ้งกล่าวหาเมื่อสองปีที่แล้ว ทั้งที่ธนาคารกรุงไทยสอบสวนแล้วว่าผมไม่ได้กระทำผิดใดๆ  ข้อเท็จจริงกำลังใกล้เปิดเผยแล้ว

 “ลองดูตัวเลขของบริษัทนี้ไปก่อนพลางๆ ตัวเลขแบบนี้กลายเป็นบริษัทล้มละลายได้อย่างไร ทั้งๆ ที่งบการเงินก็ไม่มีอะไรผิดปกติ ไม่เคยถูก ก.ล.ต.ร้องทุกข์กล่าวโทษเรื่องงบการเงิน เป็นลูกหนี้ที่ชำระเงินต้นดอกเบี้ยเป็นปกติมาตลอด ไม่เคยกระท่อนกระแท่น อยู่ดีๆ กลายเป็นบริษัทล้มละลายแบบฉับพลัน" ว่าที่ รมช.การคลังระบุ

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม (กธ.) กล่าวถึงการตรวจสอบคุณสมบัติของนายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร และเลขาธิการพรรค กธ.ว่า ยังไม่ทราบ เป็นหน้าที่ของ สลค. ยังไม่มีการแจ้งมาให้ รอดูทาง สลค. ตอนนี้ไม่มีใครรู้อะไรทั้งนั้น

ด้านนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านฯ ยืนยันพร้อมทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลในฐานะฝ่ายค้านทันทีที่มีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา

 “ผมพร้อมให้ความคิดเห็นอย่างเต็มที่เรื่อง ครม. แต่หากผมให้ความเห็นไปก่อน แล้วมีการปรับเปลี่ยน ครม. ก็แปลว่าผมไม่ได้ดำรงสภาพในพรรคฝ่ายค้าน ขอให้รอดูการทำหน้าที่วันแรกของการเป็นพรรคฝ่ายค้านอย่างเต็มตัว เราพร้อมจะตรวจสอบอย่างเต็มที่และตรงไปตรงมาแน่นอน" นายณัฐพงษ์กล่าว

รับ พท.ต้องปฏิรูปรื้อระบบใหม่

ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีรถบรรทุก 6 ล้อ จำนวน 2 คัน เข้ามาขนย้ายสิ่งของที่ห้องทำงานของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ที่ชั้น 4 ตึกบัญชาการ 1 โดยส่วนใหญ่เป็นกล่องเอกสารสำคัญต่างๆ ชุดจาน ชาม และเก้าอี้นวดไฟฟ้า  เป็นต้น

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่จะมีการปรับปรุงที่ติดตั้งภาพทำเนียบอดีตนายกรัฐมนตรีบริเวณห้องโถงด้านล่างภายในตึกไทยคู่ฟ้าด้วย เนื่องจากจุดที่จะติดตั้งรูปอดีตนายกฯ เต็มสุดขอบกำแพง จึงต้องมีการขยับปรับปรุงใหม่

เวลา 11.45 น. นายภูมิธรรมเข้ามาที่กระทรวงมหาดไทย พร้อมระบุว่า ไม่ได้มาสั่งงานหรือเซ็นอะไรมากมาย ยกเว้นเรื่องสำคัญที่ยังคั่งค้างก็จะเซ็นผ่านให้ ส่วนเรื่องเขากระโดงเจ้าหน้าที่ทำหน้าที่ของเขาอยู่แล้ว คาดว่าวันที่ 30 ก.ย.จะแล้วเสร็จ

"ผมเชื่อว่าท่านเป็นถึงนายกฯ ท่านคงมีวิจารณญาณว่าทำอะไรก็ตามก็อยู่ในสายตาพี่น้องประชาชน ก็ขอทำให้เกิดกระบวนการยุติธรรมให้เดินหน้าต่อไป” นายภูมิธรรมตอบเมื่อถามว่าจะฝากอะไรถึง รมว.มหาดไทยคนใหม่

ถามว่า พรรคเพื่อไทย (พท.) จะเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรคหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค พท. ประกาศชัดเจนแล้วจะยังคงอยู่กับพรรคหากสมาชิกคิดว่ายังทำงานได้ ซึ่งทางสมาชิกก็คิดเช่นนั้นอยู่ พร้อมยืนยันพรรคมีความพร้อมในหลายเรื่อง เพียงแต่ต้องทำให้เข้าระบบ ที่ผ่านมาตอนที่ไปบริหารประเทศ หลายคนก็ไม่ได้มีโอกาสและไม่มีเวลาเข้าพรรค ซึ่งเป็นข้อบกพร่องที่เราก็สำนึกอยู่ว่าจะกลับไปทำงานชดเชย

"เราเตรียมตัวปรับปรุงพรรคและปฏิรูปพรรค  กลับไปสร้างระบบ ประสานงานต่างๆ ให้ดี และเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น" นายภูมิธรรมกล่าว

ถามกรณีเพจ CSI LA ออกมาแฉเครือข่ายก๊วนเดียวกันของ น.ส.แพทองธาร ที่ใช้การเมือง-ธุรกิจ-โปรเจกต์รัฐ หมุนหาผลประโยชน์เข้าหาตัวเอง พร้อมปรากฏชื่อนายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี และนายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ คณะทำงานของน.ส.แพทองธารนั้น นายภูมิธรรมกล่าวว่า เรื่องนี้ก็พูดยากว่าใครใกล้ตัวขนาดไหน แต่เป็นสิ่งที่กระบวนการยุติธรรมต้องดำเนินการ เราเป็นนักการเมือง เราพร้อมที่จะถูกตรวจสอบ

ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม แจ้ง สส.บัญชีรายชื่อลาออก โดยเลื่อน สส.ใหม่ทั้ง 3 คนขึ้นมาแทนที่ว่าง และให้ปฏิญาณตนก่อนปฏิบัติหน้าที่ คือ นายรุ่งเรือง พิทยศิริ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย, น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง สส.บัญชีรายชื่อ พรรค รทสช.  ทำให้มี สส.ที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ 491 คน องค์ประชุมกึ่งหนึ่งต้องไม่น้อยกว่า 246 คน

วันเดียวกัน ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้องไว้พิจารณา ในคดีที่นายนิยม นพรัตน์, น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ผู้ถูกร้อง และประธานสภาฯ  ส่งคำร้องของนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ และคณะ ขอให้ศาลเพิกถอนกระบวนพิจารณาคดีที่ให้สถานะความเป็นรัฐมนตรีของ น.ส.พทองธารสิ้นสุดลง   เนื่องจากประกาศแต่งตั้งตุลาการศาลฯ 

ให้นายสราวุธ ทรงศิวิไล แทนนายปัญญา อุดชาชน สำนักงานศาล รธน.ได้รับหนังสือสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา แจ้งว่าได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายสราวุธ เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 30 ส.ค. 2568 มิใช่วันที่ 29 ส.ค.2568 ตามที่ยื่นคำร้อง

นอกจากนี้ ศาล รธน.มีคำสั่งไม่รับคำร้องนายสนธิญา สวัสดี ขอให้วินิจฉัยนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน สิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรี กรณีภริยาถือครองหุ้นในบริษัทอันเป็นการต้องห้าม เห็นว่าผู้ร้องไม่อาจยื่นคำร้องดังกล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โฆษกภูมิใจไทย โต้เดือด โทรโข่งเพื่อไทยแกล้งตาบอด ไม่เห็นภาพทักษิณกับเบน สมิธ

โฆษกภูมิใจไทย สวนโฆษกเพื่อไทย อย่าแกล้งตาบอด ปีนี้ใครถ่ายรูปกับ "เบน สมิธ" ยัน "อนุทิน" แค่รู้จักแต่ไม่สนิท ผลงานประจักษ์ยึดทรัพย์หมื่นล้านสแกมเมอร์รายใหญ่ บีบพ้น มท.1 เหตุไม่ให้สัญชาติใครหรือไม่ เย้ย 4 เดือนใครบริหารน้ำท่วมเหลว ขณะที่ "2 เดือน" นายกฯอนุทิน" เข้ามาแก้วิกฤติ