"ดีอี-แบงก์-ตำรวจ-ปปง." เคาะตั้งวอร์รูมสางปมอายัดบัญชี เร่งปลดล็อกบัญชีสุจริต วอน ปชช.อย่าตื่นตระหนัก แจงระงับวงเงินที่ต้องสงสัยเอี่ยวบัญชีม้า ไม่ได้ระงับทั้งบัญชี ส่วนอื่นยังทำธุรกรรมได้ปกติ "ตร.ไซเบอร์" ยกระดับศูนย์รับเรื่องร้องเรียน เพิ่มสายด่วน "ปลดอายัดบัญชี" โดยตรง "สว." บี้เยียวยาผู้เสียหาย
เมื่อวันที่ 14 กันยายน นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เป็นประธานการประชุมการดำเนินมาตรการเพิกถอนการระงับบัญชีธนาคารชั่วคราว ในบัญชีที่อาจมีความเกี่ยวข้องกับบัญชีม้าของมิจฉาชีพ ซึ่งเป็นผลมาจากการบังคับใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สมาคมธนาคารไทย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.)
จากนั้น นายวิศิษฏ์เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากกรณีกระแสข่าวที่ออกไปว่าอายัดบัญชีนั้น ขอชี้แจงว่าไม่ใช่การอายัดบัญชี แต่เป็นการระงับวงเงินที่ต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับบัญชีม้า แต่ในส่วนอื่นยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ โดยการระงับดังกล่าวเป็นการระงับชั่วคราวเท่านั้น ซึ่งตามกฎหมายธนาคารจะมีสิทธิ์ระงับเงินเป็นเวลา 3 วัน แต่ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีสิทธิ์ระงับวงเงินไม่เกิน 7 วัน และถ้าหากว่าภายในระยะเวลา 7 วัน ตรวจสอบแล้วไม่พบเบาะแสเพิ่มเติมว่าเกี่ยวข้องกับบัญชีม้า วงเงินที่ถูกระงับดังกล่าวจะสามารถใช้ได้ตามปกติ และเงินที่ถูกระงับไว้ก็จะถูกโอนกลับคืนในบัญชี
ส่วนกรณีที่บางรายยอดเงินในบัญชีติดลบนั้น นายวิศิษฏ์ชี้แจงว่า จากการตรวจสอบพบว่าที่ยอดเงินในบัญชีที่ติดลบอาจเป็นเพราะยอดเงินในบัญชีของผู้ที่ถูกระงับเหลือไม่เพียงพอ กับยอดเงินที่เคยทำได้รับโอนมาจากบัญชีม้า จึงเป็นสาเหตุทำให้จำนวนเงินในบัญชีขึ้นว่าติดลบ
ทั้งนี้ กลไกการอายัดบัญชีจะมีกรณีเดียวเท่านั้น คือบัญชีจะถูกยุติการใช้งาน และไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้เลย ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและเป็นกระแสข่าวในโลกโซเชียล เป็นเพียงแค่การระงับยอดเงินบางส่วนที่ต้องสงสัย แต่เงินจำนวนอื่นและบัญชียังใช้ได้ตามปกติ
"หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้นิ่งนอนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และได้มีการหารือร่วมกันในวันนี้ ว่าจะกำหนดแนวทางการตรวจสอบร่วมกันระหว่างธนาคาร เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศูนย์ ศปอท. และ ปปง. ในลักษณะการจัดตั้ง “วอร์รูม” เพื่อแยกผู้ที่สุจริตออกจากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด โดยจะใช้หลักเกณฑ์ เช่น ตรวจสอบเส้นทางการโอนเงินและความเชื่อมโยงของธุรกรรม พิจารณารูปแบบการใช้บัญชีว่ามีลักษณะปกติหรือไม่ และประเมินความเหมาะสมของจำนวนเงินกับพฤติกรรมการใช้บัญชี ทั้งนี้ หากตรวจสอบแล้วพบว่าเจ้าของบัญชีไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ศูนย์ ศปอท.จะมีคำสั่งเพิกถอนการระงับธุรกรรมชั่วคราวโดยการตรวจสอบ สามารถดำเนินการได้ภายในเวลาไม่กี่นาที" ปลัดดีอีระบุ
เมื่อถามว่า วันนี้ได้มีผู้ร้องเรียนจำนวนเท่าไหร่นั้น นายวิศิษฏ์กล่าวว่า ได้รับสายมากกว่า 600-700 สายแล้ว ทั้งนี้ การระงับเท่าที่ทราบจากสมาคมธนาคารไทยนั้น ประเด็นนี้คงต้องไปศึกษาเพิ่มเติมว่าเราสามารถมีกลไกในการคัดคนที่อยู่ในระบบบัญชีออกไปได้อย่างรวดเร็วอย่างไร และต้องแยกแยะกันให้ได้ นอกจากนี้ได้มีการทำงานร่วมกับทางธนาคารด้วย และเมื่อมีคำสั่งให้ปลดหรือเพิกถอนการระงับชั่วคราวนั้น กลไกนี้ธนาคารจะเป็นคนโทร.แจ้งเจ้าของบัญชี เพราะศูนย์ AOC จะเป็นตัวรับและประมวลข้อมูลไม่มีการโทร.ไปบอก เพื่อป้องกันการแอบอ้างจากมิจฉาชีพ
ด้านตัวแทนสมาคมธนาคารไทยกล่าวเพิ่มเติมว่า ฝากถึงพี่น้องประชาชนว่าไม่ต้องตื่นตระหนก และยังสามารถทำธุรกรรมได้ตามปกติ รวมถึงร้านค้าก็ยังสามารถให้ลูกค้าสแกนจ่ายผ่าน QR Code ได้ตามปกติ ซึ่งเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น แต่อาจเป็นเพียงการสร้างกระแสของคนบางกลุ่มที่ตนเองเกี่ยวข้องกับบัญชีม้าจริงๆ อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันตัวเลขของผู้ที่เปิดบัญชีม้ามีจำนวนลดลง เนื่องจากภาคธนาคารมีการเข้มงวดในการเปิดบัญชีเพิ่มมากขึ้น แต่ต้องยอมรับว่า การที่จะแยกว่าใครเป็นผู้ที่ถูกจ้างมาเพื่อเปิดบัญชีให้กับมิจฉาชีพนั้น ขณะนี้ยังคงแยกแยะได้ยากอยู่จริงๆ
น.ส.ดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ประชาชนสุจริตที่ได้รับผลกระทบจากกรณีดังกล่าว สามารถติดต่อยกเลิกการระงับ โดยติดต่อไปยังศูนย์ AOC 1441 ต่อ 2
ขณะที่ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) กล่าวว่า ปัจจุบันขบวนการคอลเซ็นเตอร์ได้พัฒนารูปแบบการยักย้ายถ่ายเทเงินที่หลอกลวงมาจากผู้เสียหายให้มีความซับซ้อนกว่าเดิม จากในอดีตที่มิจฉาชีพจะโอนเงินจากผู้เสียหายเข้าบัญชีม้า และต่อไปยังบัญชีม้าแถวที่ 2 หรือ 3 ก่อนจะนำไปซื้อสินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อปกปิดเส้นทาง แต่ปัจจุบันพบว่าคนร้ายได้เปลี่ยนวิธีการ โดยนำเงินจากบัญชีม้าไปซื้อสินค้ากับร้านค้าโดยตรง แล้วให้ร้านค้าจัดส่งสินค้าไปยังจุดที่นัดหมายไว้ ก่อนจะนำสินค้านั้นไปแปรสภาพเป็นเงินสดอีกทอดหนึ่ง ซึ่งวิธีการนี้ถือเป็นรูปแบบการฟอกเงินที่เริ่มแพร่กระจายมาสู่กลุ่มผู้ประกอบการและร้านค้ารายย่อย
ทั้งนี้ ทำให้ทั้งเจ้าของร้านและประชาชนทั่วไปมีความเสี่ยงที่จะตกเป็นส่วนหนึ่งของวงจรอาชญากรรมโดยไม่รู้ตัว ผลกระทบที่ร้ายแรงคือ เมื่อมีการติดตามเส้นทางการเงินจากผู้เสียหาย บัญชีของร้านค้าหรือบุคคลทั่วไปที่รับโอนเงินจากบัญชีม้าอาจถูกระงับหรืออายัดบัญชีไปด้วย ทำให้ไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้ แม้จะเป็นผู้บริสุทธิ์ก็ตาม ดังนั้นแม้มาตรการอายัดบัญชีจะมีประสิทธิภาพในการสกัดกั้นเส้นทางการเงินของคนร้าย แต่ด้วยระบบที่เข้มข้นขึ้น ประกอบกับกรณีที่ผู้เสียหายเข้าแจ้งความล่าช้า อาจส่งผลให้บัญชีของประชาชนผู้สุจริตได้รับผลกระทบไปด้วย
"บช.สอท.ไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้หารือกับสถาบันการเงินและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งปรับแนวทางการอายัดและกระบวนการปลดอายัดบัญชีให้รวดเร็วยิ่งขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ตำรวจไซเบอร์ได้ยกระดับ "ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนอายัดบัญชี" โดยเพิ่มช่องทางการติดต่อโดยตรงดังนี้ สายด่วน 1441: สำหรับแจ้งเหตุและร้องเรียนปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ทั่วไป เบอร์โทรศัพท์สายตรง (สำหรับตรวจสอบและปลดอายัดบัญชี) : 09-5425-7478 06-1032-2914" พล.ต.ท.ไตรรงค์ระบุ
วันเดียวกัน น.ส.ภิญญาพัชญ์ ศันสนียชีวิน สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวว่า ความเดือดร้อนครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก หากปล่อยให้ประชาชนหวาดกลัวจนแห่ถอนเงินออกจากระบบ จะไม่เพียงทำลายความมั่นใจของประชาชน แต่ยังบั่นทอนเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ จึงขอให้รัฐบาลเร่งดำเนินการอย่างจริงจังและเร่งด่วน ตนจะใช้ทุกกลไกนิติบัญญัติตรวจสอบ หาทางออกด้วยเช่นกัน
ส่วนล่าสุดกระทรวงดีอีได้ตั้งทีมพิเศษ และเปิดสายด่วน 1441 เพื่อให้ประชาชนแจ้งปัญหา เพื่อปลดการอายัดโดยเร็ว ซึ่งเป็นความพยายามที่น่ายินดี แต่ยังถือเป็นการแก้ไขที่ปลายเหตุ จึงขอเสนอแนวทางต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องเร่งปลดอายัดบัญชีผู้บริสุทธิ์ให้แล้วเสร็จภายใน 24-48 ชั่วโมง หลังจากตรวจสอบเบื้องต้น ที่สำคัญต้องกำหนดมาตรการชดเชยค่าเสียหายแก่ผู้ได้รับผลกระทบ จัดทำระบบแจ้งเตือนที่โปร่งใสและชัดเจน เพื่อให้เจ้าของบัญชีเข้าใจเหตุผลที่ถูกอายัด บูรณาการการทำงานระหว่างตำรวจ ธนาคาร และหน่วยงานกำกับดูแล เพื่อลดการกระทบผู้บริสุทธิ์โดยไม่จำเป็น.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รำลึกพ่อหลวงร.9 ในหลวง-พระราชินีทรงบำ เพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน
ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี
นายกฯยังห่วงหาดใหญ่ ประเดิมพ.ย.เว้น‘ค่าไฟ’
"อนุทิน" รับยังกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่ ขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน นำประชาชนกลับบ้านแล้ว 90% “เท้ง” แซะบอร์ดมีไว้แค่ให้พาดหัว
อนุทินโวทำจริง/ปปง.จ่อฟันอีก
นายกฯ ลั่นรัฐบาลจริงจังปราบสแกมเมอร์ บอกแค่ 2 เดือนยึดอายัดทรัพย์หมื่นล้าน-เปิดชื่อเครือข่าย ถามมีใครกล้าทําหรือไม่ ตอกกลับ "เพื่อไทย" ถ้าทำงานห่วยจะให้ย้ายไปคุม
พสกนิกรทั่วไทย เข้าถวายสักการะ ‘พระพันปีหลวง’
พระราชวงศ์บำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ พสกนิกรทุกสารทิศหลั่งไหลเข้ากราบพระบรมรูปในหลวง ร.9 และสักการะพระบรมศพ
เปิดสภา10ธค. แก้รธน.วาระ2 แนะโหวตต้นมค.
"ปธ.วันนอร์” นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้ รธน.วาระสอง
ปลุกชรบ.ชายแดนพร้อมรุกรบ
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121,089,300 บาท


