"ทักษิณ" เผยคิดถึงหลาน หลังถูกคุมขังแดนผู้ต้องขังสูงอายุ ครอบครัวส่งหนังสือธรรมะ-ภาษาอังกฤษให้อ่านคลายเหงา “ทนาย” ปัดข่าวเลี้ยงพิซซ่า-โมฆะอภัยโทษ ย้ำเดินหน้าสู้คดีเต็มที่ "หญิงอ้อ" เข้าเพื่อไทย ปลุก สส.สู้ๆ สมาชิกเฮลั่น "ชินวัตร" ไปต่อ
เมื่อวันที่ 16 กันยายน นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยความคืบหน้ากรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกบังคับโทษ 1 ปี ในเรือนจำกลางคลองเปรมว่า นายทักษิณยังคงอยู่ในแดนพยาบาล ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับควบคุมผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวและผู้ป่วยโรคไต นอกจากนี้ ภายหลังการเยี่ยมญาติเมื่อวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา พบว่ามีกำลังใจ และมีบ่นคิดถึงหลาน
ส่วนเมนูอาหารมื้อเช้ารับประทานไข่ต้มและดื่มกาแฟดำ ส่วนมื้ออื่นๆ ทั่วไป เช่น ก๋วยเตี๋ยว ทั้งนี้ ญาติยังได้นำหนังสือธรรมะและหนังสือภาษาอังกฤษมาให้นายทักษิณไว้อ่าน สำหรับกรณีเรือนจำมีการเปิดทีวีให้ผู้ต้องขังรับชมระหว่างวัน ผ่อนคลายความเครียดนั้น ทีวีจะเปิดเมื่อขึ้นเรือนนอนประมาณ 17.00 น. เป็นรายการหลากหลาย ที่ผ่านการตรวจสอบว่าไม่มีผลต่อความมั่นคง
ทางด้านนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความประจำตัวของนายทักษิณ เปิดเผยภายหลังเข้าเยี่ยมนายทักษิณร่วม 1 ชั่วโมงว่า มีการพูดคุยเรื่องงานที่ต้องดูแลเกี่ยวกับคดีว่าตอนนี้มีอะไรบ้าง เรื่องภารกิจต่างๆ ที่จะต้องดำเนินการ เป็นเรื่องปกติไม่มีอะไรพิเศษ ส่วนเรื่องอื่นก็เป็นการให้กำลังใจ เห็นดูมีอาการอิดโรย เพราะตอนบ่ายเป็นช่วงที่ต้องพักผ่อน ปกตินายทักษิณต้องอ่านหนังสือเป็นหลักอยู่แล้ว
สำหรับคดีความไม่สามารถบอกได้ เพราะเป็นเรื่องระหว่างทนายความกับลูกความ แต่ไม่ได้เป็นความลับกระทบต่อความมั่นคงของชาติ ขอให้คนที่ชอบมโนอย่าคิดไปแบบนั้น อยากเรียนให้ทราบว่า ในฐานะทนายความ จะพยายามทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อประโยชน์ของลูกความที่เป็นผู้ต้องขังในฐานะนักโทษเด็ดขาด อะไรที่ทำได้ก็จะใช้สิทธิ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในภายใต้กฎระเบียบ แม้ในทางคดีจะมีข้อถกเถียง ซึ่งมีผู้ไม่เห็นด้วยหลายฝ่ายกับคำสั่งศาลที่ออกมาว่านายทักษิณที่ผ่านมาขาดอิสรภาพโดยถูกคุมขังที่โรงพยาบาลตำรวจ จะไม่ถือเป็นการคุมขังหรืออย่างไร เป็นการตั้งประเด็นข้อสงสัยจากหลายฝ่าย ส่วนตนในฐานะทนายความ ได้ดำเนินการตามสิทธิของนายทักษิณ และยอมรับคำวินิจฉัยของศาล
เมื่อถามว่า คดีชั้น 14 ที่อยู่ระหว่างการไต่สวนของ ป.ป.ช. อาจมีปัญหาในกระบวนการที่ซ้ำซ้อนกับประเด็นอื่นหรือไม่ นายวิญญัติกล่าวว่า เรื่องที่ถูกกล่าวหาต้องมีการเตรียมการอยู่แล้ว เพราะต้องชี้แจงต่อสู้ข้อกล่าวหา แม้ในอนาคตจะมีการมากล่าวหาถือเป็นการใช้สิทธิของนายทักษิณต้องต่อสู้เต็มที่อยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม เรื่องสิทธิผู้ต้องขังเด็ดขาด สิ่งที่ต้องมีเป็นเรื่องพื้นฐานตามมาตรฐานผู้ต้องขังทั่วไป และไม่ได้มีอะไรเรียกร้องไปมากกว่านี้ เพราะว่าเงื่อนไขเวลาการคุมขังเป็นช่วงเริ่มต้นเท่านั้น ไม่สามารถเรียกร้องอะไรที่ยังมาไม่ถึง ส่วนอนาคตอาจมีกฎเกณฑ์ใด เงื่อนไขใด จะก่อให้เกิดสิทธิประโยชน์ เราจะพยายามที่จะตรวจสอบว่าเข้าหลักเกณฑ์หรือไม่ ซึ่งเป็นการทำหน้าที่ตามปกติอยู่แล้ว และเชื่อว่าคนที่ถูกคุมขังสูญเสียอิสรภาพไม่มีใครไม่อยากได้อิสรภาพ แต่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย
ส่วนกระแสข่าวเรื่องการโมฆะพระราชทานอภัยโทษ จำคุก 1 ปี ของนายทักษิณ เพราะไม่ได้ปฏิบัติตามระเบียบนั้น นายวิญญัติกล่าวว่า ขอไม่มีความคิดเห็น แต่ขอให้ระวัง เพราะทั้งหมดคือพระราชอำนาจ
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองว่าอาจเกิดเป็นการล้างแค้นหรือล่าแม่มดหรือไม่ นายวิญญัติกล่าวว่า ตนเพียงมีหน้าที่ชี้แจงและปฏิบัติตามระเบียบ ซึ่งนายทักษิณทำตามอยู่แล้ว กลับมารับโทษตามคำพิพากษา ในขณะที่หลายคนบอกว่านายทักษิณจะหนี แต่ท่านก็กลับมา เป็นคำไหนคำนั้น
เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่ามีการเลี้ยงพิซซ่าภายในเรือนจำกลางคลองเปรม นายวิญญัติกล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องดังกล่าว และคนที่พูดมาขอให้ระวังดีๆ ก็แล้วกัน
วันเดียวกัน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่มีการตั้งข้อสงสัยการที่นายทักษิณได้รับพระราชทานอภัยโทษ จะเป็นโมฆะหรือไม่ เนื่องจากไม่ได้เข้าสู่เงื่อนไขการอภัยโทษว่า ปกติเราต้องดูคำพิพากษา ตอนนี้กำลังขอคำพิพากษามาอ่าน แล้วต้องลองดู แต่ว่าคำพิพากษาไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้
เมื่อถามว่า ในคำพิพากษามีการระบุทำนองว่านายทักษิณรู้เห็นกับแพทย์ว่าแพทย์จะทำการผ่าตัด แต่เจ้าตัวเบรกไว้ก่อน เหมือนเป็นตัวบงการหรือไม่ พ.ต.อ.ทวีแจงว่า ยังไม่ได้เห็นคำพิพากษา อย่างไรต้องขอไปดูก่อน ถ้าพูดไปจะเป็นเหมือนการไปก้าวล่วง
ที่่พรรคเพื่อไทย เมื่อเวลา 15.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมพรรคเพื่อไทยประจำสัปดาห์ นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำพรรค เป็นประธานการประชุม เมื่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเดินเข้าห้องประชุม สมาชิกพรรคได้ปรบมือให้กำลังใจ ก่อนที่ น.ส.แพทองธารจะเดินไปนั่งกับแกนนำพรรค
โดยนายสุริยะได้กล่าวกับสมาชิกพรรคว่า วันนี้แม้มีคนออกไปแต่ไม่ได้กระทบอะไรกับพรรค แต่พรรคยังเข้มแข็ง ยังคงเป็นปึกแผ่น เป็นสถาบันทางการเมือง เราพร้อมสู้ต่อทุกสนามเลือกตั้ง แต่ละสนามที่ลงไปเน้นทุกสนาม โดยเฉพาะสนามเลือกตั้งใหญ่ ขอให้สมาชิกทุกคนช่วยกันปฏิรูปพรรค ถ้าอยากจะเสนอปรับเปลี่ยนอะไรขอให้แจ้งมา เพราะพรรคยึดโยงกับ สส. ช่วงแรกอาจต้องปรับตัว ตอนนี้เริ่มปรับตัวได้แล้วว่าการทำหน้าที่ในสภาพรรคเราจะเป็นพรรคฝ่ายค้านตัวจริง และจะเป็นหลักให้กับประเทศ เลือกตั้งครั้งหน้าพรรคสู้เต็มที่
ทั้งนี้ หลังปิดประชุม ก่อนที่สมาชิกจะเดินออกจากห้องประชุม คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภรรยานายทักษิณ ได้เดินเข้ามาให้กำลังใจสมาชิกพรรคและกล่าวสั้นๆ ว่า “สู้ๆ นะคะ” ทำให้ สส.ต่างยืนขึ้นปรบมือทั้งห้องประชุม เพราะเข้าใจว่าสิ่งที่คุณหญิงพูดหมายความว่าชินวัตรยังสู้ต่ออย่างเต็มที่ในสนามการเมือง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดสภา10ธค. แก้รธน.วาระ2 แนะโหวตต้นมค.
"ปธ.วันนอร์” นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้ รธน.วาระสอง
ปลุกชรบ.ชายแดนพร้อมรุกรบ
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121,089,300 บาท
หนูโต้ไม่ให้สัญชาติเบนสมิธเหตุพ้นมท.1
วงแตก! “อนุทิน” รับรู้จัก “เบน สมิธ” แต่ไม่สนิท ไม่มีธุรกิจร่วมกัน
จ่ายศพละ2ล.อีก8จว. ขยายเยียวยานํ้าท่วมใต้ ตั้ง5อนุครบวงจรใช้ทุกที่
นายกฯ ประเดิมนั่งหัวโต๊ะถอดบทเรียนรับมือมหาอุทกภัย ตั้ง 5 อนุกรรมการแก้ครบวงจร พยากรณ์-เตือนภัย-เยียวยา
หนูคาดเบลต์กั๊กยุบสภา12ธ.ค.
"อนุทิน" ส่งสัญญาณ 12 ธ.ค. คาดเข็มขัดนิรภัย ปัดญาติดีเพื่อไทยหลีกทางยื่นซักฟอก บอกทำงานทุกวันไม่ได้คุย ขีดเส้นอยู่ไม่เกิน 31 ม.ค.
แบบพระเมรุมาศเสร็จม.ค. สานพระราชปณิธานผ้าไทย
"อธิบดีกรมศิลป์" เผยแบบก่อสร้างพระเมรุมาศ “พระพันปีหลวง” แล้วเสร็จ ม.ค.69


