ป่วนทหารไทย ทร.ค้านเปิดด่าน เขมรรุกล้า17จุด

"เขมร" เหลี่ยมจัด ขัดขวางค้นตัวทหารไทยร่วมสังเกตการณ์กัมพูชานำคณะ IOT ลงพื้นที่ช่องอานม้า โฆษก ทบ.เผยทำความเข้าใจกันแล้ว รองโฆษก ทร.ยัน กปช.จต.ผลักดันกำลังกัมพูชาออกจากพื้นที่ 3 จุดใน ต.ชำราก จ.ตราดแล้ว อยู่ระหว่างเร่งให้รื้อสิ่งปลูกสร้าง-กลบคูเลต  หากไม่ให้ความร่วมมือพร้อมยกระดับมาตรการ   อึ้ง! 2 อำเภอมีพื้นที่ถูกรุกล้ำ 17 จุด สร้างอาคารกาสิโน-บ้านพักทหาร ผลักดันแล้วยังไม่ยอมรื้อ           

เมื่อวันที่ 16 กันยายน พล.ต.วินธัย สุวารี  โฆษกกองทัพบก ชี้แจงกรณีเฟซบุ๊กเพจ “ไทอีสานมักม่วน” โพสต์คลิปวิดีโอพร้อมข้อความว่า   "เหตุการณ์วันที่ 13 ก.ย.2568 ทหารไทยไล่ทหารเขมรนำกำลังพลขึ้นมาที่ช่องอานม้า ขัดกับข้อตกลงที่คุยกันไว้ มีการค้นตัวทหารไทย เป็นพฤติกรรมที่เหิมเกริมมาก ทำไมเราไม่ยื่นคำขาดเข้ามายิงทันที" ท่ามกลางชาวเน็ตที่เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของทหารเขมร

โดย พล.ต.วินธัยกล่าวว่า ภาพเหตุการณ์ในคลิปวิดีโอดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 ก.ย.68 ซึ่งฝ่ายกัมพูชาได้นำคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (IOT)-กัมพูชา ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์ชายแดนกัมพูชา-ไทย ในพื้นที่ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี  ทางฝ่ายไทยได้เข้าไปประสานงานเพื่อร่วมสังเกตการณ์ตามที่เคยประสานตกลงกันไว้ แต่ฝ่ายกัมพูชากลับเข้ามาแสดงท่าทีขัดขวาง จึงได้มีการพูดคุยทำความเข้าใจกัน หลังจากนั้นก็สามารถเข้าสังเกตการณ์ได้ตามปกติ

พล.ร.ต.ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า ตามที่มีกระแสข่าวฝ่ายกัมพูชาได้รุกล้ำดินแดนเข้าตั้งฐานปฏิบัติการ รวมถึงมีชาวกัมพูชาเข้ามาตั้งบ้านเรือนและใช้ประโยชน์ทำการเกษตรบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่บ้านชำราก ต.ชำราก อ.เมืองฯ จ.ตราด 3 จุด ว่า บริเวณดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ที่ฝ่ายไทยอ้างสิทธิ์ตาม MOU 43 เมื่อฝ่ายไทยตรวจพบสิ่งปลูกสร้าง ทางกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.) จึงได้ยื่นหนังสือประท้วงมาโดยตลอดหลายครั้ง เพื่อให้ทางฝ่ายกัมพูชาออกจากพื้นที่ที่ยังไม่ได้มีการปักปันดังกล่าว ล่าสุดในการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย-กัมพูชา  สมัยวิสามัญ (Regional Border Committee) หรือ RBC กับทางภูมิภาคทหารที่ 5 ทาง กปช.จต.ได้หยิบยกประเด็นการรุกล้ำดังกล่าวอีกครั้ง

"โดยปัจจุบันพื้นที่ในส่วนที่ถูกรุกล้ำมานั้น ทาง  กปช.จต.ได้ผลักดันให้กำลังของฝ่ายกัมพูชาออกจากพื้นที่รุกล้ำเรียบร้อยแล้ว แต่ทางกัมพูชายังไม่ได้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างหรือกลบคูเลตแต่อย่างใด  โดยขณะนี้ทางกองกำลังในพื้นที่ได้มีการเฝ้าติดตามสิ่งที่กัมพูชาได้ตกลงไว้ และเตรียมยกระดับมาตรการขั้นต่อไปหากไม่ได้รับความร่วมมือ"  พล.ร.ต.ปารัชกล่าว

ด้าน น.อ.ภริศวร์ วงษ์เพ็ญศรี ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด (ผบ.ฉก.นย.ตราด) เปิดเผยว่า การรุกล้ำพื้นที่ประเทศไทย 3 จุดบริเวณบ้านชำราก เป็นเรื่องจริงล้ำมาหลายสิบปีแล้ว แต่การล้ำพื้นที่มานั้นไม่มากเหมือนบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ที่ผ่านมาฝ่ายทหารได้ทำเรื่องประท้วงมาตลอดเพื่อให้ฝ่ายกัมพูชาถอยออกไป แต่กลับไม่ได้รับการตอบสนองเท่าที่ควร หลังจากที่ปรากฏเป็นข่าว ได้เข้าไปดำเนินการผลักดันออกไปทั้งหมดแล้ว ทหารไทยยังคงรักษาอธิปไตยไทยไม่ให้มีการรุกล้ำพื้นที่เพิ่มเติม

ส่วนการผลักดันนั้น ทางทหารพร้อมใช้กำลังเข้าจัดการเด็ดขาด แต่เราเป็นห่วงประชาชนชาวตราดที่จะได้รับผลกระทบหากเกิดการปะทะขึ้นมา  อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่จังหวัดตราด ใน 2 อำเภอคือ  อ.เมืองตราด มีพื้นที่ติดชายแดนจำนวน 4 ตำบล คือ ต.ท่ากุ่ม ต.ตะกาง ต.ชำราก และ ต.แหลมกลัด ติดกับอำเภอเวียงเวล จ.โพธิสัตว์ ในอำเภอคลองใหญ่ มีพื้นที่ติดกับ จ.เกาะกง และมี 3 ตำบลที่ติดชายแดน คือ ต.ไม้รูด, ต.คลองใหญ่ และ ต.หาดเล็ก ซึ่งตลอดระยะทางมีพื้นที่ที่กัมพูชารุกล้ำตาม MOU 43 จำนวน 17 จุด ซึ่งที่ผ่านมามีคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา, กรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร รวมทั้งสภาความมั่นคงแห่งชาติ เดินทางมาติดตามสถานการณ์ชายแดนตลอดระยะเวลา 3-4 ปีที่ผ่านมา

และทางฝ่ายหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด,  ชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่ 3 (ชค.ทพ.นย.ที่ 3) ได้บรรยายสรุปและชี้แจงถึงปัญหาในเรื่องนี้มาตลอด หลังจากมีความพยายามในการเปิดจุดผ่านแดนถาวรบ้านท่าเส้นกับบ้านทมอดา ต.เวียงเวล อ.เวียงเวล จ.โพธิสัตว์ แต่ฝ่ายความมั่นคงคือ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ไม่ยินยอม เนื่องจากฝ่ายกัมพูชามีการก่อสร้างอาคารกาสิโนหลังที่ 2 และบ้านพักทหารชายแดนล้ำเข้ามาในพื้นที่เขตแดนไทย และไม่ยอมรื้อถอนออกไป แม้ฝ่ายนักธุรกิจ จ.ตราด จะให้งบประมาณรื้อจำนวน 3 ล้านบาท แต่รัฐบาลกัมพูชาไม่ยินยอม ทำให้ สมช.ไม่เปิดจุดผ่านแดนแห่งนี้ แม้จะมีภาคเอกชนของ จ.ตราดและฝ่ายการเมืองของ จ.ตราดพยายามผลักดัน หลังจากมีการทุ่มงบประมาณกว่า 50 ล้านบาทสร้างถนน 4 เลนเข้ามาเชื่อมกับถนนที่ฝ่ายกัมพูชาสร้างมาเชื่อมก็ตาม

ขณะที่กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย   กระทรวงต่างประเทศ มีหนังสือประท้วงกัมพูชาละเมิด MOU 43 กรณีมีการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างล้ำแนวสันปันน้ำบริเวณที่จะยกระดับช่องทางธรรมชาติบ้านท่าเส้น เป็นจุดผ่านแดนถาวรมีประเด็น ปัญหา 3 จุด ดังนี้ 1.กาสิโนบางส่วนของฝ่ายกัมพูชาล้ำแนวสันปันน้ำ 2.อาคารที่ฝ่ายกัมพูชาสร้างขึ้นใหม่ล้ำแนวสันปันน้ำเข้ามาในฝั่งไทย 3.แนวถนนบางส่วนของฝ่ายกัมพูชาตัดผ่านแนวสันปันน้ำ

ที่หอประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก  มหาวิทยาลัยขอนแก่น พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นวิทยากรบรรยายในหัวข้อส่งเสริมพลังเยาวชน สร้างความมั่นคงแห่งชาติ ท่ามกลางเยาวชนและผู้สนใจเข้าร่วมรับฟังกว่า 5,000 คน บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ทันทีที่แม่ทัพภาคที่ 2 เดินทางมาถึง ได้รับเสียงเชียร์และการต้อนรับจากเยาวชนและผู้เข้าร่วมรับฟังบรรยายเป็นจำนวนมาก หลายคนเข้ามาขอถ่ายภาพเซลฟีร่วมกับแม่ทัพภาคที่ 2 สะท้อนถึงความนิยมที่เกิดขึ้นในทุกพื้นที่ที่แม่ทัพลงพื้นที่บรรยาย จนได้รับการขนานนามว่า “แม่ทัพฟีเวอร์”

พล.ท.บุญสินกล่าวว่า การถอนกำลังอาจมีหลายสาเหตุ ทั้งการที่ทหารกัมพูชารุกล้ำเข้ามาในเขตแดนไทยแล้วต้องถอยกลับออกไป หรือบางพื้นที่เป็นหน้าผาที่ไม่เหมาะสมต่อการตั้งฐาน เมื่อมีการถอยออก ทหารไทยก็ต้องเข้าไปควบคุมพื้นที่เช่นเดิม เพราะหากมีการรุกล้ำเข้ามาในเขตแดนไทย กำลังผู้ปฏิบัติสามารถยิงได้ทันที เพราะหากล้ำเข้ามาก็ให้ยิงได้ทันที ส่วนการที่ พล.ท.มาลี  โฆษกกองทัพกัมพูชาออกมาเรียกร้องให้ไทยหยุด บิดเบือนข้อมูลเรื่องการตรวจพบโดรน ขอตอบอย่างชัดเจนว่า เชื่อเขาหรือ ตนยังไม่เชื่อเลย

ที่บ้านเลขที่ 86 บ้านซ่งหนองขาม ม.4 ต.หนองแดง อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น ผศ.ดร.สุพางค์พรรณ พาดกลาง ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขากองทัพภาคที่ 2 ภริยาของ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 มาเยี่ยมและให้กำลังใจนายดำรงศักดิ์ ภิญโญสุข อายุ 49 ปี, น.ส.สุพรรณษา กองราชา อายุ 47 ปี และ น.ส.วชิรญารี ภิญโญสุข อายุ 18 ปี พ่อแม่และน้องสาวของพลทหารสิรวิชญ์ ภิญโญสุข หรือ “พลทหารเต๊ะ” สังกัดกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 8 ค่ายมหาศักดิพลเสพ จ.ขอนแก่น  ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุปะทะระหว่างปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา  ในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 28 ก.ค.2568 ที่ผ่านมา

โดย ผศ.ดร.สุพางค์พรรณได้มอบภาพที่ระลึกพลทหารเต๊ะ, เงินช่วยเหลือส่วนตัว และเงินช่วยเหลือจากภาคเอกชน จำนวน 100,000 บาท สิ่งของจำเป็น เครื่องใช้และอาหารแห้ง แก่ครอบครัวพลทหารเต๊ะเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ

ด้าน น.ส.สุพรรณษา แม่ของพลทหารเต๊ะ  กล่าวว่า ภูมิใจในตัวลูกชายอย่างมาก ที่เสียสละปกป้องประเทศชาติจนลมหายใจสุดท้าย เรื่องการเปิดด่านชายแดนนั้น ส่วนตัวไม่เชื่อว่ากัมพูชาจะยอมถอย ถ้าเปิดด่านแล้วจะถอยจริงหรือ เพราะขนาดบอกว่ายุติการยิง ก็ยังพบว่ามีเสียงปืนดังขึ้นประปราย เพื่อนลูกชายที่ประจำการแนวชายแดนพูดให้ฟังถึงสถานการณ์ตอนนี้ว่ายังตึงเครียดอยู่  ยังมีการวางกำลังตามแนวชายแดนพร้อมปะทะตลอดเวลา จึงไม่อยากให้เปิดด่านชายแดน ถ้าจะเปิดจริงๆ ก็อยากจะให้ทุกอย่างมันจบจริงๆ แล้วค่อยเปิด.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หนูคาดเบลต์กั๊กยุบสภา12ธ.ค.

"อนุทิน" ส่งสัญญาณ 12 ธ.ค. คาดเข็มขัดนิรภัย ปัดญาติดีเพื่อไทยหลีกทางยื่นซักฟอก บอกทำงานทุกวันไม่ได้คุย ขีดเส้นอยู่ไม่เกิน 31 ม.ค.