ตีตกเขมรฉวยเวทีAIPA ยิงแก๊สสลายม็อบรื้อรั้ว

ไทยตีตกข้อเสนอกัมพูชาของที่ประชุม AIPA สางปมขัดแย้งชายแดน ชี้ไม่ใช่เวทีคู่ขัดแย้ง บ้านหนองหญ้าแก้วเดือด! ม็อบเขมรไม่สนคำเตือนลุยรื้อรั้วลวดหนาม เจ้าหน้าที่ยิงแก๊สน้ำตา-กระสุนยาง จนยอมล่าถอย แต่ยิงหนังสติ๊กปาก้อนหินใส่ทหารไทยบาดเจ็บ ทอ.ฝึกผสม “Falcon Strike 2025 เสริมเขี้ยวเล็บกองทัพอากาศไทย-จีน กระชับมิตรภาพสู่ความมั่นคง” ในพื้นที่ จ.อุดรธานี

ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 17 กันยายน นายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนรัฐสภาไทย ในการประชุมใหญ่สมัชชารัฐสภาอาเซียน หรือ AIPA ครั้งที่ 46 กล่าวถึงเวทีการประชุมคณะกรรมการบริหารของประเทศสมาชิก 10 ประเทศ ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาระเบียบการประชุมต่อจากครั้งที่ผ่านมา แต่มีประเด็นใหม่ที่เพิ่มจากประเทศกัมพูชาที่พยายามเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา ขณะที่คณะผู้แทนรัฐสภาไทยเห็นว่าเวที AIPA ไม่ใช่เวทีคู่ขัดแย้ง ที่ต้องมาเจรจาให้เพื่อนประเทศสมาชิกลำบากใจ ซึ่งหลายประเทศให้การสนับสนุนว่าเวที AIPA ควรเป็นเวทีเพื่อความสร้างสรรค์มากกว่าการจับคู่เจรจา ที่ประชุมจึงเห็นด้วยกับข้อเสนอของฝ่ายไทย ดังนั้นข้อเสนอจากฝั่งกัมพูชาจึงตกไป

นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะ AIPA กล่าวเพิ่มเติมว่า กัมพูชาได้เรียกร้องบนเวที AIPA เรื่องการเปิดด่านชายแดน คณะผู้แทนรัฐสภาไทยได้เน้นย้ำต่อที่ประชุม AIPA ว่าหากต้องการให้เปิดด่านชายแดน กัมพูชาต้องเดินหน้าใน 3 เรื่องเพื่อให้บรรยากาศดีขึ้นคือ 1.การนำอาวุธหนักออกจากพื้นที่ชายแดน 2.การจัดการทุ่นระเบิด และ 3.การจัดการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ดังนั้นประเทศไทยจึงไม่สามารถตอบรับข้อเสนอของกัมพูชาที่จะให้พิจารณาเรื่องนี้ได้

ที่ จ.สระแก้ว เวลา 10.00 น. นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว พร้อมผู้เกี่ยวข้อง ได้เดินทางจากฝั่งคลองลึกอรัญประเทศของไทย ข้ามไปปอยเปตของกัมพูชา ณ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจุดผ่านแดนถาวรปอยเปต-คลองลึก ตรงข้ามจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ เพื่อหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย แก้ปัญหาชาวกัมพูชารุกล้ำอธิปไตยของไทย ในจุดหลังเส้นสีแดงบริเวณบ้านหนองจาน บ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งไม่ใช่พื้นที่ข้อพิพาท แต่เป็นอธิปไตยของไทย

ทั้งนี้ การประชุมดังกล่าว ฝ่ายไทยได้ยื่นข้อเสนอ 8 ข้อ อาทิ ให้ทั้ง 2 ฝ่ายเห็นชอบร่วมกันที่จะบริหารจัดการพื้นที่ชายแดนให้เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย โดยกำหนดให้มวลชนของทั้ง 2 ประเทศถอยห่างออกจากพื้นที่อ้างสิทธิ์ของประเทศตรงข้ามไม่น้อยกว่า 500 เมตร, จะไม่มีการปลุกระดมมวลชน, เห็นชอบร่วมกันไม่ให้มีการเปลี่ยนแปลงลักษณะภูมิประเทศในพื้นที่อ้างสิทธิ์ของทั้ง 2 ประเทศในทุกกรณี, เห็นชอบร่วมกันที่จะไม่มีการเพิ่มกำลังทหารและอาวุธหนัก, หากไทยและกัมพูชาไม่สามารถหาข้อตกลงได้ภายใต้กลไกการหารือของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ครั้งต่อไป จังหวัดสระแก้วจะมีหนังสือแจ้งจังหวัดบันเตียเมียนเจยให้ราษฎรที่อยู่นอกเส้นอ้างสิทธิ์ที่รุกล้ำเข้ามาในอธิปไตยไทยให้ย้ายออกจากพื้นที่ พร้อมทรัพย์สินและสังหาริมทรัพย์บ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง ภายใน 30 วัน หากไม่ออกจากพื้นที่ดังกล่าว จะดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายไทยต่อไป เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายกัมพูชาระบุว่ายังไม่สามารถให้ความเห็นชอบได้ในขณะนี้ โดยจะนำข้อเสนอของฝ่ายไทยให้หน่วยเหนือของตนเองพิจารณา และจะแจ้งให้จังหวัดสระแก้วรับทราบต่อไป ขณะที่ฝ่ายไทยระบุว่า หากว่าจังหวัดบันเตียเมียนเจยไม่รับข้อเสนอข้อใดข้อหนึ่ง จะดำเนินการต่อไปในเขตอธิปไตยและราชอาณาจักรไทย

แหล่งข่าวความมั่นคงเปิดเผยว่า การดำเนินการในทุกเรื่องเกี่ยวกับชายแดนไทย-กัมพูชา ทำมาโดยตลอดเพื่อให้กัมพูชาออกจากพื้นที่ไป ไม่ว่าจะเป็นที่จังหวัดตราด ที่พบ 17 จุดรุกล้ำ โดยเฉพาะภาพเหตุการณ์รื้อลวดหนามบ้านหนองหญ้าแก้ว หนองจาน จังหวัดสระแก้ว จะทำเป็นขั้นตอน หากผู้ว่าฯ สระแก้วหารือกับผู้ว่าฯ บันเตียเมียนเจยแล้ว ยังทำอย่างนี้อีก ให้ตำรวจปราบจลาจลเข้าปฏิบัติหน้าที่ตามลำดับการปราบจลาจล และรายละเอียดทั้งหมดที่ไทยได้ปฏิบัติมาสามารถชี้แจงให้องค์กรนานาชาติได้หมด ส่วนการประชุม GBC ในวันที่ 10 ต.ค. คงไม่มีการเพิ่มเรื่องใดหารืออีก เพียงแต่จะเก็บและเคลียร์เรื่องที่กัมพูชายังติดค้างไทยอยู่

ส่วนกระแสข่าวไทยเตรียมใช้กำลังผลักดันชาวกัมพูชารุกล้ำพื้นที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว ในวันที่ 26 ก.ย.นี้นั้น แหล่งข่าวความมั่นคงชี้แจงว่า เป็นข่าวที่คลาดเคลื่อน เนื่องจากในวันที่ 26 ก.ย. พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 จะเดินทางไปประชุมคณะกรรมการส่วนภูมิภาคไทย-กัมพูชา (RBC) ที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา ซึ่งเป็นไปตามกรอบข้อสรุปการประชุม GBC เรื่องการเก็บกู้วัตถุระเบิด

สำหรับปัญหาชาวกัมพูชารื้อรั้วลวดหนามไทยนั้น แม้ผลการประชุมจีบีซีให้นำเรื่องการจัดระเบียบชายแดน โดยเฉพาะพื้นที่บ้านหนองจาน ซึ่งอยู่ในพื้นที่อธิปไตยของไทย ไปหารือในการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ซึ่งยังรอรัฐบาลแต่งตั้ง เพราะชุดเก่าหมดวาระไปกับรัฐบาลชุดเดิม คาดว่าจะใช้เวลาพอสมควรจึงจะสามารถประชุมด้วย แต่ในระดับพื้นที่ ตั้งแต่ผู้ว่าฯ สระแก้ว กองกำลังบูรพาได้ดำเนินการเตรียมบังคับใช้กฎหมายไว้แล้ว ระดับตามสถานการณ์ โดยไม่ต้องรอการประชุม JBC

ต่อมาเวลา 15.53 น. กองกำลังบูรพาได้รับแจ้งจากตำรวจควบคุมฝูงชนจังหวัดสระแก้ว ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณรั้วลวดหนาม หมู่บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง ว่ามีประชาชนชาวกัมพูชาจำนวน 200 คน พร้อมไม้ยาวประมาณ 3 เมตร เป็นอาวุธประจำกายเข้ามารื้อทำลายลวดหนามที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้วางเอาไว้ ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งเตือนชาวกัมพูชาว่าอย่าทำลายรั้วลวดหนาม และใช้เวลาเจรจาประมาณ 30 นาที แต่ไม่เป็นผล

จากนั้นเวลา 16.20 น. ทางเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนจำเป็นจะต้องใช้มาตรการควบคุมฝูงชนจากเบาไปหาหนัก โดยการใช้แก๊สน้ำตายิงเตือนชาวกัมพูชาที่กำลังทำลายรั้วลวดหนาม แต่ฝ่ายกัมพูชายังไม่ละความพยายาม ยังคงรื้อทำลายรั้วลวดหนาม ทางเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนจำเป็นจะต้องใช้กระสุนยาง ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยมีชาวกัมพูชาบางส่วนได้ล่าถอยออกไป เพราะถูกแก๊สน้ำตา

ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงเหตุปราบฝูงชนชาวกัมพูชาว่า ฝ่ายไทยได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ชุมนุมและดำเนินการวางลวดหนามหีบเพลงตามแผนการปฏิบัติ แต่กลุ่มมวลชนกัมพูชายังคงแสดงการประท้วงอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยจึงจำเป็นต้องใช้มาตรการควบคุมฝูงชนโดยใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยางควบคุมสถานการณ์ ส่งผลให้กลุ่มผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนถอยห่างออกจากแนวปะทะ

จนถึงเวลาประมาณ 17.00 น. ฝ่ายไทยยังคงดำเนินการเสริมความมั่นคงตามแนวชายแดน โดยการวางแนวลวดหนามเพิ่มเติมและใช้ยางรถยนต์ประกอบ รวมถึงควบคุมการประท้วงโดยใช้แก๊สน้ำตา กระสุนยาง และเครื่อง LRAD ขณะที่ฝ่ายกัมพูชาเริ่มถอยออกจากพื้นที่ และมีการตะโกนต่อว่าเจ้าหน้าที่ไทยเป็นระยะ รวมทั้งมีการใช้ความรุนแรงโดยการขว้างปาท่อนไม้ ก้อนหิน และยิงหนังสติ๊กมายังเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย จนมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รำลึกพ่อหลวงร.9 ในหลวง-พระราชินีทรงบำ เพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน

ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี

อนุทินโวทำจริง/ปปง.จ่อฟันอีก

นายกฯ ลั่นรัฐบาลจริงจังปราบสแกมเมอร์ บอกแค่ 2 เดือนยึดอายัดทรัพย์หมื่นล้าน-เปิดชื่อเครือข่าย ถามมีใครกล้าทําหรือไม่ ตอกกลับ "เพื่อไทย" ถ้าทำงานห่วยจะให้ย้ายไปคุม