ศิษย์เก่าปชป.รอมาร์คกลับ

นิด้าโพลเผยคนส่วนใหญ่หนุน  “อภิสิทธิ์” คัมแบ็กนำ ปชป. แต่ยังไม่แน่ใจจะเลือกหากเปิดหย่อนบัตร “สาทิตย์-นิพิฏฐ์” ลั่นกลับบ้านเก่าแน่หาก “มาร์ค” นั่งหัวหน้า ชี้หากผู้นำยังอยู่วงจรเดิมยากฟื้นฟู “อนุทิน” โปรยยาหอมคนศรีสะเกษ ช่วยหาเสียง “ครูอีฟ” หวังได้เก้าอี้ยกโคตร

เมื่อวันที่ 21 ก.ย.2568 ศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์  (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจเรื่องประชาธิปัตย์ผลัดใบอีกแล้ว โดยสอบถามประชาชน 18 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ รวม 1,310 หน่วยตัวอย่าง ซึ่งเมื่อถามถึงบุคคลที่ประชาชนต้องการให้เป็นผู้นำพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในการเลือกตั้งครั้งหน้า พบว่า 32.90% ระบุว่าเป็นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ,   18.09% นายชวน หลีกภัย, 16.72% ไม่ตอบ/ไม่สนใจ, 9.24% ใครก็ได้ใน ปชป., 8.17% ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ (ดร.เอ้), 4.20% นายกรณ์ จาติกวณิช, 2.82% นางวทันยา บุนนาค (มาดามเดียร์),  2.21% นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์, 1.68% นายบัญญัติ บรรทัดฐาน, 1.45% นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน,  1.15% คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช, 0.84% นายเดชอิศม์ ขาวทอง และ 0.53% นายชัยชนะ เดชเดโช

เมื่อถามถึงแนวโน้มที่ประชาชนจะเลือก ปชป.ในการเลือกตั้งครั้งหน้า หากพรรค ปชป.เลือกผู้นำตามที่ประชาชนแนะนำ พบว่า 37.58% ไม่แน่ใจ,  35.75% เลือกแน่นอน และ 26.67% ไม่เลือกแน่นอน

แหล่งข่าวใกล้ชิดผู้บริหารในพรรค ปชป.วิเคราะห์สถานการณ์ว่า หากนายเดชอิศม์เป็นหัวหน้าพรรค ในการเลือกตั้งสมัยหน้ามีโอกาสได้เข้าร่วมเป็นรัฐบาลที่สูงกว่า แต่หากนายอภิสิทธิ์เป็นหัวหน้าพรรค โอกาสเข้าร่วมรัฐบาลคงยากลำบาก แต่จะมีโอกาสเป็นไปในเชิงบวกที่เดินต่อไปได้ เพราะบรรดาสมาชิกพรรครายเก่าๆ และบรรดาผู้อาวุโสทางการเมืองทั้งปัจจุบัน และทั้งอดีตของพรรค ปชป.จะเข้าร่วมฟื้นฟู

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย อดีต สส.ตรัง พรรค ปชป. 7 สมัย ที่ลาออกจากสมาชิก ปชป.เมื่อช่วง ธ.ค.2566 กล่าวถึงการตัดสินใจกลับเข้าพรรค ปชป.อีกครั้งว่า ขอดูทิศทางลมก่อนว่า ปชป.จะตัดสินใจเดินทางไหน ซึ่ง ปชป.มี 2 ทางเลือก คือพรรคขนาดกลางถึงขนาดเล็กที่มี 25 เสียง หรือกว่า 10 เสียง เป็นเหมือนพรรคอะไหล่สำรองที่จะเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคอะไรก็ได้ ซึ่งหากเป็นแบบนี้ก็หมายถึงคนในพรรคก็เลือกกันเอง การเปลี่ยนจากนายเฉลิมชัย ก็เหมือนเปิดโอกาสให้คนภายในพรรค ปชป.ขณะนี้สลับตำแหน่งกัน ส่วนแนวที่สอง คือทำให้พรรค ปชป.กลับไปเป็นพรรคหลักเหมือนในอดีต ซึ่งถ้าจะเป็นแบบนี้ต้องเปิดกว้างไปเชื้อเชิญคนที่เคยอยู่พรรค ปชป.แล้วออกไป รวมถึงเปิดกว้างเอาคนนอกคนเก่งเข้ามาร่วม รวมถึงคนรุ่นใหม่ที่เคยอยู่กับ ปชป.แล้วหายไป เช่น กลุ่มนิวเดม ที่เป็นคน Gen Z ให้เข้ามาด้วย

“การฟื้นจุดยืนแนวทางของพรรคที่เคยเป็นในอดีต ไม่ใช่ว่าจะเป็นขั้วไหนก็ไปร่วมได้ ถ้าเป็นแบบนี้ ผมคิดว่าพรรค ปชป.มีโอกาส แต่อาจไม่ใช่การเลือกตั้งครั้งหน้า แต่อาจเป็นการเลือกตั้งครั้งถัดไปอีก ก็อาจยังมีโอกาสที่จะขึ้นมาเป็นพรรคหลักได้” นายสาทิตย์กล่าว

นายสาทิตย์ยังกล่าวถึงรายชื่อคนที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรค ว่าก็มีทั้งนายอภิสิทธิ์ นายกรณ์ หรือมาดามแป้ง ซึ่งไม่ใช่คนอื่นคนไกล แต่ยังปรากฏเป็นรูปธรรมว่าเป็นใคร โดยใกล้วันที่ 18 ตุลาคม ทุกอย่างคงค่อยๆ ชัดมากขึ้น โดยหากนายเฉลิมชัยประกาศสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ ในเชิงคณิตศาสตร์การเมืองก็จบเลย เพราะโหวตเตอร์เสียงข้างมากยังอยู่ฝ่ายนายเฉลิมชัย

“ถ้านายอภิสิทธิ์กลับมา ผมยังอยากเล่นการเมืองต่อ คือผมก็ยังไม่เห็นพรรคการเมืองในใจผมในช่วงเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ถ้าประชาธิปัตย์ฟื้นกลับมา อุดมการณ์กลับมา นายอภิสิทธิ์กลับ ผมก็กลับ และผมคิดว่ายังจะมีเพื่อนๆ อีกหลายคนก็พร้อมกลับเข้ามา”

ต่อข้อถามที่ว่า หากสุดท้ายพรรค ปชป.ถ้าหัวหน้าพรรคยังเป็นคนเดิมๆ โอกาสของพรรคที่ปรามาสว่าจะเป็นพรรคต่ำสิบก็เป็นไปได้ นายสาทิตย์ยอมรับว่าเป็นไปได้ ดูจากผลโพลที่ออกมาชัดเจนมาก

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรค ปชป. โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า จะไม่ไปสมัครสมาชิก ปชป.จนกว่านายอภิสิทธิ์ได้เป็นหัวหน้าพรรค จากนั้นจึงจะไปสมัครและช่วยฟื้นฟูพรรค แต่จะไม่รับตำแหน่งใดๆ ในพรรคโดยหากนายอภิสิทธิ์ไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรค ก็จะปลีกวิเวกบำเพ็ญพรตแถวเทือกเขาบรรทัดพัทลุงต่อไป

วันเดียวกัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) พร้อมคณะได้ลงพื้นที่ช่วย น.ส.จินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล ผู้สมัคร สส.ศรีสะเกษ พรรค ภท.เสียงเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ โดยที่สำนักงานเทศบาลตำบลโพธิ์กระสังข์ บรรยากาศเวทีปราศรัยเป็นไปอย่างคึกคัก

นายอนุทินขึ้นปราศรัยบนเวที ทักทายชาวบ้านก่อนถามว่าจำกันได้หรือไม่ เคยมาเมื่อช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา และทุกครั้งที่มาก็มีแต่ความอบอุ่น ซึ่งที่จริง น.ส.จินณ์ตวรรณต้องเข้าทำงานในสภาตั้งแต่เดือนที่แล้ว ซึ่งวันนี้ไม่ควรต้องหาเสียง แต่ควรต้องมาขอบคุณแทน ครั้งที่แล้วมาเป็น สส.ธรรมดา แต่วันนี้มาเป็นนายกฯ และเป็นนายกฯ ที่ชาวศรีสะเกษให้ความไว้วางใจ เพราะตอนที่เดินทางมาถึง ชาวบ้านเข้ามาจับมือจนน้ำตาไหล แต่ไม่ใช่ดีใจอย่างเดียว น้ำตาไหลเพราะนิ้วซ้นด้วย เพราะชาวบ้านบีบมือซะแน่นเลย

 “มาที่เวทีนี้หลายครั้งแล้ว แต่พี่น้องยังไม่ให้ สส.ผมเลยสักครั้ง ครั้งนี้ขอให้ไข่แตกเลยได้ไหม นายกฯ ขอน่ะได้หรือเปล่า สัญญาแล้วนะ บ่ตั๊ว บ่จุ๊นะ"

ช่วงหนึ่งนายอนุทินยังแนะนำ น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล ว่า “นี่คือสุดยอดดวงใจของผม ทำงานแทนผม ช่วงนี้ขอขโมยตัวจากพี่น้องชาวศรีสะเกษ เพราะผมทำหน้าที่นายกฯ แล้ว ขอเอาคนศรีสะเกษมาเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรีโอเคไหม เพราะฉะนั้นพี่น้องชาวศรีสะเกษเห็นหรือยังว่า ภูมิใจไทยพูดแล้วทำ เว่าแล้วเฮ็ด"

ภายหลังปราศรัยเสร็จสิ้น นายอนุทินยังนั่งพับเพียบบนเวที แล้วก้มลงถ่ายรูปเซลฟีกับชาวบ้านอย่างเป็นกันเอง ขณะที่ น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมว.วัฒนธรรม ก็นั่งพับเพียบถ่ายรูปกับชาวบ้านเช่นเดียวกัน ก่อนที่จะลงมาพบปะพี่น้องประชาชน ส่วนบรรยากาศข้างล่างเวที ก็มีชาวบ้านหลายคนแห่เข้ามาถ่ายรูปกับ น.ส.ธนนนท์ นิรามิษ ภริยาของนายอนุทินด้วย

ต่อมานายอนุทินพร้อมคณะเดินทางไปกราบสักการะร่างของหลวงปู่สรวง ก่อนจะมาปราศรัยที่ว่าการอำเภอภูสิงห์ ซึ่งมีชาวบ้านในพื้นที่เดินทางมาร่วมฟังการปราศรัยจำนวนมาก

“อาทิตย์หน้า 28 ก.ย. เบอร์ 2 ถูกต้องนะครับ  ซึ่งเดือนนี้เป็นเดือนวันเกิดของตัวเอง ขอของขวัญวันเกิดด้วยการเลือกครูอีฟเป็น สส.พรรคภูมิใจไทย”

นายอนุทินยังกล่าวในช่วงท้ายว่า วันนี้มาพร้อมกับสายฝน ทำให้อากาศไม่ร้อนเกินไป และทราบมาว่าก่อนหน้านี้ชาวบ้านก็ฟังว่าที่ สส.พูดมาซักระยะหนึ่งแล้ว ก็ขออีกครั้งว่าขอให้เลือกครูอีฟกาเบอร์ 2 แบบให้ทำงานกันทั้งโคตร ก่อนที่นายอนุทินจำแนกสาแหรกตระกูลไตรสรณกุล และถามหา น.ส.ไตรศุลี ก่อนย้ำว่า ตระกูลนี้มีเครือข่ายเป็น สส.และนักการเมืองท้องถิ่นทั้งหมด ทำงานให้พี่น้องประชาชนได้อย่างเต็มที่ เรียกได้ว่าครบวงจร และขอให้อาทิตย์หน้าเข้าคูหากาเบอร์ 2 สาธุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หนูคาดเบลต์กั๊กยุบสภา12ธ.ค.

"อนุทิน" ส่งสัญญาณ 12 ธ.ค. คาดเข็มขัดนิรภัย ปัดญาติดีเพื่อไทยหลีกทางยื่นซักฟอก บอกทำงานทุกวันไม่ได้คุย ขีดเส้นอยู่ไม่เกิน 31 ม.ค.