สั่ง‘คลัง’ตั้งทีม สาวแหล่งที่มา ทุนเทาไหลเข้า

"เอกนิติ’ สั่งคลังตั้งทีม Connect the Dots เร่งประสานทุกหน่วยงาน สาวปมบาทแข็งโป๊ก-เงินทุนปริศนาไหลเข้า ยันต้องเห็นแหล่งที่มาเพื่อแก้ปัญหาได้ตรงจุด ลั่นพร้อมลุยงานทันทีหลังถวายสัตย์ปฏิญาณ ผู้ว่าฯ ททท.เผยเงินบาทแข็งกระทบรายได้ท่องเที่ยววูบ 15-17%

เมื่อวันจันทร์ นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง กล่าวถึงสถานการณ์การแข็งค่าของเงินบาท รวมถึงมีเงินทุนไหลเข้ามาเป็นจำนวนมาก ทำให้มีการตั้งข้อสังเกตว่ามีเรื่องเงินสีเทาเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ว่า เบื้องต้นกระทรวงการคลังได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และล่าสุดนายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ได้ตั้งทีมขึ้นมาเพื่อดูแลเรื่องดังกล่าว โดยเฉพาะแหล่งที่มาของเงินปริศนาที่ไหลเข้า เพื่อตอบโจทย์การเชื่อมโยงให้เห็นว่าเงินมาจากแหล่งไหน เพื่อจะได้แก้ปัญหาได้ตรงจุด ซึ่งหลังจากมีการถวายสัตย์ฯ และมีการแถลงนโยบายต่อสภาเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะเดินหน้าเรื่องนี้อย่างจริงจังทันที

 “ได้ประสานกับทีมกระทรวงการคลังให้ Connect the Dots หรือติดตามการเชื่อมโยงข้อมูลเงินทุนไหลเข้าและออกผิดปกติหรือไม่ และมีส่วนของเงินสีเทาหรือไม่ ซึ่งวันนี้ (22 ก.ย.) สมาคมธนาคารไทยได้ฉายภาพให้เห็น และชี้ในจุดเดียวกันในเรื่องของค่าเงินนั้นมีหลายส่วนที่เกี่ยวข้องมาก ทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และหน่วยงานต่างๆ รวมถึงล่าสุดคลังได้ตั้งทีมขึ้นมาสำหรับเรื่องนี้ ซึ่งจะได้ทำงานร่วมกัน วิเคราะห์ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับค่าเงินอย่างรอบด้าน และติดตามข้อมูลร่วมกัน เพราะต้องเชื่อมโยงกันว่ามาจากตรงไหน ต้องเกาให้ถูกที่คัน แก้ไขปัญหาให้ตรงจุด” นายเอกนิติกล่าว

นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ในฐานะประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ในที่ประชุมได้มีการหารือถึงเรื่องค่าเงินบาท ที่มีการจับตากันว่าอาจจะเป็นเรื่องเงินทุนสีเทาเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย โดยสิ่งที่ต้องเร่งทำคือ การติดตามการเชื่อมโยงข้อมูลเงินทุนไหลเข้าและออกผิดปกติหรือไม่ หรือ Connect the Dots ซึ่งการขับเคลื่อนของเงินทุนในรูปแบบต่างๆ มันผ่านหลายกลไกในระบบ ทั้งตลาดเงิน ตลาดทุน ตลาดอัตราแลกเปลี่ยนที่เป็นทั้งระบบธนาคาร และไม่ใช่ระบบธนาคาร ไปจนถึงการเคลื่อนย้ายกิจกรรมที่เป็น Fiscal

 “เรื่องนี้เข้าใจว่าทาง ธปท.และ ปปง.กำลังเร่งดำเนินการ ส่วนการมาของรัฐบาลในวันนี้ (22 ก.ย.) นั้น เราไม่ได้ขออะไรเพิ่มเติม เพราะท่านเข้าใจอยู่แล้วและทีมงานนั้นมีทุก Pillar ทั้งการเงินการธนาคาร ตลาดทุน พลังงาน การค้าการขาย ครบทั้งหมด และวันนี้ท่านกรุณามาเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ในรอบ 58 ปีที่นายกรัฐมนตรีมาเอง และทั้งคณะรัฐมนตรีทางเศรษฐกิจ ทำให้แลกเปลี่ยนข้อมูลกัน" นายผยงกล่าว

ด้าน น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-19 กันยายน 2568 เงินบาทแข็งค่าขึ้นประมาณ 8% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ จากเมื่อต้นปีอัตราแลกเปลี่ยนเริ่มต้นที่ 34 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ณ วันที่ 19 กันยายน 2568 อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ประมาณ 31.6 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ การแข็งค่าของเงินบาทกระทบต่อการตัดสินใจท่องเที่ยว โดยเฉพาะกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพราะส่งผลให้ต้นทุนในการเดินทางสูงขึ้น ทั้งตั๋วเครื่องบิน ที่พัก ค่าอาหาร เป็นต้น

 "ค่าเงินหยวนอยู่ที่ 7.2963 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าลงประมาณ 2.65% จาก 1 มกราคม 2568 อัตราแลกเปลี่ยนเงินจีนอยู่ที่ 7.1028 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ เงินเยนญี่ปุ่นขณะนี้อยู่ที่ 147.9490 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าลงประมาณ 6.22% จาก 1 มกราคม 2568 อัตราแลกเปลี่ยนเงินญี่ปุ่นอยู่ที่ 157.7226 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ ส่วนค่าเงินดองเวียดนามขณะนี้อยู่ที่ 26,374 ดองต่อดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าลง 3.38% จาก 1 มกราคม 2568 อัตราแลกเปลี่ยนเวียดนามอยู่ที่ 25,510 ดองต่อดอลลาร์สหรัฐ"

 ผู้ว่าฯ ททท.กล่าวว่า อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทแข็งค่าขึ้น สวนทางกับประเทศคู่แข่งอย่างเช่นญี่ปุ่นอ่อนค่า 6.22% จีนอ่อนค่า 2.65% และเวียดนามอ่อนค่า 3.38% ส่งผลให้ ททท.ประเมินผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน เมื่อนักท่องเที่ยวต่างชาติแลกเงินเป็นเงินบาทจะได้จำนวนเงินน้อยลง ทำให้ค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวไทยสูงขึ้น เช่น ราคาห้องพัก โรงแรม ร้านอาหาร และค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยวอาจดูแพงขึ้น ทำให้ความน่าสนใจของไทยลดลงเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคนี้

"จะทำให้ไทยสูญเสียรายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 15-17% จากการที่ต่างชาติมองว่าการเดินทางเข้าไทยแพงกว่าประเทศคู่แข่ง ทั้งจีน เวียดนาม และญี่ปุ่น ทั้งค่าอยู่ ค่ากิน จากงบประมาณที่วางไว้ ทำให้มีการใช้จ่่ายเพิ่มขึ้น บางคนหนีไปเที่ยวประเทศที่ค่าเงินถูกกว่าไทย แถมคนไทยที่พอจะมีเงินก็หนีไปเที่ยวต่างประเทศ ทั้งจีน ญี่ปุ่น และเวียดนามที่มีค่าเงินอ่อนกว่าไทย" น.ส.ฐาปนีย์กล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รำลึกพ่อหลวงร.9 ในหลวง-พระราชินีทรงบำ เพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน

ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี

อนุทินโวทำจริง/ปปง.จ่อฟันอีก

นายกฯ ลั่นรัฐบาลจริงจังปราบสแกมเมอร์ บอกแค่ 2 เดือนยึดอายัดทรัพย์หมื่นล้าน-เปิดชื่อเครือข่าย ถามมีใครกล้าทําหรือไม่ ตอกกลับ "เพื่อไทย" ถ้าทำงานห่วยจะให้ย้ายไปคุม