‘พรรคส้ม’ยื่นร่างแก้รธน. ปชช.มีส่วนร่วม270วันจบ

"ปชน." เดินเครื่องยื่นร่างแก้ รธน.หมวด 15 ต่อประธานสภา เปิดช่อง 2 กลไกคู่ขนานให้ ปชช.มีส่วนร่วม “ไอติม” ออกตัวขัดคำสั่งศาลแต่ขอให้ดูเจตนาเป็นหลัก ขีดเส้นจบ 270 วัน หวด "พท.-ภท." เสนอร่างในสัปดาห์นี้ บี้ "อนุทิน" เปิดทางด่านหิน "สส.-สว." กาหัว "หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย" ตุกติกเจอเชือดกลางสภาแน่ ขณะที่ "ภราดร" ชงสูตรโมเดล ส.ส.ร.จังหวัดละ 1 คนบวกกลุ่มวิชาการ กลุ่มผู้เชี่ยวชาญ ยึดต้นแบบปี 40

ที่รัฐสภา พรรคประชาชน (ปชน.) นำโดยนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน และนายพริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรค เข้ายื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ หมวด 15 ฉบับพรรคประชาชน ต่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา

โดยนายณัฐพงษ์กล่าวว่า เป็นขั้นตอนแรกเพื่อเดินหน้าไปสู่การทำประชามติรอบแรก ที่จะรวมคำถามครั้งที่ 1 และคำถามครั้งที่ 2 ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไว้ด้วยกัน โดยจัดประชามติรอบแรกพร้อมกับการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นหลังรัฐบาลยุบสภาภายใน 4 เดือนต่อจากนี้

นายณัฐพงษ์ระบุถึงเนื้อหาในภาพรวมว่ามีดังนี้ 1.เสนอให้มี 2 กลไกคู่ขนาน เพื่อให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ กลไกแรกคือ คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) จำนวน 35 คน ทำหน้าที่ยกร่างรัฐธรรมนูญ มีที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนจำนวน 70 คน โดยใช้ระบบบัญชีรายชื่อที่ให้ผู้สมัครสมัครเป็นทีมและใช้เขตประเทศเป็นเขตเลือกตั้ง จากนั้นรัฐสภาคัดเลือก 35 คน แบ่งสัดส่วนตาม สส., สว.และพรรคการเมือง เท่ากับว่าหากสมาชิกรัฐสภามีทั้งหมด 700 คน สมาชิกรัฐสภา 20 คน มีสิทธิ์รวมตัวกันเพื่อเสนอชื่อ กมธ.ยกร่าง 1 คน

กลไกที่สองคือ สภาที่ปรึกษาการยกร่างรัฐธรรมนูญ จำนวน 100 คน ทำหน้าที่รับฟังความเห็นประชาชน และสะท้อนความเห็นต่อ กมธ.ยกร่าง โดยทั้ง 100 คนมีที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ใช้ระบบแบ่งเขตที่ให้ผู้สมัครสมัครเป็นรายบุคคล และใช้จังหวัดเป็นเขตเลือกตั้ง  จังหวัดละ 1-5 คนตามจำนวนประชากร

 “พรรค ปชน.กำหนดเวลาในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ไว้ที่ 270 วัน หรือ 9 เดือน โดยให้ กรธ.และสภาที่ปรึกษาการยกร่างรัฐธรรมนูญทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด  และกำหนดให้ทั้ง 2 กลไกสามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อได้ โดยไม่ถูกกระทบจากการยุบสภาหรือจากการที่สภาหมดวาระ  เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการทำงานและความต่อเนื่องของกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่” หัวหน้าพรรคปชน.ระบุ

นายณัฐพงษ์ระบุด้วยว่า เพื่อป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อน จึงกำหนดให้การทำงานของ กรธ.และสภาที่ปรึกษาการยกร่างรัฐธรรมนูญไม่จำกัดอยู่แค่การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่ให้ครอบคลุมถึงการร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ที่ถูกกำหนดในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ด้วย โดยอาจเริ่มต้นทันทีที่ประชาชนลงประชามติเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

 “บุคคลที่ทำหน้าที่ใน กรธ.และสภาที่ปรึกษาการยกร่างรัฐธรรมนูญห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมือง เช่น สส.,  สว., รัฐมนตรี, ผู้บริหารหรือสมาชิกสภาท้องถิ่น, ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ, ผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ ในช่วงแรกหลังเสร็จภารกิจ” นายณัฐพงษ์ระบุ

หัวหน้าพรรค ปชน.กล่าวอีกว่า พรรค ปชน.มีข้อเรียกร้องต่อฝ่ายต่างๆ ดังนี้ 1.ขอให้พรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทยยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญหมวด 15/1 เข้าสู่สภาภายในสัปดาห์นี้ ตามที่ได้ประกาศไว้ และระบุรายละเอียดในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญหมวด 15/1 ที่กำหนดให้มีกลไกในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่เปิดกว้างให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมให้ได้มากที่สุด ตราบเท่าที่ไม่ขัดกับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ

  2.ขอให้ สส.และ สว.ทุกคนพิจารณาให้ความเห็นชอบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญหมวด 15/1 3.ขอให้ประธานรัฐสภาเปิดประชุมเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญหมวด 15/1 ทุกฉบับโดยเร็ว และ 4.ขอให้นายกรัฐมนตรีเดินสายทำความเข้าใจกับ สส.และ สว.เพื่อผลักดันให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญหมวด 15/1 สำเร็จตามเป้าหมายของ MOA

"สำหรับไทม์ไลน์หลังจากนี้ ผมหวังว่าภายในสัปดาห์นี้ทั้ง 3 พรรคการเมือง คือพรรคประชาชน พรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทย ยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญหมวด 15/1 ของตนเอง จากนั้นต้นเดือนตุลาคมจะเข้าสู่การพิจารณาในวาระ 1 ถัดไปเดือนตุลาคมถึงธันวาคม เป็นการพิจารณาในชั้นกรรมาธิการ เดือนธันวาคมรัฐสภาจะพิจารณาวาระ 2 และวาระ 3 จากนั้นเดือนมกราคม 2569 กำหนดวันประชามติพร้อมการเลือกตั้ง และยุบสภาภายในสิ้นเดือนมกราคม 2569 ตามเงื่อนไขที่ระบุใน MOA" นายณัฐพงษ์ ระบุ 

ด้านนายพริษฐ์กล่าวว่า เราอยากจะให้ออกแบบจากกระบวนการในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่มีความยึดโยงกับประชาชนมากที่สุด จริงอยู่ว่ารายละเอียดสามารถไปถกเถียงในคณะกรรมาธิการวาระหนึ่งได้ แต่ตนคิดว่าถ้าเรายึดเจตนารมณ์ตรงนี้ให้มั่นว่า ถึงแม้ ส.ส.ร.ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรง อาจจะว่าขัดกับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ แต่เรามองว่าเจตนาคือการพยายามให้ประชาชนมีส่วนร่วมให้ได้มากที่สุด ก็อยากจะให้ใช้หลักตรงนั้นเป็นหลักสำคัญในการทำ

 เมื่อถามถึงท่าทีของนายกรัฐมนตรีและพรรคภูมิใจไทยที่ดูเหมือนจะไม่ตอบสนอง นายพริษฐ์ระบุว่า เวลานี้ เรายังไม่เห็นท่าทีที่ชัดเจน ซึ่งก็เป็นสิ่งที่เราใช้เวทีสื่อมวลชนในการเรียกร้อง อย่างไรก็ตามในการอภิปรายในวันแถลงนโยบายต่อรัฐสภาของรัฐบาล ถ้าเรายังไม่เห็นท่าทีที่มีความจริงจังนี้ในการเดินสายพูดคุยกับทั้ง สส.และ สว. เราก็คงต้องมีการนำประเด็นนี้มาอภิปรายแสดงความเห็นต่อนายกรัฐมนตรีโดยตรง

นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและ สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ขณะนี้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยจะมีการรวบรวมรายชื่อเพื่อยื่นเสนอต่อประธานรัฐสภา เพื่อบรรจุวาระในวันที่ 24 ก.ย.นี้

นายภราดรระบุว่า พยามจะปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับคำวินิจฉัยของศาล เช่นที่มาของ ส.ส.ร. ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญไม่อนุญาตให้ประชาชนเลือกสภาร่างโดยตรง เลยต้องให้รัฐสภาเป็นคนร่างรัฐธรรมนูญ และต้องเขียนให้สอดคล้องกับคำวินิจฉัย โดยในส่วนของเราจะให้ผู้ที่ประสงค์จะเป็น ส.ส.ร.แต่ละจังหวัดสมัครเข้ามา โดยให้ กกต.เป็นผู้รับสมัคร

 “จากนั้นให้รัฐสภาเลือกเหลือจังหวัดละหนึ่งคนจากทั้งหมด 77 จังหวัด ก็จะมี 77 คน อีกส่วนหนึ่งก็จะเป็นกลุ่มนักวิชาการ นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ และเชี่ยวชาญ 22 คน  แบ่งเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มละ 7-8 คน โดยให้ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญสมัครเข้ามา และให้รัฐสภาเป็นผู้เลือก ซึ่งแนวทางนี้เป็นแนวทางที่เราใช้ในแนวทางเดียวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญในปี 2539 เป็นที่มาของ ส.ส.ร.ในปี 40 และถือเป็นต้นแบบ” นายภราดรระบุ

ขณะที่นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สว.และโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) กล่าวว่า  ตามที่มีข้อกังวลเกี่ยวกับเสียงเห็นชอบจาก สว. 1 ใน 3 ในความเห็นส่วนตัวหากมีการเสนอร่าง จะต้องมีการมาพิจารณาว่าแต่ละร่างมีเนื้อหาสาระอย่างไร แก้ไขอะไรบ้าง ส่วนตัวเห็นว่าหากการแก้ไม่แตะหมวด 1-2 พร้อมที่จะให้ความเห็น ขณะนี้สมาชิกวุฒิสภายังไม่ได้มีการพูดคุยหารือกันในเรื่องเกี่ยวกับร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ เบื้องต้นจะมีการประชุมวิป 3 ฝ่ายเพื่อกำหนดวันแถลงนโยบายรัฐบาล

 “โมเดล ส.ส.ร.ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนทางอ้อมสามารถทำได้ ตามที่หลายภาคส่วนได้มีการเสนอโมเดลออกมา โดยไม่ได้เลือกตั้งโดยตรง เชื่อว่าไม่น่ามีปัญหาหรือขัดต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ" นายพิสิษฐ์ระบุ

เมื่อถามถึงข้อสังเกตความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกวุฒิสภากับบ้านใหญ่ทางการเมืองบุรีรัมย์ จนได้ชื่อว่าเป็น สว.สีน้ำเงิน นายพิสิษฐ์กล่าวว่า เป็นความคิดเห็นของบุคคลอื่นที่มองกัน แต่ยืนยันว่าสมาชิกวุฒิสภาไม่ได้สังกัดพรรคการเมือง และตนก็ไม่ได้รู้จักนายอนุทินเป็นการส่วนตัว หรือนักการเมืองเป็นการส่วนตัว แต่การพูดคุยกันทุกอย่างอยู่บนหลักการ คือพรรคการเมืองเสนอร่างมา หากวุฒิสภาเห็นชอบด้วยก็พร้อมที่จะยกมือให้ ยืนยันว่าไม่มีการล็อบบี้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บก.ลายจุด อวยว่าที่นายกฯ ฝึกงานล้างบ้าน เก็บขยะ มีพัฒนาการที่ดี ลงท้ายแขวะ 'อภิสิทธิ์'

นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือบก.ลายจุด โพสต์ภาพนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน กำลังล้างบ้านน้ำท่วมที่หาดใหญ่ พร้อมข้อความระบุว่า ใครทนอ่านเรื่องส้มไม่ได้ให้ข้ามไปก่อน