ทบ.สดุดี16ทหาร เชิดชูผู้กล้าพลีชีพ

 

สดุดี 16 ทหารกล้า กองทัพบกจัดทำวีดิทัศน์เผยแพร่ 11 สมรภูมิ 5 วัน เชิดชูเหล่าทหารพลีชีพเพื่อชาติ ท่ามกลางดงระเบิด ห่ากระสุน

กองทัพบกได้จัดทำวีดิทัศน์เผยแพร่วีรกรรมของ 16 ทหารกล้า ใน 11 สมรภูมิรบ 5 วัน ไทย-กัมพูชา พร้อมเปิดเหตุการณ์ในวันที่ทหารเหล่านั้นเสียชีวิตระหว่างทำหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติ ภายใต้การรบที่ดุเดือด ท่ามกลางดงระเบิด ปืนใหญ่ ปืนเล็ก โดรนสังหาร  โดยเฉพาะในช่วงสุดท้ายตามเวลาของข้อตกลงหยุดยิง

1.สมรภูมิบ้านโนนวันชัย เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.24 น. หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 13 ได้รับมอบภารกิจให้ยิงตอบโต้และทำลายฐานที่มั่นกัมพูชา พลทหาร (ส.ต.) วรัญชิต ยวงสุวรรณ ในตำแหน่งพลกระสุน หมู่เครื่องยิงลูกระเบิดหนักที่ 3 กรมทหารราบเฉพาะกิจ กองทัพภาคที่ 2 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 13 ได้ปฏิบัติหน้าที่ยิงทำลายข้าศึกบริเวณเนิน 391 หรือภูผี ในระหว่างปฏิบัติการมีอาวุธวิถีโค้งจากฝ่ายกัมพูชาตกลงมาอย่างหนาแน่นนอกพื้นที่ แต่พลทหารวรัญชิตยังคงทำหน้าที่เอากระสุนและบรรจุให้กับหน่วยอย่างต่อเนื่องด้วยความกล้าหาญ จนเวลา 10.45  น. ขณะที่ทำการยิงทำลายฐานที่มั่นสนับสนุนการยิง มีกระสุนปืนใหญ่จากฝ่ายข้าศึกตกลงมาใกล้หมู่ของตนเอง ทำให้พลทหารวรัญชิตซึ่งอยู่ใกล้จุดตกที่สุดถูกแรงอัดและสะเก็ดระเบิดเข้าศีรษะและทั่วร่างกาย ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งปฏิบัติการครั้งนี้ทำให้สามารถทำลายฐานที่มั่นข้าศึกได้ 5 แห่ง และสังหารทหารกัมพูชาได้มากกว่า 100 นาย

2.สมรภูมิปราสาทตาควาย หลังเปิดฉากยิงของทหารกัมพูชาในวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 กองกำลังสุรนารีจัดให้ชุดโดรนทิ้งระเบิดสังหารของกองร้อยลาดตระเวนระยะไกลที่ 6 เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย ในวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 เวลา 05.00 น. มีการปรับเปลี่ยนกำลังพลของชุดโดรนทิ้งระเบิดสังหาร เวลา 09.10 น. ระหว่างที่กำลังเซตระบบโดรน โดยมีสิบเอก กฤษฎา น้อยโคตร (เจ้าหน้าที่เทคนิค) และสิบเอกจิรายุ สิงห์อ้น นักบินผู้ช่วย ได้นำโดรนไปติดตั้งกับแท่นปล่อยเพื่อเตรียมขึ้นบิน เมื่อติดตั้งเสร็จกำลังพลทั้ง 2 นายกำลังเข้าบังเกอร์ ระหว่างนั้นกัมพูชาได้ยิงเครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 82 มิลลิเมตร ตกลงที่ชุดโดรนขณะที่จะทำการบิน เป็นเหตุให้สิบเอกนพพล บุญเลิศ เสียชีวิตทันที 1 นาย ขณะที่สิบเอกกฤษฎา น้อยโคตร และสิบเอกจิรายุ สิงห์อ้น ได้รับบาดเจ็บสาหัส และได้เสียชีวิตระหว่างถูกนำส่งโรงพยาบาลสนาม

วันที่ 28 กรกฎาคม 2568 เวลา 05.00 น. ชุดอัลฟ่าซึ่งมีจ่าสิบเอกอโณทัย ป้องแก้ว เป็นหัวหน้าชุดโจมตี ได้เริ่มแทรกซึมด้วยเท้าเข้าพื้นที่ปฏิบัติการเพื่อเข้าตีและยึดที่หมายเนิน 350 โดยเวลา 10.00 น. ก่อนเข้าตี กองทัพอากาศได้ทิ้งระเบิดจาก F-16 และรถถังยิงสนับสนุน จ่าสิบเอกอโณทัยได้นำกำลังเข้าวางตัว และเข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บของชุดบราโว่ ก่อนเข้าไปประจำที่แล้วยิงตอบโต้กัมพูชาที่ตีโอบ ขณะกำลังเคลื่อนที่เจาะเส้นทางซึ่งเป็นป่าและก้อนหินไปด้านหน้า ท่ามกลางการระดมยิงอย่างต่อเนื่อง ได้มีระเบิดขว้างไม่ทราบชนิดตกบริเวณด้านหลังพื้น ลูกระเบิดได้ระเบิดก่อนตกถึงพื้น ทำให้สะเก็ดระเบิดสาดใส่กำลังพลในชุดได้รับบาดเจ็บ 5 นาย เวลา 11.00 น. จ่าสิบเอกอโณทัยล้มลงกับพื้นทันทีและหมดสติไป   เขาได้รับการปฐมพยาบาลและพยายามส่งกลับสายการแพทย์แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา

3.สมรภูมิฐานตาสิงห์ ในวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เกิดการปะทะต่อเนื่องตลอดแนวชายแดน  เวลา 03.00 น. ของวันที่ 25 กรกฎาคม กัมพูชาเริ่มยิงอาวุธเข้าใส่ฐานปฏิบัติการฐานตาสิงห์ สิบโทศราวุฒิ นามสวัสดิ์ ได้รับคำสั่งให้ยิงตอบโต้ จนเวลาประมาณ 10.30 น. สิบโทศราวุฒิตรวจพบทหารกัมพูชาประมาณ 10 ถึง 20 นาย เคลื่อนที่เข้ามาทางทิศตะวันออกห่างประมาณ 200 เมตร ยิงด้วยปืนเอ็ม 79 และปืนเล็ก ความกล้าหาญของสิบโทศราวุฒิ สังเกตเห็นทหารกัมพูชา 3 ถึง 4 นายอยู่ใกล้ จึงตัดสินใจขยับตัวออกนอกบังเกอร์เพื่อใช้ปืนอาร์พีจียิงใส่ ทำให้ทหารกัมพูชาบาดเจ็บ  ในขณะที่กำลังจะกลับเข้าบังเกอร์มีระเบิดจากเครื่องยิงลูกระเบิดของกัมพูชาตกใกล้กับบังเกอร์ ทำให้สิบโทศราวุฒิได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณศีรษะและหมดสติ ถูกนำส่งโรงพยาบาลกันทรลักษ์ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

4.สมรภูมิภูมะเขือ กองร้อยจู่โจมได้รับการแจ้งเตือนภารกิจล่วงหน้าประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อเตรียมแผนผลักดันพื้นที่ภูมะเขือ หลังจากเกิดความขัดแย้งรุนแรงในพื้นที่ชายแดนหลังจากที่ได้รับแจ้งว่ามีการปะทะที่ปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควายในวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 กองร้อยจู่โจมได้เคลื่อนย้ายกำลังพลพร้อมรถบรรทุกและรถปฏิบัติการไปยังฐานปฏิบัติการภูมะเขือ  ท่ามกลางการยิงปะทะด้วยอาวุธวิถีตรงและวิถีโค้งตลอดเส้นทาง ฝ่ายเราได้ทำการลิดรอนอาวุธยิงสนับสนุนของกัมพูชาโดยอากาศยานไร้คนขับในคืนวันที่ 24 และ 25 กรกฎาคม จนเช้าวันที่ 25 กรกฎาคม กองร้อยจู่โจมได้รับคำสั่งให้เข้าตีที่หมายยอดภูมะเขือ สิบเอกจิรายุส อินทุมาน ในตำแหน่งนายสิบทำลายชุดจู่โจมที่ 1 หมวดจู่โจมที่ 1 ได้รับมอบหมายภารกิจในการลิดรอน ทำลายเสาสัญญาณ สะพานและกระเช้า และรวมทีมเจาะที่หมาย ในระหว่างทำการเจาะมีปืนเล็กของกัมพูชายิงมา สิบเอกจิรายุสได้ทำการยิงตอบโต้  และเมื่อทีมที่ 2 วางตัวเป็นฐานยิงให้ทีมที่ 1 แล้ว สิบเอกจิรายุสได้ลุกขึ้นโผตัวเป็นฐานยิง ทันใดนั้นกัมพูชายิงปืนเล็กสวนออกมาถูกสิบเอกจิรายุส อินทุมาน ล้มลงต่อหน้าเพื่อนร่วมทีม และเสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที การปฏิบัติการครั้งนี้สามารถยึดภูมะเขือได้ และสังหารทหารกัมพูชาเสียชีวิต 17 นาย สามารถทำลายเสาสัญญาณ กระเช้าลำเลียงพล และคลังเก็บอุปกรณ์ได้

5.สมรภูมิปราสาทโดนตรวล หลังเกิดการประทะตามแนวชายแดนวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 นั้นวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 มีการยิงสนับสนุนเพื่อสกัดกั้นตลอดทั้งวัน จนวันที่ 26 กรกฎาคม 2568 เวลา 08.30 น. กัมพูชาได้เปิดฉากยิงโดยรถถังและอาวุธวิถีโค้งใส่ฐานปฏิบัติการภูผา จนเกิดการปะทะกันอย่างรุนแรง พลทหารญาณพัฒน์ โคตรสาขา ในตำแหน่งพลยิงผู้ช่วยหมู่เครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 60 มิลลิเมตรที่ 2 ได้รับภารกิจให้ทำการยิงทำลายฝ่ายตรงข้ามเพื่อต่อต้านการเข้าตี และ เวลา 09.30 น. กัมพูชาได้เพิ่มเติมกำลังจำนวนมากพร้อมรถถังและอาวุธวิถีโค้งระดมยิงอย่างหนาแน่นและรุนแรง ทำให้มีกระสุนปืนตกในฐานหลายนัด พลทหารญาณพัฒน์ถูกแรงอัดกระแทกจากระเบิด แม้ได้รับคำสั่งให้ถอนตัวแต่เจ้าตัวปฏิเสธ และยังคงยืนหยัดทำหน้าที่อย่างกล้าหาญเพื่อยิงกดมาให้กัมพูชาเคลื่อนที่เข้ามาใกล้ ในระหว่างที่กำลังยิงต่อสู้มีกระสุนลูกระเบิดขนาด 82 มิลลิเมตรตกใส่บริเวณที่ตั้งปืน ทำให้พลทหารญาณพัฒน์ถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่หน้าอกและเสียชีวิตทันที

6.สมรภูมิสัตตะโสม วันที่ 26 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.45 น. เกิดการยิงจากฝ่ายกัมพูชาเข้ามาบริเวณปราสาทตาเมือนธม จากการยิงตอบโต้โดยรถถัง T-44 อย่างหนักมายังจุดตรวจการณ์พ้าอัน ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของกัมพูชา จ่าสิบเอกธวัชชัย บุสภา ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่จุดตรวจการณ์พ้าอัน  ได้รับอันตรายจากถูกกระสุนรถถัง T-44 และเสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที

7.สมรภูมิปราสาทตาเมือนธม วันที่ 26 กรกฎาคม 2568 สิบเอกอัมรินทร์ ผาสุข ในตำแหน่งหัวหน้าชุดยิงของหมู่ปืนเล็กที่ 3 ได้รับภารกิจวางกำลังต่อสู้ต้านทานทหารกัมพูชาที่พยายามเข้าตีฐานที่มั่นบริเวณฐานปฏิบัติการหมุดน้ำเงิน ในระหว่างยิงต่อสู้ สิบเอกอัมรินทร์ ผาสุข ถูกแรงอัดระเบิดจากกระสุนเครื่องยิงลูกระเบิดไม่ทราบชนิด ได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้าเล็กน้อย  และตัดสินใจกลับเข้าแนวรบอีกครั้งหลังรักษาตัวที่โรงพยาบาลสนาม จนวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 เวลา 09.00 น. ทหารกัมพูชาเสริมกำลังและระดมยิงอาวุธนานาชนิดเข้าใส่อย่างหนักเพื่อแย่งยึดพื้นที่ปราสาทตาเหมือนธม ในระหว่างการต่อสู้มีกระสุนเครื่องยิงลูกระเบิดไม่ทราบขนาดตกบริเวณหลังบังเกอร์ที่จ่าสิบเอกอัมรินทร์ประจำอยู่ สะเก็ดระเบิดพุ่งเข้าใส่บริเวณศีรษะทำให้หมดสติ เขาถูกส่งโรงพยาบาลสนาม แต่เนื่องจากได้รับบาดเจ็บรุนแรงจากสะเก็ดระเบิดบริเวณศีรษะซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญ ทำให้เสียชีวิตในเวลาต่อมา

พลทหารพิทยุตม์ โสดา ตำแหน่งพลปืนเล็ก  หมู่ปืนเล็ก หมวดปืนเล็ก กองพันทหารราบที่ 4 กรมทหารราบที่ 23 วันที่ 23 สิงหาคม 2568 มีภารกิจให้จัดชุดลาดตระเวนพิสูจน์ทราบแนววางกำลังของฝ่ายกัมพูชาบริเวณฐานปฏิบัติการปราสาทตาเมือนธม จำนวน 7 นาย โดยให้สิบเอกชัยบุญ นวนจันทร์ เป็นหัวหน้าชุด โดยพลทหารพิทยุตม์ โสดา เป็นลูกชุด ในการปฏิบัติภารกิจตั้งแต่เวลา 08.30 น. ซึ่งการปฏิบัติการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และได้แยกย้ายพักผ่อนตามอัธยาศัย จนเวลา 16.30 น. จากการตรวจสอบยอดกำลังพลปรากฏว่าพลทหารพิทยุตม์ไม่อยู่ในฐานปฏิบัติการและไม่มีผู้พบเห็น จึงได้ออกตามหา  จนกระทั่งเวลา 17.15 น. มีกำลังพลพบร่างของพลทหารพิทยุตม์นอนหมดสติอยู่ในห้องสุขาบริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม ในลักษณะท่านอนตะแคง จึงได้แจ้งหมวดเสนารักษ์เขาช่วยเหลือ ปรากฏว่าพลทหารพิทยุตม์ได้เสียชีวิตก่อนหน้าแล้ว

8.สมรภูมิพื้นที่ซำแต วันที่ 28 กรกฎาคม เวลา 14.30 น. กองกำลังทหารกัมพูชาที่อยู่หน้าฐานปฏิบัติการของไทยได้เตรียมเปิดฉากการยิงด้วยเครื่องยิงลูกระเบิดและปืนเล็ก พร้อมกับเติมกำลังพลประมาณ 100 นายขึ้นหน้าแนวปะทะก่อนข้อตกลงหยุดยิงจะมีผลเวลา 14.50 น. มีกระสุนปืนใหญ่ไม่ทราบชนิดตกบริเวณฐานปฏิบัติการป่ามัน  และกัมพูชาพยายามเข้าตีฐานปฏิบัติการของไทย  พลทหารสิรวิชญ์ ภิญโญสุข ปฏิบัติหน้าที่พลกระสุน ป้อนกระสุนให้พลยิงปืนกลอย่างต่อเนื่อง ขณะปะทะมีกระสุนปืนใหญ่ตกบริเวณรอบฐานอย่างหนัก รวมถึงกระสุนไม่ทราบชนิดที่ยิงใส่รังปืนกลที่พลทหารสิรวิชญ์ประจำอยู่ ด้วยความกล้าหาญไม่เกรงกลัวต่อกระสุนที่ยิงเข้ามา พลทหารสิรวิชญ์ถูกกระสุนปืนไม่ทราบชนิดยิงเข้าใส่ที่บริเวณศีรษะ ลำคอ หน้าอก ทำให้เสียชีวิตในเวลาต่อมา

9.สมรภูมิฐานแดนไกล วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 กัมพูชาเปิดฉากยิงเข้ามาในบริเวณเขาพระวิหารและช่องอานม้า จนวันที่ 28 กรกฎาคม เวลา 21.00 น. ทหารกัมพูชาเพิ่มเติมกำลังและได้รับแจ้งจากฐานทหารพรานซึ่งเป็นหน่วยข้างเคียงว่ามีโดรนทิ้งระเบิดของทหารกัมพูชาจำนวนมากในพื้นที่หน้าแนว หน่วยจึงได้จัดชุดลาดตระเวนตรวจการณ์และพยายามยิงทำร้ายโดรนเหล่านั้น แต่เนื่องจากมีโดรนจำนวนมากและการตรวจการณ์จำกัด ทำให้ชุดลาดตระเวนทั้งหมด 13 นายได้รับบาดเจ็บ โดยบาดเจ็บสาหัส 3 นาย ทำให้สิบโทต่อพงษ์ พันดวง บาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

10.สมรภูมิช่องสายตะกู ตั้งแต่เริ่มมีการปะทะในวันที่ 24 กรกฎาคม กองบังคับการกองร้อยทหารราบที่ 251 ซึ่งตั้งอยู่บริเวณฐานทหารพราน 2604 ช่องสายตะกู มีหน้าที่บังคับบัญชาและตั้งรับ จนวันที่ 28 กรกฎาคม เวลาประมาณ 18.00 น. ได้เกิดการปะทะกันอย่างประปรายระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา จ่าสิบเอกธีระยุทธ สีจุ้ยจ้าย ซึ่งเป็นจ่ากองร้อย ได้ช่วยผู้บังคับกองร้อยบังคับบัญชาและสั่งการให้กำลังพลในฐานปฏิบัติการเข้าที่กำบัง

จากการยิงกระสุนปืนใหญ่ของกัมพูชาตกบริเวณโดยรอบฐาน ด้วยความกล้าหาญ จ่าสิบเอกธีระยุทธวิ่งตามแนวคูติดต่อเพื่อกำชับกำลังพลให้เข้าที่มั่นแข็งแรง เพื่อความปลอดภัยจากการโจมตีทางอากาศ และฝ่ากระสุนปืนเล็กเข้าไปบังคับบัญชาทหารที่อยู่ในบังเกอร์ ระหว่างกำกับดูแลและบังคับบัญชาได้มีกระสุนปืนใหญ่และปืนเล็กของฝ่ายกัมพูชายิงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง มีกระสุนปืนใหญ่ตกไม่ทราบทิศทางเข้ามายังบริเวณฐานปฏิบัติการ ทำให้จ่าสิบเอกธีระยุทธได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการถูกสะเก็ดระเบิด ถูกนำส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

11.สมรภูมิฐานตาฮอง วันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ในขณะที่มีการเจรจาหยุดยิงในเวลา 24.00 น. 14.00 น. ฝ่ายกัมพูชาพยายามรุกรานอธิปไตยโดยการโจมตีด้วยอาวุธหลายชนิดเพื่อยึดภูมิประเทศสำคัญบริเวณฐานปฏิบัติการตาฮอง 2 จ่าสิบเอกอภิรมย์ ทรงพุฒิ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ผู้บังคับหมู่ปืนเล็กที่ 3 ได้สั่งการให้กำลังพลยิงต่อสู้ ท่ามกลางกระสุนปืนใหญ่แตกอากาศเข้ามายังฐาน ทำให้มีกำลังพลได้รับบาดเจ็บ และได้รับแจ้งว่าปืนกลสนับสนุนติดขัด จ่าสิบเอกอภิรมย์สั่งการให้กำลังพลยิงกดอย่างต่อเนื่อง และพยายามวิ่งฝ่าแนวกระสุนปืนใหญ่และลูกระเบิดเพื่อเข้าไปช่วยเหลือพลยิงปืนกล ในระหว่างเคลื่อนที่มีกระสุนปืนใหญ่ไม่ทราบชนิดตกบริเวณฐาน ทำให้จ่าสิบเอกอภิรมย์ถูกสะเก็ดระเบิด แต่เขายังคงนำกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บเข้าที่กำบังปลอดภัยจนเป็นเหตุให้ตนเองทนพิษบาดแผลไม่ไหวและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

และในฐานปฏิบัติการเดียวกันนี้ ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม เริ่มการปะทะอย่างต่อเนื่องตลอดแนวชายแดน จนถึง 28 กรกฎาคม การปะทะยังคงต่อเนื่องอย่างหนาแน่นตลอดทั้งวัน จนกระทั่งเวลา 22.00 น. ฝ่ายกัมพูชาพยายามแทรกซึมเข้าตีเพื่อยึดพื้นที่ก่อนคำสั่งหยุดยิง มีการปะทะด้วยปืนเล็กยาวอย่างต่อเนื่องจนถึงเวลา 23.30 น. กัมพูชายิงเครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 82 มิลลิเมตรลงพื้นที่ฐานปฏิบัติการตาฮอง 2 ทำให้พลทหารธีรยุทธ กระจ่างทอง ซึ่งกำลังยิงปะทะเพื่อต้านทานได้รับบาดเจ็บจากอาวุธเครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 82 มิลลิเมตร  โดยวิธีกระสุนเข้าบริเวณจุดสำคัญอวัยวะภายในของร่างกาย ทำให้เสียชีวิตในเวลาต่อมา.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ยึดเนิน350ได้แล้ว! ร่าง2ทหารกล้ากลับมาตุภูมิ/ส่งสัญญาณเตือนชนชั้นนำเขมร

ข่าวดี! ทหารไทยควบคุมเนิน 350 ได้แล้ว อยู่ระหว่างการสถาปนาความมั่นคง นำร่าง 2 วีรบุรุษกลับมาตุภูมิ ขณะที่กองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ ตรวจพบการปะทะเป็นระยะ

พท.ผวา ‘มันนีโพลิติกส์’

พรรคประชาชนเดินหน้าฝันแลนด์สไลด์ได้ สส. 250 ที่นั่ง จัดตั้งรัฐบาลประชาชน ดูจากตัวเลขผู้บริจาคให้พรรคมากกว่าแสนคน ขณะที่เพื่อไทยต้อนรับทีมสุวัจน์

คืนอธิปไตยสู่มาตุภูมิ! 'แม่ทัพกุ้ง' ผู้แทน ผบ.ทบ. ตรวจแนวรบปราสาทตาควาย-เนิน 350

พลโท บุญสิน พาดกลาง ผู้แทนผู้บัญชาการทหารบก ลงพื้นที่ตรวจแนวหน้าการสู้รบ ณ ปราสาทตาควาย และบริเวณ เนิน 350 ในพื้นที่อำเภอ พนมดงรัก จังหวัด สุรินทร์ เพื่อตรวจสภาพพื้นที่จริง หลังถูกใช้เป็นฐานที่มั่นของฝ่ายตรงข้าม พร้อมติดตามผลการปฏิบัติการที่กองกำลังไทยสามารถผลักดันผู้รุกรานและยึดคืนพื้นที่อธิปไตยได้อย่างสมบูรณ์

ร่าง 'จ่าเริง' ถึงมาตุภูมิพรุ่งนี้ ภรรยาเผยนำศพลงมาไม่ได้ เพราะสามีสัญญาไว้ต้องยึดเนิน 350 ให้ได้ก่อน

แม่จ่าเริง ทหารพลีชีพเนิน 350 ภูมิใจทหารทุกนายที่ทำสำเร็จได้เนิน 350 คนมา ขอให้รบชนะแบบเบ็ดเสร็จโดยเร็ง และให้ประเทศไทยมีแต่ความสงบสุขหลังจากนี้ ผู้ว่าฯเผยการเตรียมจัดงานพร้อมทุกอย่างแล้ว ร่างมาถึงพรุ่งนี้