รอจังหวะไล่‘เขมร’ ทัพภาค1-ตำรวจสแตนด์บาย/อนุทินวอนเข้าใจคนทำงาน

"นายกฯ" ถก "สมช." หารือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำจุดยืน 4 ข้อ  อุบแย้มแผนบอกเรื่องลับสุดยอด ย้ำไทยพร้อมทุกอย่าง "กองทัพภาคที่ 1" ประเดิมดีเดย์ 10 ต.ค.  ส่งรถหุ้มเกราะ D5 พร้อม 4 ชุดตรวจค้นวัตถุระเบิด ลุยพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว 38,256 ตร.ม. เก็บกู้ทุ่นระเบิด จัด คฝ.1 กองร้อยสแตนด์บายเฝ้าระวัง  หลัง "เขมร" ขนทั้งพระ-ชาวบ้านประชิดชายแดน  ตั้งกล้องถ่ายทุกความเคลื่อนไหว "ไทย" ไหวตัวทันนำคณะ IOT ดูการปฏิบัติงานจริง "รมช.กลาโหม"  เช็กกำลังพล-ยุทโธปกรณ์ค่ายสุรสิงหนาท "อนุทิน" รับต้องละมุนละม่อมไม่ให้เข้าทางฝ่ายตรงข้าม ขอ ปชช.เข้าใจคนทำงาน "พิธา" จี้ถามรัฐบาล เหตุใดต้องทำประชามติเลิก MOU ไม่ใช้กลไกรัฐสภา

ที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) วันที่ 10 ต.ค.2568 เวลา 10.00 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ครั้งที่ 13/2568 โดยมีนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.การต่างประเทศ, พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รมว.ยุติธรรม, นายไชยชนก ชิดชอบ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รมช.กลาโหม และหน่วยงานความมั่นคง เข้าร่วมประชุม

นายสีหศักดิ์กล่าวถึงกรณีนายโดนัลด์ ทรัมป์  ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ทำหนังสือถึงนายกฯ เรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาว่า หากอยากช่วยให้เห็นสันติภาพจริงๆ เราก็มีแนวทางตามที่นายกฯ  ระบุไว้แล้ว ซึ่งในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศ ก็มีบทบาทในการพูดคุยกับทางสหรัฐอยู่

ภายหลังการประชุมกว่า 1 ชม. นายอนุทินให้สัมภาษณ์ว่า การประชุมเป็นเรื่องของความมั่นคง  เราพูดถึงเรื่องบ้านเมืองของเรา ขอให้เลขาฯ สมช.เป็นผู้แถลงดีกว่า เมื่อถามว่ามีโอกาสที่นายกฯ จะลงพื้นที่บ้านหนองจานและหนองหญ้าแก้วด้วยตัวเองหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า จะลงในเวลาที่เหมาะสม เรามีความพร้อมทุกอย่าง

ถามถึงแผนที่กองทัพบกเสนอมาเรื่องบ้านหนองจานรับได้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตอบไม่ได้ เรื่องอะไรที่เป็นความลับสุดยอดเราก็ต้องให้ความสำคัญ เมื่อถามย้ำว่าแผนที่เสนอมาเป็นที่น่าพอใจใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า มีความพร้อมครับ ซักว่าหลายฝ่ายกังวลจะเกิดความขัดแย้งในพื้นที่ นายกฯ ไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าว เมื่อถามอีกว่า แผนที่กองทัพบกเสนอมาจะกระทบต่อภาพลักษณ์ในสายตาชาวโลกหรือไม่ นายกฯ ไม่ตอบพร้อมกับเดินออกจากวงให้สัมภาษณ์ทันที

ด้านนายฉัตรชัย บางชวด เลขาฯ สมช. กล่าวว่า ที่ประชุมได้ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยย้ำจุดยืนเดิม 4 ข้อที่นายกฯ แถลงไว้คือ กัมพูชาต้องถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ ต้องเก็บกู้กับระเบิด ต้องร่วมมือปราบปรามอาชญากรรม และความร่วมมือในการบริหารชายแดนที่มีปัญหา วันนี้เป็นการติดตามสถานการณ์ในภาพรวม

ถามว่า ได้พูดคุยเกี่ยวกับการจัดการพื้นที่บ้านหนองจานที่กองทัพบกเสนอแผนมาหรือไม่ นายฉัตรชัยกล่าวว่า วันนี้เป็นเพียงติดตามสถานการณ์ เน้นจุดยืนเดิม 4 ข้อ ให้ทุกหน่วยงานไปปฏิบัติในจุดยืนนี้ ส่วนการขอคืนพื้นที่ ทหารดำเนินอยู่ตามขั้นตอนที่วางไว้ ไม่ได้ลงลึกในรายละเอียด

เลขาฯ สมช.กล่าวว่า ส่วนอีกเรื่องคือการติดตามสถานการณ์ชายแดนภาคใต้ ได้มีแนวความคิดเป็นหลักการณ์ว่าเราจะจัดตั้งผู้แทนพิเศษของรัฐบาลขึ้นมาเป็นกลไกเชื่อมการทำงานระหว่างฝ่ายนโยบายกับฝ่ายปฏิบัติในพื้นที่ให้สอดคล้องกัน  เนื่องจากรัฐบาลมีเวลา 4 เดือน ไม่เกิน 1 ปี ต้องการให้มีกลไกนี้เป็นจุดเชื่อมสำคัญกำหนดเป้าหมายการทำงานที่ชัดเจนในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ในเวลาที่จำกัด

"คณะทำงานที่ว่าขณะนี้ยังไม่ได้เคาะชื่อออกมา สมช.จะพิจารณาองค์ประกอบที่เหมาะสม ทั้งบุคคลผู้ทรงคุณวุฒิ รวมถึงผู้แทนที่เกี่ยวข้องอีกทีหนึ่ง วันนี้เพียงแต่อนุมัติหลักการ โดยจะพยายามเร่งออกมาให้เร็ว" เลขาฯ สมช.ระบุ

ลุยกู้ทุ่นระเบิดหนองหญ้าแก้ว

เพจ “กองทัพบก ทันกระแส” โพสต์ข้อความระบุว่า “บ้านหนองจาน บ้านหนองหญ้าแก้ว คือเขตอธิปไตยไทย #ส่งใจให้ทหารไทยทวงคืนอธิปไตย” เนื้อหาระบุ  “กัมพูชาส่งหนังสือตอบกลับให้กองทัพภาคที่ 1 ระงับการเก็บกู้ทุ่นระเบิด เนื่องจากไม่สอดคล้องตามเจตนารมณ์จากข้อตกลงการประชุม GBC ต้องรอการตัดสินใจจากระดับสูง” “ระงับอะไร? นั่นพื้นที่อธิปไตยไทย”

จ.สระแก้ว แม้จะมีข่าวกัมพูชาส่งหนังสือตอบกลับกองทัพภาคที่ 1 ระงับการเก็บกู้ทุ่นระเบิด เนื่องจากไม่สอดคล้องตามเจตนารมณ์จากข้อตกลงการประชุม GBC ตามที่ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 ส่งหนังสือถึงผู้บัญชาการกองพลน้อยทหารราบที่ 51 ของกัมพูชา เรื่องการเก็บกู้ทุ่นระเบิดดังกล่าวในวันที่ 10 ต.ค.2568 นั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้ากองกำลังบูรพาได้เริ่มเข้าเก็บกู้ทุ่นระเบิด พร้อมทั้งเข้าควบคุมและรักษาความปลอดภัยพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว รวม 38,256 ตารางเมตรแล้ว

อย่างไรก็ตาม กองกำลังบูรพาใช้โดรนบินตรวจพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ มีชาวกัมพูชาจำนวนมากทั้งในเครื่องแบบทหาร ประชาชน และพระสงฆ์ออกมารวมตัวบริเวณแนวรั้วฝั่งกัมพูชา รวมทั้งมีสื่อมวลชนกัมพูชามาตั้งกล้องถ่ายภาพความเคลื่อนไหวฝั่งไทย

ทั้งนี้ กองกำลังบูรพาได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดเคลื่อนที่เร็วเดินทางเข้าประจำแนวหน้า เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์และเตรียมพร้อมรับมือหากมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้น พร้อมประสานหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่เพิ่มการลาดตระเวนตลอดแนวชายแดน

เวลา 13.00 น. พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รมช.กลาโหม ลงพื้นที่จังหวัดสระแก้ว รับฟังสรุปสถานการณ์ในห้วงที่ผ่านมา และการปฏิบัติงานที่สำคัญ รวมถึงแผนปฏิบัติของ กกล.บูรพา ณ ห้อง ประชุม ร.12 พัน.3 รอ. พร้อมมอบนโยบายการปฏิบัติงาน จากนั้นเดินทางไปยัง ร้อย.ฉก.ตชด.4 ต.โนนหมากมุ่น มอบสิ่งของให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติภารกิจ ทั้ง ชค.ทพ.13, ชค.ตชด.12, อส., อคฝ. และ จนท.ป่าไม้ ส่วน พล.ท.วรยส เหลืองสุวรรณ แม่ทัพภาคที่ 1 ได้ติดตามสถานการณ์อยู่ที่ กกล.บูรพา

พล.ท.อดุลย์ให้สัมภาษณ์ว่า เดินทางมาดูความพร้อมของกำลังพลและยุทโธปกรณ์ รวมถึงแผนในการปฏิบัติให้ถูกต้องตามหลักสากล ซึ่งพบว่ามีความพร้อมทั้งหมด ขอให้เชื่อมั่นกำลังพลของเรา รอเพียงเวลาที่เหมาะสม ขอยืนยันว่าพร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาผืนแผ่นดินของไทย

ถามว่า กัมพูชาทำหนังสือโต้แย้งไทยในการเข้าเก็บกู้ทุ่นระเบิด พล.ท.อดุลย์กล่าวว่า เป็นขั้นตอนกระบวนการที่ต้องดำเนินการในพื้นที่ของเรา ซึ่งการเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่ปฏิบัติการทางทหารนั้น เป็นเรื่องปกติที่ดำเนินการกันทั้งโลก ยืนยัน 100% ว่าดำเนินการในพื้นที่ของไทย

ซักว่ากัมพูชาอ้างข้อตกลงจีบีซี ซึ่งสองฝ่ายเห็นชอบให้หาข้อสรุปในเจบีซี รมช.กลาโหมกล่าวว่า เราเดินมาในแนวทางที่ถูกต้อง ใช้กลไกในระดับกระทรวงกลาโหม พื้นที่และจังหวัดประสานให้ส่งแผนอพยพคน แต่กัมพูชาก็ไม่ทำ กลับไปยั่วยุบิดเบือนข้อเท็จจริง แสดงบทเหยื่อในบนเวทีโลก

รมช.กลาโหมเช็กยุทโธปกรณ์

 “ผมเข้าใจในความอึดอัดของพี่น้องประชาชน ผมก็อึดอัด ทหารที่แนวหน้า ผู้ว่าราชการจังหวัดก็อึดอัด ที่ผ่านมาในระดับอาร์บีซีเขาก็ไม่ตอบรับเลย จีบีซีระดับกระทรวงกลาโหม และเจบีซีของกระทรวงการต่างประเทศก็ไม่ตอบรับเลย ซึ่งทั้ง 2 คณะจะทำพร้อมกัน ถ้ายังขัดข้องอีกเราก็ขอสงวนสิทธิ์ในการปกป้องอธิปไตยของชาติเรา ผมยืนยันว่าแผ่นดินไทยต้องเป็นของไทย เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ขอให้ส่งกำลังใจไปที่ทหารชายแดนให้เขามีอิสระทำงานอย่างเต็มที่ ผมเชื่อว่ารัฐบาล กองทัพ และประชาชนในวันนี้เราเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันหมดในการปกป้องอธิปไตยตามหลักสากล” พล.ท.อดุลย์กล่าว

เวลา 15.00 น. เจ้าหน้าที่จากกองทัพภาคที่ 1 ได้นำคณะผู้สังเกตการณ์ (IOT) ประจำราชอาณาจักรไทย เดินทางมาสังเกตการณ์พื้นที่ตามแนวชายแดน คณะผู้สังเกตการณ์ (IOT) ประจำราชอาณาจักรไทย เดินทางมาสังเกตการณ์ในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว เพื่อดูการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดฝ่ายไทยเข้าเคลียร์ทุ่นระเบิดในพื้นที่ดังกล่าว

กองทัพภาคที่ 1 ได้ชี้แจงให้คณะ IOT รับทราบถึงขั้นตอนดำเนินการจัดการพื้นที่ที่ชาวกัมพูชารุกล้ำเข้ามาในเขตอธิปไตยของไทย เป็นไปตามมาตรการบังคับใช้กฎหมาย ภายใต้กรอบกฎหมายไทยและหลักสากล

เอกสารข่าวกองทัพภาคที่ 1 สรุปสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา จ.สระแก้ว ถึงเวลา 15.00 น. ระบุว่า ในพื้นที่บ้านหนองจาน ฝ่ายไทยมีมวลชนกลุ่มพ่อค้าแม่ค้า รวมทั้งสื่อมวลชน ประมาณ 200 คน รวมตัวแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในการปกป้องอธิปไตยของไทยในพื้นที่ฝั่งตรงข้าม ฝ่ายกัมพูชามีมวลชนเข้ามาสมทบในพื้นที่ การปฏิบัติการที่สำคัญ หน่วยได้จัดกำลังระวังป้องกันในพื้นที่ตอนใน

ในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ฝ่ายไทยมีมวลชนจำนวนหนึ่งในพื้นที่ ยังไม่มีความเคลื่อนไหวที่สำคัญ ในพื้นที่ฝั่งตรงข้าม ฝ่ายกัมพูชาพบความเคลื่อนไหวประชาชนและมวลชน/ผู้สื่อข่าว ประมาณ 100 คน บริเวณรั้วลวดหนามและกระจายรอบหมู่บ้านเปรยจัน โดยมีทหาร ตำรวจและส่วนราชการ คอยอำนวยความสะดวกและการจัดระเบียบ สถานการณ์ทั่วไปปกติ

การปฏิบัติการที่สำคัญ หน่วยได้จัดกำลังกองร้อยควบคุมฝูงชน (คฝ.) 1 กองร้อย เข้าควบคุมและรักษาความปลอดภัยพื้นที่ เเละจัดชุดตรวจค้นวัตถุระเบิด 4 ชุด พร้อมอุปกรณ์ตรวจค้นเเละรถถากถางหุ้มเกราะ D5 ดำเนินการตรวจสอบค้นหาวัตถุระเบิดที่คาดว่าตกค้างในพื้นที่ปฏิบัติการฝ่ายไทย บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว โดยจะสามารถได้พื้นที่ปลอดภัย จำนวน 38,256 ตารางเมตร

นอกจากนี้ คณะผู้สังเกตการณ์ (IOT) ประจำราชอาณาจักรไทย เดินทางมาสังเกตการณ์ความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ตามแนวชายแดนของ จ.สระแก้ว รับทราบสถานการณ์ตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยกองทัพภาคที่ 1 ได้ชี้แจงให้คณะ IOT รับทราบถึงขั้นตอนดำเนินการจัดการพื้นที่ที่ชาวกัมพูชารุกล้ำเข้ามาในอธิปไตยของไทย เป็นไปตามมาตรการบังคับใช้กฎหมาย ภายใต้กรอบกฎหมายไทยและหลักสากล

ต่อกรณีฝ่ายกัมพูชา โดยกองพลทหารราบที่ 51 แจ้งให้ฝ่ายไทยระงับการเก็บกู้ระเบิดในพื้นที่บ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว อ้างละเมิดข้อตกลง GBC นั้น กองทัพภาคที่ 1 ขอยืนยันว่าฝ่ายไทยดำเนินการดังกล่าวในพื้นที่อธิปไตยของไทย ไม่ใช่พื้นที่อ้างสิทธิ์

กองทัพภาคที่ 1 โดย กกล.บูรพา กองร้อยควบคุมฝูงชน (คฝ.) และฝ่ายปกครอง ยังคงตรึงกำลังดูแลความเรียบร้อยของทั้ง 2 พื้นที่ สถานการณ์ภาพรวมยังไม่มีเหตุการณ์ใช้กำลังเข้าระงับเหตุ กองทัพภาคที่ 1 ยืนยันจะดำเนินการอย่างเด็ดขาดในห้วงวันเวลาที่ได้เปรียบ ทั้งนี้ พล.ท.วรยส เหลืองสุวรรณ แม่ทัพภาคที่ 1 ประจำในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา จ.สระแก้ว เพื่อติดตามการปฏิบัติของหน่วยและการรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด

อนุทินรับต้องทำละมุนละม่อม

เวลา 17.00 น. นายอนุทินให้สัมภาษณ์อีกครั้งถึงสถานการณ์ที่บ้านหนองจาน หนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ว่า ได้รับรายงานแล้ว ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย ตามกระบวนการที่ฝ่ายกองทัพร่วมมือกับฝ่ายปฏิบัติการรักษาอธิปไตยของเราอย่างเต็มที่ ตอนนี้ทราบว่าเริ่มมีการเก็บกู้ทุ่นวัตถุระเบิดที่ส่งผลอันตรายต่อคนไทยและชาวกัมพูชา ซึ่งทุ่นระเบิดจะมีในพื้นที่ที่คนสัญจรไปมาไม่ได้

ถามว่า นายวีระ สมความคิด นักเคลื่อนไหว  ออกมาระบุนายกฯ ปัดความรับผิดชอบ โยนให้ทหารและผู้ว่าราชการ จ. สระแก้ว เป็นคนดูแลในเรื่องดังกล่าว นายอนุทินหัวเราะหึๆ พร้อมกล่าวว่า "เขาไม่เข้าใจ ปากก็พูดไป ไม่ได้ทำอะไรเป็นประโยชน์กับบ้านเมือง วิจารณ์ไปได้ทั่วไปหมด แสงก็ริบหรี่ไม่ต้องไปหาหรอก ให้คนทำงานได้ทำงานดีกว่า

"ประชาชนทุกคนต้องให้กำลังใจไปยังผู้ปฏิบัติหน้าที่ เพราะทุกคนอยู่ในความกดดันหมด ต้องทำอย่างไรให้ละมุนละม่อมที่สุด และทำอย่างไรไม่ให้เขาสร้างสถานการณ์ เพื่อนำไปฟ้องประชาคมโลกว่าเราทำรุนแรงเกินกว่าเหตุ นี่คือสิ่งที่ผู้ปฏิบัติการทั้งหมดต้องมีการวางแผนและมีการเตรียมความพร้อมเป็นอย่างดี" นายอนุทินระบุ

ทั้งนี้ นายวีระลงพื้นที่บ้านหนองจานและหนองหญ้าแก้วติดตามสถานการณ์ พร้อมวิจารณ์นายกฯ ไม่เห็นด้วยที่นายอนุทินกล่าวว่า “คำว่าเส้นตายไม่เคยมีออกจากรัฐบาล” เพราะมองว่าเป็นการลอยแพผู้ว่าฯ และกองทัพ ทั้งที่ทั้งหมดคือคนของรัฐบาล เพราะต้องทำตามนโยบายของรัฐบาล

วันเดียวกัน เฟซบุ๊กเพจ “ส่องเขมร” โพสต์คลิปพร้อมข้อความระบุว่า “เมื่อวันที่ 05/10/68 ทหารเขมรประจำจุดแนวรบพื้นที่ปราสาทตาควาย ลงคลิปตัดลวดหนามหีบเพลงออก แต่แอดไม่แน่ใจว่าเป็นคลิปภาพใหม่หรือเก่าที่นำมาลง”

พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ชี้แจงว่า คลิปดังกล่าวกองทัพบกได้ตรวจสอบข้อมูลกับศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 แล้ว พบว่าแนวลวดหนามป้องกันตนเองของฝ่ายไทยถูกตัดในพื้นที่บริเวณทิศตะวันออกของ ปราสาทตาควาย ประมาณ 3 กิโลเมตร คาดว่าถูกตัดในช่วงเวลาใกล้เคียงกับการเผยแพร่คลิปวิดีโอดังกล่าว

สำหรับคลิปวิดีโอที่ปรากฏนี้ ถือเป็นหลักฐานหนึ่งที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่าฝ่ายกัมพูชายังคงละเมิดมาตรการหยุดยิง รวมถึงข้อตกลงของการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) อย่างต่อเนื่อง สวนทางกับการที่กัมพูชาพยายามแสดงออกหรือมีแถลงการณ์ต่างๆ ต่อเวทีโลก ที่ระบุว่ามีความจริงใจและต้องการหาทางออกด้วยสันติวิธี ทั้งที่เป็นฝ่ายเพิ่มความตึงเครียดและสร้างสถานการณ์ต่างๆ ในบริเวณพื้นที่ชายแดน

ด้านนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกณีรัฐบาลเตรียมเดินหน้าจัดให้มีการออกเสียงประชามติถามประชาชนว่าเห็นควรให้ยกเลิกข้อตกลง MOU 43-44 ระหว่างไทยและกัมพูชา ทั้ง 2 ฉบับหรือไม่ว่า ทำไมเรื่องนี้จึงใช้กลไกของรัฐสภาไม่ได้ เรื่องในระดับมหภาครัฐบาลต้องชี้แจงกันให้ชัดว่าเรื่องแบบใดใช้กลไกรัฐสภา โดยการประชุมลับ เรื่องแบบใดจึงทำประชามติ เพราะถ้าสมมติเป็นเรื่องสุดโต่งแล้วถามประชามติหมดเลย สุดท้ายแล้วกลไกรัฐสภาไม่ต้องมีเลยใช่หรือไม่ ญัตติไม่ต้องยื่นแล้วหรือไม่ ไม่ต้องมีกรรมาธิการในการศึกษาแล้ว

 “ดังนั้นเรื่องแรกระดับมหภาค ต้องบอกให้ได้ว่า เงื่อนไขของรัฐบาลชุดนี้คิดอย่างไร เงื่อนไขไหนที่ใช้กลไกรัฐสภาในการหาทางออกให้กับประเทศ กลไกไหนใช้ประชามติ ไม่เช่นนั้นก็จะลักลั่นกันแบบนี้ตลอดไป เรื่องที่สอง ระดับจุลภาค คือความเป็นเอกภาพสมานฉันท์กันของ ครม.ว่าสิ่งที่ นายบวรศักดิ์พูดนั้น รัฐมนตรีคนอื่นที่เกี่ยวข้องเห็นด้วยหรือไม่" นายพิธากล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อนุทิน' ยันยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วยังฟื้นฟูหาดใหญ่ต่อ จ่อขนนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน

'อนุทิน' ยอมรับยังกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่ ยัน ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วยังฟื้นฟู-เยียวยาต่อ หยอด อำนาจอยู่ที่ มท.1แล้ว 'นายกฯ คงไม่ขัดอะไร' เผยขั้นตอนนำผู้ประสบภัยกลับบ้าน ทำไปแล้วกว่า 90% จ่อขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียนพรุ่งนี้

'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ 'เบน สมิธ' ต้องรุกกลับปราบสแกมเมอร์ให้สิ้นซาก

'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่าพะวงกับรูปถ่ายร่วมเฟรม 'เบน สมิธ' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ อ้างไม่สนิท จี้ปฏิบัติให้จริง รุกกลับปราบ'แก๊งสแกมเมอร์' ให้ราบคาบจากไทย ลั่นรู้นะ คนปล่อยรูปหวังทำลายการเมือง