‘หนู’โวชนะศึก! แบะท่ายุบสภา ก่อน31ม.ค.69

"นายกฯ หนู" เอาฤกษ์เอาชัยนิมนต์ “สมเด็จธงชัย” ทำบุญส่วนตัวบนตึกไทยคู่ฟ้า ตีปี๊บชัยชนะศึกเมืองกาญจน์ บอกอะไรก็เกิดขึ้นได้ก่อนยุบสภา 31 ม.ค. ขณะที่ "อภิสิทธิ์" คืนถิ่น สักการะแม่พระธรณีก่อนถก กบ.บห.ชุดใหม่ เข็น 3 ขุนพลธุรกิจสะท้อนปัญหาประเทศ ด้าน "บิ๊กป้อม" ประกาศ พปชร.ยังอยู่และจะสู้กันต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันอังคารที่ 21 ต.ค.นี้ ช่วงเวลา 07.30-08.00 น. ก่อนมีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย  จะเป็นประธานในพิธีทำบุญเป็นการส่วนตัวที่ตึกไทยคู่ฟ้า ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และถือโอกาสทำบุญตึกไทยคู่ฟ้า ซึ่งเป็นสถานที่ทำงานของนายกฯ เพื่อความเป็นสิริมงคล

โดยได้นิมนต์พระสงฆ์รวม 10 รูป มีเจ้าคุณธงชัย หรือสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง และกรรมการมหาเถรสมาคม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร มาทำพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ทั้งนี้ในวันดังกล่าวยังตรงกับวันธรรมสวนะหรือวันพระ ตามความเชื่อของคนไทยที่นิยมทำบุญเสริมดวง

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า พิธีทำบุญดังกล่าวเคยมีมาแล้วในสมัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี และนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อความเป็นสิริมงคลในการเข้าปฏิบัติหน้าที่นายกฯ

นายอนุทินให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรค ภท.ชนะการเลือกตั้งซ่อม สส. เขต 4 กาญจนบุรี ว่าอย่างน้อยเป็นนิมิตหมายที่ดีว่านโยบายหรือการทำงานของพรรค ภท.ได้รับความเชื่อมั่นในสายตาของพี่น้องประชาชนใน จ.กาญจนบุรี หวังว่าสิ่งที่เราทำให้พี่น้องประชาชนจะไม่ได้มีผลเฉพาะพี่น้องใน จ.กาญจนบุรีเท่านั้น แต่จะมีผลกับประชาชนทั่วประเทศ

เมื่อถามว่า การชนะพรรคเพื่อไทย (พท.) ในการเลือกตั้งซ่อม สส.ทั้ง 2 เขตที่ผ่านมา ทั้งที่ศรีสะเกษและกาญจนบุรี ทำให้มองได้ว่ากระแสพรรค ภท.ดีกว่าพรรค พท.หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า เราพยายามทำงานให้มากที่สุด ให้ดีที่สุด เมื่อถามว่าตอนนี้พร้อมเลือกตั้งแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า พร้อมมาตั้งแต่ถอนตัวมาจากพรรคร่วมรัฐบาลเมื่อเดือน มิ.ย.แล้ว ถึงอย่างไรก็ต้องพร้อม เพราะ 31 ม.ค. 69 นั่นคือช้าที่สุด อะไรก็เกิดขึ้นได้ 

เมื่อถามย้ำที่บอกอะไรก็เกิดขึ้นได้ มีปัจจัยอะไรที่จะทำให้ยุบสภาก่อนวันที่ 31 ม.ค. 69 นายอนุทินกล่าวว่า มันก็มีหลายๆ เรื่อง

ต่อมาเวลา 18.00 น. นายอนุทินให้สัมภาษณ์อีกครั้ง ถึงข้อสังเกตในการตัดสินใจยุบสภาก่อนครบ 4 เดือนว่า  เรื่องการยุบสภาเป็นอำนาจของนายกฯ แล้วตนจะต้องมาบอกสื่อหรือว่าตนจะยุบเมื่อไหร่ นั่นเป็นอำนาจของตน

 “ถ้าผมอยากจะหนี ผมก็หนี ถ้าผมอยากจะอยู่ ผมก็อยู่ เพราะผมรู้ว่าวันสุดท้ายของผมถึงวันไหน แต่ถ้าเกิดดูแล้วมันไม่ไหว มันก็มีอำนาจของความเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่" นายกฯ ระบุ

 เมื่อถามว่า หากยุบสภาก่อนแล้วการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเป็นอย่างไรต่อไป นายอนุทินกล่าวว่า ถ้าถึงวันนั้นก็ให้ประชาชนตัดสิน

 ถามต่อว่า แล้วพรรคประชาชนจะไม่โวยหรือ นายอนุทินกล่าวว่า อ้าวตนก็พยายามรักษาตามสัญญา MOA ที่เราลงนามไว้ แต่ถ้าเกิดมีปัจจัยอื่นขึ้นมาก็ต้องช่วยกัน วันนี้การแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านวาระหนึ่งไปแล้ว มีการตั้งคณะกรรมาธิการเรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวถึงเวลาก็จะนำไปสู่กระบวนการแก้ไข รธน. แต่ว่าอำนาจนายกฯ ก็ยังมีอยู่ ถ้าไปไม่ไหวจริงๆ เราก็คืนอำนาจให้พี่น้องประชาชน ก็เป็นสิ่งที่เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย

ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นำทีมคณะกรรมการบริหารพรรคเข้าสักการะรูปปั้นแม่พระธรณีบีบมวยผม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำพรรค หลังได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่เมื่อวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยนายอภิสิทธิ์กล่าวในช่วงต้นของการประชุมกรรมการบริหารพรรคว่า ตนได้ติดต่อผู้ทรงคุณวุฒิทั้ง 3 ท่านเป็นการส่วนตัวแล้ว ได้แก่ ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, นายบรรยง พงษ์พานิช ประธานกรรมการบริหารกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร และนางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานกรรมการบริหารของดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น ซึ่งได้ตอบรับจะมาบรรยายให้กรรมการบริหารพรรค และเป็นการฝากการบ้านให้พวกเราทุกคน

 “ต้องการให้สังคมเห็น 2 อย่างคือ ภารกิจสำคัญที่สุดของพรรคการเมืองคือปัญหาของประเทศชาติบ้านเมือง ทุกวันนี้เราได้ยินน้อยมากที่พรรคการเมืองอื่นจะพูดถึงภาพใหญ่ของประเทศ จึงมั่นใจว่าทั้ง 3 ท่านอยากจะบอกกับเราว่าสถานะของประเทศเป็นอย่างไร” นายอภิสิทธิ์ระบุว่า 

นายอภิสิทธิ์เน้นย้ำว่า อีกประการหนึ่งเราไม่ต้องแสดงวิสัยทัศน์ เพราะอยากให้คนเห็นว่านักการเมืองก็ฟังคนเป็น และไม่ต้องพบว่าเรื่องนี้ทำอยู่แล้ว หรือเรื่องนี้ทราบแล้ว เพราะเราอยากให้มีคนมาสะท้อนให้เราเห็นจริงๆ ท่านเหล่านี้เป็นบุคคลที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้นำทางความคิดในสังคม โดยการนัดพบจะมีขึ้นในวันที่ 28 ต.ค. 68 เวลา 09.30 น.

"ผมก็เข้าใจข้อเท็จจริงทางการเมือง เพียงแต่เราก็ต้องพยายามให้ดีที่สุด เพราะเมื่อมาตั้งต้นกันใหม่วันนี้ ก็พยายามที่จะพูดคุย และเราพยายามอยากจะรักษาบุคลากรทางการเมืองของเราทุกคน แต่ธรรมชาติของการเมือง เมื่อมีการไปพูดคุยหรือเจรจาอะไรกัน ผมเข้าใจได้ เพราะผมก็ทํางานการเมืองแบบสุภาพบุรุษ เข้าใจดีว่าบางทีใครไปตกลงอะไรไว้ เราเห็นใจ เข้าใจเขา" นายอภิสิทธิ์กล่าว

ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้มีการเปิดที่ทำการพรรคใหม่ ตั้งอยู่เลขที่ 267/1 ถนนประชาราษฎร์สาย 1 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ ซึ่งย้ายจากอาคารรัชดา วัน ถนนรัชดาภิเษก พร้อมกับมีการประชุมคณะกรรมการพรรค ประกอบด้วย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรค

 นายภัครธรณ์ เทียนไชย รักษาการเลขาธิการพรรค น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.แรงงาน ในฐานะรองหัวหน้าพรรคและ สส.สระแก้ว นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค พล.อ.กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์ เหรัญญิกพรรคและนายทะเบียนพรรค ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี กก.บห., นายวัน อยู่บำรุง กก.บห. รวมไปถึงนายไพศาล พืชมงคล อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรี และ พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา อดีต รมว.กลาโหม พี่จะมาเป็นประธานยุทธศาสตร์พรรค

เป็นที่น่าสังเกตว่า กรรมการบริหารพรรคบางคนอย่างนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค ไม่ได้เข้าร่วมด้วย โดยมีรายงานว่า นายชัยวุฒิได้ลาออกจากสมาชิกพรรค เพื่อไปร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทยแล้ว อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายว่า จะมีการประชุมใหญ่เพื่อปรับโครงสร้างพรรคพปชร.และแก้ไขข้อบังคับพรรคช่วงกลางเดือน พ.ย.

จากนั้นเวลา 13.30 น. พล.อ.ประวิตรได้แถลงเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส.จำนวน 80 คน โดย พล.อ.ประวิตรให้สัมภาษณ์ว่า “ฝากบอกถึงสมาชิกพรรคทุกคน ไม่ต้องห่วง  ทำเต็มที่ พรรคยังอยู่ สู้กันต่อไป พร้อมสู้อยู่แล้ว”.