"ทรัมป์" บอกเตรียมโทร.หาผู้นำไทย-กัมพูชา โวสยบศึกได้แน่ “อนุทิน” เตรียมให้ “สีหศักดิ์” ร่วมพูดคุย ยันยุบสภาไม่มีผลกระทบเรื่องชายแดน กองทัพรับมีกฎหมายให้อำนาจไว้ ระอุต่อเนื่องวันที่ 5 ยังปะทะในหลายจุด สังเวยทหารกล้ารายที่ 10 แต่ยึดช่องอานม้าปักธงไทยได้สำเร็จ “สุรสันต์” แจงข่าวยกธงขาวไม่น่าเป็นความจริง ผงะ! เฉลยแล้วโดรนบอมบ์เลียนแบบมาจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน
เมื่อวันศุกร์ที่ 12 ธันวาคม 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวถึงการโทรศัพท์หารือกับไทยและกัมพูชาในวันพฤหัสบดี ตามเวลาท้องถิ่นในสหรัฐ หรือวันนี้ตามเวลาในไทย เกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างสองประเทศ โดยยอมรับว่า “ใช่ ผมต้องโทรศัพท์สักหน่อย ผมกำลังบอกว่าไทยและกัมพูชา หนึ่งในแปดสมรภูมิที่ผมไกล่เกลี่ยไปแล้ว พวกเขาสู้รบกันมานานมาก นานหลายสิบปีเลยทีเดียว แต่ผมก็เข้ากันได้ดีกับทั้งสองประเทศ พวกเขาเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยม เป็นคนดี และผมก็ไกล่เกลี่ยมันได้สำเร็จครั้งหนึ่ง ผมคิดว่าผมทำได้ค่อนข้างเร็ว ผมคิดว่าเราจะนัดโทรศัพท์คุยกับไทยพรุ่งนี้”
“ผมไกล่เกลี่ยสงครามมา 8 ครั้งแล้ว นานๆ ครั้งจะมีสงครามปะทุขึ้นมาอีก และผมก็ต้องดับไฟเล็กๆ นั้น ต้องดับมัน เราจะดับมันให้ได้ ผมคิดว่าผมสามารถทำให้พวกเขายุติการสู้รบได้”
ด้านเดอะการ์เดียน สื่อชื่อดังของอังกฤษ รายงานว่า ความไม่มั่นคงทางการเมืองในประเทศไทย อาจทำให้การเจรจาระหว่างกัมพูชาและไทยในอนาคตมีความซับซ้อนขึ้น
ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวตอบผู้สื่อข่าวถึงการยุบสภาจะกระทบต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาหรือไม่ว่า ไม่กระทบครับ
ต่อมานายอนุทินให้สัมภาษณ์ถึงการนัดหารือกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าคืนนี้เวลา 21.20 น. จะหารือกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ โดยเป็นอัปเดตสถานการณ์หลังพูดคุยกันล่าสุดตอนที่เดินทางตามเสด็จฯ ที่ประเทศจีน ก็เป็นเวลาเกือบเดือนแล้ว แต่เรื่องการตัดสินใจดำเนินการอะไรต่างๆ นั้นเป็นเรื่องของรัฐบาลไทยที่สนับสนุนและมอบอำนาจให้กองทัพดำเนินการ
ต่อมาในช่วงบ่าย นายอนุทินได้หารือกับ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม และผู้บัญชาการเหล่าทัพ เพื่อเตรียมข้อมูลก่อนการหารือกับนายโดนัลด์ ทรัมป์
นายอนุทินให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า เป็นการรับฟังความคืบหน้าการดำเนินการ และได้ยืนยันว่าแม้จะยุบสภา แต่รัฐบาลยังทำหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินต่อไป ยังให้การสนับสนุนเหล่าทัพในการปกป้องอธิปไตยและดูแลประชาชนเหมือนเดิม เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าทุกอย่างยังมีประสิทธิภาพสูงสุด
เมื่อถามว่า กองทัพได้วางหลักการพูดคุยกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ หรือไม่ว่าอะไรยอมได้อะไรยอมไม่ได้ นายอนุทินกล่าวว่า มีการพูดคุยกัน และได้รับข้อมูลมา ซึ่งในการหารือคืนนี้จะเชิญนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.การต่างประเทศ มาเข้าสายด้วยกัน เพื่อให้เกิดการรับรู้อย่างเป็นทางการของรัฐบาลไทย
เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าในพื้นที่ทหารกัมพูชาบางส่วนยกธงขาวแล้ว ได้รับรายงานแล้วหรือยัง นายอนุทินกล่าวว่า ไม่ได้คุยเรื่องนี้ เรื่องของยุทธศาสตร์การตัดสินใจในการรักษาบูรณภาพของดินแดน ต้องขึ้นอยู่กับผู้บังคับบัญชาสูงสุดของฝ่ายกองทัพ และภายใต้มติของสภาความมั่นคงแห่งชาติ
ไม่เชื่อเรื่องยกธงขาว
ถามว่า จากการรับฟังรายงานของกองทัพมีการประเมินว่าไทยได้เปรียบหรือเสียเปรียบอย่างไร นายอนุทินกล่าวว่า “ผมว่าดีก็แล้วกัน” ส่วนกระแสข่าวมีทหารรับจ้างต่างชาติเข้ามาในกัมพูชานั้นยังไม่ได้รับรายงาน
ที่ศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ไทย-กัมพูชา พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวในเรื่องนี้ว่า จากสืบทราบและตรวจสอบก็ยังไม่มีการยืนยัน 100% ว่าเหตุผลที่เขาชักธงขาวมีนัยอย่างไรบ้าง
พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุว่า เป็นเรื่องที่เราติดตามอยู่ เพราะสัญลักษณ์ชูธงขาวนั้น ปกติจะหมายถึงการขอเจรจาหรือเป็นลักษณะการประนีประนอม แต่ในพื้นที่นั้นยังมีการยิงและปะทะกันอยู่ในบริเวณดังกล่าว จึงเชื่อว่าไม่ใช่สัญญาณการเจรจาหรือประนีประนอมต่างๆ เพราะทหารหน้าแนวยังมีการสู้รบกันอย่างต่อเนื่อง
พล.อ.อ.ประภาส สอนใจดี รอง ผบ.ทอ. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กล่าวเน้นย้ำว่า แม้มีการยุบสภา แต่การปฏิบัติการทางทหารเพื่อปกป้องดินแดนของฝ่ายไทยยังคงปฏิบัติหน้าที่ด้านความมั่นคงอย่างเต็มที่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันนี้
ด้าน พล.ร.ต.สุรสันต์กล่าวเสริมว่า การยุบสภาไม่ได้มีผลกระทบอะไรในอํานาจสั่งการของทหาร เนื่องจากทหารมีพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ.2551 ในการยึดถือปฏิบัติมีแนวทางปฏิบัติชัดเจน ไม่ได้เกี่ยวโยงกับประเด็นทางการเมืองที่มีการยุบสภา
พล.ร.ต.สุรสันต์ยังกล่าวถึงความคืบหน้าชายแดนไทย-กัมพูชาว่า ฝ่ายกัมพูชายังโจมตีฝ่ายไทยอย่างหนัก โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.สระแก้ว เราจำเป็นต้องตอบโต้เพื่อรักษาบูรณภาพแห่งดินแดนและอธิปไตยของไทยอย่างต่อเนื่อง
ด้าน พ.อ.ริชฌากล่าวว่า ในพื้นที่สระแก้ว ฝ่ายไทยได้คุมบ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง ได้เบ็ดเสร็จ ส่วนบ้านคลองแผง อ.ตาพระยา ที่ปรากฏภาพทหารไปร้องเพลงชาติ แต่ทหารกัมพูชาโจมตีโต้ตอบเข้ามาอย่างหนัก ใช้ BM-21 ถล่ม ทหารได้รับบาดเจ็บ จึงพิจารณาแล้วว่าบริเวณดังกล่าวไม่สามารถวางกําลังได้ จึงปรับการวางกําลังเข้ามา เป็นเหตุให้ทหารกัมพูชานําธงชาติของไทยลง แต่ไม่ต้องกังวล พื้นที่นี้อยู่ในความพยายามฝ่ายไทยเข้าควบคุมพื้นที่อีกครั้ง
พ.อ.ริชฌากล่าวต่อว่า พื้นที่คุมบางส่วน เช่น ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี ช่องคนา จ.สุรินทร์ ส่วนปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จังหวัดบุรีรัมย์ แม้สามารถทําลายการโจมตีและฐานทหารต่างๆ โดยรอบจํานวนมาก แต่ด้วยภูมิประเทศมีความยากลําบาก ทหารยังมีความพยายามที่จะเข้าปฏิบัติการควบคุมพื้นที่ให้ได้ โดยการประมาณการสูญเสียของทหารกัมพูชาทั้งในส่วนกองทัพภาคที่ 1 และกองทัพภาคที่ 2 ทำลายยานเกราะรถถัง 9 คัน โดรน 68 ลํา ระบบแอนตี้โดรน 1 ระบบ BM-21 จำนวน 1 คัน ทหารกัมพูชาเสียชีวิตไม่น้อยกว่า 165 นาย ไม่มีพลเรือนได้รับผลกระทบ
ด้านกองทัพภาคที่ 2 รายงานว่า มีเหตุการณ์ประทะตั้งแต่เวลา 06.00 น. โดยฝ่ายกัมพูชาได้ใช้อาวุธปืนใหญ่ยิงเข้ามายังฝั่งไทย และยังคงมีการปะทะอย่างหนักใน 12 พื้นที่ ได้แก่ ช่องบก, ช่องอานม้า, พลาญบั้งไฟ, พนมประสิทธิโส, เขาสัตตะโสม, ห้วยตามาเรีย, ภูมะเขือ, ช่องโดนเอาว์, พลาญหินแปดก้อน, พื้นที่ปราสาทคนา, พื้นที่ปราสาทตาเมือน และพื้นที่ปราสาทตาควาย โดยกัมพูชายังใช้วิธีการตอบโต้ด้วยจรวด BM 21 และปืนใหญ่ รวมถึงยังใช้โดรนทิ้งระเบิดอย่างต่อเนื่องที่ช่องอานม้า
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวจากฝั่งกัมพูชาว่า พลจัตวาพน ซารุม รองผู้บัญชาการกองพลน้อยสนับสนุนที่ 8 (รอง.ผบ.พลน้อย.สสน.8) ผู้บัญชาการกองพันสนับสนุนที่ 384 (ผบ.พัน.สสน.384) รับผิดชอบพื้นที่ตาซึม ตรงข้ามช่องโดนเอาว์ติดกับภูมะเขือ ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากกระสุนปืนใหญ่ฝ่ายไทย ขณะนี้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเปรียะเกตุมาลา กรุงพนมเปญ
ในเวลา 16.00 น. พล.ร.ต.สุรสันต์ระบุว่า ตั้งแต่เวลา 06.29 น. ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากโจมตีมายังฝ่ายไทย ทำให้เราจำเป็นต้องตอบโต้การรุกราน ซึ่งสถานการณ์ตลอดแนวชายแดน 7 จังหวัดยังมีการปะทะอย่างต่อเนื่อง และในเวลา 12.00 น. ฝ่ายกัมพูชาระดมยิงอาวุธหนักเข้ามาบริเวณช่องอานม้า ทำให้ทหารไทยจากกรมรบพิเศษที่ 1 เสียชีวิต 1 นาย โดยกองทัพบกได้ตอบโต้จนสามารถยึดเนิน 677 ที่ช่องอานม้าได้ 100% แม้มีกำลังพลเสียชีวิต ถือว่าเป็นวีรชนผู้เสียสละเพื่อชาติ ก็ขอแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวของผู้เสียชีวิตด้วย โดยเหตุการณ์ตรงนี้ยังไม่เสร็จสิ้น กัมพูชายังคงระดมยิงอาวุธสนับสนุนเข้ามา โดยฝ่ายเรายังดำรงการยิงต่อต้านเพื่อสถาปนาพื้นที่เอาไว้ เพราะยังไม่ไว้วางใจว่าทางกัมพูชาวางอาวุธแล้วหรือยัง และยังมีการปะทะอย่างต่อเนื่อง
ยึดช่องอานม้า 100%
ต่อมาในเวลา 17.30 น. ทหารไทยปักธงชาติไทยบนยอดเนิน 677 ได้แล้ว 100% ช่องอานม้า หน่วยดำเนินกลยุทธ์ เข้าเคลียร์พื้นที่สถาปนาปักธงชาติไทย ยึดที่หมาย A1-A6
เฟซบุ๊กเพจทีมโฆษก กอ.รมน. โพสต์ข้อความระบุว่า สดุดีวีรชนรายที่ 10 ส.อ.พชร รบพิเศษป่าหวาย ผู้พลีชีพกลางสมรภูมิช่องอานม้า ระบุว่า ขอแจ้งข่าวเศร้า และร่วมไว้อาลัยแด่ ส.อ.พชร แย้มแตงอ่อน ทหารกล้ารายที่ 10 ผู้เสียสละชีวิตเพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทย
ขณะที่ น.อ.นรา คุณโฑถม ผู้ช่วยโฆษกกองทัพเรือ ยืนยันปฏิบัติการเครื่องบิน F-16 บริเวณบ้าน 3 หลัง อ.ชำราก จ.ตราด เนื่องจากมีการตรวจพบมีการขุดคูเลตเป็นที่มั่นทางทหาร สร้างบังเกอร์ คอนกรีตที่อยู่ใต้ดิน เป็นภัยคุกคาม ทําให้เราไม่สามารถนําทหารราบนาวิกโยธินเข้ายึดที่หมายได้ และมีอาวุธสนับสนุนยิงมาจากเขตดินแดนของกัมพูชามายังพื้นที่เป้าหมาย
จากรายงานข่าวกรองทราบว่า กัมพูชาได้มีการเพิ่มเติมกําลังทางด้านจังหวัดจันทบุรีบริเวณด่านผักกาด ด่านจังหวัดตราด บ้านหนองลีบน ทําให้เห็นถึงความตั้งใจในการพยายามเป็นภัยคุกคาม ทําให้เรายังต้องดํารงการปฏิบัติการทางทหารต่อเนื่องต่อไป ทั้งนี้ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในการปฏิบัติการของเรา ทหารบก เรือ อากาศ ที่ทํางานเต็มที่ เพื่อความมั่นคงและอธิปไตยของชาติ
มีรายงานว่า ปฏิบัติการที่ F-16 ทิ้งระเบิดทำลายเป้าหมายบ้าน 3 หลัง ทำให้ทหารฝ่ายกัมพูชาที่หลบซ่อนอยู่ในแนวบังเกอร์และคูเลต เสียชีวิต 6 นาย
พล.ร.ต.สุรสันต์แถลงอีกว่า กองทัพเรือ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กองทัพเรือ ยังดำเนินยุทธการตราดปราบปรปักษ์ เพื่อต่อต้านการรุกรานของทางฝ่ายกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านท่าเส้น จังหวัดตราด ที่ฝ่ายกัมพูชาได้เพิ่มกำลังอาวุธหนักมาประชิดตามแนวชายแดน ขณะที่กองทัพอากาศก็ยังคงส่งกำลังสนับสนุนปฏิบัติการภาคพื้นดินของทั้งกองทัพบกและกองทัพเรือ ปฏิบัติการตลอดทั้งวัน
พล.ร.ต.สุรสันต์ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการนำตัวคนไทยที่ติดค้างในปอยเปตกลับไทยว่า กระทรวงต่างประเทศได้ประสานขอความร่วมมือไปทางฝ่ายกัมพูชาแล้ว ซึ่งฝ่ายกัมพูชายังไม่อนุญาตให้กลับมา โดย กต.ก็ยังไม่หยุดยั้งในการประสานงานไปยังฝ่ายกัมพูชาเพื่ออนุญาตให้คนไทยเดินทางกลับมาได้
นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศและรองโฆษก กต. กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ กต.ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ และทราบว่าได้ติดต่อไปแล้ว ยืนยันจะขอความร่วมมือฝ่ายกัมพูชาอย่างเต็มที่ และจะประสานให้คนไทยกลับบ้านได้
พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติเตรียมพร้อมแล้ว 100% ในการรับคนไทยทั้งหมดกลับประเทศทันทีที่การประสานงานประสบความสำเร็จ
วันเดียวกัน พล.ร.ต.สุรสันต์ยังกล่าวถึงภาพที่ฝ่ายกัมพูชานำมากล่าวอ้างว่าฝ่ายไทยยิงปืนใหญ่เข้ามาบริเวณโรงพยาบาลของกัมพูชาว่า เป็นภาพปลอม หากเป็นหัวกระสุนที่ถูกยิงมา สภาพหัวกระสุนต้องบิดเบี้ยว บุบสลาย ถือว่าเป็นภาพจัดฉากของฝ่ายกัมพูชา เพื่อให้ดูว่าเราโจมตีสถานพลเรือนต่างๆ นอกจากนี้ยังมีภาพเฟกนิวส์ที่สร้างโดยเอไอ ที่กล่าวว่ามีการตรวจพบกองกำลัง BHQ กัมพูชาแทรกซึมในพื้นที่ ถึงแม้ว่าสถานการณ์จะเป็นสถานการณ์จริง แต่ภาพที่นำมาเสนอเป็นภาพที่จัดทำขึ้นเพื่อสร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชน สังเกตได้ คนที่เดินเข้ามาการใส่หมวกของชาวตะวันตก ดูแล้วไม่น่าจะเป็นไปได้ในภูมิภาคเอเชีย
ด้าน พล.อ.ท.จักรกฤษณ์ ธรรมวิชัย โฆษก ทอ. กล่าวเสริมถึงคลิปที่ฝ่ายกัมพูชาเผยแพร่อ้างว่าเกิดจากผลกระทบ F16 รร.พระวิหาร ว่ายืนยันว่ากองทัพอากาศโจมตีเป้าหมายทางทหารทั้งหมด เราให้ความสำคัญต้องไม่กระทบกับพลเมือง หรือให้กระทบน้อยที่สุด ทั้งนี้ การเลือกเป้าหมาย เราพิจารณาอาวุธเป็นองค์ประกอบ เป้าหมายที่มีโอกาสใกล้เคียงพลเรือนใช้อาวุธที่มีความแม่นยำสูง อำนาจการทำลายล้างระเบิดขนาด 500 ปอนด์ ต้องใหญ่กว่าที่กัมพูชาขุดเอาไว้มาก เป็นความพยายามสร้างเฟกนิวส์ สร้างความชอบธรรมให้กับฝ่ายกัมพูชา
“ระเบิด 500 ปอนด์หากลงมาแถวนี้ ช่อง 5 จะหายไปทันที หาก 2,000 ปอนด์เท่ากับสนามฟุตบอล ถือว่าเป็นความพยายามที่ดูน่ารัก แต่ดูไม่สมเหตุสมผล ขอยืนยันทุกเป้าหมายที่เราเลือกให้เกิดผลกระทบ ขีดความสามารถ ลดทอนขีดความสามารถกัมพูชา และเสริมสร้างโอกาสที่ฝ่ายเราเข้าปฏิบัติการอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น”
โดรนจากสงครามยูเครน
มีรายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 แจ้งว่า จากการสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา 5 วันที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าฝ่ายกัมพูชาได้ใช้โดรนเป็นยุทโธปกรณ์ในการเข้าโจมตีฝั่งไทยเป็นจำนวนหลายครั้ง กระทั่งมีการตรวจพบว่าผู้ที่บังคับโดรนดังกล่าวไม่ใช่คนกัมพูชา จึงได้เก็บรวบรวมข้อมูลที่ได้ทั้งหมดมาวิเคราะห์จนชัดเจนว่า โดรนที่กัมพูชาใช้กับไทยคล้ายกับมีการใช้ในสงครามยูเครน-รัสเซีย
สำหรับโดรน FPV ในสงครามยูเครน-รัสเซีย เป็นตัวอย่างของอาวุธต้นทุนต่ำที่สร้างผลทำลายสูง โครงสร้างหลักประกอบด้วย 1.เฟรมคาร์บอนไฟเบอร์ 2.มอเตอร์ 4 ตัว และ 3.กล้อง FPV ที่เชื่อมต่อแว่นควบคุมแบบเรียลไทม์ ทำให้ผู้ควบคุมสามารถนำโดรนพุ่งเข้าหาเป้าหมายด้วยความแม่นยำสูงมาก ขณะเดียวกันยังมีการติดหัวรบขนาดเล็กหรือดัดแปลงจากกระสุนปืนใหญ่ ปืนกล หรือหัวรบ RPG ด้วยต้นทุนต่ำ แต่มีผลทางยุทธวิธีสูง
รานงานแจ้งอีกว่า เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับซากโดรนที่ทหารไทยยึดได้ในพื้นที่ช่องบกและช่องอานม้า พบว่ามีลักษณะใกล้เคียงกับโดรน FPV ที่ใช้ในสงครามยูเครน-รัสเซียอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเฟรมขนาด 5 นิ้ว, แบตเตอรี่ LiPo พร้อมหัวต่อ XT60, โครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์ และรูปแบบการติดหัวรบด้วยสายรัดและเคเบิลไทร์ รวมทั้งชิ้นส่วนภายในที่บ่งชี้ว่าเป็นโดรนพุ่งชน ไม่ใช่โดรนลาดตระเวน การตรวจจับสัญญาณยังพบการเข้ามาจากทิศทางกัมพูชาในห้วงเวลาเดียวกับการปะทะ ทำให้ยืนยันได้ว่าการโจมตีดังกล่าวมีแบบแผนและถูกควบคุมโดยผู้ที่มีความรู้ในระบบ FPV อย่างจริงจัง
“การนำโดรนทั้งระบบจากสมรภูมิยุโรปตะวันออกมายังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีความเป็นไปได้น้อย เนื่องจากข้อจำกัดด้านการขนส่งและการควบคุมยุทโธปกรณ์ระหว่างประเทศ สิ่งที่เป็นไปได้มากกว่าคือการนำความรู้ เทคนิค บุคลากร และต้นแบบการประกอบเข้ามาเผยแพร่ให้กัมพูชา ซึ่งเป็นรูปแบบที่พบทั่วไปในสงครามพร็อกซีในศตวรรษที่ 21 ความรู้ด้านการประกอบโดรน FPV และการฝึกนักบินสามารถถ่ายทอดได้รวดเร็ว และผู้เชี่ยวชาญสามารถเดินทางเข้าประเทศภายใต้สถานะพลเรือน เช่น นักกีฬาโดรน ช่างเทคนิค หรือที่ปรึกษาเอกชน พร้อมนำอุปกรณ์ควบคุมที่พกพาง่ายเข้ามาด้วยโดยไม่สะดุดสายตา หนึ่งในหลักฐานที่สนับสนุนข้อสันนิษฐานนี้คือการพบคำสั่งเสียงภาษาอังกฤษ เช่นคำว่า Finished ซึ่งไม่ใช่ภาษาที่ทหารกัมพูชาใช้ตามปกติ แต่เป็นสำนวนที่พบในการสื่อสารของนักบิน FPV ในสงครามยูเครน-รัสเซีย”.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กกต.รับสภาพ อาจเลื่อนยาว เลือกตั้ง2569
“ประธาน กกต.” นัด ครม.หารือคำถามประชามติ รับเป็นไปได้หย่อนบัตร 8 ก.พ.
‘ในหลวง-พระราชินี’ เสด็จฯปัญญาสมวาร
ในหลวง-พระราชินี พระบรมวงศานุวงศ์ ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลปัญญาสมวารถวายพระบรมศพ “พระพันปีหลวง”
ยุบสภา!ตามขอ ‘อนุทิน’ปัดหักหลังยึดMOA/‘เท้ง’เสียงแข็งไม่ไร้เดียงสา
ราชกิจจาฯ ประกาศ พ.ร.ก.ยุบสภา เตรียมเลือกตั้งใหม่ ไม่น้อยกว่า 45 วัน แต่ไม่เกิน 60 วัน “อนุทิน” แจงยุบสภา
นายกฯ คุยทรัมป์ รับสัญญาณลดภาษีสหรัฐฯ ให้ไทยดีกว่าประเทศอื่น ไม่ผูกปมชายแดน
12 ธันวาคม 2568 - เวลา 22.00น. ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย กล่าวการหารือทางโทรศัพท์กับ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดยมี นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ร่วมรับฟังการสนทนาด้วย
แฉทหารต่างชาติบังคับโดรน
วุ่นกักตัวคนไทยไม่ให้กลับประเทศ ทบ.ซัดการทูตปอยเปต ใช้พลเรือนเป็นข้อต่อรอง ด้าน กต.เร่งออกเอกสารด่วนให้คนไทยตอนในเดินทางออกทั้งทางบก-อากาศ
สามเณร-แม่ชี ร่วมน้อมรำลึก พระพันปีหลวง
พระราชวงศ์บำเพ็ญพระราชกุศลถวาย “พระพันปีหลวง” สามเณร-แม่ชีน้อย

