เคาะวันเลือกตั้ง8กพ. กกต.เปิดรับสมัคร27-31ธค. ก๊วนการเมืองไหลรวม‘ภท.’

ปี่กลองสนั่น! กกต.เคาะวันเลือกตั้ง 8 ก.พ. 69 เปิดรับสมัคร สส. 27-31 ธ.ค. “อนุทิน” ลั่นพร้อมเป็นพรรคอันดับหนึ่ง แบะท่าไม่ปิดประตูจูบปาก "พรรคส้ม" ขณะที่บ้านใหญ่-มุ้งการเมืองไหลมากองรวมกัน “แป๊ะ-เฮ้ง-ขิง-นิพนธ์-วราวุธ” เข้าแถวสมัครสมาชิกพรรคสีน้ำเงิน แกนนำฮึกเหิม ชูสโลแกน “พูดแล้วทำพลัส” ปลุกใจลูกพรรค ถ้าตั้งใจหาเสียงกวาด 200 ที่นั่งแน่ "ส้ม" อกหักลากไส้ยับ สุดทนพวกมากลากไป ขณะที่ “กล้าธรรม” ตีปีก "ก๊วนเฉลิมชัย" มาแน่ “เดชอิศม์” เว้นวรรคส่งลูกลงแทน

เมื่อวันจันทร์ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แจ้งว่า ที่ประชุม กกต.มีมติเห็นชอบร่างแผนการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามที่สำนักงาน กกต.ได้เสนอ โดยให้วันอาทิตย์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 เป็นวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และวันอาทิตย์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2569 เป็นวันลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าในเขตเลือกตั้ง/นอกเขตเลือกตั้ง วันลงคะแนน ณ ที่เลือกตั้งสำหรับผู้พิการทุพพลภาพ หรือผู้สูงอายุ

ส่วนวันที่ 27-31 ธันวาคม 2568 เป็นวันรับสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ณ สถานที่ที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งกำหนด และ​วันที่ 28-31 ธันวาคม 2568 เป็นวันรับสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ เฉพาะพรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัคร สส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งแล้วเท่านั้น และพรรคการเมืองแจ้งรายชื่อบุคคลที่จะแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ณ โรงแรมเซ็นทาราไลฟ์ ศูนย์ราชการ และคอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ

และกำหนดระยะเวลาลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า ทั้งในเขตเลือกตั้ง/นอกเขตเลือกตั้ง/นอกราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2568 ถึงวันที่ 5 มกราคม 2569

การแจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ระหว่างวันที่ 1-7 กุมภาพันธ์ 2569 และ 9-15 กุมภาพันธ์ 2569 ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจะได้ส่งประกาศดังกล่าวให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาโดยเร็วต่อไป

เมื่อเวลา 09.10 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ออกรายการกรรมกรข่าว คุยนอกจอ โดยนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ  พิธีกรได้สอบถามนายอนุทินช่วงหนึ่งว่า ถ้าการเลือกตั้งครั้งหน้าไม่ว่าพรรค ภท.จะมาเป็นที่ 1 หรือที่ 2 จะจับมือกับพรรคเพื่อไทยหรือพรรคประชาชนหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า รอให้ถึงวันนั้นก่อน ต้องคิดอีกเยอะ

เมื่อถามว่าถ้าพูดถึงความสัมพันธ์ นายอนุทินกล่าวว่า  ถ้าทุกฝ่ายแยกออกเรื่องส่วนตัวเป็นอย่างนี้ ไม่เอาเรื่องส่วนตัวและไม่เอาเรื่องความไม่เป็นมืออาชีพมา ถ้ามองเรื่องบ้านเมืองเป็นหลักก็ได้หมด สมัยก่อนตนก็สนิทกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกฯ ก็ยังถูกออกมาจากรัฐบาลเลย ซึ่งพูดตอนนี้ไม่ได้เพราะไม่รู้เราจะได้มากี่คน

นายอนุทินกล่าวว่า ขณะนี้ ภท.มีความพร้อม ทั้งเรื่องบุคลากรและนโยบายพร้อมกว่าเดิมเยอะ สมัยก่อนไม่เคยคิดเกินตัว เป็นพรรคขนาดกลาง แต่ตอนนี้คิดจะเป็นพรรคอันดับ 1 เพราะเป็นรัฐบาล ถือว่าเป็นแกนนําจัดตั้งรัฐบาล มีบุคลากรเข้ามาร่วมหลายภาคส่วน เข้ามาเยอะ แล้ววันนี้เราก็มั่นใจว่าจะทําให้ใหญ่กว่าเดิมได้ ไม่ใช่เพราะว่าเป็นรัฐบาลแล้วได้เปรียบ แต่เพราะเราเป็นรัฐบาลแล้วสามารถทําอะไรให้ประชาชนเห็นว่าเราทํางานได้ ทุ่มเทและตั้งใจ  รวมถึงเรื่องมือเศรษฐกิจและงานต่างประเทศเราก็มีบุคลากร

ปัดโหนชาตินิยม

เมื่อถามต่อว่า การเป็นนายกฯ รอบนี้เหมือนส่งให้นายอนุทินและพรรค ภท.ได้เป็นรัฐบาลอีกครั้งแบบขึ้นบันไดเลื่อนขึ้นไปเลยหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ก็อะไรทํานองนั้น ซึ่งตนเห็นบุคลากรพรรคในตอนนี้สามารถดูแลบ้านเมืองได้ มีจิตวิญญาณมีอุดมการณ์ มีความทุ่มเท มุ่งมั่น มีประสบการณ์ เก่ง ตนจึงคิดว่าไม่ได้ทําทุกอย่างเพื่อให้ตนเป็นนายกฯ แต่ใครในพรรคพร้อมคนนั้นก็เอาไปเลย

พิธีกรถามอีกว่า รู้สึกอย่างไรที่อาจจะมีคนบอกว่าพยายามอาศัยกระแสชาตินิยมมาสร้างคะแนนนิยมทางการเมือง ก็เลยจะไม่ให้มีการเจรจาและยุติเพื่อให้สถานการณ์ดำรงต่อเพื่อประโยชน์ ภท. นายอนุทินกล่าวว่า ตนเป็นนายกฯ แล้ว ตอนนี้ก็มีหลักทำงานเต็มที่และยึดประโยชน์ขององค์กรของตนเอง วันนี้คือรัฐบาล ตนไปไหนใครเป็นนายจ้าง ตนทุ่มทำงานให้เต็มที่ ไม่ค่อยแคร์ว่าอะไรจะเกิดกับตนเอง สมัยเป็นผู้จัดการจะได้เป็นประธานหรือเปล่า ตนเองไม่ได้สนใจ ถ้าทำดีเขาก็เพิ่มเงินเดือนให้ ถ้าทำไม่ดีเขาก็ไล่ออก

 “ผมไม่ได้คิดเรื่องกระแสเรื่องนี้ ผมอยากให้มีเลือกตั้งตั้งแต่ถอนตัวจากเป็นรัฐบาล แต่เรื่องนี้ผมห่วงบ้านเมือง  ห่วงเรื่องกัมพูชา ผมดูแล้ว ถ้าเข้าไปแล้ว ผมถูกไม่ไว้วางใจมันจะไม่มีรัฐบาล ผมต้องหลุดเลย รัฐมนตรีทั้งหมดต้องหลุดหมด แล้วก็ไปนั่งหานายกฯ ใหม่ กว่าจะทูลเกล้าฯ กว่าจะตั้ง ครม.อีกเดือนหนึ่ง ตรงนี้เป็นเรื่องของรัฐบาล ไม่ใช่เรื่องของ ภท.” นายอนุทินกล่าว

 ที่พรรคภูมิใจไทย นายวราวุธ ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) พร้อมอดีต สส.พรรค ชทพ.รวม 10 คน เดินทางมาสมัครสมาชิกพรรค ภท.เพื่อลงสมัครรับเลือกตั้ง สส. โดยนายวราวุธกล่าวว่า เรามั่นใจว่าพรรค ภท.จะเป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลในการเลือกตั้งครั้งหน้า

  ผู้สื่อข่าวถามว่า การมาสวมเสื้อ ภท.คิดว่าประชาชนในพื้นที่จะสนับสนุนเหมือนเดิมหรือไม่ นายวราวุธกล่าวว่า อย่างที่มีสุภาษิตของต่างชาติที่ระบุว่า อย่าสนว่าแมวสีอะไร ตราบใดที่สามารถจับหนูได้ ดังนั้นไม่ว่าจะใส่เสื้อของพรรคใดก็แล้วแต่ วันนี้เราได้รับเกียรติจาก ภท.มาทำงานร่วมกัน แต่ก็ยังเป็นบุคลากรเดิมคนเดิม ศักยภาพในการทำงานนอกจากเหมือนเดิมแล้ว เพิ่มเติมคือเครือข่ายการทำงานที่เรามีเพื่อนฝูง

เมื่อถามย้ำว่า หมายความว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้าชทพ.จะไม่ส่งผู้สมัคร สส.เลยใช่หรือไม่ นายวราวุธกล่าวทันทีว่า ไม่มีครับ ก่อนจะชี้แจงใหม่อีกครั้งว่า “อ่อ อันนี้ตอบไม่ได้ เพราะไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรคแล้ว”

ไหลรวม ภท.อื้อ

ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของพรรค ภท. บรรยากาศคึกคักตั้งแต่ช่วงเช้า บรรดาแกนนำพรรคทยอยเข้าพรรค ขณะที่แกนนำกลุ่มการเมืองต่างๆ ทยอยนำอดีต สส.และว่าที่ผู้สมัคร สส.มาสมัครเป็นสมาชิกพรรค ทั้งกลุ่มนายสนธยา คุณปลื้ม บ้านใหญ่ชลบุรี นำว่าที่ผู้สมัคร สส. ชลบุรีทั้ง 10 เขตมาสมัครสมาชิกพรรค รวมถึงกลุ่ม 16 ของนายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกฯ และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กลุ่มนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)

นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มนายสันติ ปิยะทัต รมต.ประจำสำนักนายกฯ นำอดีต สส.และว่าที่ผู้สมัคร สส.ในสังกัด รวม 13 คน มาสมัครเข้าพรรค ภท. อาทิ นายทวี สุระบาล  อดีต สส.ตรัง พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายสุธรรม  จริตงาม อดีต สส.นครศรีธรรมราช เขต 6 พรรค พปชร.  นายคอซีย์ มามุ อดีต สส.ปัตตานี เขต 2 นายวิริยะ ทองผา  อดีต สส.มุกดาหาร เขต 1 พปชร. นายชัยมงคล ไชยรบ  อดีต สส.สกลนคร เขต 5 พปชร. สมัคร ภท.

ขณะที่นายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นำนายสมยศ พลายด้วง อดีต สส.สงขลา นายร่มธรรม ขำนุรักษ์ อดีต สส.พัทลุง รวมไปถึง นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกฯ ซึ่งเพิ่งย้ายจากพรรคกล้าธรรม (กธ.) มาลงสมัครเลือกตั้ง สส.สงขลาครั้งนี้ในนามพรรค ภท.ด้วย

ต่อมาเวลา 13.30 น. นายอนุทิน ในฐานะหัวหน้าพรรค ภท.เดินทางเข้าที่ทำการพรรค เป็นจังหวะเดียวกันกับที่นายกฤษดา หลีนวรัตน์ หรือนายกเบี้ยว นายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี จ.ปทุมธานี ได้นำนักการเมืองในกลุ่ม รวมถึงนายมนัสนันท์ หลีนวรัตน์ อดีต สส.ปทุมธานี  พรรคเพื่อไทย (พท.) ที่เพิ่งลาออกจากสมาชิก พท.เข้ามาสมัครเป็นสมาชิก ภท.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศช่วงบ่ายยังคงมีอดีตสส.และนักการเมืองเดินทางมาสมัครสมาชิกพรรคอย่างคึกคัก อาทิ น.ส.สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ อดีต สส.อุบลราชธานี พรรค พท. ที่ได้มีการเปิดตัวไปก่อนหน้านี้แล้ว

นอกจากนี้ นายอนุทินพร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำพรรค ยังได้ให้การต้อนรับและสวมเสื้อ ภท.ให้ว่าที่ผู้สมัคร สส.ที่เพิ่งย้ายเข้ามา อาทิ นายมนัสนันท์, น.ส.พิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ อดีต สส.บัญชีรายชื่อ รทสช.  นายอรรถพล วงษ์ประยูร อดีต สส.สระบุรี และนายขุนทอง แสนวิเศษ อดีต สส.สระบุรี พท. นายสมบัติ ยะสินธุ์ อดีต สส.แม่ฮ่องสอน ปชป. นายเกรียงไกร กิตติธเนศวร อดีต สส.นครนายก พท. นายนรากร นาเมืองรักษ์ อดีต สส.ร้อยเอ็ด พท.

พูดแล้วทำพลัส

ผู้สื่อข่าวสอบถามนายอนุทินว่า มีผู้ประสงค์จะสมัคร สส.จำนานมาก เขตจะพอสำหรับส่งผู้สมัครหรือไม่ นายอนุทินไม่ได้ตอบคำถาม เมื่อถามอีกว่า จะถือว่าเป็นพรรคอันดับหนึ่งเลยหรือไม่ นายอนุทินไม่ตอบคำถามอีก แต่ยิ้มและมองบน เมื่อถามว่า จะได้กลับมาเป็นนายกฯ อีกหรือไม่ นายอนุทินก็ยังไม่ตอบคำถาม โดยยิ้มให้ผู้สื่อข่าว            ภายหลังนายอนุทินสวมเสื้อให้สมาชิกใหม่แล้ว ได้มีการแบ่งประชุมว่าที่ผู้สมัคร สส.เป็น 2 ชุด ชุดแรกคือภาคใต้ ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก และภาคกลาง ส่วนชุดสองคือภาคเหนือและภาคอีสาน โดยทั้งสองวงแกนนำพรรคได้มีการกำชับให้ปฏิบัติตามระเบียบที่ กกต.กำหนดอย่างเคร่งครัด พร้อมย้ำให้ทุกคนเต็มที่กับการเลือกตั้งครั้งนี้ ขอให้ระมัดระวังข้อกฎหมายให้เป็นไปตามกติกา เนื่องจากช่วงนี้จะมีหลายเทศกาล ซึ่งมีการแข่งขันทางการเมืองสูง และขอให้รอฟัง กกต.ที่จะประกาศขั้นตอนเกี่ยวกับการเลือกตั้ง

แกนนำพรรคยังได้พูดถึงสิ่งที่รัฐบาลได้ดำเนินการมาในการแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อไปบอกประชาชนว่ารัฐบาลทำอะไรบ้าง ให้ประชาชนเข้าใจว่ารัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ และยังระบุว่าเมื่อก่อนนี้เป็นพรรค ภท.พูดแล้วทำ

 “จากนี้จะเป็น ภท.พูดแล้วทำพลัส คือทำมากกว่าพูด  ทำมากกว่าที่วางไว้ ทำมากกว่านโยบายที่หาเสียงไว้" พร้อมกันนี้ยังปลุกใจว่า เรามีหน้าที่ไปหาเสียง ทำคะแนน  ถ้าทุกคนที่อยู่ในนี้ตั้งใจก็จะได้ สส.เกิน 200 ที่นั่ง นอกจากนี้ยังมีการวิเคราะห์สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาว่า " น่าจะจบก่อนปีใหม่”

ที่พรรคเพื่อไทย สำหรับรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ ของพท.จำนวน 3 คน ที่จะเปิดตัววันที่ 16 ธ.ค.ในกิจกรรม “ยกเครื่องประเทศไทย เพื่อไทยทำได้" จะประกอบด้วย นายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ บุตรชายนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ กับนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ และอีกสองคนคือ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง รวมทั้งนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้า พท. ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกฯ ทั้ง 3 คนจะกล่าวแสดงวิสัยทัศน์และเปิดนโยบายล็อตแรกของ พท.ในงานวันดังกล่าวด้วย

ขณะที่ น.ส.รภัสสรณ์ นิยะโมสถ สส.ลำปาง เขต 4 พรรคประชาชน (ปชน.) โพสต์เฟซบุ๊กระบุแถลงการณ์การยุติบทบาทการทำงานกับพรรคประชาชนว่า "การตัดสินใจดังกล่าวไม่ใช่เพราะอุดมการณ์เปลี่ยน และไม่ใช่เพราะต้องการผลประโยชน์ใดๆ แต่เป็นเรื่องของความสบายใจของทุกฝ่าย ทั้งสมาชิกพรรค ทีมงานจังหวัด กก.บห.และตัวมิ้งเอง"

ส้มลากไส้ 'โปลิตบูโร'

ด้านนายไพทูรย์ นาคหิรัญ อดีตผู้สมัคร สส. เขต 1 ปราจีนบุรี พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความขอยุติบทบาทกับพรรคประชาชน เนื่องจากเริ่มจากการมาเป็นสมาชิกพรรค “พวกมากลากไป” นี่ก็คืออีกหนึ่งปัญหาใหญ่ที่สะสมเหมือนระเบิดเวลาภายใน ปชน. จังหวัดปราจีนบุรี ตนต้องขอโทษพี่น้องชาวปราจีนบุรีที่ได้มอบความไว้วางใจถึง “31,197 คะแนน” ในการเลือกตั้งครั้งนี้ผ่านมา และไม่สามารถไปต่อในนามพรรคประชาชนได้ เนื่องจากคนของพรรคไม่เคยให้ความสนใจพวกตนเลย

 “ผมคิดว่านโยบายของพรรคดีทุกอย่าง แต่คนของพรรคทั้งในจังหวัดและภาคตะวันออกอาจเห็นผลประโยชน์ของกลุ่มตน พยายามตั้งมุ้ง เลือกคนของตัวเองขึ้นมา สมาชิกพรรคหลายท่านในเขต 1 ที่เข้ามาสัมผัสในการร่วมทำงานจะรู้ดี จึงขอลาออกจากการเป็นสมาชิก ปชน.และยุติการสนับสนุน ปชน.ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป” นายไพทูรย์ ระบุ

สำหรับความเคลื่อนไหวของพรรคกล้าธรรม (กธ.) เตรียมจะเปิดตัวอดีต สส.และ สจ.กลุ่มเพื่อนเฉลิมชัย หรือนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตหัวหน้าพรรค ปชป. ในวันที่ 17 ธ.ค.นี้ ที่พรรค กธ.เพื่อลงสู้ศึกเลือกตั้งปี 69 ประกอบไปด้วย 1.นายประมวล พงศ์ถาวราเดช อดีต สส.ประจวบคีรีขันธ์ 2.นายจักพันธ์ ปิยพรไพบูลย์ อดีต สส.ประจวบคีรีขันธ์ 3.นายชาตรี หล้าพรหม อดีต สส.สกลนคร 4.นายวุฒิพงษ์ นามบุตร อดีต สส.อุบลราชธานี 5.น.ส.สุพัชรี ธรรมเพชร อดีต สส.พัทลุง 6.ว่าที่ร้อยโท ยุทธการ รัตนมาศ อดีต สส.นครศรีธรรมราช 7.พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่  อดีต สส.สงขลา 8.นายยูนัยดี วาบา อดีต สส.ปัตตานี 9.นายฐิตินัย ตั้งบูรพากิจ สจ.ประจวบคีรีขันธ์ ส่วนตัวนายเฉลิมชัยไม่ประสงค์จะลงสมัครรับเลือกตั้ง

ในส่วนของนายเดชอิศม์ ขาวทอง อดีตเลขาธิการปชป. และอดีต สส.สงขลา เขต 5 จะไม่ลงสมัครเลือกตั้งครั้งหน้า โดยจะส่งลูกชายคือ นายวงศ์วชิระ ขาวทอง ลงสมัครแทน ขณะที่ น.ส.สุภาพร กำเนิดผล ภรรยานายเดชอิศม์ อดีต สส.สงขลา เขต 6 ก็จะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งเช่นเดียวกัน ซึ่งจะส่งผู้สมัครอื่นลงแทน ขณะที่นายศักดิ์สิทธิ์ ขาวทอง อดีต สส.สงขลา เขต 9 บุตรชายอีกคนของนายเดชอิศม์ ยังคงสังกัด ปชป.ต่อไป

ทั้งนี้ นายชัยวัฒน์ เป้าเปี่ยมทรัพย์ อดีต สส.บัญชีรายชื่อ รทสช. และนายสันต์ แซ่ตั้ง อดีต สส.ชุมพร รทสช. ซึ่งมีความใกล้ชิดกับนายสุชาติ ชมกลิ่น แกนนำกลุ่มชลบุรี  ภท. จะมาเปิดตัวร่วมงานกับ กธ.ในวันที่ 16 ธ.ค. ขณะที่จ.อ.ยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ อดีต รมช.อุตสาหกรรม ก็จะมาร่วมงานด้วยเช่นเดียวกัน ในส่วนของนายชัยวัฒน์ เหตุผลสำคัญคือเรื่องพื้นที่เขตใน จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อให้เกิดความเป็นเอกภาพ ไม่ทับซ้อนกับนายอิทธิ ศิริลัทธยากร จึงตัดสินใจมาร่วมงานกันในครั้งนี้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ยึด‘ตาควาย’ได้100%

“นายกฯ” นัดถก สมช. 16 ธ.ค. ย้ำต้องปะทะเพื่อหยุดปะทะ ลั่นพื้นที่ที่เราสถาปนาชัดเจนอยู่แล้วว่าตรงไหนต้องเป็นของเรา

'บวรศักดิ์' นำทีมถก 'กกต.' ขอใช้งบ 'คนละครึ่งเฟส 2' ปัดหาเสียงล่วงหน้า

'บวรศักดิ์' นำทีมหารือ 'กกต.' ขอใช้งบประมาณโครงการคนละครึ่งเฟส 2 - ครม.สัญจร ยันเป็นไปตามนโยบายที่แถลงไม่ใช่หาเสียงล่วงหน้า เตรียมพิจารณาคำถามประชามติอังคารนี้