"รมว.กห." ยอมรับ "กัมพูชา" อาจมีความพยายามก่อวินาศกรรมแท่นขุดเจาะน้ำมัน หลังพบโดรนบินบริเวณอ่าวไทย สั่งเหล่าทัพคุมเข้มความปลอดภัย "ศรชล." ห้ามล่องเรือ-บินโดรนรัศมี 500 ม.จากแท่นผลิตปิโตรเลียม พื้นที่ทัพภาค 2 ยังปะทะตลอดแนว "เขมร" ยิงถล่มหนักบริเวณเนิน 350 ใกล้ปราสาทตาควายหวังชิงพื้นที่คืน "ไทย" โต้เดือด "รองโฆษก ทบ." เผยพบร่าง 2 ทหารพลีชีพแล้วอยู่ระหว่างนำออกมา ผงะ! พื้นที่ซำแต จ.ศรีสะเกษ เจอบันทึกพิกัด-ทุ่นระเบิดดักรถถังดัดแปลงสังหารบุคคล ซ้ำมีหัวลูกปืนใหญ่ 105 มม.ดัดแปลงเป็นระเบิด รอกดปุ่มบึ้มทีเดียวพร้อมกันทำลายล้างสูง "นย.ตราด" ยิงปืนใหญ่ขับไล่เขมรบุกบ้านสามหลัง
เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2568 พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการตั้งข้อสังเกตกรณีกองทัพเรือระบุพบโดรนกัมพูชามาบินในบริเวณใกล้แท่นขุดเจาะน้ำมันในอ่าวไทย อาจประเมินได้ว่าเป็นความพยายามในการก่อวินาศกรรมของฝ่ายกัมพูชาหรือไม่ เพื่อตอบโต้ที่ประเทศไทยเข้มงวดการขนส่งน้ำมันและยุทธภัณฑ์เข้าไปในกัมพูชาขณะนี้ว่า ท่าทีของกัมพูชาในกรณีนี้อยู่ในขอบเขตที่ได้ประเมินไว้ ซึ่งไม่ใช่การมองในแง่ร้าย แต่เป็นไปเพื่อความไม่ประมาท
พล.อ.ณัฐพลยอมรับว่า น่านน้ำของไทยยากต่อการเฝ้าตรวจการณ์ เนื่องจากไทยเป็นประเทศที่มีเสรีภาพมาก แตกต่างจากพื้นที่บนบก ซึ่งประชาชนทั่วไปสามารถสังเกตการณ์และพบโดรนได้ง่ายกว่า ซึ่งได้รับทราบจาก ศร.ชล. ว่าพื้นที่ทางทะเลของไทยมีเรือประมงกว่า 10,000 ลำ เรือต่างๆ เหล่านั้นก็มีการบินโดรนของตัวเองด้วย
"ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าโดรนที่พบในอ่าวไทยนั้น เป็นโดรนของฝ่ายตรงข้ามหรือโดรนของไทย และมีความประสงค์ในการก่อวินาศกรรมหรือประสงค์ร้ายหรือไม่" พล.อ.ณัฐพลกล่าว
ถามว่า จะต้องประสานงานกับสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) หรือภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดหาระบบต่อต้านโดรนดูแลความปลอดภัยให้แท่นขุดเจาะน้ำมันในอ่าวไทยหรือไม่ รมว.กลาโหมกล่าวว่า ได้รับทราบจากเครือข่ายของบริษัท ปตท.ว่ากำลังขออนุญาตที่จะจัดหาระบบต่อต้านโดรนมาติดตั้งในแหล่งขุดเจาะน้ำมันของ ปตท. เพราะถือว่าเป็นผลประโยชน์ของชาติ และอยู่ภายใต้การควบคุมของ กสทช.อยู่แล้วสามารถดำเนินการได้
"ได้มอบหมายให้กองทัพอากาศรับผิดชอบเรื่องการดูแลโดรนและความมั่นคง รวมทั้งได้พูดคุยกับกองทัพเรือ ซึ่งกองทัพเรือก็ได้เฝ้าดูในเรื่องนี้อยู่และได้ออกมาตรการเพิ่มเติมแล้ว" รมว.กลาโหมกล่าว
ซักว่า หากไม่ใช่การก่อวินาศกรรมอาจประเมินได้หรือไม่ว่า เป็นการข่มขู่จากฝ่ายกัมพูชาเพื่อสร้างความปั่นป่วน พล.อ.ณัฐพลกล่าวว่า ในกรณีนี้ก็เป็นหนทางหนึ่งที่ประเมินไว้เช่นกัน แต่ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ว่าเป็นโดรนของฝ่ายกัมพูชาจริงหรือไม่ และจะต้องมีการตรวจสอบต่อไป
เมื่อถามถึงกรณีฝ่ายกัมพูชาเผยแพร่ภาพสามารถทำลายโดรนตรวจการณ์ของฝ่ายไทยได้ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ทราบว่าโดรนที่ตกคือรุ่น DP-20 หรือ D-eyes 04 ซึ่งเกิดจากการที่ฝ่ายกัมพูชาก็มีอาวุธต่อต้านอากาศยาน แม้ในช่วงที่ผ่านมาเราจะมีการระมัดระวังอยู่ แต่ย้ำว่าในการรบย่อมเกิดความสูญเสียขึ้น หากเรามียุทโธปกรณ์แล้วไม่กล้านำมาใช้ก็ไม่ถูกต้อง เราจึงต้องนำสิ่งที่มีอยู่มาใช้ปฏิบัติการ แต่ต้องหลีกเลี่ยงความเสียหายที่จะเกิดขึ้น ยอมรับว่าแม้จะมีความสูญเสียเกิดขึ้นบ้างก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย
ห้าม 'เรือ-บินโดรน' ใกล้แท่นน้ำมัน
ขณะที่ พล.ร.ต.จุมพล นาคบัว โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) กล่าวว่า การบินโดรนในพื้นที่หวงห้ามของแท่นผลิตปิโตรเลียม แม้ยังไม่ระบุเป็นเขตห้ามบิน แต่พื้นที่ดังกล่าวได้รับการปกป้องตามกฎหมาย พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับสถานที่ผลิตปิโตรเลียมในทะเล ซึ่งห้ามการดำเนินการใดๆ ที่จะกระทบต่อความเสียหายบุคคลและอันตราย โดยจะมีความผิดทั้งเรือและสิ่งที่บินเข้าไป เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวอ่อนไหวเรื่องความปลอดภัยด้านความไวไฟ เพราะหากโดรนแบตหมดและหล่นลงไปจะทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินต่อแท่นผลิต และทำให้เกิดการลุกลามของไฟ รวมถึงเรือประมงและเรือท่องเที่ยวต่างๆ ที่เข้าไปจอดในรัศมี 500 เมตรจากแท่นผลิตปิโตรเลียม ก็มีความเสี่ยงด้วยเช่นกัน
"ขอความร่วมมืออย่าล่องเรือเข้าไปและอย่าบินโดรนในเขตหวงห้ามเหล่านี้ ถ้าเกิดความเสียหายขึ้นอาจจะถูกดำเนินคดีตามความผิด ซึ่งอาจจะเกี่ยวข้องไปถึงการก่อวินาศกรรมที่มีบทลงโทษที่รุนแรง ทั้งส่วนเรือที่นำเข้าไปและผู้ที่นำโดรนเข้าไปในส่วนพื้นที่ท่องเที่ยว ที่มีความจำเป็นจะต้องใช้โดรนในบริเวณใกล้เคียง จึงขอให้งดเว้นก่อนในช่วงนี้" โฆษก ศรชล.ระบุ
ด้านกองทัพภาคที่ 2 รายงานสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาว่า บริเวณ จ.อุบลราชธานี พื้นที่ช่องบก ทั้งสองฝ่ายยังมีการปะทะเป็นระยะแบบประปรายในลักษณะเช็กแนว ฝ่ายไทยยังคงตรึงกำลังและเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง พื้นที่ช่องอานม้าฝ่ายไทยได้ตรึงกำลังตลอดแนว การวางกำลังและสถาปนาความมั่นคงบริเวณที่หมาย ชายแดน จ.ศรีสะเกษ พื้นที่ซำแต-โดนตรวล-ภูผี-สัตตะโสม-พนมประสิทธิโส-ช่องตาเฒ่า เครื่องบิน F-16 ทำการทิ้งระเบิดบริเวณยอดเขาเปี๊ยะสะแบกของฐานทหารกัมพูชา ซึ่งที่แห่งนี้เป็นที่ตั้งโรงเก็บจรวดหลายลำกล้อง BM-21
พื้นที่บริเวณผามออีแดง-ห้วยตามาเรีย พื้นที่มีความตึงเครียดสูง ทหารกัมพูชามีการยิงปืน ค.100 ปืนใหญ่ โดรน FPV และโดรนทิ้งระเบิดจำนวนมากเข้ามาทิ้งฝั่งไทย ฝ่ายไทยจึงได้ใช้ปืนใหญ่และเครื่องยิงลูกระเบิดทำการยิงตอบโต้หลายรอบ นอกจากนี้ยังได้ตรวจพบโดรนจำนวนมากบริเวณพื้นที่ผามออีแดง และมีกระสุนปืนใหญ่กัมพูชายิงมาตกบริเวณบ้านภูมิซรอล และทางขึ้นอุทยานฯ ผามออีแดง
พื้นที่ภูมะเขือ-ช่องโดนเอาว์-พลาญยาว-พลาญหินแปดก้อน ฝ่ายไทยได้ตรวจพบโดรนทิ้งระเบิดของกัมพูชาในพื้นที่ภูมะเขือหลายช่วงเวลาตลอดทั้งวัน และโดรน FPV ที่ทหารกัมพูชาใช้โจมตีฝ่ายไทย และติดตาข่ายฝ่ายไทยบริเวณภูมะเขือและระเบิด กำลังพลปลอดภัย
ที่ จ.สุรินทร์ พื้นที่ช่องจอม-ช่องเปรอ-ช่องระยี ฝ่ายไทยยึดที่หมายโอคลาคมุม พื้นที่ช่องจอม พื้นที่ตาควายฝ่ายทหารกัมพูชามีการยิงรถถัง ปืนใหญ่ และจรวดหลายลำกล้อง BM-21 เข้ามาเป็นห้วงๆ ฝ่ายทหารกัมพูชายังใช้โดรนตรวจการณ์ และโดรน FPV เป็นจำนวนมากเข้ามายังฝั่งไทย ฝ่ายไทยยังไม่สามารถนำร่างผู้เสียชีวิตลงมาจากเนิน 350 ได้ เนื่องจากทหารกัมพูชาต่อต้านอย่างหนาแน่นด้วยปืนเล็กยาว ลูกระเบิดขว้างและกับระเบิด ทั้งนี้ยังสะท้อนว่าทหารกัมพูชายังคงจับตามองพื้นที่ และเตรียมตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างต่อเนื่อง
พื้นที่ช่องกร่าง ฝ่ายไทยได้ใช้ปืนทำการยิงข่มรถถังทหารกัมพูชาที่พื้นที่ตรงข้าม พื้นที่ตาเมือนธม ทหารกัมพูชาทำการระดมยิงปืนเล็กยาว ปืน ค.และปืนใหญ่ อย่างหนาแน่น ตลอดแนวมีการปะทะด้วยอาวุธหนักอย่างหนาแน่น และยังมีการยิงปืนเล็กเป็นระยะๆ สามารถตรวจพบ UAV จำนวนมากตลอดวัน พื้นที่ฝ่ายไทยยังคงถูกเฝ้าตรวจและคุกคามด้วยระบบอากาศยานไร้คนขับต่อเนื่องจนถึงช่วงค่ำ
บริเวณชายแดน จ.บุรีรัมย์ พื้นที่ช่องสายตะกู ทั้ง 2 ฝ่ายมีการตรึงกำลังตลอดแนว และปรากฏการยิงตอบโต้กันด้วยปืน ค.และปืนใหญ่เป็นระยะๆ
พบร่าง 2 ทหารกล้าเนิน 350 แล้ว
พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงสรุปสถานการณ์ตลอดวันว่า ทั้งสองฝ่ายยังคงปะทะกันตลอดแนวชายแดนอย่างต่อเนื่อง โดยเวลา 05.00 น. เกิดการปะทะอย่างต่อเนื่องบริเวณเนิน 350 ใกล้กับพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ ทั้งสองฝ่ายยังคงพยายามควบคุมพื้นที่ดังกล่าว โดยเฉพาะฝ่ายไทยซึ่งดำเนินการผลักดันฝ่ายกัมพูชาจากพื้นที่อธิปไตยของไทย เวลา 06.00 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงอาวุธหนักเข้ามาบริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแถ้ว ทําให้ฝ่ายไทยต้องตอบโต้เพื่อป้องกันตนเองจากการปะทะที่ยังคงเกิดขึ้น
โฆษกกระทรวงกลาโหมกล่าวว่า ขณะนี้มีผู้ที่อพยพมาอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราวทั้งสิ้น 251,222 คน โดยมีการตั้งศูนย์พักพิง 985 จุด มีประชาชนที่เสียชีวิตจากการโจมตีของกัมพูชาโดยตรง 1 ราย มีประชาชนที่เสียชีวิตจากผลกระทบทางอ้อมของเหตุการณ์ระหว่างไทย-กัมพูชา 22 ราย และมีประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีของกัมพูชา 6 ราย โรงพยาบาลได้รับผลกระทบ 20 แห่ง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลได้รับผลกระทบ 201 แห่ง
ช่วงเย็น พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก (ทบ.) กล่าวว่า จุดที่มีการปะทะหนักก็คือบริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย เนิน 350 ซึ่งฝ่ายไทยพยายามผลักดัน ต้านทานอย่างหนัก ส่วนร่างของทหารที่พลีชีพ 2 นายพบแล้ว อยู่ระหว่างการนำร่างออกมา ในขณะที่กองทัพอากาศยังปฏิบัติการทางอากาศสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง
"พื้นที่ที่เราควบคุมได้แล้วคือพื้นที่ซำแต จ.ศรีสะเกษ ซึ่งตรวจพบทุ่นระเบิดดักรถถังดัดแปลงสังหารบุคคล ผิดต่ออนุสัญญาออตตาวา และยังพบเอกสารจดบันทึกพิกัดที่มีการวางทุ่นระเบิดในพื้นที่ ซึ่งได้เข้าไปพิสูจน์ทราบแล้ว ขณะเดียวกันยังพบที่มั่นดัดแปลงแข็งแรงของทหารกัมพูชา ซึ่งเชื่อว่ามีตลอดแนว รวมถึงเนิน 350 ด้วย นี่จึงเป็นความยากลำบากของทหารไทยในการรุกคืบเข้าไป" พ.อ.ริชฌากล่าว
รองโฆษก ทบ.กล่าวว่า ในส่วน UAV ที่ขาดการติดต่อไปเมื่อคืนนี้ช่วง 20.00 น. จุดที่สัญญาณขาดหายคือทิศตะวันออกของปอยเปต ประมาณ 10 กิโลเมตร ส่วนรายละเอียดว่าถูกโจมตีหรือไม่ หรือมีเหตุขัดข้องใด ปัจจุบันยังอยู่ในขั้นตอนการพิสูจน์ทราบ
แหล่งข่าวกองทัพภาคที่ 2 รายงานเหตุปะทะระหว่างทหารไทย-ทหารกัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 8 ธ.ค.ถึงปัจจุบัน รวม 12 วัน ในพื้นที่ชายแดน 4 จังหวัด ส่งผลให้ทหารสองฝ่ายบาดเจ็บเสียชีวิต ในส่วนทหารไทยได้นำร่างผู้เสียชีวิตกลับมาจัดพิธีทางศาสนา เหลือเพียง 2 ร่างอยู่ระหว่างนำออกมาจากพื้นที่แนวรบ ส่วนทหารกัมพูชาที่เสียชีวิตในพื้นที่อธิปไตยของไทย ทหารไทยได้เก็บร่างพร้อมประสานให้ทหารกัมพูชามารับกลับ แต่ฝ่ายกัมพูชาปฏิเสธรับร่างทหารตัวเอง ทำให้ชายแดนไทย-กัมพูชามีกลิ่นศพส่งกลิ่นคละคลุ้งตลอดแนว
ด้านฝั่ง กกล.บูรพา บุกค้นบ้านที่ชาวกัมพูชาเคยอาศัยอยู่ในพื้นที่บ้านหนองจานและหลบหนีไปหลังจากเหตุการณ์การปะทะ โดยสภาพบ้านหลายหลังถูกดัดแปลงเป็นที่ทำงาน มีการเชื่อมต่อการสื่อสารคล้ายขบวนการคอลเซ็นเตอร์ จากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบสิ่งของจำนวนมาก ซึ่งคาดว่าทั้งหมู่บ้านหนองจานจะเกี่ยวข้องกับเครือข่ายสแกมเมอร์ มีรายการที่สำคัญประกอบด้วย โทรศัพท์ 19 เครื่อง, โน้ตบุ๊ก 2 เครื่อง, สมุดบันทึก 4 เล่ม, สมุดบัญชีธนาคาร 63 เล่ม ซึ่งเป็นชื่อของชาวไทย, บัตรประชาชนคนไทย 3 ใบ คาดว่านำไปใช้เปิดบัญชีม้า และยังตรวจยึดบัตร ATM ได้อีก 10 ใบ
พื้นที่ จ.ตราด น.อ.เกียรติยุทธ เทียนสุวรรณ รองโฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า ทางกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.) ได้เข้ายึดพื้นที่บ้านหนองรี และขับไล่ฝ่ายกัมพูชาออกไปแล้ว จากนั้นได้นำหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมของกองทัพเรือเข้าไป ซึ่งได้ตรวจพบหลักฐานจำนวนมากที่แสดงให้เห็นว่า การปฏิบัติการทางทหารของกัมพูชาไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศ หรืออยู่บนหลักการพื้นฐานด้านมนุษยธรรม และไม่ได้อยู่บนพื้นฐานใดๆ เลยของอนุสัญญาที่เกี่ยวกับการงดใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล
ทั้งนี้ พบบันทึกที่เขียนด้วยลายมือลงวันที่ 7 ต.ค. 2567 เกี่ยวกับวิธีการและคุณลักษณะของระเบิดสังหารบุคคล PMN-2 และ POMZ-2 และยังพบยุทโธปกรณ์ สรรพาวุธอีกมากกว่า 340 รายการ และยังมีการใช้หัวลูกปืนใหญ่ 105 มิลลิเมตร มาดัดแปลงเป็นระเบิดที่มีตัวจุดชนวนเชื่อมต่อกันจากลูกระเบิดหลายลูกเข้าไปที่ปุ่มที่สามารถกดเพียงครั้งเดียว แล้วจากนั้นลูกระเบิดทั้งหมดจะระเบิดพร้อมกัน ซึ่งถ้าเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นจริงจะก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อกำลังทหารและพลเรือนไทย
นอกจากนี้ ยังค้นพบว่ากัมพูชามีการสร้างป้อมปราการในลักษณะของอุโมงค์ที่มีการสร้างอย่างประณีต แข็งแรง ทำลายได้ยาก ถือเป็นอุปสรรคในการปฏิบัติการทางทหารที่ยากลำบากขึ้น แต่ทำให้เราได้รู้ว่าเราจะทำอย่างไรกับเป้าหมายเหล่านี้ให้ดีกว่าเดิมและรวดเร็วกว่าเดิม โดยหวังว่าท้ายที่สุดแล้วจะบรรลุวัตถุประสงค์ทางทหาร ในการสนับสนุนวัตถุประสงค์ทางด้านการทูตและการเมืองของเรา
น.อ.ธรรมนูญ วรรณา ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด แจ้งว่า ช่วงเวลา 05.00-06.00 น. ทหารฝ่ายไทยตรวจการณ์พบความเคลื่อนไหวของฝ่ายกัมพูชา ได้นำรถยนต์จำนวน 3-4 คันเข้ามายังพื้นที่บ้านสามหลัง ทำให้ฝ่ายไทยต้องระดมยิงปืนใหญ่และปืน ค.ขับไล่ออกจากพื้นที่ มีการปะทะด้วยอาวุธปืนเล็กสลับกันไป แต่ฝ่ายกัมพูชาไม่มีอาวุธหนักตอบโต้ฝ่ายไทยเพราะถูกทำลายไปหมดแล้ว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ฝุ่นตลบ!นักเลือกตั้งย้ายพรรค
เลขาฯ กกต.รับเลือกตั้งหนนี้เหนื่อยแน่นอน “อนุทิน” การันตี ถ้าชนะ “เอกนิติ-ศุภจี-สีหศักดิ์” เ
‘ยธ.’จ่อคุ้ยMOUสิงคโปร์
“รุทธพล” รับกำลังตรวจผลการลงนามเอ็มโอยูสแกนม่านตากับสิงคโปร์
‘ราชินี’เสด็จฯ ‘พระราชทาน’ ‘เหรียญฮอกกี้’
พระราชินีพระราชทานเหรียญทองนักกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งหญิงทีมชาติไทย ในมหกรรมซีเกมส์ ครั้งที่ 33
จีน-เมกาแห่หย่าศึก/ไทยยํ้ากัมพูชาหยุดก่อน
สองชาติมหาอำนาจ "สหรัฐอเมริกา-จีน" ช่วงชิงเป็นตัวกลางหย่าศึกไทย-เขมร
ศก.สู่ยุคโตตํ่า! คุมเข้มร้านทอง กดเงินบาทแข็ง
"ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ" ห่วงเศรษฐกิจไทยเข้าสู่ยุคโตต่ำเป็น New Normal หลังกินบุญเก่ามานาน
ทุกพรรคจัดทัพลุยเลือกตั้ง
ทุกพรรคพร้อมลุยเลือกตั้ง! "อนุทิน” ยันแคนดิเดตนายกฯ ภท.ไม่มีเซอร์ไพรส์เพิ่ม

