ยอดดับนิวไฮ!โคม่าทะลุพัน พบเชื้อ3คนไทยจากยูเครน

โควิดยังสูงติดเชื้อรายใหม่  22,197 ราย เสียชีวิตนิวไฮ 45 ราย โคม่าทะลุหลักพัน "กทม." เกิน 3 พันราย คนไทยกลับจากยูเครนชุดแรก 38 ราย พบติดโควิด 3 ราย "อนุทิน" ส่งเข้ารักษาตัวทันที พร้อมกักตัวที่เหลือดูอาการ 7 วัน ผงะ! สายด่วน 1330 แทบไหม้ "เลขาฯ  สปสช." เผย 1 มี.ค.วันเดียวคนกระหน่ำแจ้งติดโควิดขอเข้าระบบ HI  7 หมื่นสาย

เมื่อวันที่ 2 มี.ค. ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 22,197 ราย จากในประเทศ 21,858 ราย ระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 21,610 ราย ค้นหาเชิงรุกในชุมชน 248 ราย เรือนจำ 221 ราย เดินทางมาจากต่างประเทศ 118 ราย หายป่วยเพิ่ม 19,093 ราย อยู่ระหว่างรักษา 218,784 ราย อาการหนัก 1,094 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 310 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 45 ราย เป็นชาย 28 ราย หญิง 17 ราย อายุ 60 ปีขึ้นไป 33 ราย มีโรคเรื้อรัง 10 ราย ไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 2 ราย

ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 2,934,544 ราย หายป่วยสะสม 2,692,739 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 23,021 ราย ส่วนยอดฉีดวัคซีนวันที่ 1 มี.ค. จำนวน 226,694 โดส ยอดฉีดสะสมตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.64 จำนวน 124,036,549 โดส ขณะที่สถานการณ์โลกมีผู้ติดเชื้อสะสม 438,814,552 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 5,983,814 ราย 

สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด ได้แก่ กทม. 3,018 ราย, ชลบุรี 1,134 ราย, สมุทรปราการ 986 ราย, ภูเก็ต 688 ราย, นนทบุรี 682 ราย, สมุทรสาคร 678 ราย, นครศรีธรรมราช 632 ราย,  นครราชสีมา 609 ราย, ราชบุรี 591 ราย และบุรีรัมย์ 503 ราย

ที่สถาบันบำราศนราดูร นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เข้าตรวจเยี่ยมให้กำลังใจแรงงานไทยที่เดินทางกลับจากประเทศยูเครน ซึ่งกำลังมีสถานการณ์สู้รบโดยให้เข้ารับการดูแลที่ศูนย์กักตัว (Quarantine Center) สถาบันบำราศนราดูร

นายอนุทินกล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม มีนโยบายและข้อสั่งการให้ช่วยเหลือแรงงานไทยในประเทศยูเครนกลับสู่มาตุภูมิโดยเร็วที่สุด ซึ่งทราบมาว่ามีแรงงานไทยทำงานอยู่ในยูเครน 139 คน ชุดแรกเดินทางกลับมาถึงแล้ว 38 คน และช่วงบ่ายจะมาอีก 58 คน รวม 96 คน ส่วนที่เหลือจะทยอยเดินทางกลับมาครบภายใน 1-2 วันนี้ ซึ่งเป็นการเดินทางกลับในสถานการณ์เร่งด่วน จึงไม่สามารถลงทะเบียน Thailand Pass หรือเข้าระบบ Test & Go ได้

"สธ.จัดศูนย์กักตัวที่สถาบันบำราศนราดูรให้การดูแล โดยตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR พบเชื้อเพียง 3 คน เป็นกลุ่มสีเขียวคือไม่มีอาการ ได้ให้การดูแลรักษาตามแนวทางของกรมการแพทย์ต่อไป" นายอนุทินกล่าว

รองนายกฯ กล่าวว่า ในส่วนแรงงานที่ไม่ติดเชื้อจะให้กักตัวเฝ้าระวังอาการตามแนวทาง 7+3 โดยมีการตรวจ ATK ในวันที่ 5 หากผลเป็นลบ เมื่อครบวันที่ 7 สามารถเลือกที่จะอยู่สังเกตอาการต่อ หรือเดินทางกลับภูมิลำเนาแล้วเฝ้าระวังสังเกตอาการที่บ้านอีก 3 วันได้ และระหว่างกักตัวหากมีอาการป่วยสามารถแจ้งได้ทันทีผ่านระบบหมอชนะ

"จากการสอบถามแรงงานไทยในยูเครนได้รับวัคซีนโควิด-19 มาแล้ว 2 เข็ม ดังนั้นก่อนกลับภูมิลำเนาจะมีการฉีดวัคซีนเข็ม 3 ให้ด้วย เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข และเมื่อกลับถึงภูมิลำเนา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดจะร่วมกับหน่วยงานของกระทรวงแรงงานติดตามดูแลช่วยเหลือต่อเนื่อง สำหรับเรื่องสภาพจิตใจจากการสอบถามทุกคนมีขวัญกำลังใจดีและดีใจที่ได้กลับมาเมืองไทย" รองนายกฯ กล่าว

ขณะที่ นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงกรณีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ไม่สามารถติดต่อสายด่วน 1330 เพื่อจับคู่หน่วยบริการเข้าสู่ระบบ HI ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่สายด่วน สปสช.1330 และอาสาสมัครที่ร่วมรับสายทุกคนรวมกว่า 400 คน ต่างทำงานอย่างหนักและแข่งขันกับจำนวนสายที่กระหน่ำเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลสายด่วน สปสช.1330 ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 21 ก.พ.-1 มี.ค.2565 จำนวนโทร.แต่ละวันยังคงอยู่ที่ 4-7 หมื่นสาย เช่นเดียวกับช่องทาง Non Voice หรือสื่อสารผ่านไลน์ สปสช. และเฟซบุ๊ก สปสช. ก็เฉลี่ยวันละกว่า 9,000 ราย ด้วยผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นกว่า 20,000 รายต่อวัน

"วันที่ 1 มี.ค. มีจำนวนสายโทร.เข้ามากที่สุดสูงถึง 70,300 สาย และช่องทาง Non Voice อีก 12,000 ราย ยอมรับว่าเป็นจำนวนเกินศักยภาพที่ระบบจะรองรับได้" นพ.จเด็จกล่าว

เลขาฯ สปสช.กล่าวว่า ขณะนี้ สปสช.เร่งแก้ปัญหา นอกจากระดมจิตอาสาเข้ามาช่วยรับสายเพิ่มขึ้น ยังประสานองค์กรต่างๆ มาร่วมรับสาย เช่น กองทัพไทย ธนาคารกรุงไทย วิทยาลัยพยาบาลสังกัดสถาบันพระบรมราชชนก และกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) โดยดีแทคร่วมสนับสนุนซิมการ์ดให้จำนวนหนึ่ง และมีทีมจิตอาสาจากประชาชนกว่า 100 ราย เข้าร่วมตอบคำถามและรับเรื่องประสานงานจากผู้ติดเชื้อโควิดผ่านช่องทางไลน์ของ สปสช. ส่วนช่องทางการสื่อสารอื่นผ่านระบบไลน์ @nhso และเฟซบุ๊กที่ติดต่อเข้ามา ได้เร่งตอบกลับในทุกข้อความในทุกช่องทางที่ส่งเข้ามาเช่นกัน

 “เจ้าหน้าที่สายด่วน สปสช. 1330 และอาสาสมัครทุกคนเต็มใจ พร้อมให้การดูแลทุกคนที่โทร.เข้ามา แต่จำนวนสายที่โทร.เข้ามาอย่างมากมาย ถึงวันละกว่า 7 หมื่นสายแล้ว จึงต้องขอโทษทุกสายที่โทร.เข้ามาหรือสื่อสารผ่านช่องทางต่างๆ และติดต่อไม่ได้ โดย สปสช.จะพยายามแก้ไขปัญหานี้โดยเร็วที่สุด” เลขาธิการ สปสช. กล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง