ปูด‘บิ๊กตู’ ชิงยุบสภา

เพื่อไทยปูด "บิ๊กตู่" เตรียมยุบสภาก่อน 22 พ.ค. เพื่อหนีซักฟอก เชื่้อ 3 ป. ปีนเกลียวรัฐบาลอยู่ไม่ครบเทอมแน่  ขณะที่ พปชร.เล็งจัดประชุมใหญ่ 3 เม.ย.นี้ จับตา “บิ๊กตู่” ส่งสายตรงร่วมงานพรรค  ฮือฮาเสาร์ห้า "ธรรมนัส" ยกพรหมพินาศ 4 หลงอำนาจ โกง หลอกลูกน้อง ยกย่องคนเลว หนทางไปสู่ความวิบัติ

เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2565 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา แกนนำพรรคเศรษฐกิจไทย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า วันนี้เป็นวันเสาร์ 5 ครับ เป็นวันมงคล เลยถือโอกาสมาเสวนาธรรมกับพระอาจารย์ที่ผมให้ความเคารพนับถือ ท่านได้หยิบยกหนทางสว่างคือพรหมวิหาร 4 เราชาวพุทธคงเข้าใจดีว่าพรหมวิหาร 4 มีอะไรบ้าง

และระหว่างสนทนาธรรม ผมเหลือบไปเห็นเสาวิหารด้านข้างที่ผมนั่งอยู่ ได้บันทึกถึงพรหมพินาศ 4 เป็นหนทางไปสู่ความวิบัติ...นั้นคือ 1.หลงอำนาจ 2.ฉ้อราษฎร์บังหลวง 3.หลอกลวงลูกน้อง 4.ยกย่องคนเลว เสาร์ 5

ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวในการจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2565 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โดยพรรคแจ้งกำหนดประชุมในวันที่ 20 มี.ค.นี้ เพื่อรับทราบรายงานผลการดำเนินงานในรอบปีของพรรค รวมถึงวาระอื่นๆ โดยแจ้งให้สมาชิกพรรครับทราบกำหนดประชุมในวันที่ 20 มี.ค.นี้ ที่โรงแรมแคนทารี จ.นครราชสีมา มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. จะเดินทางเข้าร่วมประชุม

ล่าสุด พรรค พปชร.ได้แจ้งเลื่อนวันประชุมพรรคออกไปเป็นวันที่ 3 เม.ย. เนื่องจากมีสมาชิกบางส่วนมีภารกิจ โดยใช้สถานที่โรงแรมแคนทารี จ.นครราชสีมา เช่นเดิม

ทั้งนี้ มีรายงานว่าในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2565 มีวาระที่น่าจับตาคือการปรับโครงสร้างพรรค โดยเฉพาะกระแสข่าวที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม อาจจะส่งบุคคลที่เป็นสายตรงมาร่วมในตำแหน่งครั้งนี้ด้วย หลังจากที่ “3 ป.” พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ร่วมรับประทานอาหารกลางวันและพูดคุยกันอย่างชื่นมื่น ที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ เมื่อวันที่ 4 มี.ค.ที่ผ่านมา

นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า เห็นใจพล.อ.ประวิตร สุขภาพท่านก็ไม่ค่อยเข็งแรงอยู่แล้ว ยังต้องไปทำอาหารให้น้องทานอีก น้องก็ช่างใจดำ แทนที่จะเป็นคนทำอาหารให้พี่ทาน กลับใช้พี่ซะอย่างนั้น  หรือพี่อยากทำเพื่อเอาใจก็แล้วแต่ แต่ส่วนตัวมองว่าเรื่องนี้เป็นการสร้างภาพให้สังคมเห็นว่ายังรักกันอย่างดูดดื่ม ทั้งที่ในความจริงอาจจะเป็นตรงกันข้ามก็ได้

เขาระบุว่า เหตุการณ์ที่ผ่านมาทั้งในสภาและในพรรคพลังประชารัฐ มีการกระทบกระทั่งกันอย่างรุนแรง ระหว่างคนสาย พล.อ.ประวิตรและสาย พล.อ.ประยุทธ์ ด้วยเหตุผลเดียวคือการสนับสนุนหรือไม่สนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ในอำนาจต่อ เพราะฉะนั้นที่ไปพบกันกินข้าวกัน ก็เพียงแค่ภาพทางสังคมที่อยากสื่อให้เห็นว่า 3 ป.ยังแน่นปึ้ก รัฐบาลยังมั่นคง เท่านั้นเอง แต่ส่วนตัวไม่เชื่อภาพที่ออกมา และทำนายว่าในอนาคตกันใกล้ความขัดแย้งของ 3 ป. จะมีออกมาให้เห็นอีก และส่งผลกระทบต่อสภาและรัฐบาลจนอยู่ครบเทอมไม่ได้

นายสมคิดกล่าวถึงการเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในสมัยประชุมหน้าว่า หลังจากเปิดประชุมสภาวันที่ 22 พ.ค. คาดว่า กมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง จะยื่นเรื่องเข้าที่ประชุมรัฐสภา พิจารณาวาระ 2-3 ได้ประมาณปลายเดือน พ.ค. ถึงต้นเดือน มิ.ย. ซึ่งเมื่อพิจารณาเสร็จเรียบร้อย พรรคจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในเดือน มิ.ย. แต่ขณะนี้เริ่มได้ยินกระแสข่าวพล.อ.ประยุทธ์จะชิงยุบสภาก่อนเปิดประชุมสภาในวันที่ 22 พ.ค.นี้ เพื่อหนีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ

ยุบหนีซักฟอกไม่สง่างาม

"ดูแล้วมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้น แต่ถือว่าเหตุผลไม่สมควร เพราะสภาไม่ได้เกิดปัญหา ถ้าไปยุบสภาก่อนเท่ากับหนีการซักฟอก ไม่สง่างาม ขณะนี้การพิจารณาร่างกฎหมายลูก 2 ฉบับ อยู่ระหว่างการพิจารณาของ กมธ.วิสามัญฯเหลืออีกแค่ 2 เดือน ควรออกกฎหมายลูกให้เสร็จสิ้นก่อน ถ้าไปชิงยุบสภาก่อน ยิ่งตอบโจทย์ว่ารัฐบาลกลัวการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และกลัวจะไม่มีคนยกมือให้ในเวทีซักฟอก"

เมื่อถามว่า รัฐบาลจะชิงยุบสภาเพื่อชิงความได้เปรียบในการออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) กำหนดวิธีการคิดคะแนน ส.ส.บัญชีรายชื่อ จากเดิมที่จะใช้ 100 หารคะแนนรวม ส.ส.บัญชีรายชื่อทั้งประเทศ กำหนดเป็นคะแนนเฉลี่ยต่อ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 1 คน เปลี่ยนมาใช้ 500 หารแทน เพื่อให้รัฐบาลมีความได้เปรียบพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายสมคิดตอบว่า ตามหลักการแก้รัฐธรรมนูญที่กำหนดให้มีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ มีเจตนารมณ์ให้ใช้ 100 หารคะแนนรวม ส.ส.บัญชีรายชื่อทั้งประเทศอยู่แล้ว หากจะไปปรับวิธีคิดใช้ 500 หารแทน เท่ากับขัดเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญเรื่องบัตร 2 ใบ ถ้าทำเช่นนั้นจริง ยิ่งเสียหลักกฎหมาย

 "เท่ากับบ้านเมืองไม่มีขื่อแป จะทำอย่างไรก็ได้ เป็นเรื่องที่คิดได้ แต่กล้าทำหรือไม่ ถ้าทำจริงแสดงว่าการแก้รัฐธรรมนูญไม่มีประโยชน์ พอแก้ไปก็ไปออกข้อกำหนดเองตามใจชอบ ยืนยันเจตนารมณ์บัตร 2 ใบ ต้องใช้ 100 หารในการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ แต่ไม่ว่าจะใช้สูตรใดคิด ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยก็ไม่กลัว พร้อมสู้ทุกกติกา จะกีดกันอย่างไร แต่คนที่จะให้คำตอบคือประชาชน"

ถามอีกว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่ในการพิจารณาร่างกฎหมายลูก 2 ฉบับในชั้น กมธ. จะไปปรับวิธีการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ให้ใช้ 500 หารแทน 100 นายสมคิดกล่าวตอบว่า คงทำไม่ได้ เพราะตามเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญเรื่องบัตร 2 ใบ ต้องใช้ 100 หาร ทราบว่า พรรคพลังประชารัฐกับพรรคเล็กมีความพยายามจับมือชิงความได้เปรียบในเรื่องนี้ แต่ถือว่าสายไปแล้ว เพราะมีหลักการกำหนดไว้ชัดเจน

ถามต่อว่า กลัวจะเกิดอภินิหารทางกฎหมายในการแก้กฎหมายลูกหรือไม่ นายสมคิดตอบว่า ไม่กลัว เพราะกฎหมายไม่เปิดช่องให้ทำได้ ยกเว้นคนจะทำให้เกิดความพิสดารเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ จึงอยากให้จับตากันอย่างใกล้ชิด ส่วนจะทำให้โอกาสเกิดแลนด์สไลด์ของพรรคเพื่อไทยยากขึ้นหรือไม่ ประชาชนจะเป็นผู้ให้คำตอบเอง ยิ่งไปเขียนกฎหมายเข้าข้างตัวเองมากเท่าไร ประชาชนจะเป็นผู้ให้คำตอบจะปล่อยให้มีการสืบทอดอำนาจหรือไม่

นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงการนัดหารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้ายในวันที่ 7 มีนาคม เกี่ยวกับการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามมาตรา 151 ของรัฐธรรมนูญ จะพูดคุยในประเด็นใดบ้างว่า ในวันดังกล่าวหัวหน้าพรรคและเลขาฯ พรรค ก.ก. จะเข้าร่วมประชุม เพื่อหารือการยื่นญัตติตามมาตรา 151 ที่จะยื่นทันทีเมื่อเปิดสมัยการประชุมสภา เพื่อไม่ให้รัฐบาลยุบสภาได้

สำหรับประเด็นที่จะใช้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พรรคร่วมฝ่ายค้านจะนัดหารือเพื่อวางกรอบของแต่ละพรรคการเมืองว่ามีประเด็นใดบ้าง ส่วนพรรค ก.ก. มีประเด็นที่ชัดเจนและเป็นประเด็นที่ต่อเนื่องจากการอภิปรายตามมาตรา 152 ที่ผ่านมา โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตของรัฐบาลที่เกิดขึ้นในช่วงนี้และก่อนหน้านี้ เช่น ประเด็นการค้ามนุษย์ และประเด็นเหมืองทองอัครา เป็นต้น

"เราจะใช้โอกาสนี้อย่างแน่นอน เพราะเป็นเป้าหมายร่วมกันของพรรคร่วมฝ่ายค้าน โดยการใช้สิทธิอภิปรายไม่ไว้วางใจในสมัยประชุมหน้าถือเป็นการอภิปรายครั้งสุดท้ายของสภาชุดนี้ เราจึงต้องเตรียมข้อมูลที่เป็นหมัดเด็ดมากที่สุด โดยคาดว่ารัฐบาลจะไม่มีทางเลือกอื่น คือต้องยุบสภาหรือลาออก" นายณัฐวุฒิกล่าว.