“พรรคกล้า” ร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน เสนอแก้ไขข้อบังคับประชุมสภา เอาผิดส.ส.ประชุมแล้วไม่แสดงตน อัดส.ส.มีเอกสิทธิ์แต่ต้องไม่เหนือคนทั่วไป
17 มี.ค.2565 - ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายพงษ์พล ยอดเมืองเจริญ ว่าที่ผู้สมัครส.ส.พรรคกล้า พร้อมด้วยนายแสนยากรณ์ สิงห์วีรธรรม โฆษกพรรคกล้า ยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้พิจารณาเสนอแนะต่อสภาผู้แทนราษฎร ขอให้แก้ไขข้อบังคับการประชุมสภาฯ โดยให้มีการเพิ่มโทษกับส.ส. ที่มาประชุมแต่ไม่แสดงตนจนเป็นเหตุที่ทำให้เกิดสภาล่ม 16 ครั้ง ความเสียหายรวม 70 ล้านบาท
โดยนายพงศ์พล กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้ยื่นหนังสือถึงประธานสภาฯ และได้เข้าชี้แจงคณะกรรมาธิการกิจการสภาฯ เมื่อวันที่ 15 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยนำรายชื่อประชาชนจำนวน 1 หมื่นรายชื่อที่เห็นว่าควรมีการแก้ไขข้อบังคับฯ ไปมอบให้ด้วย แต่เมื่อชี้แจงได้เพียงระยะหนึ่งกรรมาธิการฯ อ้างว่าข้อมูลประกอบการชี้แจงเชื่อถือไม่ได้ ทั้งที่เป็นข้อเท็จจริงซึ่งปรากฎต่อสื่อมวลชนโดยทั่วไปอยู่แล้ว และเชิญตัวแทนพรรคกล้าออกจากที่ประชุม ซึ่งรู้สึกผิดหวังและเห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนถึงความไม่จริงจังในการรับฟังเสียงประชาชนที่ต้องการหาวิธีให้การทำงานของสภาฯมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งพรรคกล้าเห็นว่าผู้ตรวจการแผ่นดินมีอำนาจและหน้าที่ ในการที่จะมีข้อเสนอแนะในการปรับปรุงการทำงานของหน่วยงาน จึงขอให้ผู้ตรวจฯพิจารณา และมีข้อเสนอแนะไปยังสภาฯ โดยให้มีการแก้ไขข้อบังคับการประชุม รวมทั้งมีข้อเสนอเกี่ยวกับการให้สภาฯรับฟังความคิดเห็นของประชาชน
นายพงศ์พล กล่าวว่า สำหรับข้อเสนอที่ให้มีการแก้ไขข้อบังคับการประชุมสภาฯนั้น คือให้มีการเพิ่มโทษทางวินัยส.ส.ที่มาประชุมแต่ตั้งใจไม่แสดงตน 3 ข้อ 1.โทษทางแพ่ง หักเงินในวันที่ไม่แสดงตัวโดยคิดเป็นอัตรารายวัน คิดคำนวณตามฐานเงินเดือน 2.โทษใบเหือง ถ้าขาดการแสดงตนเกินร้อยละ 10 หรือขาดเกิน 3-5 ครั้ง จะถูฏจำกัดสิทธิในการโหวตรับร่างกฎหมาย และอภิรายในการประชุม 2 ครั้ง และ3.โทษใบแดง ถ้าขาดการแสดงตนเกินร้อยละ 25 จะถูกจำกัดสิทธิในการลงสมัครส.ส. และดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมืองในการเลือกตั้งครั้งหน้า ซึ่งโทษดังกล่าวเทียบเคียงมาจากมาตรฐานวิชาชีพต่างๆ เช่นนักเรียน ถ้ามาโรงเรียนแล้วไม่เข้าห้องเรียนก็โดนตัดคะแนน หรือพนังงานเงินเดือน ถ้าขาดงานก็จะโดนตัดเงินเดือน
“พรรคดำเนินการเรื่องนี้ด้วยความหวังดี อยากให้สภาฯกลับมาเป็นที่เชื่อมั่น ศรัทธาของประชาชน แต่ทางกรรมาธิการฯ กลับบอกว่า จะเอาส.ส.ไปเทียบกับนักเรียน หรือพนักงานเงินเดือนไม่ถูก เพราะส.ส.มีเอกสิทธิ์ว่าเราจะทำงานอย่างไรก็ได้ ซึ่งเรารู้สึกว่าโลกให้สิทธิคนเท่าเทียมกัน แต่เอกสิทธิ์ส.ส.ที่ลอยเหนือสิทธิคนทั่วไป แม้ในเรื่องการทำงานผมว่าอย่างน้อยก็ควรมีการเกลาเพื่อให้มีประสิทธิภาพ ผมไม่ได้บอกว่าจะไปละเมิดสิทธิของสภาฯ ของส.ส.ที่มีอยู่เดิม แต่อยากให้ผลงานสภาฯที่ดีสุด“นายพงศ์พล
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'โฆษกรัฐบาล' รับถูกทาบทามไปทำงานอื่น ย้ำนายกฯยังไม่ส่งสัญญาณเปลี่ยนตัว
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวเปลี่ยนตัวโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ว่า ตนไม่ขอออกความเห็น เนื่องจากยังไม่ได้มีการสื่อสารอะไรมาถึงตน
'รมต.พิชิต' มั่นใจไม่ใช่คนผิด รับชีวิตมีอุบัติเหตุกันได้ พร้อมขอโอกาสพิสูจน์ตัวเอง
นายพิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวว่า วันนี้ตนปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นวันแรก ซึ่งจากการประชุมครม.วันนี้ ได้มีมติมอบหมายงานสำคัญให้กับตนคือ เป็นผู้ตรวจร่างมติคณะรัฐมนตรี
ความเป็นมาของรัฐธรรมนูญฉบับที่ 4 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2490 (ตอนที่ 9)
รัฐธรรมนูญฉบับที่ 4 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2490 ประกาศใช้เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490
'ธนกร' เชื่อครม.ใหม่เดินหน้าทำงานเพื่อประชาชนทันที ปัญหาประเทศรอไม่ได้
นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)ให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากที่มีการปรับคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตนเชื่อว่า รัฐมนตรีทุกคนมีศักยภาพและประสบการณ์ในการทำงาน
'อุ๊งอิ๊ง' ดูไว้! นักการเมืองต้องรักษาสัจจะเหมือน 'อภิสิทธิ์' เคยหาเสียงไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์
เมื่อน.ส.แพทองธาร ชินวัตร กล่าวในงานอีเวนต์ ”10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10“ ว่า พรรคเพื่อไทยตัดสินใจถูกตั้งรัฐบาลผสม
'จักรพงษ์' ปัดเลื่อนชั้นขึ้นนั่ง รมต. จากสายตรงเศรษฐา ยันไร้ปัญหากับปานปรีย์
นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนเข้าถ่ายรูปติดบัตรประจำตัวถึงกรณีที่ถูกมองว่าเป็นการพาร์ทชั้นจากเดิมที่อยู่ตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ว่า ไม่ได้พาร์ทชั้นหรอก