'ชัยวุฒิ' ยันไม่มีขัดแย้ง 'เสี่ยโต-นฤมล' ชี้ พปชร.คนเก่งเยอะช่วยกันทำงาน

5 เม.ย.2565 เมื่อเวลา 08.50 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณี นายอภิชัย เตชะอุบล ผอ.ศูนย์อำนวยการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (สก.) พรรคพลังประชารัฐ แต่งตั้ง นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค เป็นประธานยุทธศาสตร์หาเสียงร่วมกับผู้สมัครสก. แต่นางนฤมลปฏิเสธไม่รับตำแหน่งดังกล่าว ว่า ตนไม่ทราบต้องถามนางนฤมล

แต่โดยหลักการพรรคเราช่วยกันทำงานอยู่แล้ว กรรมการของเราทุกคนก็ช่วยกันหาเสียงหรือคิดนโยบายในการสนับสนุนการทำงานของสก.ในการหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้อยู่แล้ว เมื่อถามว่า จำเป็นต้องมีประธานยุทธศาสตร์หาเสียงโดยเฉพาะหรือไม่ นายชัยวุฒิกล่าวว่า จริงๆก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ไม่ได้ซีเรียสอะไร เพราะผู้บริหารพรรคทุกคนช่วยกันอยู่แล้วคุยกันตลอด ผู้สมัครสก.ส่วนใหญ่ก็เป็นทีมงานของสส. เป็นสมาชิกพรรคที่เราเคยทำงานร่วมกันมาระยะหนึ่งอยู่แล้ว ก็คุ้นเคยกันคุยกันตลอด ไม่น่าจะมีปัญหาในการหาเสียงในนามพรรค

เมื่อถามว่าจะเป็นความขัดแย้งหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้มีข่าวว่านางนฤมลจะได้คุมกทม. แต่มาวันนี้กลับไม่รับตำแหน่ง นายชัยวุฒิกล่าวว่า ไม่เห็นจะขัดแย้งเลย เมื่อก่อนตนก็คุมกทม. ตนยังไม่เห็นขัดแย้งเลย ก็ช่วยๆกันทำงานไม่มีความขัดแย้ง การที่เรารับผิดชอบดูแลพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะทำไม่ได้ แต่มันเป็นการช่วยกัน ไม่ได้เป็นปัญหาขัดแย้ง เมื่อถามอีกว่า จะต้องมีการคุยกันเพื่อหาคนมาช่วยงานหรือไม่ นายชัยวุฒิกล่าวว่า คนช่วยงานมีเยอะแยะแล้ว พรรคพปชร. มีบุคลากรและสมาชิกพรรคที่มีความรู้ความสามารถเยอะ เพียงแต่บทบาทอยู่ที่หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารที่จะช่วยกันขับเคลื่อนตามกฎหมายเป็นหลักการ แต่เบื้องหลังเรามีทีมงานและสมาชิกพรรคที่กระจายไปช่วยทุกพื้นที่อยู่แล้ว ยืนยันว่าไม่มีความขัดแย้ง

เมื่อถามว่าพปชร.ชัดเจนแล้วหรือยังว่าจะสนับสนุนผู้สมัครกทม.คนใด นายชัยวุฒิกล่าวว่า ตนเป็นรัฐมนตรีและส.ส.จะไปพูดเรื่องนี้ไม่ได้ เพราะกฎหมายเลือกตั้งเขาห้ามผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไปมีส่วนได้ส่วนเสียในการเลือกตั้ง แต่ถ้าในนามสมาชิกพรรคทุกคนมีอิสระในการทำงาน สนับสนุนใครก็ได้ที่เขาคิดว่าเหมาะสม ไม่ได้มีนโยบายหรือทิศทางชัดเจน

เมื่อถามว่า พรรคไม่ได้มีนโยบายไปในทิศทางเดียวกันหรือ นายชัยวุฒิกล่าวว่า เขากำลังคุยกันอยู่ เมื่อถามว่า หากประเมินสนามสก.จะเป็นการสะท้อน ไปในสนามเลือกตั้งใหญ่ได้หรือไม่ นายชัยวุฒิกล่าวว่า อันนั้นเป็นเรื่องจริง คะแนนนิยมของเลือกตั้งท้องถิ่นก็สะท้อนไปถึงการเลือกตั้งใหญ่อยู่แล้ว เป็นเรื่องปกติ แต่อีกส่วนที่เป็นตัวแปรสำคัญก็คือ ตัวผู้สมัครที่มีความคุ้นเคยกับประชาชน ลงพื้นที่ต่อเนื่อง มีผลงาน จึงอยู่ที่สองอย่างคือคะแนนนิยมของพรรคและตัวผู้สมัคร แต่จุดได้เปรียบของพรรคพปชร.คือเราเป็นพรรคที่มีคะแนนนิยมในกรุงเทพฯ จากการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว และมีสส.เขตในกรุงเทพฯถือว่าเราสามารถทำงานการเมืองให้ชาว กทม.ได้

เมื่อถามว่าประเมินการเลือกตั้งสก.ทั้ง 50 เขตจะได้คะแนนเท่าไหร่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ยังประเมินไม่ได้ต้องดูสักระยะหนึ่ง แต่คิดว่าจะได้พอสมควร ไม่ได้คิดว่าจะมีปัญหาเรื่องคะแนนนิยมอะไร บวกกับที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีและรัฐบาลทำงานดูแลชาวกรุงเทพฯมาเป็นอย่างดี ทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รถไฟฟ้า ระบบป้องกันน้ำท่วม แก้ปัญหาคูคลอง จัดระเบียบหาบเร่แผงลอย ที่ผ่านมามีผลงานมากที่รัฐบาลได้ทำไว้ ซึ่งอันนี้ก็สะท้อนมาถึงพรรคพปชร.อยู่แล้ว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พรรคกล้าธรรมคึก อดีต สส. 4 พรรคย้ายซบ รับศึกเลือกตั้งหลังยุบสภา

หลัง พ.ร.ฎ.ยุบสภามีผลทันที อดีต สส.จากพลังประชารัฐ-รทสช. ประชาธิปัตย์-ไทยสร้างไทย ทยอยลาออกพรรคเดิม สมัครเข้าพรรคกล้าธรรม เตรียมลงสนามเลือกตั้งครั้งใหม่

'ชัยวุฒิ' ซัดฝ่ายอยากแก้รัฐธรรมนูญ ทำการเมืองไทยเข้าสู่ภาวะชะงักงัน

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ หัวหน้าพรรครักชาติ กล่าวภายหลังที่มีพระราชกฤษฎีกายุบสภาว่า ผลกระทบจากเกมการเมืองของฝ่ายที่ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่กลับไม่ได้แก้ในสิ่งที่ต้องการจนนำไปสู่การยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทั้งที่ทราบดีอยู่แล้วว่าผลลัพธ์คือการที่นายกรัฐมนตรียื่นยุบสภาฯ

เปิดตัวพรรครักชาติ 'ชัยวุฒิ' นั่งหัวหน้า ซัดเดือด 'เท้ง' ไม่รู้เรื่องก็อย่าเสือก ให้ทหารทำหน้าที่ไป

เปิดตัว "พรรครักชาติ" พร้อมกก.บห. "ชัยวุฒิ" นั่งหัวหน้า ลั่นเป็นพรรคไร้กลุ่มทุน ไม่เอื้อประโยชน์ให้ใคร ชี้การเมืองวนเวียนอยู่ไม่กี่ตระกูล ฟาด พรรคขายฝันปมชายแดน ไม่รู้เรื่องก็อย่าเสือก ปล่อยทหารทำหน้าที่ไป

‘นฤมล’ เผยเหตุปะทะชายแดนไทย-เขมร ปิดโรงเรียนแล้ว 990 แห่ง

ที่ทำเนียบรัฐบาล นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงแผนสั่งปิดโรงเรียนพื้นที่ชายแดนว่าจะปิดกี่วัน ว่

'รมว.ศธ.' สั่งปิด 641 โรงเรียน พื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา

'นฤมล' สั่งปิดโรงเรียน 641 แห่ง ใน 5 จังหวัดชายแดนไทย–กัมพูชา ย้ำความปลอดภัยเด็กและครูต้องมาก่อน รอดูสถานการณ์ก่อนเปิดเรียนอีกครั้ง