ดร.เสกสกล ฟาดยับ 3 กูรูเศรษฐกิจ! เตือนอย่าให้คนรุ่นหลังต้องถามรักประเทศหรือเปล่า

‘ดร.เสกสกล’ ฟาด กูรูเศรษฐกิจ ‘สันติ-บรรยง-สุพันธุ์’​ ว่างจัดวิจารณ์แถลงการณ์ ‘กลยุทธ์’​ 3 แกนนายกฯ แนะเอาเวลาลงพื้นที่ทำประโยชน์ให้ปชช.จะดีกว่าค้านไปเสียทุกเรื่อง ระวังเด็กจะถามใช่คนไทยรักประเทศไทยหรือเปล่า

10 ก.ค. 2565 -​ ดร.เสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี นายสันติ กีระนันทน์ รองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย นายสุพันธุ์ มงคลสุธี หัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรคไทยสร้างไทย และนายบรรยง พงษ์พานิช ประธานกรรมการบริษัทหลักทรัพย์ ภัทร ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ แถลงการณ์กลยุทธ์ 3 แกนของนายกฯ

โดยดร.เสกสกล กล่าวว่าที่ผ่านมาตลอดการบริหารงานของนายกฯ ได้มีความตั้งใจและพยายามอย่างเต็มที่ ที่จะให้เศรษฐกิจของประเทศเดินหน้าไปได้ ซึ่งการแก้ไขปัญหาที่ผ่านมาไม่ใช่เรื่องง่ายในสถานการณ์ ทั้งการระบาดเชื้อโควิด-19 และสถานการณ์สู้รบในต่างประเทศ ซึ่งนายสุพันธุ์ นายสันติ และนายบรรยง เป็นถึงกูรูด้านเศรษฐกิจน่าจะรู้ดีถึงข้อจำกัดที่เกิดขึ้น

ดร.เสกสกล กล่าวต่อว่า และการที่นายกฯออกแถลงการณ์มานั้น เพราะอยากจะทำความเข้าใจ ชี้แจงให้กับประชาชนได้รับทราบว่ารัฐบาลกำลังดำเนินการในเรื่องอะไรบ้าง และจะทำอะไรต่อจากนี้ไปในอนาคต ไม่ได้มีเจตนาอื่นใดเลย

“ทั้ง 3 คนถือว่าเป็นกูรูเศรษฐกิจ แทนที่จะให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ และประชาชน แต่กลับหาจังหวะเอามาโจมตีนายกฯและรัฐบาล เชื่อมโยงให้เป็นเรื่องทางการเมือง เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของตนเองเท่านั้น อย่าเอาอคติส่วนตัวมุ่งทำลายรัฐบาล ในภาวะที่นายกฯต้องการความร่วมมือจากทุกฝ่าย สิ่งที่เป็นนโยบายที่ดีควรออกมาชมให้กำลังใจกัน ไม่ใช่รัฐบาลมีนโยบายดีอย่างไรก็โจมตีไปเสียทุกเรื่อง”

ดร.เสกสกล กล่าวต่อไปว่าหากมีแนวคิดที่ลบแบบนี้ ขอแนะนำว่าอย่าไปเป็นเลยผู้แทนของประชาชน นอกจากนี้ยังมีบางคนคงจะเป็นกังวลว่านายกฯจะอยู่ต่อ ตนขอบอกว่าไม่ต้องกังวลเพราะนายกฯ จะทำงานจนครบเทอมอย่างแน่นอน ส่วนการเลือกตั้งครั้งหน้าอยู่ที่ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน ทุกอย่างเป็นไปตามกติกาอยู่แล้ว

“แต่ที่ผมเป็นห่วงคือ บรรดากูรูเศรษฐกิจของพรรคการเมืองต่างๆ ที่ชอบออกมาโจมตีคนอื่น หากว่างมากรีบเอาเวลาไปทำงานให้ประชาชนได้เห็นผลงานจะดีกว่า เพราะดีไม่ดี ไม่มีผลงานอะไรเลยมีแต่ปากดี เลือกตั้งรอบหน้าพรรคการเมืองของแต่ละคนอาจได้เป็นฝ่ายค้าน หรือไม่ก็ไม่มี ส.ส. เข้าสภาฯแม้แต่คนเดียว

โตจนมีอายุขัยมากไปทุกวัน ภาษาบ้านผมแก่ใกล้จะลงโลงกันไปทุกวันแล้ว ควรจะคิดให้สร้างสรรค์กว่านี้เพื่อประคับประคองบ้านเมืองในภาวะวิกฤติโลกที่กำลังกระทบหนัก ให้รอดไปด้วยกัน มหาอำนาจโลกหลายประเทศยังต้องเจอวิกฤติหนักกว่าประเทศไทย ทุกประเทศทั่วโลกต้องปรับตัวให้ทันเพื่อรองรับปัญหาที่จะตามมา

เราคนไทยด้วยกันหยุดทำลายกันทางการเมืองดีกว่า อย่าให้เด็กต้องมาตั้งคำถามว่า ท่านรักประเทศไทย หรือรักคนไทยหรือเปล่า ไม่อยากพูดว่าโตจนสุนัขเลียก้นไม่ถึง อย่าให้เด็กลูกรุ่นหลัง ต้องออกมาด่าทอตามหลังและตั้งคำถามว่า ท่านเป็นคนไทยหรือเปล่าเลย ผมเตือนมาด้วยความหวังดีครับ” ดร.เสกสกล กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เซลส์นิด' แจงสภาสูง ขยันทัวร์นอกเหตุจำเป็น เมินตอบปม 'ทักษิณ'

'เศรษฐา' ปัดแก้ตัวงบไม่มางานไม่เดิน เคลมราคายางพุ่งผลงานรัฐบาล ชี้ดึงต่างชาติลงทุนล้านล้านบาท ใช้เวลามากกว่า 7 เดือน แถลงความก้าวหน้าทัวร์นอก 26 มี.ค.