'จุรินทร์' สวนเจ็บ! ต้องไล่ล่าเงินโกง 'จำนำข้าว-มันสำปะหลัง' ไม่ใช่แค่ถุงมือยาง

'จุรินทร์' จัดเต็มโต้ฝ่ายค้านฉายหยังเก่า ย้อนเกล็ดต้องเงินโกง 3 ก้อนไม่ใช่แค่ถุงมือยังมีข้าว-มันสำปะหลัง เพื่อไทยดิ้นพล่านโต้เอาเรื่องอื่นมากลบ เจอสวนอย่าทำเป็นหูดับ

20 ก.ค.2565 - นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ชี้แจงการอภิปรายของนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ว่าฉายหนังเก่า ที่พูดมาทั้งหมดกว่า 90% เป็นเรื่องที่ได้เคยพูดมาแล้ว เพียงแต่มาเติมว่าตั้งแต่วันที่อภิปรายครั้งก่อนจนถึงวันนี้ไม่มีความคืบหน้า และว่าไม่กล้าจัดการกับประธานบอร์ดองค์การคลังสินค้า (อคส.) นอกจากนี้เรื่องที่ผู้อภิปรายพูดไม่เป็นความจริง เพราะที่ ป.ป.ช.ไต่สวนนั้นเป็นเพราะ อคส. กระทรวงพาณิชย์ไปยื่นแจ้งกับ ป.ป.ช. ไม่ใช่ข้อมูลนายประเสริฐ และเรื่องการทุจริตก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับตนเอง เพราะยังไม่เคยไปชี้แจงกับ ป.ป.ช.เลย ที่กล่าวหาว่าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ไม่จริงทั้งในที่ลับและที่แจ้ง ไม่เคยเข้าไปยุ่งกับเรื่องนี้

นายจุรินทร์ ชี้แจงอีกว่า ภารกิจของ อคส.ในการที่ต้องทวงเงินคืนนั้น ไม่ได้มีแค่เรื่องถุงมือยาง แต่มีเงิน 3 ก้อน 1.ทุจริตจำนำข้าว 2.ทุจริตถุงมือยาง 2 พันล้านบาทพร้อมดอกเบี้ย และ 3.ทุจริตมันสำปะหลังคู่แฝดทุจริตจำนำข้าวนั่นเอง โดยกรณีทุจริตถุงถือยาง 2 พันล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยเกิดขึ้น เพราะอดีตรักษาการณ์ผู้อำนวยการ อคส. ไปทำสัญญาขายถุงมือยาง 125,000 ล้านบาท ให้กับ 7 บริษัท หลังจากนั้นก็มาทำสัญญาถุงมือยางกับบริษัท การ์เดียนโกลฟส์ 110,000 ล้านบาท เพื่อจะได้เป็นเงื่อนไขในการเบิกเงิน อคส.ไป 2,000 ล้านบาท ที่อ้างว่าไปจ่ายค่ามัดจำ ทั้งนี้ ผอ.อคส.คนใหม่ที่เข้ามาเมื่อทราบว่ามีเงินหายจากบัญชี 2,000 ล้านบาทก็ได้แจ้งให้ตนเองทราบ และวันเดียวกันนายกฯ ได้มีคำสั่งย้ายอดีตรักษาการณ์ อคส.ไปยังสำนักนายกฯทันที แบบนี้เรียกว่านายกฯ ละเลยต่อเรื่องนี้ได้อย่างไร

“จากนั้น ผอ.อคส.ตั้งตรวจสอบข้อเท็จจริง และไปแจ้งความกับดีเอสไอ และ ปปง. เมื่อวันที่ 18 ก.ย.2563 เพื่ออายัดเงินทันที และยังไปแจ้งกับ ป.ป.ช.ด้วย และป.ป.ช.ได้มีมติเมื่อวันที่ 29 ต.ค.2563 อายัดเงิน 2,000 ล้านบาท อีกทั้งมีความคืบหน้าการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงของ อคส. และชี้มูลความผิด 3 ราย คือ อดีตรักษาการณ์ ผอ.อคส. และเจ้าหน้าที่อีก 2 ราย ที่ท่านบอกว่าไม่เคยมีการตั้งคณะกรรมการสอบ หรือไม่เคยอายัดเงินเลยนั้นก็ไม่ใช่เรื่องจริง เพราะที่ผ่านมาก็มีการตั้งกรรมการสอบและอายัดเงิน” รมว.พาณิชย์ ระบุ

นายจุรินทร์ กล่าวว่า เรื่องที่กล่าวหาว่าประธานบอร์ดสนิทกับคนนั้นคนนี้ ได้ชี้แจงไปแล้วอย่างชัดเจน วันนั้นเคยอภิปรายไว้แล้ว ต่อมาได้ให้ดำเนินการทางแพ่ง อาญา และวินัย ส่วนเรื่องการละเมิด เรื่องการไปติดตามทวงเงิน 2,000 ล้านบาทและดอกเบี้ยคืน ซึ่งใครกระทำความผิด ใครเกี่ยวข้องก็จะต้องนำเงินมาชดใช้ เพราะเงินหลวงตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ ซึ่งอันนี้เป็นการตั้งกรรมการสอบว่าใครต้องรับผิดชอบกี่บาท ตาม พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ปี 2539 ซึ่งผลการสอบดังกล่าวก็ออกมาแล้วว่าผู้ที่ต้องชดใช้เงินนี้มี 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่เจตนาทำให้รัฐเสียหาย มี 4 ราย ต้องชดใช้คนละ 400.8 ล้านบาท ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ที่กรรมการชี้ว่าผิดทางวินัย 3 ราย รวมทั้งประธานบอร์ด อคส. ด้วย ส่วนกลุ่มที่ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงมี 3 ราย ต้องชดใช้คนละ 133.6 ล้านบาท ซึ่งเรื่องนี้ต้องไปยุติที่กระทรวงการคลัง และเรื่องนี้ก็ได้ส่งไปยังกระทรวงการคลังเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า ได้ลงนามแต่งตั้งกรรมการสอบความรับผิดทางละเมิดประธานบอร์ดแล้ว เมื่อเดือน 31 พ.ค.2565 และกรรมการได้แจ้งข้อกล่าวหาแล้ว ส่วนการไต่สวนของ ป.ป.ช. กำลังจะเข้าสู่การพิจารณาของกรรมการ ป.ป.ช. ทั้งหมดนี้เราดำเนินการทั้งสามด้านแล้ว ทั้งความผิดทางแพ่ง อาญา และวินัย ฉะนั้นที่ท่านกล่าวหาว่าปล่อยปละละเลยเรื่องนั้นไม่เป็นความจริง

จากนั้นนายจุรินทร์ ได้กล่าวถึงเงินก้อนที่สอง ที่จะต้องทวงคืน คือ เมื่อ 10 ปีที่แล้ว จากกรณีทุจริตจำนำข้าวที่พรรคเพื่อไทยสร้างไว้ก่อความเสียหายให้ อคส. 548,061 ล้านบาท จน อคส.ต้องฟ้องเรียกค่าเสียหาย 1,180 คดีทั้งแพ่ง อาญา ค่าเสียหายกว่า 500,000 ล้านบาท ซึ่งนายประเสริฐ ได้ประท้วงว่าประชาชนอยากฟังเรื่องเส้นทางการเงินที่อภิปราย ไม่ใช่มาตอบเรื่องอื่นหรือเอาเรื่องอื่นมากลบ แบบนี้เป็นการเอาดีเข้าตัวเอาชั่วใส่คนอื่น ทำให้นายจุรินทร์ ตอบโต้ว่า “ผมไม่ได้เอาชั่วใส่ใคร ถ้าชั่วจริงมันก็ต้องชั่ว การดำเนินการทางกฎหมายต้องเกิด เหมือนทุจริตถุงมือยาง ถ้าทุจริตจริงก็ต้องจัดการและเส้นทางการเงินที่ท่านพูดนั้น ป.ป.ช. ดำเนินการ ปปง. ก็เป็นองค์กรตามกฎหมายที่ดำเนินการ ที่ต้องชี้แจงทุจริตจำนำข้าว เพราะท่านเขียนในญัตติกล่าวหาว่า มีพฤติกรรมปล่อยปละละเลยไม่ติดตามแก้ไขปัญหาการทุจริต เพื่อให้ชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่รัฐหรือ อคส.

“ผมกำลังอธิบายว่าติดตามความเสียหายอย่างไร และไม่ได้มีก้อนเดียวเฉพาะถุงมือยาง ยังมีทุจริตจำนำข้าวอีกก้อน เป็นภารกิจต้องติดตาม ซึ่ง 1,180 คดี ความเสียหายกว่า 500,000 ล้านบาท ต้องทุ่มเทกำลังเวลาในการปฏิบัติงานไปใช้กับการดำเนินคดีที่พวกท่านก่อไว้ 10 ปีที่แล้ว คดียังอยู่ในศาลคืบหน้าเป็นลำดับแต่ยังต้องใช้เวลาตามกระบวนการยุติธรรม อีกก้อนกว่า 30,000 ล้านบาท ทุจริตจำนำมัน สมัยท่านเป็นรัฐบาลเหมือนกัน ผมถึงบอกว่าก๊อปปี้ทุจริตจำนำข้าวมาเลย ไม่ต้องเอ่ยว่ารัฐบาลไหนคือพวกท่านแล้วกัน ทำ อคส. ขาดทุน 33,000 ล้านบาท ต้องทุ่มเทกำลังฟ้อง ฟ้องแล้ว 164 คดี เรียกค่าเสียหาย 20,065 ล้านบาท ศาลจำคุกแล้ว 26 คดี แต่ยังไม่จบ ต้องเอาเจ้าหน้าที่ขึ้นศาลเพราะสิ่งที่พวกท่านก่อไว้”นายจุรินทร์ กล่าว

รมว.พาณิชย์ กล่าวด้วยว่า ตอนสั่งเร่งรัดทั้ง 3 ก้อน ไม่ได้เลือกที่รักมักที่ชัง ต้องดำเนินการเอาคืน เพราะการเอาจริงเอาจังกับการทุจริตและความไม่โปร่งใสและความโปร่งใสของ อคส.ในยุคนี้ทำให้คะแนนคุณธรรมและความโปร่งใสของ อคส. กระเตื้องขึ้นเยอะ ยุคท่านได้ไม่ถึง 70 คะแนน ในปี2563-2564 ป.ป.ช. ให้คะแนน อคส. มีคุณธรรมความโปร่งใสและเป็นองค์กรที่เชื่อถือได้ในเรื่องนี้ ปี 2563 ได้ 83 คะแนนระดับเอ ปี 2564 ได้ 93.59 คะแนน ไม่ได้ประเมินเอง แต่ ป.ป.ช. ที่เป็นองค์กรอิสระในการจัดการกับการทุจริตและส่งเสริมความโปร่งใสและคุณธรรมธรรมาภิบาลในการบริหารบอกมา

นายจุรินทร์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ที่ท่านบอกว่าไม่เห็นความคืบหน้า ท่านหูดับแล้ว เพราะทั้งหมดคือความคืบหน้าของการดำเนินการตามขั้นตอนกระบวนการกฎหมายชัดเจนทุกเรื่องทั้งแพ่ง อาญา วินัยและการหาตัวผู้กระทำผิดมาชดใช้ค่าเสียหาย 2,000 ล้านบวกดอกเบี้ย ส่วนถ้าจะส่ง ป.ป.ช.ไม่มีปัญหา ดีจะได้ช่วยกันตรวจสอบการทุจริต ไม่ว่าที่ไหนก็ตามตนพร้อมให้ความร่วมมือท่าน ไม่ต้องห่วง

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ทวี' ยันไม่เคยได้ยิน เพื่อไทยจะเอาตำแหน่งประธานสภาฯ

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีมีกระแสว่าพรรคเพื่อไทยจะขอเก้าอี้ประธานสภา ว่า รัฐธรรมนูญได้มีการเขียนเอาไว้อย่างชัดเจนถึงการเข้าดำรงตำแหน่งประธานสภาว่าเป็นเรื่องของสภา ส่วนเรื่องคณะรัฐมนตรีนั้นเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี

'พิชัย' เซ็ง 'แบงก์ชาติ' ไม่ลดดอกเบี้ยถามสังคมแบบนี้ควรมีอิสระไหม!

'พิชัย' ผิดหวัง 'แบงก์ชาติ' ไม่ลดดอกเบี้ย ทั้งที่ภาพรวมเศรษฐกิจแย่ แต่กลับไม่เดือดร้อน ชี้ไม่ใช่หน้าที่แบงก์ชาติมากำหนดอัตราการเติบโต แนะอย่าอ้างว่าต้องอิสระบนความเดือนร้อนของประชาชน

'เศรษฐา' ไม่ติดใจ 'ทักษิณ' มีบารมีมากกว่า

นายเศรษฐา​ ทวีสิน​ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ​ ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าพบ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นักโทษที่อยู่ระหว่างการพักโทษ เพื่อรดน้ำขอพรวันสงกรานต์