ประชาธิปัตย์ ชูเลือกตั้งบัตร 2 ใบ จำนวนส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์หาร 500


29 ก.ค.2565 - นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช และรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในการพิจารณาร่วมกันของสมาชิกรัฐสภาที่ผ่านมา ก็เป็นที่เข้าใจของประชาชนทั่วไปเรียบร้อยแล้วว่า การเลือกตั้งครั้งต่อไปที่คาดว่าจะมีขึ้นในปี 2566 นั้น จะมี ส.ส. 2 ประเภท คือ ส.ส.เขต 400 คน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน ใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เบอร์ผู้สมัคร ส.ส.เขต และบัญชีรายชื่อ จะไม่ใช้เบอร์เดียวกัน รวมทั้ง วิธีการได้มาซึ่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ สมาชิกรัฐสภา ก็ได้คล้อยตามสิ่งที่ น.พ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ ได้อภิปรายแสดงเหตุผลต่อที่ประชุม

ก็คือ การใช้จำนวน ส.ส.ทั้งหมดในสภา คือ 500 คน นำไปหารคะแนนเสียงทั้งหมดในการเลือกตั้ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ก็จะได้ค่าเฉลี่ยของ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 1 คน ซึ่งเหลือเพียงรายละเอียดที่จะต้องแก้ไข เพื่อให้สอดคล้องกับวิธีการดังกล่าวเท่านั้น ซึ่งคาดว่า จะสามารถครบกำหนดตามที่วางไว้คือวันที่ 15 สิงหาคมนี้

แต่ปรากฏว่า มีความเคลื่อนไหวของแกนนำรัฐบาลและ ส.ส.บางรายที่เห็นว่า หากจะเดินตามสูตรที่กำลังพิจารณาในขณะนี้ อาจจะทำให้ตัวเองหมดโอกาสกลับเข้าไปทำหน้าที่ ส.ส.ในสมัยหน้า จึงได้มีการเสนอให้กลับไปใช้วิธีการเดิมที่ใช้กันมาในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 นั่นก็คือ บัตรใบเดียวที่มัดมือชกเลือกทั้งเขตและบัญชีรายชื่อ และวิธีคิดคำนวณที่พิสดาร ซึ่งไม่มีมาตรฐานที่แน่นอน ทำให้เกิดข้อสงสัยเป็นอย่างมาก แต่กลับมีความเคลื่อนไหวที่จะปัดฝุ่นนำวิธีการนี้มาเพื่อสร้างความได้เปรียบกับตัวเอง ท่ามกลางความงุนงงสงสัยของประชาชนที่มองว่า สภาชุดนี้กำลังจะกลายเป็นสภาโจ๊ก เพราะกลับไปกลับมาเอาแน่เอานอนไม่ได้

นายชัยชนะ กล่าวต่อว่า ดังนั้น ในเมื่อขณะนี้การแก้ไขพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่..) พ.ศ. .... ใกล้มาถึงขั้นพิจารณาในวาระสามแล้ว จึงควรที่จะให้มีการลงมติพิจารณาให้เสร็จสิ้นเสียก่อน เพราะยังมีขั้นตอนตามรัฐธรรมนูญฯ ที่จะต้องให้รัฐสภาส่งร่าง พ.ร.ป.ที่เห็นชอบแล้วนั้น นั้นไปยังศาลฎีกา ศาลรัฐธรรมนูญ หรือองค์กรอิสระ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ความเห็นต่อไปภายใน 10 วัน นับตั้งแต่รับเรื่อง ซึ่งหากไม่มีการทักท้วง ก็ให้รัฐสภาดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป รวมทั้ง ยังมีช่องทางการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความอีกด้วย ซึ่งหากศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่า สิ่งที่สมาชิกรัฐสภาได้ดำเนินการมาทั้งหมดขัดกับรัฐธรรมนูญนั้น รัฐสภาก็ต้องปฏิบัติตามคำวินิจฉัยและเร่งรีบดำเนินการพิจารณาให้เรียบร้อยก่อนที่จะมีการเลือกตั้งตามกำหนดเวลาที่จะต้องไม่เกินเดือนพฤษภาคม 2566 เพราะฉะนั้น จึงไม่ควรที่จะสร้างความสับสนให้กับประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง เพียงเพื่อเอาชนะในทางการเมืองเท่านั้น

"ผมเห็นว่า กระบวนการที่รัฐสภา ดำเนินการไปนั้น เป็นที่รับรู้ของประชาชนทั่วไปกันหมดแล้ว ดังนั้น แกนนำรัฐบาลและ ส.ส.ที่มีความกลัวว่าจะสอบตกนั้น ไม่ควรที่จะพลิกแพลงหาวิธีการพิสดารพันลึกใดๆ ให้ได้รับชัยชนะหรือเพียงเพื่อให้ตัวเองกลับมาเท่านั้น

เพราะในที่สุด ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจในคูหาเลือกตั้งว่า จะให้ใครเป็น ส.ส.ดูแลทุกข์สุขของประชาชนภายในเขต และจะให้พรรคการเมืองใดเป็นแกนหลักในการจัดตั้งรัฐบาลเพื่อบริหารประเทศ ซึ่งการเคลื่อนไหวในลักษณะที่ถึงขั้นจะกลับไปแก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่ คือการใช้บัตรใบเดียวตอบคำถาม 2 ข้อ เพียงเพื่อสนองความต้องการตัวเองนั้น นอกจากจะเป็นการแกงหม้อใหญ่ ให้กับหลายๆ ฝ่ายแล้ว ประชาชนก็มองรัฐสภาชุดนี้เป็นสภาโจ๊กไปด้วย เพราะท่าที่แบบกลับไปกลับมา เอาความแน่นอนและหาสาระอะไรไม่ได้ ส่งผลให้ภาพลักษณ์ดูไม่ดีในสายตาของประชาชนอีกด้วย" นายชัยชนะ กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ

'กัณวีร์' โร่แจงโดนปลดพ้นเลขาฯพรรคเป็นธรรม

นายกัณวีร์ สืบแสง สส.พรรคเป็นธรรม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ตามที่พรรคเป็นธรรมได้ออกแถลงการณ์เรื่องการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งภายในพรรค และมีมติปลดผมออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรค ผมขอเรียนชี้แจงต่อสาธารณชนและพี่น้องประชาชนดังต่อไปนี้