'เต้' วินิจฉัยเอง 'บิ๊กตู่' เป็นอดีตนายกฯไปแล้วหลังขาดคุณสมบัติตามรธน. ฟุ้ง!ใส่เนกไทสีสดใสรับนายกฯคนใหม่

'เต้'วินิจฉัยเอง'บิ๊กตู่' เป็นอดีตนายกฯไปแล้ว หลังขาดคุณสมบัติตามรธน. มาตรา 158 (4) ชี้ ครม.หลุดทั้งคณะ ปลัดกระทรวงต้องทำหน้าที่แทน เหน็บ ไม่เข้าทำเนียบวันนี้เพราะกลัวม็อบ-กลัวตาย-กลัวผิดกม. มอบรองนายกฯ ออกงานแทน

24ส.ค.2565 - ที่รัฐสภา นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวถึงวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า ในความรู้สึกตน พล.อ.ประยุทธ์ถือเป็นอดีตนายกฯ ไปแล้ว เพราะรัฐธรรมนูญมาตรา 158 (4) ก็บอกแล้วว่าห้ามเป็นนายกฯ เกิน 8 ปี และหากไปดูรัฐธรรมนูญมาตรา 263 จะพบว่าพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ครั้งแรกจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพราะมาตราดังกล่าวได้รองรับว่าสนช.ปฏิบัติหน้าที่แทนสภาผู้แทนราษฎร หมายความว่าพล.อ.ประยุทธ์ได้ดำรงตำแหน่งครั้งแรกจากสภาผู้แทนราษฎร ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 263 และมาตรา 264 รองรับว่าคนที่เป็นรัฐมนตรีก่อนรัฐธรรมนูญประกาศใช้ให้เป็นคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในรัฐธรรมนูญฉบับ 2560 ดังนั้น หมายความว่าวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปี จะขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 158 (4) ตั้งแต่เวลา 00.00 น. ที่ผ่านมา

“ตอนนี้ท่านเป็นอดีตนายกฯ ไปแล้วจะแปลเป็นอย่างอื่นไม่ได้ ถ้าไม่มีมาตรา 263 และมาตรา 264 ก็จะถือว่าพล.อ.ประยุทธ์เริ่มเป็นนายกฯ หลังวันที่ 9 มิ.ย. 2562 แต่มีมาตรา 263 และมาตรา 264 กำกับไว้ ฉะนั้น การนับวาระถือว่าจบแล้ว และปัจจุบันถือว่าครม.หลุดทั้งคณะไปแล้ว เพราะหัวหน้ารัฐบาลขาดคุณสมบัติ ซึ่งตามหลักกฎหมายคนที่จะปฏิบัติราชการต่อจากนี้ได้คือปลัดกระทรวง และให้ปลัดกระทรวงแต่ละกระทรวงประชุมร่วมกันและเลือกปลัดกระทรวงหนึ่งคนทำหน้าที่แทนนายกฯ” นายมงคลกิตติ์ กล่าว

เมื่อถามว่า ในทางปฏิบัติ วันนี้พล.อ.ประยุทธ์ ยังทำหน้าที่อยู่ แต่ไม่ได้เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล มองการทำหน้าที่ของพล.อ.ประยุทธ์อย่างไร นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์คงกังวลว่าตกลงวันนี้เราเป็นนายกฯ อยู่หรือไม่ ซึ่งก็ยังคงงงๆ อยู่และกลัวว่าจะมีความผิด จึงมอบหมายกำหนดการให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ และนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ไปดำเนินการแทน ส่วนตนเองก็ประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนต์ การที่พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ยอมเข้าทำเนียบเพราะกลัวม็อบที่เกิดจากประชาชนไม่ยอมรับและกลัวตาย เพราะมีความขี้ขลาด มีตาขาวมากกว่าตาดำ และเมื่อคืนนี้ (23 ส.ค.) แทนที่จะเดินทางมาขอบคุณสภาที่พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.2566 วงเงิน 3.185 ล้านล้านบาท ผ่าน ก็กลับไม่มา เพราะคงรู้ว่าตัวเองคงไม่ได้ใช้ เพราะเลยเวลาเที่ยงคืนเมื่อคืนที่ผ่านก็เป็นอดีตนายกฯ แล้ว

“ผมอ่านกฎหมายก็เข้าใจว่าเป็นอย่างนี้ เพราะจะอ่านกฎหมายแล้วเป็นอย่างอื่นก็คงไม่ได้ ผมไม่ใช่นักกฎหมายที่เอาสีข้างเขาถู ศรีธนญชัยไม่ได้เหมือนอาจารย์วิษณุที่เป็นพญาศรีธนญชัย ส่วนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยคำร้องในวันนี้นั้น คาดว่าผลการประชุมจะออกมาไม่เกินบ่ายโมง ผมเชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องอยู่แล้ว แต่จะให้พล.อ.ประยุทธ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ก็ต้องรอดู แต่ผมมองแล้วยังไงก็ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ และศาลต้องวินิจฉัยให้เร็วที่สุด เพราะตามหลักปฏิบัติหากเราไม่รอศาลรัฐธรรมนูญ ทางประธานรัฐสภามีหน้าที่ในการเรียกประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อสรรหานายกฯ คนใหม่แล้ว เนื่องจากพล.อ.ประยุทธ์ขาดคุณสมบัติ ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้แล้ว เพียงแต่ว่าตอนนี้ยังไม่มีคนชี้ขาด จึงฝากประชาชนหากเจอพล.อ.ประยุทธ์ ขอให้เรียกอดีตนายกฯ” นายมงคลกิตติ์ กล่าว

เมื่อถามว่า ทำไมวันนี้จึงไม่แต่งชุดดำตามมติของพรรคร่วมฝ่ายค้าน นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า การแต่งดำคือการไปงานศพ ซึ่งนายกฯ ขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญแต่ไม่ได้ตาย ตนจึงใส่เนกไทสีสดใสเพื่อต้อนรับนายกฯ คนใหม่ ตนไม่ชอบอยู่กับความทุกข์ ความเศร้า แม้จะมีความคิดคนละแบบแต่ก็เป็นฝ่ายค้านเหมือนกัน