
สาวเพื่อไทยเย้ยได้ 'ประวิตร' รักษาการนายกฯ เหมือนหนีเสือปะจระเข้ ห่วงเอเปกต้องหามต้องประคองผู้นำไทยรับแขก พร้อมจี้ 'ประยุทธ์' ลาออกก่อนศาลวินิจฉัย
25 ส.ค.2565 – น.ส.ชญาภา สินธุไพร รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเป็นเอกฉันท์รับคำร้องฝ่ายค้านปมดำรงตำแหน่งครบ 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมมีมติให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวจนกว่าจะมีคำวินิจฉัย โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รักษาการนายกฯ แทน ว่าประเทศไทยเหมือนตกอยู่ในสภาวะหนีเสือปะจระเข้ ไม่หลุดพ้นจากการครอบงำของกลุ่มอำนาจ 3 ป. ได้เลย การมี พล.อ.ประวิตร รักษาการนายกฯ ไม่ต่างจากพาประเทศเดินถอยหลังเข้าคลองอีกครั้ง ภายใต้สถานการณ์และวิกฤตรอบด้านที่ท้าทาย ความเชื่อมั่นและความสามารถของผู้นำประเทศเป็นคุณสมบัติสำคัญที่จะนำพาประเทศให้รอดพ้นจากวิกฤตที่รุมเร้าไปได้ โดยเฉพาะการประชุมเอเปกที่จะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2565 พล.อ.ประวิตรไม่ได้อยู่ในสภาพหรือมีความพร้อมที่จะเป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุมได้ แต่เกรงว่าอาจกลายเป็นภาระให้กับประชาชนและคนรอบข้างแทนหรือไม่ ทั้งสภาพร่างกายภายนอกและความรู้ความสามารถในการบริหารงานราชการแผ่นดิน เชื่อว่าคนไทยคงไม่ต้องการเห็นผู้นำของตัวเองอยู่ในสภาพที่ต้องมีคนประคอง หรือพยุงมารับแขกบ้านแขกเมืองบนเวทีระดับโลกแน่
น.ส.ชญาภากล่าวว่า หลังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก็ยังไม่ได้สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนคนไทยได้ แต่ในทางตรงกันข้ามกลับยิ่งสร้างข้อกังขาและนำไปสู่คำถามตามมาอีกมากมายว่า สรุปแล้วประเทศไทยจะเดินหน้าไปในทิศทางไหน การหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวของพล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะนายกฯ ไม่ได้เพียงพอต่อข้อเรียกร้องของพี่น้องประชาชน ยืนยันจากผลสำรวจของเครือข่ายนักวิชาการเสียงประชาชน 8 มหาวิทยาลัย ร่วมกับ 8 สื่อ ในเรื่อง 8 ปี เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2565 ในเรื่อง 8 ปี ผลปรากฏว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ควรดำรงตำแหน่งนายกฯเกิน 8 ปี คิดเป็น 93.17% ดังนั้นหากมีสำนึกรับผิดชอบมากพอ ก็ไม่ควรอยู่รอคำวินิจฉัยปม 8 ปี จากศาลรัฐธรรมนูญ หรือรอให้ใครมาบอก แต่ควรใช้สามัญสำนึกและมีความเกรงกลัวที่จะกระทำผิดบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศบ้าง ควรตัดสินใจประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีทันที เพื่อเปิดทางให้รัฐสภาได้เดินหน้าเลือกนายกรัฐมนตรีจากบัญชีรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ ให้ประเทศได้มีผู้นำที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาทำงานตามวิถีทางประชาธิปไตย
“ประเทศชาติเสียเวลามามากพอแล้ว เราช้าและล้าหลังไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว ประเทศไทยต้องไปต่อ แต่ 3 ป.ต้องพอแค่นี้ การมี พล.อ.ประวิตร รักษาการแทน ยิ่งตอกย้ำซ้ำเติมวิกฤตประเทศ ที่ไม่สามารถก้าวพ้นจากกับดักเผด็จการสืบทอดอำนาจไปได้แม้แต่น้อย”น.ส.ชญาภากล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จับตา กกต.ยื้อฟันว่าที่ ส.ส. ผวาบทเรียนแพ้คดี 'สุรพล'
อีกไม่นานก็จะครบ 30 วัน นับตั้งแต่การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พ.ค. ซึ่งเป็นที่รู้กันว่า พรรคก้าวไกล (ก.ก.) มี ส.ส.มากเป็นอันดับ 1 และเตรียมที่จะจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรค ที่ประกอบไปด้วย พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย พรรคไทยสร้างไทย
'ภูมิธรรม' ลั่นไม่มีใครจะใช้นโยบายได้ฝ่ายเดียวในรัฐบาลผสม ชี้แบ่งกระทรวงยึดตามประชาชนต้องการ
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการตั้งรัฐบาลคร้ังนี้ มีการร้องไปยังพรรคการเมืองที่ชนะเลือกตั้งต่างๆนานา ดูภาพรวมแล้วจะมีอะไรเป็นอุปสรรคอะไรหรือไม่ ว่า เป็นเรื่องปกติ การร้องเรียนต่างๆเกิดขึ้นตลอด แต่วันนี้อย่างน้อยที่สุดประชาชนสะท้อนเจตจำนงชัดเจน
ไร้จิตสำนึก! แฉคนเดินขบวน 'บางกอกไพรด์' ทำผลงานศิลปะพังเสียหาย ทิ้งขยะเรี่ยราด
กรณีการจัดงาน Bangkok Pride 2023 ซึ่งมีการเดินขบวนพาเหรดรณรงค์ในเรื่อง LGBTQ เริ่มต้นที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา
'ทักษิณ' ฟังไว้! 'ก้าวไกล' ชี้กลับไทยเรื่องส่วนตัว ไม่เข้าเกณฑ์นิรโทษ
นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และแคนเดตนายกรัฐมนตรี ระบุนายทักษิณ ชินวัตร
นัดถก 8 พรรค ยังไม่คุยตำแหน่ง 'ปธ.สภา' มั่นใจสู้คดีหุ้นสื่อพิธาฉลุย
'พ่อบ้านก้าวไกล' มั่นใจสู้คดีหุ้นสื่อพิธาฉลุย นัดถกพันธมิตร 6-7 มิ.ย. ยังไม่คุยตำแหน่งปธ.สภา ไม่กังวล กกต. จ่อเลือกตั้งใหม่หลายเขต
'พรรคเล็ก' สวนหมัด! ฟ้อง 3 ศาล ฟัน กกต. สั่งเลือกตั้งโมฆะ
'คฑาเทพ' เข้ากรุง ฟ้องศาลปกครอง 7 มิ.ย. ไต่สวนคุ้มครองชั่วคราวระงับ กกต. รับรอง ส.ส. พ่วงร้องศาลฎีกาคดีอาญาฯ เอาผิดฐานทุจริต