'สุวัจน์' ลั่นรีแบรนด์ 'ชาติพัฒนา' แบไต๋ 'กรณ์' นั่งหัวหน้า จับตาดึงทีมเศรษฐกิจเข้าพรรค

3 ก.ย.2565 - ที่ศาลาพิธีอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา อดีตรองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวถึงความเคลื่อนไหวทางการเมือง หลังแถลงข่าวร่วมงานกับนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรคกล้า อดีต รมว.คลัง ว่าพรรคชาติพัฒนาเล็งเห็นปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นและมีผลกระทบทุกกลุ่มทุกอาชีพและประกอบกับในที่สุดแล้วสภาหรือรัฐบาลก็มีเทอมที่จะต้องหมดภายในเดือนมีนาคม 2566 อย่างช้าที่สุดก็คงจะต้องเลือกตั้งกันช่วงนั้นหรืออาจจะเลือกตั้งก่อนก็ได้ ฉะนั้นก็เป็นหน้าที่ของพรรคการเมืองในการที่จะเตรียมตัวและอาสาเข้ามาแก้ไขปัญหา และตนคิดว่าปัญหาที่สำคัญที่สุดขณะนี้ที่จะเป็นปัจจัยในการชี้ขาดหรือการตัดสินใจของพี่น้องประชาชนก็คือปัจจัยเรื่องเศรษฐกิจ ฉะนั้นพรรคชาติพัฒนาต้องเตรียมตัวให้พร้อมในส่วนนี้

โดยเฉพาะเรามีพื้นฐานมาอยู่แล้วในเรื่องของความสำเร็จในอดีต ฉะนั้นในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ก็ตั้งใจที่จะมีนโยบายเศรษฐกิจและก็มีทีมเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง เชื่อถือได้ก็เลยได้เชิญนายกรณ์ จาติกวณิช ซึ่งถือว่าเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่และเคยเป็นอดีตรัฐมนตรีคลังและเป็นผู้ที่มีภาพลักษณ์ที่ดีและเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องเศรษฐกิจเป็นที่ยอมรับมาร่วมกันทำงาน เพื่อที่จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจต่างๆให้กับพี่น้องประชาน เราก็ได้มีการแถลงข่าวไปเรียบร้อยแล้ว

นายกรณ์บอกกับตนว่า สัปดาห์หน้านี้นายกรณ์จะมีผู้ร่วมงานในเรื่องของเศรษฐกิจหรือเป็นทีมเศรษฐกิจของนายกรณ์ที่จะพามาอีกหลายคน เพื่อมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคชาติพัฒนาภายในสัปดาห์หน้า ก็ถือว่าเมื่อเปิดตัวนายกรณ์แล้ว ก็ลงมือทำงานเลย เพราะตั้งใจให้นายกรณ์ดูแลเรื่องเศรษฐกิจให้กับพี่น้องประชาชน ฉะนั้นสัปดาห์หน้านายกรณ์ก็จะมีทีมงาน จะมีผู้ที่เก่งเรื่องเศรษฐกิจที่จะเป็นทีมเศรษฐกิจกับนายกรณ์จะมาร่วมงานกับพรรคชาติพัฒนาสมัครเป็นสมาชิกพรรคฯก็ถือว่าพรรคชาติพัฒนาก็ได้ผู้ร่วมงานที่ดีจะทำให้พรรคชาติพัฒนาเข้มแข็งขึ้นและก็จะสามารถเป็นที่หวังของพี่น้องประชาชนในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในครั้งนี้ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า พี่น้องชาวจ.นครราชสีมาถามชื่อพรรคชาติพัฒนาจะยังอยู่เป็นพรรคของคนโคราชหรือเปล่า นายสุวัจน์ตอบว่า วันนี้พรรคชาติพัฒนายังอยู่ปรกติและมีผู้มาร่วมงานกับพรรคมากขึ้น และต่อไปคงจะต้องมีกลไกอะไรหลายอย่างเข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องของการเตรียมพร้อมเข้าสู่สนามเลือกตั้ง เช่น การปรับปรุงโครงสร้างพรรค หรือตำแหน่งต่างๆที่ว่างเว้นอยู่ เช่นตอนนี้ที่จำเป็นเร่งด่วนคือ ประธานสรรหาผู้นสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจาก พล.อ.ฐิติวัฒน์ กำลังเอก ลาออกไป และมีรองหัวหน้าพรรคกับกรรมการบริหารพรรคประมาณ 7 คนที่ลาออกไป เช่นนายประเสริฐ บุญชัยสุข เดิมเป็นรองหัวหน้าพรรคฯได้ลาออกไปสมัครนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา ฉะนั้นเป็นเรื่องที่พรรคชาติพัฒนาเองก็จะต้องจัดสรรและเติมตำแหน่งที่ว่างให้เต็ม ฉะนั้นก็คงเป็นเรื่องของการปรับโครงสร้างพรรคและปรับปรุงภาพลักษณ์ของพรรค การประชาสัมพันธ์ต่างๆ เหมือนกับเป็นการรีแบรนด์เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นรวมทั้งในเรื่องของนโยบายต่างๆ

ฉะนั้นจากนี้ไปก็จะมีความเคลื่อนไหวเป็นระยะๆของพรรคชาติพัฒนา เพื่อนำไปสู่สนามเลือกตั้ง ส่วนภายในเดือนกันยายนเดือนนี้จะเป็นการเปลี่ยนแปลงตำแหน่ง เช่น ตำแหน่งหัวหน้าพรรค นายสุวัจน์กล่าวว่า ตอนนี้นายเทวัญ ลิปตพัลลภ ยังเป็นหัวหน้าพรรคฯอยู่ ฉะนั้นต่อไปเป็นเรื่องของ เอาว่าภายในเดือนนี้จะมีการประชุมใหญ่เพื่อดำเนินการในส่วนที่ตนได้เรียนไปแล้วก็คือมีการเลือก ประธานสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง และแต่งตั้งตำแหน่งในพรรคต่างๆที่ว่างลง ซึ่งสัปดาห์หน้าจะมีการเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคฯเพืท่อที่จะกำหนดวันประชุมใหญ่ของพรรค ซึ่งการประชุมใหญ่ก็จะมีสาระที่สำคัญอยู่ 2 เรื่องก็คือแต่งตั้งตำแหน่งต่างๆที่ว่าง และ 2.เรื่องการสรรหาประธานสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส่วนเรื่องอื่นๆก็ค่อยๆเป็นไปตามปฏิทินทางการเมือง

ตอบข้อถามถึงในฐานะประธานพรรคชาติพัฒนาส่วนตัวคิดว่านายกรณ์เหมาะสมจะนั่งเป็นหัวหน้าพรรคชาติพัฒนาคนรุ่นใหม่หรือไม่ นายสุวัจน์ตอบว่า นายกรณ์ถือว่าเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถและเก่งเรื่องเศรษฐกิจและเราก็มีความเชื่อมั่นว่าเมื่อนายกรณ์มาร่วมกับพรรคชาติพัฒนาแล้ว นายกรณ์สามารถที่จะมีบทบาทที่สำคัญในการรเข้ามาแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน ส่วนตำแหน่งอะไรที่เหมาะสมนั้นก็เป็นเรื่องของสมาชิกพรรคฯที่จะได้พิจารณากันต่อไป

แต่ว่าตัวนายกรณ์ฯเองนั้นตนมองว่านายกรณ์ฯมีศักยภาพในการที่จะทำงานและก็เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ ฉะนั้นก็ต้องมีสถานภาพณ์ มีตำแหน่งที่เหมาะสมที่เป็นการรองรับนายกรณ์ฯเพื่อให้นายกรณ์ฯสามารถปฏิบัติหน้าที่ในพรรคชาติพัฒนาให้สำเร็จลุล่วง โดยเฉพาะเรื่องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ส่วนจะเป็นตำแหน่งอะไรนั้นก็เป็นเรื่องของการดำเนินการต่อไปในพรรคฯ

นายกรณ์ฯบอกกับตนว่าสัปดาห์หน้าจะมีทีมงานของท่านที่เกี่ยวข้องทางด้านเศรษฐกิจจะมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคชาติพัฒนา แต่ตนก็ยังไม่ทราบว่าเป็นใคร ฉะนั้นก็ถือว่านายกรณ์ฯได้มาร่มงานกับพรรคชาติพัฒนา ฉะนั้นพรรคชาติพัฒนาก็ยังอยู่ เพื่อให้ความเข้าใจว่าพรรคชาติพัฒนายังอยู่ นายกรณ์ฯมาร่วมงาน เดี๋ยวเราก็จะมีการปรับปรุงโครงสร้างพรรค จัดทำนโยบายพรรค มีการรีแบรนด์ภาพลักษณ์ต่างๆของพรรค เพื่อให้เกิดความชัดเจนต่อไป

ส่วนชื่อพรรคชาติพัฒนาจะมีการผสมผสานอะไรกับพรรคกล้าหรือไม่นั้น อันนี้เป็นเรื่องของการรีแบรนด์ต่อไป ส่วนการได้นายกรณ์ฯมาร่วมงานพรรคชาติพัฒนาแล้วต้องคัมแบ็คมากขึ้นนั้น ตนคิดว่าก็คงจะเข้มแข็งขึ้น เหมือนกับเรามีผู้มาร่วมงานมากขึ้น และเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถได้รับการยอมรับ วันนี้การเมืองก็ต้องผสมผสาน เหมือนกับต้องมีความครบเครื่องในเรื่องของการแก้ไขปัญหา อย่างวันนี้ปัญหาของประเทศก็เป็นทั้งเรื่องของวิกฤติทางด้านการเมือง วิกฤติทางด้านเศรษฐกิจ ฉะนั้นเราก็ต้องเตรียมบุคลากร เตรียมทีมงานต่างๆให้พร้อม

ตนก็คิดว่าเมื่อนายกรณ์ฯมาร่วมงานแล้ววันนี้พรรคชาติพัฒนาก็จะแข็งแกร่งขึ้น คำว่าคัมแบ็คชัดเจนขึ้น ส่วนจะเป็นพรรคขนาดใหญ่นั้น ตนไม่ทราบว่าจะได้เท่าไหร่ แต่ว่าส่วนตัวตนเอง ตนก็มองย้อนอดีตตนจำได้วันที่ท่านชาติชายฯตั้งพรรคชาติพัฒนา ปี 2535 หรือ 30 ปีแล้ว วันนั้นเตรียมตัวกัน 60 วันก็ได้มา 60 คน พรรคชาติพัฒนาก็ถือว่าเป็นพรรคใหญ่ทำประโยชน์ให้ประเทศ แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และพื้นฐานทางการเมืองต่างๆท่านชาติชายฯจะบอกกับเราอยู่เสมอว่าทำการเมืองไม่ขัดแย้ง ประนีประนอม เข้าได้กับทุกฝ่ายเป็นพื้นฐานที่สำคัญและสองต้องเน้นเรื่องเศรษฐกิจ ฉะนั้นวันนี้ตนคิดว่าด้วยความพร้อมนายกรณ์ฯมาร่วมงาน เรื่องเศรษฐกิจก็จะแข็งแกร่งขึ้น ประสบการณ์ทางการเมืองที่พรรคชาติพัฒนาสะสมเอาไว้ โดยเฉพาะการทำงานทางการเมืองที่ไม่ขัดแย้งที่คิดว่าเป็นทางออกอย่างหนึ่งให้ประเทศได้จะทำให้พรรคชาติพัฒนามีความพร้อม แต่ว่าจะได้กี่คนตนไม่ทราบ แต่ตนมั่นใจว่าพรรคชาติพัฒนาจะต้องกลับมา และก็อยากให้กลับมาเหมือนเดิม

พรรคชาติพัฒนาคงจะเน้นนโยบายเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเรื่องที่สำคัญที่สุดของต้องไม่แพง ของต้องไม่แพง ทุกคนต้องมีงานทำ ผู้ประกอบการต้องฟื้น ส่วนเรื่องอื่นเป็นเรื่องที่จะเสริมใน 3 จุดนี้ กีฬาจะมาช่วยอะไรได้ ท่องเที่ยวจะมาช่วยอะไรได้ ซอฟต์เพาเว่อร์จะมาช่วยอะไรได้ เพื่อให้ทุกคนมีงานทำ เพื่อให้ของไม่แพง เพื่อให้ผู้ประกอบการฟื้นตัว