'แรมโบ้' จัดหนัก 'กิตติรัตน์' ฝันซ้ำซาก 'ยิ่งลักษณ์' ยังเป็นนายกฯอยู่

ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกฯ อัด 'กิตติรัตน์' ลืมง่ายน้ำท่วมหนักปี 2554 แก้ไขปัญหาไม่ได้ แต่ยังฝันซ้ำซากว่ายิ่งลักษณ์ยังเป็นนายกฯอยู่อีกเหรอ อย่าว่าแต่ปัญหาสำคัญของประเทศ ต่อให้แก้ปัญหาเล็กน้อยก็ไม่สามารถทำได้ มุ่งทำอย่างเดียวคือช่วยพี่ชายกลับบ้าน

9 พ.ย.2564 - นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โพสต์รูปภาพนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พร้อมระบุข้อความว่า ผมมั่นใจว่า ถ้าคุณยิ่งลักษณ์ยังเป็นนายกฯย่อมไม่เกิดน้ำท่วมทั้งรุนแรง ยาวนานในหลายพื้นที่แบบนี้ เพราะ "ระบบบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการ" ได้ถูกดำเนินการไว้แล้ว"

โดยนายเสกสกล ว่านายกิตติรัตน์ คงความจำเสื่อมไปแล้วจนจำไม่ได้ว่าน้ำท่วมใหญ่ในปี 2554 นั้นเกิดขึ้นในสมัยนางสาวยิ่งลักษณ์เป็นนายกฯ และนายกิตติรัตน์ เป็นรัฐมนตรี ซึ่งน้ำท่วมในขณะนั้นมีความรุนแรงมากกว่าน้ำท่วมในขณะนี้ และนางสาวยิ่งลักษณ์ก็ไม่สามารถที่จะบริหารจัดการได้

นายเสกสกล มองว่าอย่าว่าแต่แก้ไขปัญหาน้ำท่วมของประเทศ ปัญหาอื่นๆที่เกิดขึ้นกับประชาชนนั้น นางสาวยิ่งลักษณ์ ก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ มีแต่จะสร้างปัญหาให้เกิดขึ้น ปล่อยให้รัฐบาลนายกฯประยุทธ์เข้ามาแก้ไขปัญหาให้ ดังนั้นก่อนที่นายกิตติรัตน์ จะโพสต์ข้อความใดๆนั้นขอให้พิจารณาให้ดีก่อนว่าจะย้อนเข้าหาตัวเองหรือไม่

ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่าแผนบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่มีมูลค่าสูง 3.5 แสนล้าน ก็ถูกทักท้วงเรื่องของความไม่พร้อมของโครงการ มีปัญหาด้านความโปร่งใสหลายด้าน รวมทั้งการมีส่วนร่วมของประชาชน ที่เกิดปัญหาขัดแย้งในหลายจังหวัด

"ผมยังจำไม่ลืมว่าในตอนน้ำท่วมใหญ่ปี 54 นายกิตติรัตน์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ขณะนั้น ร้องห่มร้องไห้สวมกอดกับผู้บริหารชาวญี่ปุ่นของนิคมอุตสาหกรรมไฮเทคอยู่ เหตุใดถึงลืมง่ายจังว่าน้ำท่วมใหญ่ยังไง รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์แก้ไขปัญหาอย่างไร ซึ่งเท่าที่ผมดูแทบจะไม่ได้แก้ไขปัญหาอะไรเลย แบบนี้นายกิตติรัตน์ยังจะฝันอีกเหรอว่า หากนางสาวยิ่งลักษณ์ยังอยู่จะสามารถแก้ไขปัญหาน้ำท่วมได้ อย่าว่าแต่เรื่องน้ำท่วมที่ถือเป็นเรื่องสำคัญของประเทศ เรื่องเล็กๆก็ไม่สามารถแก้ได้ ทำเป็นอยู่อย่างเดียวคือทำอย่างไรจะช่วยล้างมลทิน และนำนายทักษิณ ชินวัตร กลับประเทศ" นายเสกสกล กล่าว.