ฝ่ายค้านยื่นเพิ่ม เอกสารหัก 'มีชัย' ปมบันทึกการประชุมกรธ.

7 ก.ย.2565 - เมื่อเวลา 14.45 น. ที่รัฐสภา พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ยื่นหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่านนพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาฯ ให้ส่งหลักฐานเพิ่มเติมถึงศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อประกอบการวินิจฉัยวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

นพ.ชลน่านกล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านทำหนังสือส่งเอกสารหลักฐานความเห็นเพิ่มเติมต่อศาลรัฐธรรมนูญ สืบเนื่องจากมีเอกสารที่หลุดออกมาเผยแพร่ตามสื่อต่างๆ เนื้อหาสาระอ้างถึงนายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เป็นผู้ทำหนังสือถึงศาล สรุปสาระ วาระดำรงตำแหน่งนายกฯ ของพล.อ.ประยุทธ์ ให้เริ่มนับตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย.60 และกรณีอ้างถึงบันทึกการประชุมของกรธ. ครั้งที่ 500 นายมีชัย อ้างว่าเป็นการจดบันทึกไม่ครบถ้วน ไม่สามารถนำมาอ้างอิงได้ ฝ่ายค้านเห็นว่า คำชี้แจงของนายมีชัย เข้าข่ายให้การเท็จต่อศาล ฝ่ายค้านมีความเห็นคัดค้านความเห็นของนายมีชัย จึงรวบรวมความเห็นในการคัดค้านหรือโต้แย้งเอกสารดังกล่าว เพื่อยืนยันว่าวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯของพล.อ.ประยุทธ์ ต้องนับวันที่ 24 ส.ค.57 จะอ้างวันที่ 6 เม.ย.60 ไม่ได้ เพราะมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นนายกฯในปี 57 และมีการดำรงตำแหน่งต่อเนื่องมา

ทั้งนี้ ฝ่ายค้านได้แนบบันทึกการประชุมครั้งที่ 500 โดยมีละเอียด 22 หน้า และเพื่ออ้างอิงว่าเอกสารครั้งที่ 500 มีความครบถ้วนสมบูรณ์ จึงมีการส่งบันทึกการประชุมครั้งที่ 501 เมื่อวันที่ 11 ก.ย.51 ซึ่งเป็นการประชุมครั้งสุดท้าย มีเนื้อหารับรองการประชุมของกรธ. ครั้งที่ 497 – 500 ว่ามีความถูกต้องโดยไม่มีการแก้ไข ดังนั้น บันทึกการประชุมครั้งที่ 500 จึงมีความสมบูรณ์

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านร้องขอให้ประธานสภาฯ ส่งเอกสารไปยังศาลรัฐธรรมนูญโดยเร็วที่สุด เนื่องจากจะมีการประชุมนัดพิเศษในวันที่8 ก.ย. หวังว่า เอกสารที่ฝ่ายค้านส่งล่าสุด จะถึงศาลและจะได้รับไว้ประกอบการพิจารณาเพื่อที่จะได้สิ้นสงสัย

เมื่อถามว่า มองเจตนาที่เอกสารหลุดอย่างไร นพ.ชลน่าน กล่าวว่า มองได้หลายมุม ถ้าเอกสารนี้หลุดออกมาจากตรงไหนจะทำให้เราวิเคราะห์ได้ง่ายขึ้นในเจตนา แต่สิ่งที่คาดการณ์ได้ คือเหมือนการโยนให้สังคมได้วิพากษ์วิจารณ์ว่าคิดอย่างไรในประเด็นนี้ เพื่อทดสอบกระแสสังคม เพราะแนวทางการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ จะให้น้ำหนัก 2 ด้าน คือ ด้านข้อกฎหมาย และด้านข้อเท็จจริงทางรัฐศาสตร์ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นประโยชน์หรือเป็นโทษอย่างไรต่อสังคม สุดท้ายหากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เป็นไปตามที่นายมีชัยให้ความเห็น จะตอกย้ำถึงความขัดแย้งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตจากการอยากอยู่ยาวของนายกฯ แต่จะสร้างความขัดแย้งจนเกิดวิกฤตขนาดไหนยังไม่รู้

ผู้สื่อข่าวถามว่าสิ่งที่นายมีชัย เคยระบุในบันทึกการประชุมครั้งที่ 500 ในปี 2561 กับสิ่งที่นายมีชัย ชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญในครั้งล่าสุด อะไรมีน้ำหนักความน่าเชื่อถือมากกว่า นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ปี 2561 มีความน่าเชื่อมากกว่า เพราะตอนนั้นนายมีชัย มีสติสัมปชัญญะครบถ้วน แต่สิ่งที่ชี้แจงล่าสุด นายมีชัย ลืมแม้กระทั่งว่ามีบันทึกการประชุมครั้งที่ 501 แสดงถึงการมีสติไม่ครบถ้วน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ไอติม' เลี่ยงยื่นซักฟอก ใช้กลไกอื่นตรวจสอบรัฐบาลแทน

'พริษฐ์' ปัดตอบยื่นซักฟอกรัฐบาล ขอใช้กลไกอื่นของสภาตรวจสอบเข้มข้นแทน เชื่อถกแก้ รธน. วาระ 2 จบภายใน 3 วัน นัดประชุมวิปฝ่ายค้านวางกรอบ 9 ธ.ค.

'กัณวีร์' โร่แจงโดนปลดพ้นเลขาฯพรรคเป็นธรรม

นายกัณวีร์ สืบแสง สส.พรรคเป็นธรรม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ตามที่พรรคเป็นธรรมได้ออกแถลงการณ์เรื่องการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งภายในพรรค และมีมติปลดผมออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรค ผมขอเรียนชี้แจงต่อสาธารณชนและพี่น้องประชาชนดังต่อไปนี้