11 ต.ค. 2565 - กองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต. ) เผยแพร่ข้อมูลพรรคการเมืองที่ได้รับอุดหนุนเงินภาษี จากผู้เสียภาษีที่แสดงเจตนาอุดหนุนเงินภาษี ให้แก่พรรคการเมืองในแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ประจำปีภาษี 2564 ตามมาตรา 69 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.)ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ณ วันที่ 8 ก.ค. 2565 โดยในจำนวน 81 พรรคการเมือง วงเงินรวมทั้งสิ้น 43,220,970.83 บาท
1.พรรคก้าวไกล มีจำนวนผู้บริจาค 62,634 ราย ได้รับเงินบริจาค 27,564,203.77 บาท
2.พรรคประชาธิปัตย์จำนวนผู้บริจาค 10,328 ราย ได้รับเงินบริจาค 3,435,342.03 บาท
3.พรรคกล้า จำนวนผู้บริจาค 8,090 ราย ได้รับเงินบริจาค 3,345,799.38 บาท
4.พรรคเพื่อไทย จำนวนผู้บริจาค 7,771 ราย ได้รับเงินบริจาค 2,926,584.71 บาท
5.พรรคพลังประชารัฐ จำนวนผู้บริจาค 4,062 ราย ได้รับเงินบริจาค 1,299,133.03 บาท
6.พรรคไทยภักดี จำนวนผู้บริจาค 3,234 ราย ได้รับเงินบริจาค 1,284,608.35 บาท
7.พรรคเสรีรวมไทย จำนวนผู้บริจาค 2,389 ราย ได้รับเงินบริจาค 973,702.58 บาท
8.พรรคสังคมประชาธิปไตยไทย จำนวนผู้บริจาค 495 ราย ได้รับเงินบริจาค 219,415.70 บาท
9.พรรคภูมิใจไทย จำนวนผู้บริจาค 593 ราย ได้รับเงินบริจาค 208,997.60 บาท
10.พรรคไทยสร้างไทย จำนวนผู้บริจาค 424 ราย ได้รับเงินบริจาค 192,554.77 บาท
11.พรรครวมพลัง (เดิมชื่อพรรครวมพลังประชาชาติไทย) จำนวนผู้บริจาค 439 ราย ได้รับเงินบริจาค 183,306.75 บาท
12.พรรคครูไทยเพื่อประชาชน จำนวนผู้บริจาค 512 ราย ได้รับเงินบริจาค 179,300.81 บาท
13.พรรคไทยศรีวิไลย์ จำนวนผู้บริจาค 329 ราย ได้รับเงินบริจาค 122,045.49 บาท
14.พรรคความหวังใหม่ จำนวนผู้บริจาค 300 ราย ได้รับเงินบริจาค 101,821.00 บาท
15.พรรคชาติไทยพัฒนา จำนวนผู้บริจาค 260 ราย ได้รับเงินบริจาค 101,324.40 บาท
16.พรรคสามัญชน จำนวนผู้บริจาค 218 ราย ได้รับเงินบริจาค 99,181.33 บาท
17.พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย จำนวนผู้บริจาค 276 ราย ได้รับเงินบริจาค 96,708.81 บาท
18.พรรคอนาคตไทย จำนวนผู้บริจาค 245 ราย ได้รับเงินบริจาค 95,100.72 บาท
19.พรรครวมไทยสร้างชาติ จำนวนผู้บริจาค 215 ราย ได้รับเงินบริจาค 87,841.20 บาท
20.พรรคพลังธรรมใหม่ จำนวนผู้บริจาค 196 ราย ได้รับเงินบริจาค 83,674.85 บาท
21.พรรคประชาชาติ จำนวนผู้บริจาค 175 ราย ได้รับเงินบริจาค 77,452.20 บาท
22.พรรคเครือข่ายชาวนาแห่งประเทศไทย จำนวนผู้บริจาค 191 ราย ได้รับเงินบริจาค 61,286.24 บาท
23.พรรคพลังชล จำนวนผู้บริจาค 135 ราย ได้รับเงินบริจาค 55,745.89 บาท
24.พรรคกรีน จำนวนผู้บริจาค 124 ราย ได้รับเงินบริจาค 51,674.96 บาท
25.พรรคสร้างอนาคตไทย (เดิมชื่อพรรคพลังไทยนำไทย)
จำนวนผู้บริจาค 117 ราย ได้รับเงินบริจาค 49,935.84 บาท
26.พรรครักษ์ธรรม จำนวนผู้บริจาค 65 ราย ได้รับเงินบริจาค 30,052.80 บาท
27.พรรคพลังท้องถิ่นไท จำนวนผู้บริจาค 60 ราย ได้รับเงินบริจาค 24,550.42 บาท
28.พรรคเศรษฐกิจใหม่ จำนวนผู้บริจาค 57 ราย ได้รับเงินบริจาค 23,504.83 บาท
29.พรรคเพื่อชาติ จำนวนผู้บริจาค 48 ราย ได้รับเงินบริจาค 21,605.00 บาท
30.พรรคประชาภิวัฒน์ จำนวนผู้บริจาค 36 ราย ได้รับเงินบริจาค 17,600.00 บาท
31.พรรคเสมอภาค จำนวนผู้บริจาค 37 ราย ได้รับเงินบริจาค 17,128.05 บาท
32.พรรคมิติใหม่ จำนวนผู้บริจาค 37 ราย ได้รับเงินบริจาค 16,456.00 บาท
33.พรรคสร้างชาติ จำนวนผู้บริจาค 32 ราย ได้รับเงินบริจาค 14,400.00 บาท
34.พรรคประชากรไทย จำนวนผู้บริจาค 54 ราย ได้รับเงินบริจาค 12,692.57 บาท
35.พรรคเศรษฐกิจไทย จำนวนผู้บริจาค 31 ราย ได้รับเงินบริจาค 11,170.01 บาท
36.พรรคพลังสหกรณ์ จำนวนผู้บริจาค 32 ราย ได้รับเงินบริจาค 10,336.62 บาท
37.พรรคเพื่อแผ่นดิน จำนวนผู้บริจาค 38 ราย ได้รับเงินบริจาค 10,244.04 บาท
38.พรรคชาติพัฒนา จำนวนผู้บริจาค 22 ราย ได้รับเงินบริจาค 8,502.16 บาท
39.พรรคแผ่นดินธรรม จำนวนผู้บริจาค 19 ราย ได้รับเงินบริจาค 7,342.75 บาท
40.พรรคยุทธศาสตร์ชาติ จำนวนผู้บริจาค 15 ราย ได้รับเงินบริจาค 6,500.00 บาท
41.พรรคคลองไทย จำนวนผู้บริจาค 12 ราย ได้รับเงินบริจาค 6,000.00 บาท
42.พรรคไทยสร้างสรรค์ จำนวนผู้บริจาค 23 ราย ได้รับเงินบริจาค 5,845.20 บาท
43.พรรคพลังศรัทธา จำนวนผู้บริจาค 12 ราย ได้รับเงินบริจาค 5,700.00 บาท
44.พรรคไทยชนะ จำนวนผู้บริจาค 14 ราย ได้รับเงินบริจาค 5,060.00 บาท
45.พรรคประชาธิปไตยใหม่ จำนวนผู้บริจาค 14 ราย ได้รับเงินบริจาค 4,939.05 บาท
46.พรรคถิ่นกาขาวชาววิไล จำนวนผู้บริจาค 11 ราย ได้รับเงินบริจาค 4,250.00 บาท
47.พรรคทางเลือกใหม่ จำนวนผู้บริจาค 9 ราย ได้รับเงินบริจาค 4,000.00 บาท
48.พรรคเส้นทางใหม่ (เดิมชื่อพรรคไทยชอบธรรม) จำนวนผู้บริจาค 8 ราย ได้รับเงินบริจาค 4,000.00 บาท
49.พรรครวมพลังคนรุ่นใหม่ จำนวนผู้บริจาค 12 ราย ได้รับเงินบริจาค 4,150.00 บาท
50.พรรคไทยรวมไทย จำนวนผู้บริจาค 10 ราย ได้รับเงินบริจาค 3,900.00 บาท
51.พรรคพลังสยาม จำนวนผู้บริจาค 9 ราย ได้รับเงินบริจาค 3,500.00 บาท
52.พรรคเป็นธรรม (เดิมชื่อพรรคกลาง) จำนวนผู้บริจาค 9 ราย ได้รับเงินบริจาค 3,304.94 บาท
53.พรรคเพื่ออนาคตไทย จำนวนผู้บริจาค 7 ราย ได้รับเงินบริจาค 3,100.00 บาท
54.พรรคพลเมืองไทยจำนวนผู้บริจาค 7 ราย ได้รับเงินบริจาค 3,050.00 บาท
55.พรรคพลังเพื่อไทย จำนวนผู้บริจาค 8 ราย ได้รับเงินบริจาค 2,800.00 บาท
56.พรรคพลังประชาธิปไตย จำนวนผู้บริจาค 12 ราย ได้รับเงินบริจาค 2,786.03 บาท
57.พรรคคนงานไทย จำนวนผู้บริจาค 7 ราย ได้รับเงินบริจาค 2,190.77 บาท
58.พรรคเพื่อชีวิตใหม่ จำนวนผู้บริจาค 4 ราย ได้รับเงินบริจาค 2,000.00 บาท
59.พรรคแนวทางใหม่ จำนวนผู้บริจาค 4 ราย ได้รับเงินบริจาค 2,000.00 บาท
60.พรรคไทยธรรม จำนวนผู้บริจาค 5 ราย ได้รับเงินบริจาค 1,860.00 บาท
61.พรรคเพื่อชาติไทย (เดิมชื่อพรรคพลังไทยรักไทย) จำนวนผู้บริจาค 5 ราย ได้รับเงินบริจาค 1,685.95 บาท
62.พรรคเพื่อประชาชน จำนวนผู้บริจาค 5 ราย ได้รับเงินบริจาค 1,669.00 บาท
63.พรรคไทยรักกัน จำนวนผู้บริจาค 5 ราย ได้รับเงินบริจาค 1,608.00 บาท
64.พรรคประชาสามัคคี จำนวนผู้บริจาค 4 ราย ได้รับเงินบริจาค 1,600.00 บาท
65.พรรคพลังปวงชนไทย จำนวนผู้บริจาค 3 ราย ได้รับเงินบริจาค 1,200.00 บาท
66.พรรคเพื่อราษฎร (เดิมชื่อพรรคสุจริตชน) จำนวนผู้บริจาค 4 ราย ได้รับเงินบริจาค 1,200.00 บาท
67.พรรคเพื่อไทรวมพลัง จำนวนผู้บริจาค 3 ราย ได้รับเงินบริจาค 1,109.41 บาท
68.พรรครวมแผ่นดิน (เดิมชื่อพรรคพลังชาติไทย) จำนวนผู้บริจาค 3 ราย ได้รับเงินบริจาค 1,000.46 บาท
69.พรรคพลังไทยรักชาติ จำนวนผู้บริจาค 3 ราย ได้รับเงินบริจาค 1,000.00 บาท
70.พรรคประชาไทย จำนวนผู้บริจาค 2 ราย ได้รับเงินบริจาค 1,000.00 บาท
71.พรรคไทรักธรรม จำนวนผู้บริจาค 2 ราย ได้รับเงินบริจาค 800.00 บาท
72.พรรคภราดรภาพ จำนวนผู้บริจาค 3 ราย ได้รับเงินบริจาค 800.00 บาท
73.พรรคพลังสังคม จำนวนผู้บริจาค 2 ราย ได้รับเงินบริจาค 700.00 บาท
74.พรรคไทยพัฒนา (เดิมชื่อพรรคเพื่อคนไทย) จำนวนผู้บริจาค 2 ราย ได้รับเงินบริจาค 590.36 บาท
75.พรรคราชสีห์ไทยดี (เดิมชื่อพรรคพลังไทยดี) จำนวนผู้บริจาค 1 ราย ได้รับเงินบริจาค 500.00 บาท
76.พรรคพัฒนาชาติเจริญ (เดิมชื่อพรรคพัฒนาชาติ) จำนวนผู้บริจาค 1 ราย ได้รับเงินบริจาค 500.00 บาท
77.พรรคไทยสมาร์ท (เดิมชื่อพรรคมวลชนสยาม) จำนวนผู้บริจาค 1 ราย ได้รับเงินบริจาค 500.00 บาท
78.พรรคพลังไทรุ่งเรือง (เดิมชื่อพรรคสยามพัฒนา) จำนวนผู้บริจาค 3 ราย ได้รับเงินบริจาค 244.00 บาท
ส่วนพรรคภาคีเครือข่ายไทย พรรครวมไทยยูไนเต็ด (เดิมชื่อพรรคเพื่อไทยพัฒนา) และพรรคพลังสังคมใหม่ ไม่มีผู้บริจาค
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ประกาศแล้ว! จำนวน สส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง-เขตเลือกตั้งของแต่ละจังหวัดจะพึงมี
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ คณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง จำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเ
สส.บริจาคภัยพิบัติเต็มที่ ท้องถิ่นระวังช่วง180วัน!
กกต.ไฟเขียวบริจาคช่วยภัยพิบัติ สส.-สมาชิกพรรค ทำได้เต็มที่ไม่เกินครั้งละ 3 แสนบาท
กกต.ขยับรับสมัครอบต.ใต้เป็น 8-12 ธ.ค. เหตุอุทกภัยกระทบหลายจังหวัด
กกต.ปรับรอบรับสมัครเฉพาะ 5 จังหวัดน้ำท่วม ส่วนจำนวน อบต.ทั่วประเทศลดเหลือ 4,985 แห่งจากการยกฐานะเป็นเทศบาล ต้องแบ่งเขตใหม่ก่อนจัดเลือกตั้งช่วงเมษายน 2569 หลายพื้นที่เปิดรับสมัครวันแรกคึกคัก
กกต. แจงนักการเมือง-พรรค บริจาคช่วยน้ำท่วมได้เต็มที่ แต่ระดับท้องถิ่นต้องระวังช่วง 180 วันก่อนครบวาระ
กกต. ชี้ "บริจาคช่วยภัยพิบัติ" สส.-สมาชิกพรรคทำได้เต็มที่ไม่เกินครั้งละ 3 แสนบาท แต่จะบริจาคกี่ครั้งก็ได้ ส่วนพรรคการเมืองไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อเหตุการณ์ ย้ำโปร่งใส–โฆษณาได้
กกต. ขอเชิญชวนสมัครรับเลือกตั้ง สมาชิกสภา อบต. และนายก อบต. ระหว่างวันที่ 1 - 5 ธันวาคม 2568
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ขอเชิญชวนผู้ที่สนใจสมัครรับเลือกตั้งสมาชิก สภาองค์การบริหารส่วนตำบลและนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ระหว่างวันที่ 1 – 5 ธันวาคม 2568 เวลา 08.30 – 16.30 น. (ไม่เว้นวันหยุดราชการ) ณ สถานที่ที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนตำบลกำหนด สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ขอประชาสัมพันธ์ผู้ที่สนใจสมัครรับเลือกตั้งสามารถตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม และเตรียมหลักฐานและเอกสารประกอบการ ยื่นใบสมัครรับเลือกตั้ง พร้อมทั้งค่าธรรมเนียมการสมัครรับเลือกตั้ง โดยมีรายละเอียดดังนี้ 1. คุณสมบัติของผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง 1.1 มีสัญชาติไทยโดยการเกิด 1.2 ผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล ต้องมีอายุ ไม่ต่ำกว่า 25 ปีนับถึงวันเลือกตั้ง สำหรับผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 35 ปีนับถึงวันเลือกตั้ง 1.3 มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลที่สมัครรับเลือกตั้ง ในวันสมัครรับเลือกตั้ง เป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 1 ปี นับถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง 1.4 วุฒิการศึกษา • สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล ไม่ได้กำหนดวุฒิการศึกษา • ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ต้องสำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่ามัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า หรือเคยเป็นสมาชิกสภาตำบล สมาชิกสภาท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่น หรือสมาชิกรัฐสภา 2. ลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง 2.1 ติดยาเสพติดให้โทษ 2.2 เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต 2.3 เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ 2.4 เป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิเลือกตั้งตามพระราชบัญญัติ การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 39 (1) เป็นภิกษุ สามเณร นักพรตหรือนักบวช (2) อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งไม่ว่าคดีนั้นจะถึงที่สุดแล้วหรือไม่ หรือ (4) วิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ 2.5 อยู่ระหว่างถูกระงับการใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นการชั่วคราวหรือ ถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง 2.6 ต้องคำพิพากษาให้จำคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล 2.7 เคยได้รับโทษจำคุกโดยได้พ้นโทษมายังไม่ถึง 5 ปี นับถึงวันเลือกตั้ง เว้นแต่ ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ 2.8 เคยถูกสั่งให้พ้นจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจเพราะทุจริต ต่อหน้าที่หรือถือว่ากระทำการทุจริตหรือประพฤติมิชอบในวงราชการ 2.9 เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลอันถึงที่สุดให้ทรัพย์สินตกเป็น ของแผ่นดินเพราะร่ำรวยผิดปกติ หรือเคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุกเพราะกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2.10 เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม หรือกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยความผิดของพนักงาน ในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ หรือความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทำโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน กฎหมายว่าด้วยยาเสพติด ในความผิดฐานเป็นผู้ผลิต นำเข้า ส่งออก หรือผู้ค้า กฎหมายว่าด้วยการพนันในความผิดฐานเป็นเจ้ามือหรือเจ้าสำนัก กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือกฎหมายว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในความผิดฐานฟอกเงิน 2.11 เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำการอันเป็นการทุจริตในการเลือกตั้ง 2.12 เป็นข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำ 2.13 เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น 2.14 เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น หรือเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ 2.15 เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หรือผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ 2.16 อยู่ในระหว่างต้องห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 2.17 เคยพ้นจากตำแหน่งเพราะศาลฎีกาหรือศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาว่าเป็นผู้มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ หรือกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย หรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง 2.18 ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดว่ากระทำความผิดตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้ง สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 ไม่ว่าจะได้รับโทษหรือไม่ โดยได้พ้นโทษหรือ ต้องคำพิพากษามายังไม่ถึง 5 ปีนับถึงวันเลือกตั้ง แล้วแต่กรณี 2.19 เคยถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย หรือกฎหมายว่าด้วยการลงคะแนนเสียงเพื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น แล้วแต่กรณี มายังไม่ถึง 5 ปีนับถึงวันเลือกตั้ง 2.20 อยู่ในระหว่างถูกจำกัดสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น ตามมาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 หรือตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2.21 เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา หรือเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเดียวกันหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น 2.22 เคยพ้นจากตำแหน่งใด ๆ ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพราะเหตุมี ส่วนได้เสียไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในสัญญาหรือกิจการที่กระทำหรือจะกระทำกับหรือให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น หรือมีส่วนได้เสียไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในสัญญาหรือกิจการ ที่กระทำกับหรือจะกระทำกับหรือให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น โดยมีพฤติการณ์แสดงให้เห็นว่าเป็นการต่างตอบแทน หรือเอื้อประโยชน์ส่วนตนระหว่างกัน และยังไม่พ้น 5 ปีนับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่งจนถึงวันเลือกตั้ง 2.23 เคยถูกสั่งให้พ้นจากตำแหน่งใด ๆ ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพราะจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย กฎ ระเบียบของทางราชการ หรือมติคณะรัฐมนตรี อันเป็นเหตุให้เสียหาย แก่ราชการอย่างร้ายแรง และยังไม่พ้น 5 ปีนับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่งจนถึงวันเลือกตั้ง 2.24 เคยถูกสั่งให้พ้นจากตำแหน่งใด ๆ ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพราะทอดทิ้งหรือละเลยไม่ปฏิบัติการตามหน้าที่และอำนาจ หรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยหน้าที่ และอำนาจ หรือประพฤติตนฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน หรือมีความประพฤติในทางที่จะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียแก่ศักดิ์ตำแหน่ง หรือแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือแก่ราชการ และยังไม่พ้น 5 ปีนับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่งจนถึงวันเลือกตั้ง 2.25 ลักษณะอื่นตามที่กฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์การบริหารส่วนตำบลกำหนด 3. หลักฐานและเอกสารประกอบการยื่นใบสมัครรับเลือกตั้ง ให้ผู้สมัครยื่นใบสมัครต่อผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนตำบลพร้อมทั้งหลักฐานการสมัคร ดังนี้ 3.1 ใบสมัครรับเลือกตั้งตามแบบ ส.ถ./ผ.ถ. 4/1 3.2 รูปถ่ายหน้าตรงไม่สวมหมวก หรือ รูปภาพที่พิมพ์ชัดเจนเหมือนรูปถ่ายของตนเอง ขนาดกว้างประมาณ 8.5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 13.5 เซนติเมตร จำนวนตามที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนตำบลกำหนด 3.3 สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน 3.4 สำเนาทะเบียนบ้าน 3.5 ใบรับรองแพทย์ 3.6 หลักฐานการศึกษา 3.7 หลักฐานการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นเวลาติดต่อกัน 3 ปี (2565, 2566, 2567) นับถึงปีที่สมัครรับเลือกตั้ง เว้นแต่เป็นผู้ไม่ได้เสียภาษีเงินได้ ให้ทำหนังสือยืนยัน การไม่ได้เสียภาษี พร้อมทั้งสาเหตุแห่งการไม่ได้เสียภาษีตามแบบ ส.ถ./ผ.ถ. 4/2 4. ค่าธรรมเนียมการสมัครรับเลือกตั้ง 4.1 นายกองค์การบริหารส่วนตำบล 2,500 บาท 4.2 สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล 1,000 บาท ทั้งนี้ ผู้ใดลงสมัครรับเลือกตั้งโดยรู้อยู่แล้วว่าตนเป็นผู้ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามในการสมัครรับเลือกตั้ง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 - 10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 – 200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี ตามมาตรา 120 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 และที่แก้ไขเพิ่มเติม สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหาร ส่วนตำบลและนายกองค์การบริหารส่วนตำบลได้ทางเว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง www.ect.go.th หรือ Application Smart Vote หรือสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประจำจังหวัดทุกจังหวัด หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บริการสายด่วน 1444
ปี69เดือด!เลือกตั้งทุกระดับ 'กกต.-ประชาชน'ตัดสินอนาคต
ปี 2569 กลายเป็นปีที่ท้าทายที่สุดสำหรับประชาธิปไตยไทย ด้วยการเลือกตั้งหลายระดับที่กระชั้นชิดกันอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ที่คาดว่าจะพ่วงด้วยการลงประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ และบันทึกความเข้าใจ (MOU)

