ปชป.อัดเด็กภูมิใจไทยจับสภาเป็นตัวประกัน หลังขู่หากกฎหมายกัญชาคว่ำ 30 สส.จะลาออก

23 พ.ย.2565 - น.ส.พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงนายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย และนายคารม พลพรกลาง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลงข่าวร่วมกันขู่หากสภาฯไม่ผ่านร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ. ... จะมี ส.ส.จากหลายพรรคการเมืองประมาณ 20-30 คน ลาออก พร้อมกับกล่าวหาพรรคการเมืองที่ไม่เห็นด้วยกับร่างกฎหมายฉบับนี้ว่า มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ขาดวุฒิภาวะ เพราะจับสภาเป็นตัวประกัน โดยไม่ฟังเหตุผลของฝ่ายทักท้วง ทั้งที่มีการให้ข้อมูลชัดเจนถึงความกังวลของสังคม เกี่ยวกับปัญหาที่จะเกิดการมอมเมาเด็กและเยาวชน เข้าถึงกัญชาง่าย ควบคุมยาก จนมีข่าวให้เห็นอย่างต่อเนื่อง และที่น่าหนักใจคือ เด็กที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเสพกัญชามีอายุลดลง ล่าสุดเด็กเสพกัญชาในโรงเรียน อายุเพียงแค่ 8-10 ขวบเท่านั้น และอยากย้ำอีกครั้งว่า กัญชาปลูกในบ้าน 15 ต้นต่อครัวเรือน จะกลายเป็นประตูแรกที่ทำให้เยาวชนก้าวสู่วังวนของยาเสพติดได้ง่ายขึ้น

น.ส.พิมพ์รพี กล่าวอีกว่า เราทักท้วงเพื่ออนาคตของชาติ ไม่มีการเมืองใด ๆ มาเกี่ยวข้อง ในฐานะที่เป็นส.ส. นอกจากรับผิดชอบต่อคนที่เลือกเรามาแล้ว เรายังต้องรับผิดชอบต่อสังคมไทย ให้สมกับเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทยด้วย ไม่เอาประโยชน์พรรคเป็นที่ตั้ง โดยปราศจากความรับผิดชอบต่อสังคม การทำกัญชาการแพทย์และเพื่อเศรษฐกิจการแพทย์ไม่มีใครคัดค้าน หากแต่การอ้างกัญชาเพื่อการแพทย์ที่มีข้อกังขาเรื่องสอดไส้ผลประโยชน์ จนไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อเยาวชน และคนเปราะบาง อันนี้เรายอมไม่ได้ รัฐบาลพลาดไปแล้วครั้งหนึ่งที่ยอมให้มีการปลดล็อกกัญชาจากยาเสพติด โดยไร้กฎหมายรองรับ เมื่อออกกฎหมายก็ยังไม่ครอบคลุม จึงต้องทบทวนหาทางออก เพื่อยุติสุญญากาศกัญชาเสรี เพราะประกาศกระทรวงสาธารณสุขที่ออกมาในขณะนี้ ก็ยังแก้ปัญหาไม่ได้ สุดท้ายถ้าต้องกลับไปให้กัญชาเป็นยาเสพติดเหมือนเดิมก็ต้องทำ เพียงแต่เปิดช่องให้ชัดสำหรับการแพทย์จริง ๆ ปกป้องเยาวชนและคนเปราะบาง ก็จะช่วยลดความกังวลของสังคมได้ ขณะเดียวกันผู้ป่วยที่ต้องการกัญชาเพื่อการรักษาก็ยังได้ประโยชน์อยู่