'นิพิฏฐ์' เผยเหตุทิ้ง 'สร้างอนาคตไทย' คุยจะมีทีมงานกว่า 30 คนตามสมทบ

"นิพิฏฐ์"อ้างทิ้งสอท.เหตุควบรวมพรรคทสท."สมคิด"หลุดแคนดิเดตนายกฯเบอร์ 1 หัวหน้าพรรคไม่ใช่"อุตตม"บลั๊ฟรทสช.พรรคใหม่เกิดยาก "บิ๊กตู่"ไม่ฮอตเหมือนปี 62 ฟุ้งพัทลุงใส่เสื้อพปชร.ชนได้ทุกพรรค โอ่ผลงานเด็ด สอย "นาที"มาแล้ว

13 ธ.ค.2565 - เมื่อเวลา 15.45 น.ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ภายหลังเปิดตัว ถึงการพูดคุยกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. ในการเข้าร่วมพรรคว่า ได้พูดคุยกับพล.อ.ประวิตรบ้างแล้ว พล.อ.ประวิตร ได้ให้ตนเข้ามาช่วยดูภาคใต้ จากที่พล.อ. ประวิตร ดูแลภาคใต้ด้วยตัวเองอยู่ก่อนแล้ว โดยเข้ามาช่วยดูในรูปแบบที่คณะกรรมการที่พล.อ.ประวิตร ตั้งขึ้นมาดูแลพื้นที่ภาคใต้ โดยมีนายอภิชัย เตชะอุบล แกนนำพรรค มาช่วยตนในพื้นที่ภาคใต้ด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ไม่มีชื่อของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว. กลาโหม จะเป็นผลดีหรือไม่ดีกับการหาเสียงพื้นที่ภาคใต้ นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า คิดว่าทุกพรรคไม่ใช่เฉพาะภาคใต้มีคะแนนนิยมใกล้เคียงกันมาก ซึ่งตนพยายามบอกผู้สมัครมาตลอดว่า ต้องทำให้ตัวเองแข็งแรง ได้รับการยอมรับจากประชาชน ตอนนี้คะแนนใกล้เคียงกันหมดแล้ว ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ อยู่ที่ตัวผู้สมัครมากกว่า

เมื่อถามว่า กระแสภาคใต้ชื่นชมพล.อ.ประยุทธ์ หากไม่อยู่ พปชร.แล้ว จะสามารถดึงดูดคะแนนจากประชาชนได้หรือไม่ นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า ยอมรับกระแสพล.อ.ประยุทธ์ ในภาคใต้ดี แต่มีเงื่อนไขหลายประการ ตนคิดว่า อาจจะไม่ดีเหมือนกับการเลือกตั้งปี 62 อีกต่อไป อย่างเช่นวาระการดำรงตำแหน่ง ถ้าเลือกไป 2 ปีต้องเลือกนายกฯใหม่ นอกจากนี้ พรรคใหม่ของพล.อ.ประยุทธ์ เป็นพรรคที่เหมือนสร้างขึ้นมาใหม่เลย เพราะฉะนั้นไม่ง่ายไปแข่งกับพรรคที่มีส.ส.อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นคิดว่าไม่ร้อนแรงเหมือนเดิม

เมื่อถามว่า ตั้งเป้ากวาดส.ส.ภาคใต้เท่าไหร่ นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า ไม่รู้พรรคตั้งเป้าไว้เท่าไหร่ แต่เราจะทำให้ดีที่สุด เมื่อถามว่า เพิ่งอยู่พรรคสร้างอนาคตไทยไม่นาน ย้ายมา พปชร.ประชาขนจะสับสนหรือไม่ นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า คงไม่ เพราะมันมีเหตุจำเป็น ส่วนเหตุจำเป็นเกิดจากอะไรนั้น ขอให้พรรคสร้างอนาคตไทยเป็นคนพูดเอง การที่ตนเดินออกมาไม่ใช่ไม่มีเหตุผล เพราะคุยกันมาไม่ต่ำกว่า 3 เดือนแล้ว เมื่อถามว่า เป็นปัญหาขัดแย้งภายในพรรคสร้างอนาคตไทยหรือไม่ นายนิพิฏฐ์ กล่าวปฏิเสธว่า ไม่ใช่ความขัดแย้ง เพราะตนที่ตนร่วมตั้งพรรคสร้างอนาคตไทยกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรค นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค และนายสุพล ฟองงาม รองหัวหน้าพรรค มีหลักการที่นำอยู่ 2 เรื่องคือ 1.ไม่สุดขั้วทางทางการเมือง ไม่แดงจัด ไม่เหลืองจัด ไม่ซ้ายจัด ไม่ขวาจัด 2.เราจะเป็นพรรคที่มุ่งเข้ามาแก้ปัญหาเศรษฐกิจมากกว่าปัญหาทางการเมือง แต่พอพรรคเดินมาได้ระยะหนึ่งก็มีแนวคิดในการควบรวมพรรค ซึ่งตนไม่ได้ขัดข้องหากการควบรวมพรรค จะทำให้พรรคมีตัวตนในทางการเมือง มีที่ยืนในทางการเมือง โดยเฉพาะเงื่อนไขรัฐธรรมนูญที่ทำให้พรรคโตยาก แต่การควบรวมต้องไม่ขัดหลักการ 2 ข้อนี้

"แต่ปรากฎว่าการควบรวมมีการเบี่ยงเบนไปบางส่วน อย่างเช่น มีการเปลี่ยนแปลงหัวหน้าพรรคจากนายอุตตม เป็นคนอื่น และที่สำคัญคือ มีการเปลี่ยนแปลงแคนดิเดตนายกฯจากนายสมคิด ไปเป็นบุคคลอื่น โดยนายสมคิด จะเป็นเบอร์ 2 และเบอร์ 3 ไป ซึ่งผมคิดว่าหลักการตรงนี้มันถูกเปลี่ยนแปลงไป และผมได้ยืนยีนแล้วว่าหากรวมพรรคลักษณะแบบนี้ ผมคงไม่สามารถทำงานในพรรคได้ ซึ่งทุกคนก็เข้าใจไม่ได้มีความขัดแย้ง"นายนิพิฏฐ์ กล่าว

เมื่อถามว่า มีการมองกันว่า การที่มาอยู่ พปชร. เพราะพรรคต้องการให้มาชนกับพรรคภูมิใจไทยในภาคใต้โดยเฉพาะนางนาที รัชกิจประการ แม่ทัพภาคใต้ พรรคภูมิใจไทย นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า "ไม่หรอก ผมอยู่ที่ไหนก็ชนได้ ผมก็ชนเจ๊นาทีกระเด็นไปแล้ว ถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ไป 3 ปีแล้ว ไม่มีปัญหาผมชนได้ทั้งนั้น"

เมื่อถามว่า ในการเลือกตั้งครั้งหน้าที่จะต้องชนกับนางนาทีจะเป็นการทวงคืนพื้นที่เเขต 2 พัทลุงหรือไม่ นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า ไม่ชนลักษณะนั้น ขอเป็นตัวเลือกใหม่ก็แล้วกัน ไม่ถือว่าชนกันเป็นศัตรูขนาดนั้น เมื่อถามว่า การย้ายมา พปชร. มีลูกทีมตามมาหรือไม่ นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า มาเยอะ และยอมรับว่าเป็นปัญหาเพราะมีพื้นที่ทับซ้อนกัน ความจริง 30 กว่าคนที่วางไว้มาทั้งหมด แต่เมื่อพื้นที่ทับซ้อนกันก็ต้องมาคุยกันใหม่อีกที

เมื่อถามว่า ในพื้นที่จ.พัทลุง คิดว่าจะสู้กับนางนาทีกับนายนริศ ขำนุรักษ์ ได้หรือไม่ นายนิพิฏฐ์ หยุดไปก่อนกล่าวว่า "คิดว่าได้ครับ การเมืองมันต้องเลือกความหวัง ใครมีความหวังมากกว่า มีโอกาสเป็นรัฐบาลมากกว่าก็ได้รับเลือกไป ใครไม่มีความหวังก็ไม่ได้รับเลือกหรอก อย่างส.ว.เขาดูเบื้องหลังเวลาเลือก แต่ผู้แทนราษฎรหรือพรรคการเมืองเขาดูช้างหน้า ซึ่งตนคิดว่าสู้ได้

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘นิพิฏฐ์’ มองมุมการเมือง หรือ ‘ก้าวไกล’ จะก้าวพลาด กรณี ‘บุ้ง เนติพร’

ความตายที่มนุษย์ยอมรับ และ ให้เกียรติกัน คือ'ความตายในสงคราม' หากความตายของบุ้ง เป็นความตายในสงครามแห่งความเชื่อ เราก็ควรเคารพดวงวิญญาณของเธอ

ก้าวไกลโหมหนัก การเมืองบทใหม่ ฉันทามติระหว่างชนชั้นนำ กับปชช.

ก้าวไกลประกาศเป็นสะพานเชื่อมแห่งยุคสมัย “ชัยธวัช’ ยก ปรากฏการณ์ ‘เลือกตั้ง 66’ เป็นข้อบ่งชี้ ไทยกำลังเดินเข้าสู่บทที่สิ่งเก่ากำลังจะตาย-สิ่งใหม่กำลังจะเกิด

ลูกชายเอนก โบกมือลาพรรครวมไทยสร้างชาติ ขอกลับมาเป็นพลเมืองไทยไร้ฝักฝ่ายเต็มขั้น

ความเคลื่อนไหวพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) วันเดียวกันนี้ นายเขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ ได้ยื่นลาออกจากสมาชิกพรรค รทสช. โดย นายเขตรัฐ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า “กราบผู้ใหญ่ที่เคารพและสวัสดีเพื่อนมิตรที่รัก

ไทยในสายตาต่างชาติ: สมัยรัชกาลที่เจ็ด (ตอนที่ 23: การเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475)

ผู้เขียนขอหยิบยกรายงานจากสถานทูตอื่นๆที่มีต่อเหตุการณ์การเปลี่ยนแปลงการปกครองต่อจากตอนที่แล้ว โดยผู้เขียนได้คัดลอกมาจากหนังสือ

ความเป็นมาของรัฐธรรมนูญฉบับที่ 4 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2490 (ตอนที่ 10)

รัฐธรรมนูญฉบับที่ 4 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2490 ประกาศใช้เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490

ตร.ไซเบอร์ บุกค้นบ้าน ‘รองนายกท้องถิ่น’ โยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์จีน

พล.ต.ต.วิรัช ชุติมิต ผบก.สอท.5 เดินทางมายังบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.จันดี อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งมีความเกี่ยวโยงกับการจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์แก๊งใหญ่