
“ก้าวไกล”เมินเส้นตายยุบสภา ลั่น อยากทำงานจนวินาทีสุดท้าย ชี้สิ่งที่ “ชวน” พูดไม่ผิดอะไร เผย ไม่อยากให้เอาเงื่อนไข-ประโยชน์พรรคการเมืองเป็นตัวตั้ง
1 ม.ค.2566 – นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ระบุว่า จะมีการยุบสภาก่อนวันที่ 23 มี.ค. 2566 จะถือเป็นการชิงความได้เปรียบในการย้ายพรรคของ ส.ส.หรือไม่ ว่า การย้ายพรรคของ ส.ส. ขึ้นอยู่ 2 เงื่อนไข คือ การที่สภาฯ อยู่ครบวาระ ซึ่งส.ส.จะต้องย้ายพรรคก่อนไม่น้อยกว่า 90 วัน หรือ หากเป็นกรณีที่สภาฯ อยู่ไม่ครบวาระ ส.ส.จะต้องย้ายสังกัดพรรคใหม่ภายใน 30 วัน แต่ประเด็นขณะนี้ตนเองไม่คิดว่าจะเกี่ยวกับการย้ายพรรค เพราะเกือบ 70-80% ของส.ส. หรือแม้กระทั่งคนที่เตรียมจะลงสมัครเลือกตั้ง ส่วนใหญ่ก็เลือกแล้วว่าจะสังกัดอยู่พรรคการเมืองใด หรือบางคนที่ไม่ได้รับการเคาะโดยพรรคก็อาจจะมีการย้ายพรรค หากยังประสงค์ที่จะลง ส.ส.
นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า สิ่งที่นายชวนพูดก็ไม่ได้ผิดไปจากความคาดหมาย เพราะจริงๆ แล้วก็เป็นประเด็นที่เราเห็นตรงกันว่าไม่ได้เกี่ยวกับตัว ส.ส. ไม่ได้เกี่ยวกับตัวพรรคการเมือง แต่ตอนนี้เกี่ยวกับคนที่ อยากอยู่ในตำแหน่งหรืออยู่ในอำนาจต่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของพรรคฝ่ายรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นพรรคที่มีอยู่แล้ว เช่น พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หรือพรรคที่กำลังจะเกิดใหม่ เช่น พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)
นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า เท่าที่เราทราบมาพรรค รทสช.เอง ก็ยังไม่มีความพร้อมในการที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากตามกติกาใหม่จะต้องมีการตั้งตัวแทนประจำจังหวัด (ตทจ.) อย่างน้อยจังหวัดละ 1 คน แต่จะโทษพรรค รทสช. ก็ไม่ได้ เพราะจริงๆ แล้วเป็นปัญหาของทุกพรรค แต่พรรคที่เกิดมานานแล้วหรือเกิดมาก่อน ก็จะมีความพร้อมในด้านนี้ไปค่อนข้างมาก แต่พรรคที่เกิดขึ้นใหม่หรือพรรคที่เพิ่งเกิดขึ้นเพื่อรองรับการสืบทอดอำนาจ โดยเฉพาะพรรค รทสช.ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ท่านบอกว่าจะลงรับสมัครและเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเบอร์ 1 ของพรรคนั้นยังไม่มีความพร้อม
นายณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ สิ่งที่นายชวนพูดก็ไม่ผิดอะไร และเป็นสิ่งเดียวกับที่เราคาดการณ์ไว้ เพียงแต่เขาจะแต่งองค์ทรงเครื่องแล้วว่าจะพอเมื่อไหร่ เห็นว่าตัวเองอาจจะอยู่ในเงื่อนไขที่ได้เปรียบในทางการเมือง เขาก็จะตัดสินใจยุบสภามากกว่า สำหรับพรรคก้าวไกล มองว่าหากเป็นกรณีเช่นนั้น ก็น่าเสียดายเวลา หรือเสียดายโอกาสเพราะจะเห็นได้ว่าในปัจจุบันยังมีกฎหมายที่ค้างการพิจารณาอยู่จำนวนมาก
“ฉะนั้น เราอยากทำงานจนถึงวินาทีสุดท้าย ซึ่งแม้สมัยประชุมจะปิดก็ยังมีอำนาจที่จะเปิดประชุมสมัยวิสามัญได้ จนถึงวันที่ 23 มี.ค. เราอยากให้มีการเน้นที่ภารกิจงาน ที่เหลือมากกว่า และเป็นสิ่งที่รัฐบาลควรให้ความสำคัญมากกว่าเราด้วยซ้ำ เพราะกฎหมายเป็นเครื่องมือของรัฐบาล เสียดายที่เราไม่รู้ว่ารัฐบาลจะมองแบบที่เรามองหรือไม่ เราไม่อยาก ให้เอาเงื่อนไขทางการเมืองหรือประโยชน์ของพรรคใดพรรคหนึ่งมาเป็นตัวตั้งในการยุบสภา” นายณัฐวุฒิ กล่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พท.ขึงขังซักฟอก อ้างเหตุเพราะมีคนตายปากกล้าขาสั่นท้าไม่กลัวยุบสภา
พรรคเพื่อไทยจะเอาทุกอย่าง ซักฟอกดิสเครดิตรัฐบาลก่อนเลือกตั้ง บีบพรรคส้มตัดสินใจ เชื่อ "อนุทิน" ไม่ยุบสภา ไม่กระทบรัฐธรรมนูญ "สรวงศ์" ลั่น
'อนุทิน' ยันไม่มีดีลเพื่อไทยชะลอยื่นซักฟอกรัฐบาล
"อนุทิน" ลั่นเตรียมทุกอย่างให้พร้อมรอเลือกตั้ง ยังไม่บอกพร้อมจับมือหลังลต.กับพรรคใด ไม่กังวลกระแสตกห่วงแต่แก้ปัญหาน้ำท่วมได้ไม่ทันใจ
'อนุทิน' ขึงขังห้ามทำลายเกียรติภูมิ-รุกล้ำ!
นายกฯ กร้าว! ห้ามรุกล้ำ ห้ามย่ำยี ห้ามทำลายเกียรติภูมิและคนไทย ปมชายแดนบ้านหนองจาน ปัดขีดเส้นตายให้ชาวกัมพูชาต้องย้ายออกก่อนยุบสภา ย้ำความมั่นคงไม่มีกรอบกำหนด
ขนลุก! กูรูใหญ่ สาปแช่งพรรคเพื่อไทย หลังข่าวซูเอี๋ยพรรคส้ม
ความคิดที่เพื่อไทยและประชาชนจะจับมือกันตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้งแล้วเลื่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ คือท่าดีทีล้มละลายทางการเมือง
'สุชาติ' นัดเคลียร์ 'สนธยา' แบ่งโซนส่ง 10 ผู้สมัคร สส.ชลบุรี ลั่นเขต 1 ขอลงเอง
"สุชาติ" เผยนัดคุย "สนธยา" วางตัว 10 ว่าที่ผู้สมัครสส.ชลบุรี คาดจบภายใน 1-2 วันนี้ ขอจองเขต 1 ลงเอง ส่วนภาพรวมดูความเหมาะสมใครถนัดลงเขตไหน ลั่นอยากให้ ภท. เป็นหนึ่งเดียวในชลบุรี บอกยังไม่มีสัญญาณยุบสภา
‘เทพไท’ เปิดสาเหตุ 'เพื่อไทย' ไม่กล้ายื่นซักฟอก ทั้งที่ตัวเองได้เปรียบ
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิประบุว่า

