ผลโพลชี้ชัดเส้นทางพรรคเล็กต้องควบรวมเพื่อไปต่อ

15 ม.ค. 2566 – ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “พรรคการเมืองขนาดเล็กและการควบรวม” ทำการสำรวจระหว่าง วันที่ 9-12 มกราคม 2566 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา และอาชีพทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับพรรคการเมืองขนาดเล็กและการควบรวมพรรคการเมือง การสำรวจอาศัย การสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างด้วยวิธีแบบง่าย (Simple Random Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0

จากการสำรวจเมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนต่อการตัดสินใจของพรรคการเมืองขนาดเล็ก ในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ภายใต้กติกาบัตร 2 ใบ พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 46.26 ระบุว่า ควรเดินหน้าต่อด้วยการไปควบรวมกับพรรคการเมืองอื่น รองลงมา ร้อยละ 37.56 ระบุว่า ควรเดินหน้าต่อไปในนามพรรคการเมืองเดิม ร้อยละ 15.34 ระบุว่า ควรยุติบทบาททางการเมือง และร้อยละ 0.84 ระบุว่า ไม่ตอบ/ ไม่สนใจ

เมื่อถามผู้ที่ระบุว่า ควรเดินหน้าต่อด้วยการไปควบรวมกับพรรคการเมืองอื่น (จำนวน 606 หน่วยตัวอย่าง) เกี่ยวขนาดของพรรคการเมืองที่ควรไปควบรวม พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 61.55 ระบุว่า ควรไปควบรวมกับพรรคการเมืองที่มีแนวโน้มจะเป็นพรรคขนาดใหญ่ รองลงมา ร้อยละ 27.39 ระบุว่า ควรไปควบรวมกับพรรคการเมืองที่มีแนวโน้มจะเป็นพรรคขนาดกลาง และร้อยละ 11.06 ระบุว่า ควรไปควบรวมกับพรรคการเมืองที่มีขนาดเล็กเหมือนกัน

สำหรับความคิดเห็นของประชาชนต่อการควบรวมทางการเมืองระหว่างคุณกรณ์ จาติกวณิช กับ คุณสุวัจน์ ลิปตพัลลภ จนกลายมาเป็นพรรคชาติพัฒนากล้า พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 46.87 ระบุว่า เป็นการควบรวมที่เหมาะสมมาก รองลงมา ร้อยละ 30.99 ระบุว่า การควบรวมทำให้มีโอกาสได้จำนวน ส.ส. เพิ่มขึ้นในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นปีนี้ ร้อยละ 19.39 ระบุว่า เป็นการควบรวมชั่วคราว เฉพาะการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นปีนี้ ร้อยละ 14.50 ระบุว่า เป็นการควบรวมที่ไม่เหมาะสมเลย ร้อยละ 9.31 ระบุว่า การควบรวมจะไม่ส่งผลใด ๆ ต่อโอกาสการได้จำนวน ส.ส. เพิ่มขึ้นในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นปีนี้ ร้อยละ 5.80 ระบุว่า เป็นการควบรวมที่คุณกรณ์ จาติกวณิช ได้ประโยชน์มากกว่า ร้อยละ 5.34 ระบุว่า เป็นการควบรวมที่คุณสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ได้ประโยชน์มากกว่า ร้อยละ 4.43 ระบุว่า รู้สึกเสียดายที่คุณกรณ์ จาติกวณิช ลาออกจากพรรคกล้า ร้อยละ 3.44 ระบุว่า รู้สึกเสียดายที่จะไม่มีพรรคชาติพัฒนาในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น และร้อยละ 3.21 ระบุว่า ไม่ตอบ/
ไม่สนใจ

ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนต่อข่าวแนวโน้มการควบรวมทางการเมืองระหว่างพรรคไทยสร้างไทย นำโดยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ กับ พรรคสร้างอนาคตไทย นำโดย ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 50.15 ระบุว่า เป็นการควบรวมที่เหมาะสมมาก รองลงมา ร้อยละ 31.76 ระบุว่า การควบรวมทำให้มีโอกาสได้จำนวน ส.ส. เพิ่มขึ้นในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นปีนี้ ร้อยละ 20.08 ระบุว่า เป็นการควบรวมชั่วคราว เฉพาะการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นปีนี้ ร้อยละ 14.35 ระบุว่า เป็นการควบรวมที่ไม่เหมาะสมเลย ร้อยละ 10.76 ระบุว่า เป็นการควบรวมที่พรรคไทยสร้างไทย และ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ได้ประโยชน์มากกว่า ร้อยละ 8.32 ระบุว่า การควบรวม จะไม่ส่งผลใด ๆ ต่อโอกาสการได้จำนวน ส.ส. เพิ่มขึ้นในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นปีนี้ ร้อยละ 4.50 ระบุว่า รู้สึกเสียดายที่อาจจะไม่มีพรรคไทยสร้างไทย ในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น ร้อยละ 3.66 ระบุว่า เป็นการควบรวมที่พรรคสร้างอนาคตไทย และ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ได้ประโยชน์มากกว่า ร้อยละ 1.76 ระบุว่า รู้สึกเสียดายที่อาจจะไม่มีพรรคสร้างอนาคตไทยในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น และร้อยละ 2.82 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หรือจะเหนื่อยฟรี! โพลชี้ ‘ทักษิณ’ เคลื่อนไหว ไม่มีผลต่อคะแนนนิยม ‘เพื่อไทย’ ครั้งหน้าก็ยังแพ้

ถามถึงความเป็นไปได้ที่พรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้งในครั้งต่อไป พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 32.98 ระบุว่า เป็นไปไม่ได้เลย

'นิด้าโพล' ชี้ คนไทย ไม่เห็นด้วยนโยบาย ยาบ้า 5 เม็ด

ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง “ยาบ้า 5 เม็ด กับผู้เสพ คือ ผู้ป่วย” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 18-20 มีนาคม 2567 จากประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้

‘นิด้าโพล’ เผยข้าราชการเบื่อขั้นตอนปฏิบัติยุ่งยาก แต่ไม่มีแผนลาออก

ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง “ข้าราชการ เจ้าหน้าที่รัฐ เบื่ออะไร?”