
17 ม.ค.2566 - นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณียุทธศาสตร์ของพรรคก้าวไกล ในการเลือกตั้งที่กำลังจะถึง ว่า พรรคก้าวไกลตั้งเป้าเป็นพรรคระดับชาติ ต้องมี ส.ส.เขตในทุกภูมิภาค และต้องได้ ส.ส.มากกว่าเดิม โดยจากผลการเลือกตั้งซ่อม เชื่อว่ายังรักษาฐานเสียงของพรรคก้าวไกลได้ภายใต้ยุทธศาสตร์ “รักษาเขตเดิม เพิ่มเติมเขตใหม่” แต่ก็ไม่ประมาท
นายพิธา กล่าวว่า สำหรับเงื่อนไขการจับมือพันธมิตรทางการเมืองกับพรรคอื่น อยู่ที่น้ำหนักทางการเมือง ความท้าทายของพรรคร่วมฝ่ายค้านในตอนนี้ แม้จะมีความหลากหลาย แต่ตอบโจทย์ความท้าทายของประเทศ มั่นใจเป็นขั้วที่ดีที่สุดที่เอาประชาชนเป็นที่ตั้ง ยืนยันพรรคจะไม่จับมือกับพรรคทหารจำแลง ทั้งพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) หรือระบอบประยุทธ์
นายพิธา กล่าวอีกว่า ยอมรับการจับมือทางการเมืองมีได้หลายสูตร-หลายสมการ ไม่ว่ากระแสพรรคเพื่อไทยจับมือกับพรรคพลังประชารัฐ แต่เท่าที่ตามข่าวเห็นว่าพรรคเพื่อไทยยังไม่จับมือกับพรรคการเมืองใด อย่างไรก็ดีความตั้งใจของพรรคก้าวไกล ไม่ได้ต้องการเข้าสู่การเป็นรัฐบาลเพื่อแชร์อำนาจทางการเมือง แต่ต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศ
หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการประชุมใหญ่วิสามัญพรรคในวันที่ 28 ม.ค. 2566 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ว่า วาระคือการแก้ไขข้อบังคับพรรคให้สอดรับกับร่างกฎหมายลูกว่าด้วยพรรคการเมืองฉบับใหม่ และไฮไลท์คือการโชว์วิสัยทัศน์ทางการเมืองของตนและนโยบายหาเสียง 9 เสา โดยเน้นนโยบายระดับชาติ พร้อมโชว์วิสัยทัศน์เค้าโครงทางเศรษฐกิจใหม่ของประเทศ
นายพิธา กล่าวอีกว่า เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไม่ตัดสินใจชิงยุบสภา ก่อนที่จะมีการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 โดยการอภิปรายครั้งนี้มีความสำคัญ หาก พล.อ.ประยุทธ์ สง่างามควรมีให้มีโอกาสอภิปรายก่อน อย่ายุบสภาหนี และประเมินว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติซึ่งเป็นพรรคใหม่ หากไม่ได้ ส.ส.เกิน 25 คน ก็เสนอตัวเองเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ได้ แม้จะมี ส.ว.ในมือ
หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวด้วยว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เดิมพันสูงขอประชาชนตัดสินใจให้ดีในการเลือกผู้แทนราษฎร หากแต่ละพรรคได้ผู้แทนฯสภาล่างควรตั้งรัฐบาลได้เอง อย่ากลัว ส.ว.มากเกินเหตุ หากแพ็คกันแน่นเสียงเกิน 250 เชื่อว่า ส.ว.ไม่สามารถต้านเจตจำนงค์ประชาชนได้ หรือหากพลเอกประยุทธ์ไปต่ออีก 2 ปี เชื่อว่าสภาฯจะมีปัญหาไม่สามารถผ่านกฎหมายได้ เพราะไม่ได้เป็นพรรคพลังประชารัฐเหมือนเดิม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'เดชอิศม์' เปิดใจเว้นวรรคการเมือง ไม่ลงสมัครเลือกตั้ง ไม่เป็นสมาชิกพรรค
นายเดชอิศม์ ขาวทอง อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และอดีต สส.สงขลา เขต 5 โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เปิดใจนายกชาย "ผมขอหยุด เพื่อประกาศให้คนไทยเห็นว่าผมไม่เห็นด้วยกับระบบการเมืองที่บิดเบี้ยวในขณะนี้"
เพื่อไทยแปดริ้ว ดัน ‘โจ๊ะ’ พันธุ์พงศ์ ชิง สส.เขต 2
สนามเลือกตั้ง เพื่อไทยแปดริ้ว “เฮียเน้า” สมชัย อัศวชัยโสภณ ดันลูกชาย “โจ๊ะ” พันธุ์พงศ์ ชิงพื้นที่ เขต 2 จ.ฉะเชิงเทรา อ้อนคนในพื้นที่ขอชนะใจด้วยการทำงาน เชื่อได้รับความไว้วางใจจากประชาชน ไม่ประมาทคู่แข่ง
พปชร.ดัน ‘ตรีนุช’ แคนดิเดตนายกฯอันดับ 1 หลัง ‘ลุงป้อม’ ถอนตัว
พปชร.ขยับตัวก่อนเลือกตั้ง ดัน “ตรีนุช เทียนทอง” ขึ้นเป็นแคนดิเดตนายกฯอันดับ 1 หลัง “พล.อ.ประวิตร” ขอถอนตัวเหตุสุขภาพ พร้อมวาง “ธีระชัย” อันดับ 2 เตรียมส่งผู้สมัคร สส.เขตกว่า 200 เขต ยืนยันหัวหน้าพรรคยังไม่วางมือ
🛑LIVE 'อภิสิทธิ์'กล้าทำ-'อนุทิน'กล้าบวก พลิกกระดานตั้งรัฐบาล!! | ห้องข่าวไทยโพสต์
ห้องข่าวไทยโพสต์ : วันพุธที่ 24 ธันวาคม 2568
‘แรมโบ้’ ผวา ‘ลุงป้อม’ วางมือ ลา พปชร. ซบโอกาสใหม่ทันที
"แรมโบ้" ผวาข่าว"ลุงป้อม" วางมือ ยื่นขอลาออกเช้านี้ ก่อนวิ่งซบ "โอกาสใหม่" ทันที ยอมรับกังวลกลัวถูกทิ้งกลางทาง หลัง"พล.อ.ประวิตร"ไม่เป็นแม่ทัพนำศึกเลือกตั้ง
'ชูวิทย์' งง 'พรรคส้ม' ย้อนแย้ง กับความฝันเรื่องการเมืองใหม่ แต่กลับไปได้ของเก่ากว่าเดิม
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตส.ส.และอดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ความย้อนแย้งของการเมืองใหม่

