ความจริงมีหนึ่งเดียว! ‘ทิพานัน’ ลั่น ‘บิ๊กตู่’ ปราบมาเฟียทุนสีเทา

รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ ชี้ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว พล.อ.ประยุทธ์” ปราบมาเฟียจับกุมและดำเนินคดีทุนสีเทา ใช้หนี้ยุคโกงจำนำข้าว  ยันไทม์ไลน์ชัดรัฐบาลยิ่งลักษณ์ต้นน้ำไฟเขียวตู้ห่าวถือสัญชาติไทย  วอนเพื่อไทยอย่าละเว้นตรวจสอบปมซุกทรัพย์สินเป็นโครงการบ้านหรู

19 ก.พ.2566-น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่พบปะประชาชนจำนวนมากที่ได้ติดตามการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตราา152 ชื่นชมพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมว่า สามารถตอบการอภิปรายของฝ่ายค้านได้ชัดเจนทุกประเด็น มีหลักฐานที่น่าเชื่อถือ สั้นกระชับและได้ใจความ ทำให้มีความเชื่อมั่นว่าพล.อ.ประยุทธ์มีความเอาจริงเอาจังในการปราบปรามการทุจริต และการกระทำผิดกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา ไม่แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม พร้อมทั้งฝากให้กำลังใจและพร้อมสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ในการทำหน้าที่ต่อไปด้วย

“กรณีที่รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อ กล่าวหาพล.อ.ประยุทธ์ ตอบไม่ตรงคำถาม สอบตกกลางสภาฯ ปล่อยปละละเลยทุนจีนสีเทานั้น  เป็นความเห็นส่วนตัวของรองเลขานุการฯคนนั้น คงจะนำมาเป็นมาตรฐานชี้วัดอะไรไม่ได้  พล.อ.ประยุทธ์ชี้แจงชัดเจนแล้วทุกประเด็น แต่อาจตอบไม่ตรงใจ หรือไม่ถูกใจพรรคเพื่อไทย เพราะยิ่งตอบชัด ยิ่งกลายเป็นเรื่อง ขว้างงูไม่พ้นคอของพรรคเพื่อไทยหรือไม่”

น.ส.ทิพานันท์กล่าวว่า การปล่อยให้บุคคลที่กระทำผิดกฎหมายเข้ามาทำธุรกิจสีเทา เกิดขึ้นในรัฐบาลก่อนหน้าที่ พล.อ.ประยุทธ์จะเข้ามาบริหาร ประเทศ โดยกลุ่มธุรกิจผิดกฎหมายดังกล่าวเข้ามาประเทศไทยและยื่นเรื่องขอสัญชาติตั้งแต่ปี 2554 ก่อนรัฐประหารในปี 2557 ต่อมาจึงได้มีการอนุญาตเรื่องสัญชาติโดยนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย ในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถือว่าผ่านขั้นตอนการพิจารณามาหมดแล้ว เหลือเพียงขั้นตอนการประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาเพียงเท่านั้น จึงมาถึงพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ที่ลงนามในประกาศกระทรวงมหาดไทยไปในวันที่ 6 พ.ย.2557 เพื่อลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.2557 ซึ่งถือว่าเป็นกระบวนการปลายน้ำ

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า เมื่อมีการเปิดเผยข้อมูลการกระทำที่ผิดกฎหมายจากภาคประชาชน พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้นิ่งนอนใจและได้ทำการตรวจสอบดำเนินคดีตามกฎหมายทุกคนไม่มีละเว้นกับผู้กระทำความผิด จนพบความไม่ชอบมาพากลหลายประการ ซึ่งก็ยังพบว่าเครือข่ายเหล่านี้นำเงินผิดกฎหมายไปซื้อทรัพย์สินคืออสังหาริมทรัพย์จากโครงการหมู่บ้านหรูในบริเวณซอยลาซาล ซึ่งเป็นการซื้อเหมาเกือบยกโครงการ 50 หลัง จาก 66 หลัง อันเป็นพฤติกรรมที่ไม่ปกติ   ตรงนี้จึงอยากขอเชิญชวนพรรคเพื่อไทยร่วมกันติดตามและตรวจสอบในประเด็นดังกล่าวตามบทบาทของฝ่ายค้านว่าโครงการดังกล่าวเข้าข่ายการกระทำความผิดด้วยหรือไม่ ขออย่าได้มองข้ามหรือละเว้นในประเด็นดังกล่าว ในการทำหน้าที่ตัวแทนพี่น้องประชาชน

“ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวคือ พล.อ.ประยุทธ์   ปราบปรามมาเฟียสีเทาทุกรูปแบบ ไม่ว่ากรณีตู้ห่าวและทุนสีเทา  ที่เพื่องฟูมากี่ปีก็ตาม ก็ถูกจับและดำเนินคดีในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์  ที่ท่านกำลังทำงานอย่างจริงจัง  ไม่ต่างกับการที่ต้องรับภาระหนี้จากโครงการจำนำข้าว ที่เกิดจากการโกงชาติ จนมีรัฐมนตรีพรรคการเมืองหนึ่งติดคุก  และนายกรัฐมนตรีบางคนหนีไปต่างประเทศ  ทิ้งไว้ให้ พล.อ.ประยุทธ์และคนไทยเข้ามาใช้หนี้และสะสางกระบวนการทุจริตอยู่ขณะนี้”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ชัยวุฒิ' จี้ 'อภิสิทธิ์' ประกาศให้ชัดจะร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยไหม

'ชัยวุฒิ' จี้ 'อภิสิทธิ์' ชี้แจงให้ชัด จะร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ หลังประกาศไม่ร่วม 'กล้าธรรม' ชี้ FC ประชาธิปัตย์สับสน

เพื่อไทยแปดริ้ว ดัน ‘โจ๊ะ’ พันธุ์พงศ์ ชิง สส.เขต 2

สนามเลือกตั้ง เพื่อไทยแปดริ้ว “เฮียเน้า” สมชัย อัศวชัยโสภณ ดันลูกชาย “โจ๊ะ” พันธุ์พงศ์ ชิงพื้นที่ เขต 2 จ.ฉะเชิงเทรา อ้อนคนในพื้นที่ขอชนะใจด้วยการทำงาน เชื่อได้รับความไว้วางใจจากประชาชน ไม่ประมาทคู่แข่ง

ข้ามขั้ว! เพื่อไทยเปิดตัว 'นิติศักดิ์ ธรรมเพชร' บ้านใหญ่พัทลุง อดีตรวมไทยสร้างชาติ

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ แคนดิเดตนายกฯ และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งและแคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย นายก่อแก้ว พิกุลทอง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยดูแลพื้นที่ภาคใต้

รัฐบาลขออภัย 'คนละครึ่งพลัส' ไม่ได้ไปต่อ ซัดเพื่อไทยล้มเหลว 'แจกเงินหมื่น' แต่ไม่ยอมรับผิด

รัฐบาลกราบขออภัย "คนละครึ่งพลัส" ไม่ได้ไปต่อ โต้ พท.กล่าวหารัฐบาลเสียงข้างน้อยตีตกเงินหมื่น จวก เป็นความล้มเหลวปฏิบัติหน้าที่รัฐบาลในอดีต

บ้านใหญ่โคราชเพื่อไทย จัดไพรมารีโหวต เคาะผู้สมัคร สส. 16 เขต ชาติพัฒนาได้ 3 พื้นที่

พรรคเพื่อไทย บ้านใหญ่โคราช ได้มีว่าที่ผู้สมัคร สส.นครราชสีมา ทั้ง 16 เขตเลือกตั้ง และผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อและสมาชิกพรรคเพื่อไทยที่มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา รวมกว่า 200 คน นำโดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ผู้สมัครบัญชีรายชื่อพรรคเพือไทย