
11 มิถุนายน 2566 – นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “กรณ์ จาติกวณิช – Korn Chatikavanij” มีเนื้อหาดังนี้…
เห็นมีคนเอาภาพนี้ไปดราม่ากัน ขอชี้แจงสั้นๆ ตรงนี้ครับ
-ภาพนี้ผู้ช่วยผมถ่ายตั้งแต่สองสามวันก่อนแล้ว
-เป็นวันสบายๆ ทานอาหารเช้ากัน เขาเห็นผมถือตะกร้าให้ภรรยา และบอกว่ามันเข้ากับสีเสื้อที่ใส่ก็เลยถ่ายไว้ แล้วเอาไปโพสต์ส่วนตัวของเขา
-รถคันนี้จอดอยู่ลานจอดรถ หน้าร้านคาเฟ่ จอดอยู่หลายคัน รถใครก็ไม่ทราบ (ต้องขออภัยต่อเจ้าของรถด้วยนะครับที่กลายเป็นดราม่า) วันที่โพสต์ ยังไม่มีข่าวเรื่องมาตรา 151 หรืออะไรเลย ทุกอย่างจึงเป็นเรื่องบังเอิญที่ไม่เป็นเรื่องอย่างสิ้นเชิง
ขอบอกว่าผู้ช่วยผมไม่ได้มีเจตนาอันใด และเดิมทีผมเองไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่ามีการโพสต์รูปนี้
ส่วนตัวนั้นผมไม่ชอบการแซะอะไรไร้สาระแบบนี้
ส่วนในกรณีปัญหาทางกฎหมายของคุณพิธานั้น ผมรู้สึกเสียดายที่มีอุปสรรคมากมาย กีดกันความต้องการของประชาชนจำนวนหนึ่งที่จะได้นายกฯ ที่เขาเลือกมา ผมเองแสดงความเห็นไว้ตั้งแต่หลังการเลือกตั้งว่าผมอยากให้การรวมตัวตั้งรัฐบาลโดยพรรคที่ 1 กับพรรคที่ 2 ประสบความสำเร็จ และความเห็นผมที่อยากให้ระบอบประชาธิปไตยของเราเดินหน้าไปอย่างราบรื่นก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลง แม้หลังจากที่แฟนคลับพรรคส้มได้กดดันให้คุณพิธากลับคำในการเชิญพรรคชาติพัฒนากล้าเข้าร่วมรัฐบาล พร้อมกับด่าทอ กล่าวหาผมต่างๆนานา ซึ่งผมก็ไม่เคยออกมาวิพากษ์วิจารณ์พรรคก้าวไกลหรือคุณพิธาแม้แต่ครั้งเดียว
ในทางตรงกันข้าม ช่วงที่ผ่านมามีคนที่ผมรู้จักมากมายที่เลือกพรรคก้าวไกล และมาบ่นกับผมว่าผิดหวังในหลายๆการแสดงออกของคนของพรรค ไปจนถึงเรื่องนโยบายที่หาเสียงไว้และส่งสัญญาณว่ายังอาจจะทำไม่ได้ ผมก็บอกให้ทุกคนใจเย็น ให้โอกาสเขาก่อน ดังนั้นผมอยากเห็นทุกท่านตั้งสติกันหน่อยครับ โอกาสมันมากับความรับผิดชอบ และเป็นดาบสองคมเสมอ
ส่วนประเด็นเรื่องกฎหมายก็เป็นเรื่องที่นักการเมืองทุกคนต้องตระหนักและให้ความสำคัญ
ผมเองก็เคยโดนพรรคอนาคตใหม่ยื่นร้องเรียนเพื่อถอดถอนผมจากการเป็น สส. ด้วยกฎหมายเดียวกัน คือได้กล่าวหาว่าผมถือหุ้นสื่อ ทั้งๆที่หุ้นที่ผมถือนั้นคือบริษัท ‘เกษตรเข้มแข็ง’ ที่ผมและทีมตั้งขึ้นมานำร่องทำนโยบายเกษตรพรีเมียมช่วยชาวนาไทย
ประเด็นถือหุ้นสื่อ ผม (และเพื่อนสส.อีกหลายสิบคนที่ถูกกล่าวหาโดยอนาคตใหม่) ก็ต่อสู้ทางกฎหมายและชี้แจงตามข้อเท็จจริงไป ซึ่งส่วนตัวนั้นผมมองว่ากฎหมายนี้หยุมหยิมเกินไป และส่วนตัวไม่เคยยื่นฟ้องร้องใครด้วยกฎหมายนี้ แต่ก็เคารพสิทธิของอนาคตใหม่ในวันนั้นที่จะใช้กฎหมายนี้เป็นเครื่องมือทางการเมือง
พูดไปคนเชื่อก็คงเชื่อ คนที่มีอคติก็คงเลือกที่จะไม่เชื่อ แต่ผมขอพูดแค่ว่า คนที่รู้จักผมดีจะรู้ว่า ถ้าผมจะว่าอะไรใคร ผมไม่มาแอบแซะโง่ๆ แบบนี้ครับ ผมซัดตรงๆ แน่นอน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'กรณ์' แนะ ปปง. ยึดทรัพย์สแกมเมอร์รายใหญ่ ต้องสาวให้ถึงคนไทย แฉพยายามโยกย้ายทรัพย์สิน
นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จากการที่พรรคประชาธิปัตย์ได้นำเอกสารหลักฐานชี้ให้เห็นถึงธุรกรรมที่ผิดปกติเกี่ยวโยงกับบุคคลที่ถูกกล่าวหา โดยสภาคองเกรสของสหรัฐอเมริกาว่าเกี่ยวโยงกับวงการสแกมเมอร์ และอาจจะเป็นกิจกรรมที่สะท้อนถึงความพยายามในการฟอกเงินที่ได้มาจากธุรกรรมเหล่านั้น
‘พี่คนดี’ ร่ายกลอนแซะ ‘เท้งจะฟาดเทาไม่เลี้ยง’ ด้อมเชื่อออกลูกเป็นลิง!
เพจ P.khondee (พี่คนดี กวีสมัครเล่น) โพสต์บทกลอนในเฟซบุ๊กระบุว่า
สงขลาเดือด! ผู้ประสบภัยน้ำท่วมปะฉะดะ 'สส.เขต 4'
สงขลาระอุ! ดรามาเดือดกลางโซเชียล หลังชาวคาบสมุทรสทิงพระติดน้ำท่วม 10 วัน 'สส.เขต 4' คอมเมนต์กลับจนปะฉะดะบนเฟซบุ๊ก
'ประเสริฐ' ลั่นยื่นซักฟอกมาตรา 151 ขำไม่ออก! ซัดพวกตกปลาในบ่อเพื่อน
'ประเสริฐ' อัดพรรคการเมืองตกปลาในบ่อเพื่อนน่าละอาย ย้ำ 'เพื่อไทย' ยื่นอภิปราย151 แน่ อัด 'อนุทิน' เป็นรัฐบาลเหตุใดกลัวการตรวจสอบจากฝ่ายค้าน
หัวหน้า พท.โวยื่นซักฟอกต้องตามใจคนชื่อ 'จุลพันธ์' ย้ำแค่เสนอญัตติก็ยุบสภาไม่ได้แล้ว!
'หน.เพื่อไทย' ลั่นยื่นซักฟอก ม.151 ต้องตามใจ 'จุลพันธ์' ไม่ใช่ 'อนุทิน' เหตุเป็นฝ่ายค้านมีอำนาจตรวจสอบรัฐบาล ยันแค่ยื่นญัตติก็ยุบสภาหนีไม่ได้ ชี้ไม่มีอะไรใหญ่กว่ารัฐธรรมนูญ บอกกรอบเวลาไม่ใช่ปัญหา
ยิ่งขุดยิ่งเจอ! สส.พรรคส้ม ตั้งนักเรียน ม.4 เป็นผู้ช่วย สส. สงสัยคุณสมบัติผ่านหรือไม่
เพจเฟซบุ๊ก จักรวาลด้อมส้ม ได้ออกมาสาวไส้พรรคประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยพบว่านายปารเมศ วิทยารักษ์สรรค์ สส.กทม. พรรคประชาชน ได้แต่งตั้ง นายคณิศร เป็นผู้ช่วย สส. เมื่อปี 65 ขณะเรียนอยู่ชั้น ม.4 และมีภาพร่วมงานกับพรรคส้มตั้งแต่ปี 66 จนถึงปัจจุบัน


