'เอกนัฎ' ดัน 'รทสช.' เดินหน้าเป็น สถาบันการเมือง แนะสมาชิกทำงานเพื่อประชาชนต่อเนื่อง ขณะ 3 นักการเมืองรุ่นใหม่โพสต์เฟซบุ๊กประเด็นร้อนในสังคม
15 มิ.ย.2566 - ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กลุ่มนักการเมืองรุ่นใหม่ อดีตผู้สมัคร ส.ส. กทม.ร่วมกันระดมสมองเตรียมขับเคลื่อนกิจกรรมด้านการเมืองอย่างต่อเนื่อง โดยมีนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค และ พ.อ.เฟื่องวิชช์ อนิรุธเทวา ผู้อำนวยการพรรค ร่วมพูดคุย
นายเอกนัฏกล่าวว่า เชื่อมั่นในศักยภาพของสมาชิกพรรครุ่นใหม่ทุกคนว่าจะใช้ความสามารถในด้านที่มีความเชี่ยวชาญมาช่วยพรรคทำงานทั้งเรื่องของการเดินหน้านโยบายต่างๆ และสนับสนุนการที่ ส.ส.ของพรรคที่จะเข้าสภาทั้ง 36 คน เพื่อให้สามารถทำงานเพื่อประเทศชาติได้อย่างเข้มแข็ง
นายเอกนัฏ กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันเห็นว่าหลายคนก็มีกิจกรรมหลายอย่างที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม และประชาชน ทั้งการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ หรือการจัดการเสวนาพูดคุยกับผู้สนใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกฎหมาย เรื่องการศึกษา เรื่องเศรษฐกิจ หรืออื่นๆ ผ่านสื่อโซเชียล รวมทั้งยังคงลงพื้นที่เพื่อพูดคุย สอบถามปัญหาต่างๆ ของประชาชนอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็น ส.ส.ก็ตาม แต่ทำให้พรรครวมไทยสร้างชาติกลายเป็นพรรคสถาบันการเมืองในการรวบรวมคนคุณภาพ ทั้งรุ่นใหญ่และรุ่นใหม่มาทำงานเพื่อบ้านเมืองต่อไป
ขณะที่ล่าสุด 3 อดีตผู้สมัคร ส.ส. กทม. พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้นำเสนอบทความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว แสดงความคิดเห็นในประเด็นที่กำลังได้รับความสนใจในสังคม ได้แก่ ประเด็นต่อไปประเทศไทยคงไม่เหมือนเดิม โดย นายเนวินธุ์ ช่อชัยทิพฐ์ https://rb.gy/dtwex เนื้อหากล่าวถึงนโยบายของรัฐบาลที่ผ่านมาที่มีการทำงานสนับสนุน Digital Law หลายฉบับ รวมถึง พ.ร.บ.การปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ และการนำเทคโนโลยีมาช่วยสร้างรายได้ให้กับกลุ่มเอสเอ็มอี และเกษตรกร รวมถึงภาคธุรกิจต่างๆ พร้อมจับตาการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้น
ขณะที่ นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ หรือลอรี่ โพสต์ข้อความเรื่องแยกรัฐปาตานี ฉันทามติของใคร หรือเป็นอธิปไตยคนไทยทุกคน? https://rb.gy/e6rdr ระบุไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวดังกล่าว โดยเห็นว่าเจ้าของที่แท้จริงคือ "ประชาชนคนไทย 66 ล้านคน" ที่มีอธิปไตยในประเทศตนเอง ดังนั้นจึงควรทำประชามติจากประชาชนทุกจังหวัด ไม่ใช่แค่บางพื้นที่ในไม่กี่อำเภอ เพราะคนไทยทุกคนเป็นเจ้าของพื้นที่ โดยเชื่อว่าชาว 3 จังหวัดภาคใต้ ยังสามารถหาทางออกร่วมกับประเทศ และอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม ต่างชาติพันธุ์ ต่างศาสนา และหาทางออกอย่างสันติวิธีได้
ด้าน นายณัฐนันท์ กัลยาศิริ หรือ ทนายบอน โพสต์ข้อความประเด็น เรื่องจับตานักการเมืองมุ่งแก้ไขมาตรา 116 https://rb.gy/2bz69 โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับข้อถกเถียงในประเด็นทางกฎหมายกรณีมีการกล่าวถึงข้อดีจากการที่มีนักการเมืองออกมาเคลื่อนไหว เพื่อแก้ไขมาตรา 116 พร้อมระบุว่า เป็นเรื่องยากที่คนคิดดีกับบ้านเมืองจะกระทำการปลุกปั่นยุยงให้เกิดความไม่สงบในประเทศ และเห็นว่าเป็นกฎหมายที่สมเหตุสมผลต่อความมั่นคงของประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาผู้ที่เคยเป็นนักการเมืองในอดีตต้องคดีนี้ก็ได้ต่อสู้คดีไปตามแนวทางทางกฎหมายไม่มีใครลุกขึ้นมาเพื่อขอให้ยกเลิก เพราะยอมรับว่ากฎหมายมาตราดังกล่าวจะต้องมีเพื่อความมั่นคง และมาตรา 116 ยังทำให้การยุยงให้เด็ก เยาวชน ลงถนนยากขึ้น ยุยงให้แบ่งแยกดินแดนยากขึ้น ยุยงให้ก่อความสงบยากขึ้น ตนจึงยังมองไม่เห็นข้อไม่ดีของการมี มาตรา 11 6 ดังกล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'เอกนัฏ' ไม่กล้าคอมเมนต์ปมเกาหลีใต้
'เอกนัฏ' ไม่ขอลงความเห็นปมเกาหลีใต้ ประกาศกฎอัยการศึก หวั่นกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ บอก คิดอย่างเดียวทำอย่างไรให้เป็นโอกาสของประเทศไทยมากกว่า
รทสช.ไฟเขียว สส.หนุนผู้สมัครนายก อบจ.ตามใจ
'เอกนัฏ' โต้กระแสฮั้วภูมิใจไทย หนุน 'ถาวร' ลงนายก อบจ.สงขลา ตีประชาธิปัตย์ ยัน 'พิมภัทรา' ยังอยู่รวมไทยสร้างชาติ ชี้ให้เอกสิทธิ์ สส.หนุนผู้สมัคร เหตุเป็นเรื่องละเอียดอ่อน พรรคไม่ส่ง
'เอกนัฏ' ป้องนายกฯ อิ๊งค์เชื่อคนใต้เข้าใจไม่ลงพื้นที่เพราะติดภารกิจ!
'เอกนัฏ' ชี้ชาวใต้เข้าใจ นายกฯไม่ลงพื้นที่แก้น้ำท่วม เหตุติดภารกิจ เผยพื้นที่อุตสาหกรรม ไม่ได้รับผลกระทบ
'ธนกร' วอนโซเชียล-ฝ่ายค้าน ลดดรามาน้ำท่วมใต้ ยันรัฐบาลเร่งช่วยผู้ประสบภัย
'ธนกร' ขอโซเชียลลดดรามาน้ำท่วมใต้ ยัน รมต.ทุกกระทรวง ระดมกำลังดูแลผู้ประสบภัยเต็มที่ กระตุกฝ่ายค้านอย่ามุ่งโจมตีการเมือง แนะร่วมมือกันแก้วิกฤต
‘รมว.ขิง’ เลื่อนสัมมนา-ลาครม. ขนทีมกระทรวงอุตฯ ลงพื้นที่ช่วยน้ำท่วมใต้
เอกนัฏ เตรียมลงใต้ช่วยน้ำท่วมด่วน สงขลา พัทลุง นคร 3จังหวัดชายแดน ลาประชุมครม. เบรกทุกกิจกรรม รทสช.
'พิพัฒน์' ปัด ภท.-รทสช. ฮั้วกันหนุน 'ถาวร' ชิงนายก อบจ.สงขลา
'พิพัฒน์' ปัดข่าว ภท.-รทสช. จับมือส่ง 'ถาวร' ชิง นายก อบจ.สงขลา ยันไม่เคยคุย 'พิมพ์ภัทรา' หลังลือจ่อย้ายซบพรรคนํ้าเงิน รับภูมิใจไทยอยากครองภาคใต้เพิ่ม แต่ไม่ใช้วิธีฮั้วรวมกันตี